เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2875: แผนการเอาชีวิตรอด
ตอนที่ 2875: แผนการเอาชีวิตรอด
เมืองฟินิกซ์เหินไม่ใช่จุดหมายปลายทางสุดท้าย เมืองใหญ่สามสิบหกเมืองของเผ่าดาวทมิฬล้มลงทีละเมือง ๆ ในเวลาสั้น ๆ เมืองใหญ่กว่า 20 เมืองถูกทำให้กลายเป็นเมืองผีอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าจักรพรรดิดาวทมิฬจะสามารถเดินทางไปยังเมืองถัดไปก่อนที่เจี้ยนเฉินจะมาถึง แต่ก็ไม่มีประโยชน์ แม้จะมีทุกสิ่งที่เขาสามารถทำได้หรือคิดได้ เขาก็ไม่อาจหยุดเจี้ยนเฉินจากการสังหาร รหมู่ในเมืองได้
ไม่ว่าศาลาเทพทั้งสิบจะร่วมมือกันและปกป้องหรือรับความการโจมตี พวกเขาก็ไม่อาจหยุดเมืองให้ถูกทำลายได้แบบเมืองต่อเมือง
ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะบรรลุเจตจำนงสูงสุด สิ่งที่พวกเขาทำได้คือการปกป้องตัวเองและป้องกันตัวเองจากการถูกทำร้าย พวกเขาไม่สามารถปกป้องพรรคพวกของพวกเขาได้
ระหว่างการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ ๆ เจี้ยนเฉินวิ่งผ่านหมู่บ้านสองสามแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ของเผ่าดาวทมิฬและเขาก็ค้นพบว่าคนของเผ่าดาวทมิฬทั้งในเมืองแล ละหมู่บ้านเหล่านี้ต่างก็ร่วมมือกันร่ายคำสาปขั้นสูงสุด
อย่างไรก็ตามเมืองและหมู่บ้านเหล่านี้ไม่มีรูปปั้น พวกเขาเพียงแค่สวดคาถาคำสาปขั้นสูงสุดเพื่อส่งมอบเจตนาของพวกเขาไปยังเมืองใหญ่ ๆ ทั้งสามสิบหกเมืองก่อนที่จะควบแน่นเข้าสู่รูปปั้น ไร้หน้าในเมืองใหญ่ ๆ เป็นสื่อกลางในการเพ่งเป้าหมายไปที่เจี้ยนเฉินพร้อมกับคำสาปที่ทรงพลัง
ทำให้เจี้ยนเฉินไม่สนใจคนเหล่านี้ในเมืองหรือหมู่บ้าน เป้าหมายหลักของเขายังเป็นเมืองใหญ่ ๆ ทั้งสามสิบหกเมือง
เขาพบมานานแล้วว่าตราบใดที่เขาทำลายเมืองใหญ่และทำลายรูปปั้นที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง เจตจำนงจากเมืองหรือหมู่บ้านก็ไม่อาจรวมตัวกันได้และมันมีเพียงส่วนน้อยท่ามกลางโลกที่กว้า างใหญ่
การทำลายเมืองใหญ่ ๆ กว่ายี่สิบเมืองทำให้คำสาปของเจี้ยนเฉินอ่อนแอลงอย่างมาก แต่พลังจากเมืองที่เหลืออยู่ประมาณ 10 เมืองยังคงกัดกินเนื้อและเลือดของเขา
ตอนนี้ทุกอย่างที่อยู่ใต้เข่าของเจี้ยนเฉินได้หายไปอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ต้นขาครึ่งหนึ่งของเขาก็หายไปแล้ว
และเมื่อเวลาผ่านไป การทำลายล้างก็ค่อย ๆ แพร่กระจายไปถึงเอวของเขา
ประตูแห่งความตายกำลังเข้ามาใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่า เผ่าดาวทมิฬ ข้าอยากจะดูว่าเจ้าจะทำลายข้าก่อนหรือข้าจะทำลายเผ่าของเจ้าก่อน….” หลังจากที่ทำลายเมืองอื่น ๆ แล้ว เจี้ยนเฉินก็หายไปขณะที่เขาหัวเราะออกมาเสียงดังและป ปล่อยให้จักรพรรดิดาวทมิฬและคนระดับสูงไว้
พวกเขาลอยอยู่เหนือเมืองใหญ่ที่ว่างเปล่าด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวจากความโกรธ เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับความโกรธที่ไม่อาจควบคุมได้ พวกเขารู้สึกว่าไร้พลังอย่างมาก
แม้แต่จักรพรรดิดาวทมิฬที่เชื่อว่าตัวเองนั้นไร้พ่ายในขั้นเดียวกันก็รู้สึกพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
“เขาทำลายเมืองได้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น หากยังคงทำต่อไป เมืองใหญ่มั้งสามสิบหกเมืองอาจจะถูกทลายก่อนที่คำสาปจะสังหารเขา” จ้าวศาลาหนึ่งพูดอย่างเครียด ๆ จากการทำลายเมืองใหญ่ ๆ กว่ายี่สิบเมือง จำนวนคนที่เสียชีวิตในช่วงเวลาสั้น ๆ เพิ่มขึ้นถึงพันล้านคนแล้ว ตอนนี้เจี้ยนเฉินได้กลายเป็นปีศาจในสายตาของพวกเขาแล้ว
“ฝ่าบาท เราไม่อาจหยุดเขาได้อีกต่อไป เราควรจะทำอย่างไรต่อ….” หัวหน้าศาลาที่เจ็ด เก็ตตี้ พูดด้วยสีหน้าที่ขมขื่น
ในบรรดาหัวหน้าศาลาทั้งสิบคน เขาเกลียดคนนอกมากที่สุดและจิตสังหารที่เขามีต่อเจี้ยนเฉินนั้นรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่ตอนนี้เขามีอาหารมือเท้าเย็นอย่างแท้จริง เขา รู้สึกกลัวแล้ว
“เขามีกฏมิติ แม้ว่าเราจะมีเมืองใหญ่เหลืออยู่เพื่อร่ายคำสาปก็ตาม ตราบใดที่เราไม่ฆ่าเขาทิ้งทั้งหมด แม้ว่าเขาจะเหลือเพียงแค่หัว เขาก็มีโอกาสที่จะหลบหนี สำหรับเผ่าของเรา เราจ จะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่เกี่ยวข้องด้วยเมืองใหญ่ที่เหลืออยู่และชีวิตกว่าพันล้านของคนของเผ่าเรา” หัวหน้าศาลาที่สองพูดขึ้นเช่นกัน เมื่อทุกอย่างกลายเป็นเช่นนี้ หัวหน้าศาลาทั้งห หมดกำลังคิดถึงแผนสำรอง
พวกเขาทุกคนสามารถบอกได้ว่าหากยังคงทำต่อไป คนนอกอาจจะไม่ตาย แต่เผ่าของเขาก็เผชิญหน้ากับการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์
จักรพรรดิดาวทมิฬกำหมัดแน่น เล็บจิกเข้าไปที่ฝ่ามือของเขาอย่างลึก เมื่อมองดูใกล้ ๆ ก็จะเห็นว่าเขาตัวสั่นเบา ๆ
นี่เกิดจากความโกรธจริง ๆ ความเกลียดชังและจิตสังหารของจักรพรรดิดาวทมิฬที่มีต่อเจี้ยนเฉินได้มาถึงจุดที่สามารถทำลายสวรรค์และล้างโลกได้ตั้งนานแล้ว
เขาไม่รีบไปเมืองถัดไป แต่เขายังอยู่ที่เดิม ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงเลือดและวาบแสงสีแดงออกมา ดูเหมือนว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายใน
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ค่อย ๆ หลับตาลง หลังจากหายเขาออกยาว เขาก็กัดฟันพูด “ดำเนินการตามแผนเอาชีวิตรอด ! ”
เพื่อจัดการกับเจี้ยนเฉิน จักรพรรดิดาวทมิฬได้คิดแผนมากมาย แผนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ครอบคลุมถึงการโจมตีและการป้องกันตามกลยุทธ์มากมายอย่างฉับพลันแล้ว แต่ยัมีแผนที่จะคงอยู่เพื่อคว วามอยู่รอดในกรณีที่เผ่าดาวทมิฬไม่อาจเอาชนะเจี้ยนเฉินได้
แผนนั้นก็คือ เอาชีวิตรอด !
ทันทีที่พวกเขาได้ยินถึงแผนเอาชีวิตรอด จ้าวศาลาและรองจ้าวศาลาทุกคนก็เต็มไปด้วยความหดหู่ แต่พวกเขาทั้งหมดเข้าใจว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกต่อไปในสถานการณ์ตอนนี้
…
ในเมืองอัศวินทมิฬ เจ้าเมืองที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่สามารถจัดการกับคำสาปทั้งเมืองได้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ทำท่าผนึกด้วยมือของเขาและมีส่วนร่วมในการร่ายคาถากลั่นเจตจำนงของเขา าเพื่อเพิ่มพลังให้กับคำสาปส่วนหนึ่ง
ในเวลานี้หัวใจของเจ้าเมืองเต้นผิดจังหวะ เขาหยิบแผ่นจำลองเมืองของเขาออกมาทันทีและเห็นสัญลักษณ์ที่เรียบง่ายที่สลักอยู่บนแผ่นนั้น
ในบรรดาอักขระมนต์ทั้งเก้า ตัวแรกสลัว แต่อันที่เก้าสว่าง
“อักขระมนต์ตัวที่เก้าส่งแสง นะ-นั้นหมายความว่าเราจะทำตามแผน เอาชีวิตรอด….” ในขณะที่เขาต้องมองไปที่อักขระมนต์ตัวที่เก้าที่ส่องแสง ใบหน้าของเจ้าเมืองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
แต่ไม่นานเขาก็กลับมามีสติและลุกขึ้นยืน ! เสียงของเขาตะโกนดัง “ทุกคนในเมืองฟัง ! ทำตามแผน เอาชีวิตรอด ! หยุดคำสาปทันทีและหนีออกจากเมืองให้เร็วที่สุด….”
ทันใดนั้นคนของเผ่าดาวทมิฬทุกคนในเมืองก็ตะลึง ก่อนที่จะกระจัดกระจายเหมือนกับนกแตกรังและหนีไปทุกทิศทุกทาง
ในตอนนี้เองจู่ ๆ ร่างของเจี้ยนเฉินก็ปรากฏขึ้นเหนือเมือง แรงกดดันของเขาพุ่งปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองทันที
ในขณะที่เขาจ้องมองไปยังผู้คนที่หลบหนีทุกทิศทาง เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดเยาะเย้ย “หนี ? คิดว่าจะหนีไปได้แบบนี้หรือ ? ” เจตจำนงสูงสุดของเขาก็แผ่กระจายออกไปทันทีและครอบคล ลุมรัศมี 120,000 กิโลเมตร
อย่างไนก็ตามตอนที่เขากำลังสังหารหมู่คนของเผ่าดาวทมิฬที่หลบหนี เขารู้สึกได้อย่างรวดเร็วว่าคำสาปที่ตัวของเขาเริ่มอ่อนลงอย่างมาก
“ดูเหมือนว่าเผ่าดาวทมิฬจะหยุดพยายามฆ่าข้าด้วยคำสาปแล้ว ท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้รู้จักความกลัว” ในขณะที่เขามองไปที่คนของเผ่าดาวทมิฬที่กระจัดกระจาย เจี้ยนเฉินก็เกิดความรู้สึกลัง งเลใจ
เมื่อเขาทำลายเมืองแล้วเมืองเล่าก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเพราะสถานการณ์บังคับ ไม่อย่างนั้นจะเป็นเขาที่ตาย
แต่ตอนนี้ เผ่าดาวทมิฬยอมแพ้ที่จะฆ่าเขาด้วยคำสาป เขาพบว่ามันค่อนข้างลำบากใจที่จะฆ่าคนของเผ่าดาวทมิฬอีกต่อไป
ท้ายที่สุดนี่ไม่ใช่แค่ชีวิตหนึ่งหรือสองชีวิต แต่เป็นเรื่องของชีวิตหลายพันล้าน ตามความคิด เมืองใหญ่ ๆ มีคนมากกว่าบางเมืองและอาจจะมีคนมากกว่าร้อยล้านคนด้วยซ้ำ
เขาไม่ใช่คนอ่อนโยน ในใจของเขาไม่รู้สึกดีกับเผ่าดาวทมิฬ แต่วันนี้เขาได้สังหารเผ่าดาวทมิฬไปมากพอแล้วและหลายคนก็เป็นผู้บริสุทธิ์สำหรับเขา
“มีเพียงคนเดียวที่ทำร้ายจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์คือคนระดับสูงของเผ่าดาวทมิฬ แม้ว่าข้าต้องการแก้แค้น แต่ข้าควรไปหาศาลาเทพทั้งสิบและจักรพรรดิดาวทมิฬ” เจี้ยนเฉินถอนหายใจ ท้ายที่วันแห่งจุดจบของเขาก็สิ้นสุด เขาไม่อาจสังหารหมู่เผ่าดาวทมิฬได้อีก เมื่อชีวิตของเขาไม่ตกอยู่ในการคุกคามอีกต่อไป