เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2874: ภัยคุกคามจากการสูญพันธุ์ (4) - novel-lucky

ตอนที่ 2874: ภัยคุกคามจากการสูญพันธุ์ (4)

การจากไปของเจี้ยนเฉินทำให้สีหน้าของจักรพรรดิดาวทมิฬและผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นในศาลาเทพทั้งสิบเปลี่ยนไปอย่างมาก

จักรพรรดิดาวทมิฬหลบตาลงทันที เขาผสานสัมผัสวิญญาณของเขากับสิ่งรอบข้างและสร้างการเชื่อมต่อที่อัศจรรย์เข้ากับโลกทมิฬ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตรวจพบบางสิ่ง เขาลืมตาขึ้นและพูด ดว่า “ทางนั้น เมืองตูเย่ อยู่ใกล้จากที่นี่มากที่สุด เขาต้องไปเมืองตูเย่แน่นอน”

“ไปเมืองตูเย่ทันที ! ” จักรพรรดิดาวทมิฬโบกมือและแผ่นอาคมเคลื่อนย้ายก็ปรากฏขึ้นทันที เกิดแสงวาบขึ้นมา เขาก้าวเท้าเข้าไปในแผ่นอาคมเคลื่อนย้ายก่อนที่จะหายตัวไป

หัวหน้าศาลาเทพทั้งสิบและรองหัวหน้าศาลาล้วนโผล่ออกมาจากศาลาเทพตามลำดับ ใบหน้าของพวกเขาทุกคนดูไม่ดีนักและมีความกังวลใจอย่างหนัก พวกเขาเก็บศาลาเทพที่หดตัวลงและตามจักรพรรด ดิดาวทมิฬเข้าไปยังค่ายกลเคลื่อนย้าย

ในช่วงเวลาหลายวันที่เจี้ยนเฉินใช้เวลาทะลวงในภูเขาโลกาแฝด เผ่าดาวทมิฬได้เตรียมการหลายอย่างเพื่อต่อต้านสถานการณ์เช่นวันนี้ พวกเขาได้เตรียมแผ่นอาคมค่ายกลเคลื่อนย้ายเอาไว้หลาย ยสิบอันเช่นเดียวกับจักรพรรดิดาวทมิฬที่ใช้ในตอนนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ทั้งสามสิบหกเมือง

พวกเขาคิดแผนนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เจี้ยนเฉินโจมตีและวิ่งหนีด้วยกฏมิติเพื่อไปทำลายเมืองใหญ่ทั้งสิบหกแห่งทีละเมือง

ด้วยแผ่นอาคมค่ายกลเคลื่อนย้าย ไม่ว่าเจี้ยนเฉินจะไปที่ไหน ผู้เชี่ยวชาญของเผ่าดาวทมิฬก็จะไปถึงที่นั่นก่อนและรอให้เขาไปถึง

และ เพื่อป้องกันไม่ให้เจี้ยนเฉินใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายในไปเมืองใหญ่ ๆ จักรพรรดิดาวทมิฬได้สิ่งให้ปิดค่ายกลเคลื่อนย้ายทั้งหมด ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ใช้งานได้ทั้งหมดในเมืองจักรพรรด ดิดาวทมิฬอยู่ในความครอบครองของจักรพรรดิดาวทมิฬและคนระดับสูงของเผ่าดาวทมิฬ

แม้ว่าพวกเขาจะมีข้อได้เปรียบนี้ แต่ความสามารถของเจี้ยนเฉินในการสังหารหมู่ทั้งเมืองเพียงความคิดก็ยังทำให้เกิดเงาในหัวใจของคนระดับสูง

ภายในเมืองตูเย่ หนึ่งในสามสิบหกเมืองหลักของเผ่าดาวทมิฬ

ตอนนี้คนของเผ่าดาวทมิฬนับไม่ถ้วนในเมืองตูเย่นั่งอยู่บนพื้นและสวดมนต์ พวกเขาเปลี่ยนสัญลักษณ์มือของพวกเขาตลอดเวลาเพื่อเพิ่มพลังให้กับคำสาปขั้นสูงสุด

ในเวลานี้จักรพรรดิดาวทมิฬก็ปรากฏตัวขึ้นที่เมืองตูเย่ ตามมาด้วยหัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาทั้งสิบมาติด ๆ

ทันทีที่พวกเขามาถึง พวกเขาก็ใช้ศาลาเทพทั้งสิบทันทีก่อนที่จะบินเข้าไปในศาลาเทพและใช้งานค่ายกล

มีเพียงจักรพรรดิดาวทมิฬเท่านั้นที่ลอยอยู่บนอากาศเพียงลำพัง เขาหันหน้าไปทางเมืองหลวงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

“เขาคือจักรพรรดิและหัวหน้าศาลาเทพทั้งสิบ พวกเขาไม่ได้เฝ้าอยู่เมืองหลวงหรอกหรือ ? ทำไมพวกเขาถึงมาเมืองตูเย่ ? อ-อย่าบอกนะว่าคนนอกมีพลังที่น่ากลัวกำลังเดินทางมาที่เมืองตู เย่ของเราอยู่ ? “เจ้าเมืองตูเย่พบจักรพรรดิดาวทมิฬทันทีและพลังแห่งการมีอยู่ของเขาก็ทำให้ทุกคนตะลึง

สีหน้าของรองเจ้าเมืองที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เจ้าเมืองทั้งหมดก็เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า ทันใดนั้นรองหัวหน้าศาลาก็สั่งออกมาว่า “ราชา 108 คนจงฟัง ไปที่ค่ายกลได้เลย ขุนนาง 36 คนเปิด ดใช้งานค่ายกลตาข่ายสวรรค์และค่ายกลทั้งหมดในเมืองตูเย่ ! ”

เมื่อได้ยินการจัดการของรองหัวหน้าศาลา เจ้าเมืองก็อดส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “มันไม่มีประโยชน์ คนนอกเป็นคนที่ทรงพลังยิ่งกว่าหัวหน้าศาลาที่หนึ่ง ต่อหน้าเขา แม้ว่าเราจ จะใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เมืองของเรามีให้ แต่เราก็ไม่อาจคุกคามเขาได้แม้แต่น้อย ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือภาวนาให้คนนอกมาถึงช้ากว่านี้หน่อย ยิ่งเวลาผ่านไป คำสาปก็จะยิ่งอั นตรายมากขึ้น

อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาพูดจบ ใบหน้าของเจ้าเมืองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ทันใดนั้นแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ก็ตกลงมาที่ปกคลุมทั้งเมืองด้วยจิตสังหารที่บ้าคลั่ง

ร่างของเจี้ยนเฉินก็ปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ ห่างจากเมืองตูเย่หลายหมื่นกิโลเมตร

“เราไม่สามารถให้เขาเข้าเมืองได้ ไม่อย่างนั้นกองทัพในเมืองตูเย่จะตกอยู่ในอันตราย ข้าจะออกไปด้านนอกเพื่อให้เขาวุ่นวาย หัวหน้าศาลาทั้งสิบเข้าไปในค่ายกลและปกเมืองตูเย่ทันที ค่ายกลประกอบขึ้นจากศาลาเทพทั้งสิบสามารถหยุดกฏมิติของเขาได้” จักรพรรดิดาวทมิฬตะโกนออกมาและมุ่งหน้าเข้าหาเจี้ยนเฉินทันที

หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาได้เปลี่ยนพลังของเขาในศาลาเทพทันที โดยต้องการปลดปล่อยค่ายกลอีกครั้ง

เจี้ยนเฉินอยู่ห่างจากเมืองตูเย่หลายหมื่นกิโลเมตรโดยไม่มีแผนที่จะเข้าเมืองนี้อีก เขาจ้องมองไปที่ทิศทางในเมืองของตูเย่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร

ในเวลาต่อมาพลังสูงสุดของเขาจะกระจายออกไปล้อมเมืองตูเย่ในพริบตาก่อนที่จะเปิดใช้งาน

ภายในเมืองตูเย่ก่อนที่ศาลาเทพทั้งสิบจะใช้ค่ายกล คนนับไม่ถ้วนของเผ่าดาวทมิฬได้หายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว มันเหมือนกับว่าพวกเขาถูกระเหยหายออกไปทันที พวกเขาไม่เหลือแม้แต่ซากใด ด ๆ ไว้ข้างหลัง มีเพียงทะเลโลหิตที่ท่วมถนนและตรอกซอกซอยพร้อมทั้งส่งกลิ่นเหม็นคาวอย่างรุนแรง

ในช่วงเวลานั้นทุกคนในเมืองตูเย่รวมทั้งราชาทั้ง 108 ขุนนางทั้งสามสิบหกคน, รองเจ้าเมือง, และเจ้าเมืองถูกสังหารหมู่

ด้วยการสังหารหมู่ในเมืองตูเย่ พลังคำสาปสูงสุดของเจี้ยนเฉินก็อ่อนแอลงอีกครั้ง

เมื่อเห็นสิ่งนี้แล้ว หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาในศาลาเทพทั้งสิบยังไม่ทันเข้าสู่ค่ายกล แต่ทุกคนก็ถูกสังหารหมู่ ในขณะที่จักรพรรดิดาวทมิฬก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยเสียงตะโกน อย่างโกรธเกรี้ยวและเศร้าโศก

อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร เขาเหลือเวลาอีกไม่มาก เขาไม่สามารถเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว ดังนั้นหลังจากสังหารเมืองตูเย่ เขาก็จากไปพร้อมกับกฏของ มิติทันที

“เมืองฟินิกซ์เหิน ! เขาไปที่เมืองฟินิกซ์เหินแล้ว ! เร็ว เร็วเข้า ไปให้เร็วที่สุด….” จักรพรรดิดาวทมิฬตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวและโยนแผ่นอาคมค่ายกลออกจากแหวนมิติของเขาพร้อมทั งนำผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นไปยังเมืองเมืองฟินิกซ์เหิน

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นของเผ่าดาวทมิฬเข้าใจว่าทักษะของเจี้ยนเฉินจะเก่งขึ้นและดีขึ้นเมื่อใช้มันติดต่อกัน เป็นผลให้เหล่าหัวหน้าศาลาใช้ทันทีโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยไม ม่สนใจว่าค่าใช้จ่ายเมื่อพวกเขามาถึง มันก็คลุมทั้งเมืองทันที

ด้วยประสบการณ์ทั้งสองจากก่อนหน้านี้ พวกเขามีความเข้าใจที่คลุมเครือเกี่ยวกับขีดจำกัดของเจตจำนงสูงสุดของเจี้ยนเฉินสามารถใช้ได้กับผู้บ่มเพาะที่อยู่ในขอบเขตเทพลงไปเท่านั้น ตราบใด ดที่เขาก้าวสู่ขอบเขตตั้งต้น พลังที่สังหารหมู่นั้นก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย

ในขณะเดียวกันหากค่ายกลมีพลังเพียงพอ พวกเขาสามารถปิดกั้นพลังนี้ดูเหมือนจะสามารถสังหารได้ทุกอย่าง

ไม่นาน ค่ายกลของศาลาเทพทั้งสิบก็ถูกจัดตั้งใกล้ แต่เมื่อเจี้ยนเฉินมาถึงเมืองฟินิกซ์เหิน เขาก็ไม่เสียเวลากับจักรพรรดิดาวทมิฬ เมื่อจักรพรรดิดาวทมิฬจะพุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉินอย่ างรุนแรง เจี้ยนเฉินจึงเลือกที่จะหลบหลีกด้วยกฏมิติ จากนั้นเขาก็ใช้ปราณกระบี่ในระดับเดียวกันขั้นบรรพกาลโจมตีไปที่ค่ายกลของศาลาเทพทั้งสิบสร้างขึ้น

กลับไปในเมืองหลวง แม้ว่าค่ายกลจำนวนมากที่ศาลาเทพทั้งสิบยังต้องใช้เวลาในการจัดเตรียมก็ไม่สามารถหยุดเจี้ยนเฉินได้ ดังนั้นค่ายกลที่พวกเขาสร้างขึ้นอย่างเร่งรีบจะขัดขวางการโจ จมตีจากขั้นบรรพกาลได้อย่างไร ?

ตามมาด้วยเสียงสะเทือน ค่ายกลที่ปกป้องเมืองเมืองฟินิกซ์เหินก็แตกสลาย ในช่วงเวลาถัดไปเจี้ยนเฉินก็จะก้าวไปข้างหน้า ทำให้เมืองฟินิกซ์เหินกลายเป็นเมืองผีทันที

จักรพรรดิดาวทมิฬและหัวหน้าศาลาทั้งสิบเบิกตากว้างจนเกือบลืมกระพริบตา หลังจากที่พวกเขาไม่ต้านทานการทำลายเมืองสามเมืองติดต่อกัน ดวงตาทั้งหมดของพวกเขาแดงก่ำเพราะความโกรธและจิต สังหารที่พวกเขาปล่อยออกมาในระดับที่ใม่อาจเพิ่มได้มากกว่านี้อีกแล้ว