เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2869: แข็งแกร่งเป็นล้นพ้น
ตอนที่ 2869: แข็งแกร่งเป็นล้นพ้น
การทะลวงขอบเขตกฏกระบี่และการเสริมสร้างพลังของวิญญาณดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของเจี้ยนเฉินเท่านั้น ในช่วงเวลาต่อมาพลังลึกลับที่ดูเหมือนจะพรั่งพรูออกมาจากความว่างเปล่าภายในร่างกายของเจี้ยนเฉิน มันหลอมรวมเข้ากับวิญญาณของเจี้ยนเฉินทำให้ความเข้าใจกฏมิตินั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
“นี่คือพลังของวิญญาณจักรพรรดิแมลงมิติ ? ” แรงกดดันของมันทำให้จิตใจของเจี้ยนเฉินสั่นสะเทือนในทันทีและเต็มไปด้วยความสุขที่ไม่อาจอธิบายได้
ในตอนนั้นบนที่ราบสำราญ เขาได้หลอมกลั่นจักรรพดิแมลงวิญญาณมิติได้สำเร็จภายใต้การช่วยเหลือของผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของที่ราบสำราญ หัวหน้าพิรุณ ซึ่งสืบทอดการควบคุมของจักรพรรดิแมลงมิติอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามจักรพรรดิแมลงมิติเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเทียบเท่ากับอัครสูงสุด ด้วยความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน ในตอนนั้นแม้ว่าเขาจะสามารถปรับแต่งวิญญาณสัตว์อสูรจักรพรรดิแมลงมิติได้ในตอนท้าย ด้วยความช่วยเหลือของหัวหน้าพิรุณ แต่เขาก็สามารถสผานเข้ากับวิญญาณจักรพรรดิแมลงได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น พลังที่เหลือยังไม่อาจดูดซับได้เพราะวิญญาณของเขาอ่อนแอเกินไป ในท้ายที่สุดส่วนนั้นก็ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของร่างกายของเขา
ตอนนี้ด้วยการเสริมพลังวิญญาณ วิญญาณของสัตว์อสูรที่แฝงอยู่ในร่างเจี้ยนเฉินก็กลับมารวมกับวิญญาณของเขาอีกครั้ง ทำให้เขาดูดซับมันได้อย่างง่ายดาย
ทันทีที่เจี้ยนเฉินสามารถสัมผัสได้ถึงความเข้าใจของกฏมิติ พลังของกฏมิติก็พุ่งสูงขึ้น ความเข้าใจในกฎมิติของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
การเพิ่มขึ้นของกฏมิติของเขาแตกต่างจากกฏกระบี่อย่างสิ้นเชิง เพื่อให้กฏกระบี่ของเขาเพิ่มขึ้น เขาต้องเข้าใจมันทีละนิดแม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกฏของผลแห่งวิถีฟื้นฟูก็ตาม ผลลัพธ์ที่แท้จริงของผลแห่งวิถีฟื้นฟูนั้นคล้ายกับการกำจัดหมอกที่ปกคลุมไปทั่วและทำให้ผู้บ่มเพาะมองเห็นวิถีของโลกได้ตรงและชัดเจนยิ่งขึ้น การที่พวกเขาจะฝ่าฟันไปได้สำเร็จในท้ายที่สุดก็ยังขึ้นอยู่กับโชคชะตาและความสามารถในการทำความเข้าใจ
นั่นคือเหตุผลที่การกินผลแห่งวิถีฟื้นฟูทำให้มีโอกาสเพียงแปดในสิบส่วนในการทะลวง ไม่ใช่เต็มสิบส่วน
หากความสามารถในการเข้าใจไม่เพียงพอก็ยังคงเป็นไปได้ที่จะล้มเหลวในการทะลวง แม้ว่าเขาจะกินผลแห่งวิถีฟื้นฟูในขอบเขตการบ่มเพาะตอนนี้ก็ตาม
อย่างไรก็ตามการดูดซับพลังของวิญญาณสัตว์อสูรนั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง พลังของวิญญาณสัตว์อสูรเป็นพลังของกฏที่บริสุทธิ์มาก มันเป็นวิถีของโลก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเข้าใจอย่างมีจุดมุ่งหมายใด ๆ เลย ทุกอย่างที่เขาซึมซับก็จะหมายถึงความเข้าใจกฏมิติของเขาจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนนั้น
วิธีการทำความเข้าใจนี้ได้พลิกกลับตรรกะโดยสิ้นเชิงและก้าวข้ามขีดจำกัดของกฏ ไม่สามารถจำลองแบบได้ ในประวัติศาตร์ของโลกต่าง ๆ อาจมีเพียงเจี้ยนเฉินเท่านั้นที่บรรลุสิ่งนี้ได้ด้วยจิตวิญญาณพิเศษของเขาที่ผสานเข้ากับเศษเสี้ยวแห่งพลังบรรพกาลที่แท้จริง
พลังของวิญญาณสัตว์อสูรได้ไหลออกมาอย่างไม่สิ้นสุดและเจี้ยนเฉินก็ไม่ห้ามมันเช่นกัน เขายอมรับมันทั้งหมดอย่างไม่สนใจ
ทันใดนั้นความเชี่ยวชาญของเขาเกี่ยวกับกฏมิติก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันทะลวงผ่านจากชั้นสวรรค์ที่ 2 เป็นไปชั้นสวรรค์ที่ 3 ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ตามมาด้วยชั้นสวรรค์ที่ 4….
ชั้นสวรรค์ที่ 5…
ชั้นสวรรค์ที่ 6…
…
ท้ายที่สุดไม่มีใครรู้ว่านานแค่ไหน วิญญาณของเขาก็กลับมาเต็มอีกครั้งหลังจากไปถึงชั้นสวรรค์ที่ 8 ของกฏมิติ เขาไม่สามารถผสานกันกับอีกเสี้ยวหนึ่งของพลังวิญญาณสัตว์อสูรได้อีกต่อไป
หลังจากที่เพิ่ม พลังของวิญญาณสัตว์อสูรก็ยังไม่หมดลง อย่างไรก็ตามพลังที่เหลือที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของร่างกายของเขาอีกครั้งราวกับว่ามันกำลังรอให้เจี้ยนเฉินพัฒนาในครั้งต่อไป
เจี้ยนเฉินค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ในขณะที่เขาลืมตาขึ้นเขารู้สึกได้ทันทีว่าโลกไม่ถูกต้องยิ่งขึ้น พื้นที่สภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไปจากสายตาของเขา
ด้วยความงุนงง ดูเหมือนเขาจะเห็นโครงสร้างของมิติอย่างคลุมเครือ มิติหรือแม้แต่โลกทั้งใบก็ยิ่งชัดเจนและโปร่งใสมากขึ้นในสายตาของเขา
นอกจากนี้เขายังสามารถสัมผัสได้ว่าการเชื่อมต่อระหว่าร่างกายและวิญญาณและมิติของเขาใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
“กฎมิติได้มาถึงชั้นสวรรค์ที่ 8 แล้ว การเพิ่มครั้งต่อไปคือเมื่อข้าบรรลุความสำเร็จขั้นกลางของอมตะกระบี่ พลังวิญญาณสัตว์อสูรนั้นมากมายมหาศาล มันอาจจะไม่สามารถยกระดับกฏมิติให้ข้าไปสู่ระดับเดียวกับแมลงจักรพรรดิมิติในอดีตได้ แต่อย่างน้อยข้าก็จะไปถึงขั้นอัครสูงสุดได้ สำหรับสิ่งที่ตามมา ข้าจะค่อย ๆ เข้าใจมันเอง….”
“กฏกระบี่ได้บรรลุถึงความสำเร็จบางส่วนของกระบี่อมตะตามการแบ่งของโลกเซียน มันควรจะอยู่ขอบ ๆ ของชั้นสวรรค์ที่ 8 ของขั้นอสงไขย แน่นอนว่าข้าได้บรรลุความสำเร็จเพียงบางส่วนของกระบี่อมตะในตอนนี้ เมื่อข้าเข้าใจถึงจุดสูงสุดของความสำเร็จบางส่วนของกระบี่อมตะ มันน่าจะเทียบได้กับขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9….” เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ถึงพลังของเขาอย่างเงียบ ๆ และเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนที่เขาจะทะลวงขอบเขต
“เมื่อข้าบรรลุความสำเร็จขั้นกลางของอมตะกระบี่ ข้าก็จะอยู่ขั้นบรรพกาล.….”
“การเสริมสร้างความเข้มแข็งในแง่ของกฏเสร็จแล้ว สิ่งที่ตามมาคือร่างบรรพกาล” เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และสงบสติอามรณ์ที่พลุ่งพล่านของเขาก่อนที่จะหยิบกองสมบัติสวรรค์ระดับเทพออกมาจากแหวนมิติของเขาและแยกออกตามประเภทต่าง ๆ
“ถ้าข้าต้องการที่จะทะลวงร่างบรรพกาล ข้าต้องดูดซับพลังบรรพกาล ดูเหมือนมันจะมีพลังไม่มากนัก แต่ถ้าข้าใช้ความแข็งแกร่งและระดับของพลังบรรพกาลเป็นหลักบรรทัดฐานแล้ว ข้าต้องใช้เวลาหลายพันปีในการดูดซับเหรียญผลึกซึ่งมันก็ไม่ได้เข้าใกล้มากพอที่จะชดเชยช่องว่างได้ อย่างไรก็ตามโชคดีที่มีสมบัติสวรรค์ระดับเทพมากมายที่สามารถเพิ่มการบ่มเพาะในสวนสมุนไพรของเผ่าดาวทมิฬ มันช่วยข้าได้มากทีเดียว”หลังจากนั้นเจี้ยนดฉินก็เริ่มปรับสภาพของเขาและพบรอยประทับโบราณในร่างกายของเขา
ตราประทับถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเมื่อเขากลืนพลังชีวิตของสัตว์อสูรกลืนชีวิตในภูเขาโลกาแฝดในวันนั้น
เจี้ยนเฉินตรวจสอบตราประทับในร่างกายของเขาอย่างระมัดระวังและค่อย ๆ ขมวดคิ้วเนื่องจากตราประทับได้ทำให้เขารู้สึกไม่ดี เขาเข้าใจทันทีว่าการคงอยู่ของตราประทับนั้นเป็นสิ่งที่ดี
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหมอกแปลก ๆ ในภูเขาโลกาแฝดรวมถึงสภาพบ้าคลั่งของคนนอกจากการดูดซับหมอกมากเกินไป
“ภูเขาโลกาแฝดไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย แม้ว่าข้าจะมองไม่เห็นความลึกลับที่มันซ่อนอยู่ ดังนั้นจึงมีเหตุผลน้อยกว่าที่ข้าจะกลืนพลังชีวิตของสัตว์อสูรกลืนชีวิตอย่างไม่ตั้งใจ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวรอบ ๆ ภูเขาโลกาแฝดในอนาคต” เจี้ยนเฉินคิดก่อนที่จะปรับแต่งตราประทับในร่างกายของเขาทันที
ตราประทับนั้นยากที่จะปรับแต่งออกไป แต่มันมาจากสัตว์อสูรกลืนชีวิตราชาเทพเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถทำให้เจี้ยนเฉินสะดุดได้ เขาเพียงแต่ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ไม่นาน ตราประทับก็ถูกกำจัดไปจนหมด หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เริ่มดูดกลืนสมบัติสวรรค์ระดับเทพและเตรียมที่จะทะลวงขั้นของร่างบรรพกาล
หากสมบัติสวรรค์เหล่านี้ถูกกลั่นออกมาเป็นเม็ดยามันทั้งรุนแรงและโหดร้าย แต่มันก็ทำให้เขาดูดซับพวกมันได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ผลของมันจะถูกยกระดับไปอีกระดับ อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินไม่เข้าใจวิธีการหลอมกลั่นนัก ดังนั้นเขาจึงฝันว่าสักว่าเขาจะหลอมยาเม็ดระดับเทพ
เป็นผลให้เขาสามารถใช้วิธีดั้งเดิมที่สุดเท่าที่มีอยู่และรับสมบัติสวรรค์ระดับเทพได้โดยตรง
เห็นได้ชัดว่าผลสะท้อนของการกลืนผลแห่งวิถีฟื้นฟูมีผลข้างเคียง เนื่องจากสมบัติสวรรค์ระดับเทพจำนวนมากมีฤทธิ์ที่รุนแรงและโหดร้ายมาก ความประมาทเพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่ผลเสียมากกว่าจะได้ผลดี
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินมีร่างบรรพกาล ดังนั้นเขาจึงสามารถละเลยผลข้างเคียงทั้งหมดได้ ไม่ว่าผลของยาจะโหดร้ายและรุนแรงเพียงใด เขาก็สามารถกล้ำกลืนและปรับแต่งได้อย่างเต็มที่