เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2891 : ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่
ตอนที่ 2891 : ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่
สำนักงานของตระกูลสายฟ้าสวรรค์นั้นตั้งอยู่ที่ราบเครือข่ายตะวันตก 1 ใน 49 ที่ราบสูงของโลกเซียน มันเป็นที่ราบที่มีสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย มันมีสายฟ้าฟาดตลอดทั้งปี
กฎสายฟ้าที่นี่หนาแน่นซึ่งทำให้ผู้บ่มเพาะกฎสายฟ้ามารวมตัวกันที่นี่
ในส่วนลึกของที่ราบที่เต็มไปด้วยสายฟ้านั้นมีทะเลสายฟ้าสีม่วงที่เปล่งแสงออกมา ไม่ใช่แค่มีกฎสายฟ้ารวมตัวที่นั่นหนาแน่และยังขึ้นไปถึงระดับที่น่าตกใจ พลังของมันสูงไปถึงระดับที ทำให้ยอดฝีมือขั้นบรรพกาลต้องหน้าซีดได้
เศษเสี้ยวกฎสายฟ้าถึงกับทำให้ยอดฝีมือขั้นบรรพกาลบาดเจ็บได้
ทะเลสายฟ้าทั้งสองนั้นคือที่ที่บรรพชนของตระกูลสายฟ้าสวรรค์บ่มเพาะอยู่
ทะเลสายฟ้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยธรรมชาติ กลับกันแล้วมันเกิดขึ้นมาจากกฎของบรรพชนทั้งสอง แต่ละคนสามารถสร้างโลกสายฟ้าได้ด้วยความคิด
ทันใดนั้นเองทะเลสายฟ้าทั้งสองก็สั่นไหว ต่อมากลับมีพลังแผ่ออกมาโดยรอบล มันทำให้บรรพชนนับไม่ถ้วนในที่ราบเครือข่ายตะวันตก พากันลืมตาขึ้นมามองมายังตระกูลสายฟ้าสวรรค์
“ ผู้อาวุโสหรงตายแล้ว…” เสียงขึงขังดังขึ้นมาจากหนึ่งในทะเลสายฟ้าในส่วนลึกของสำนักงานตระกูลสายฟ้าสวรรค์
“ตราประทับวิญญาณสายฟ้าของผู้อาวุโสหรงได้สลายไปแล้ว มันหมายความว่าเขาตายไปแล้วจริง ๆ….” บรรพชนคนที่สองของตระกูลสายฟ้าสวรรค์ได้พูดขึ้นจากทะเลสายฟ้าแห่งที่สอง น้ำเสียงของเ เขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
ผู้อาวุโสหรงคือผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลสายฟ้าสวรรค์ เขาเป็นยอดฝีมือขั้นบรรพกาล ไม่ว่าจะเป็นองค์กรชั้นนำองค์กรไหนก็ตาม คนแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเสาหลักขององค์กรได้ มันไม่มีองค์ก กรไหนรับได้ที่เสียคนอย่างเขาไปในฐานะหนึ่งในองค์กรชั้นนำของที่ราบเครือข่ายตะวันตกแล้ว ตระกูลสายฟ้าสวรรค์มีผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมด 8 คนที่อยู่ขั้นบรรพกาล การเสียสักคนไปเท่ากั บความเสียหายครั้งใหญ่
“ผู้อาวุโสหรงได้ไปยังซากโลกจิตวิญญาณ เขาตายในโลกจิตวิญญาณ มันมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้รึว่าเขาตายเพราะสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายของที่นั่น …”.
“ผู้อาวุโสหรงไม่ใช่คนวู่วาม ด้วยระดับการบ่มเพาะขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 6 แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตายในสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย มันอาจจะมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้….”
“ พวกนั้นกล้าดียังไง ? เมื่ออีกฝ่ายมีความสามารถเพียงพอที่จะฆ่าผู้อาวุโสหรงได้ งั้นอีกฝ่ายจะไม่รู้เบื้องหลังของตระกูลสายฟ้าสวรรค์ของเราได้ยังไง…”
บรรพชนทั้งสองปรึกษากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พวกเขาถึงกับแอบมองดูความลับสวรรค์เพื่อดูรายละเอียดตอนที่ผู้อาวุโสหรงตายไป แต่พวกเขาก็ไม่พบอะไร
ตอนนั้นผู้อาวุโสที่อยู่ขั้นอสงไขยของตระกูลสายฟ้าสวรรค์ก็ได้พูดขึ้นมา เขาอยู่ห่างจากทะเลสายฟ้าทั้งสองและคุกเข่า เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคียดแค้น “บรรพชน เราเพิ่งได้รับข้อควา ามช่วยเหลือจากผู้อาวุโสสูง ขะ เขาพบกับอันตรายถึงชีวิตในเขตสุสานของโลกจิตวิญญาณ”
ผู้อาวุโสตัวแข็งทื่อด้วยความกลัว ยังไงซะนี่ก็คือผู้อาวุโสสูงสุดที่ขึ้นเป็นขั้นบรรพกาลแล้ว ตัวตนแบบนี้ถือว่าสูงส่งในตระกูลสายฟ้าสวรรค์ เขาสามารถสร้างเมฆฝนได้ด้วยการดีดนิ้วแ แต่คนแบบนี้กลับส่งข้อความขอความช่วยเหลือมา นี่คือเรื่องใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาในรอบหลายหมื่นปี
“เขตสุสานรึ ? ฮึ่ม ข้าอยากเห็นว่าใครกันที่กล้าฆ่าผู้อาวุโสสูงของตระกูลสายฟ้าสวรรค์ ส่ง ซัวเหล่า, เหลียนไช่, เหลยจื่อตง, เหลยชุน ไปตรวจสอบหาสาเหตุการตายของผู้อาวุโสหรง...” บรรพชนสั่งการออกมา ในหมู่ผู้อาวุโสสูงทั้งสี่ เขาคือคนที่อยู่ชั้นสวรรค์ที่ 9 ของขั้นบรรพกาล มี 2 คนอยู่ชั้นสวรรค์ที่ 7 อีกคนอยู่ชั้นสวรรค์ที่ 6
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งแปดของตระกูลสายฟ้าสวรรค์ นั้นมียอดฝีมือขั้นบรรพกาลช่วงปลาย 3 คน, ช่วงกลาง 2 คนและช่วงต้น 3 คน
ในพริบตาตระกูลสายฟ้าสวรรค์ก็ได้ส่งผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดออกไปเหลือทิ้งไว้แค่ขั้นบรรพกาลช่วงต้นคอยดูแลตระกูลอยู่
ตอนนั้นผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ได้เดินทางออกไป เพราะความเร่งด่วนพวกเขาจึงไม่ได้เดินทางผ่านจักรวาล กลับกันแล้วพวกเขาได้ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายภายในเพื่อไปยังชายแดนติดต่อระหว่างโลกเซ ซียนและโลกจิตวิญญาณก่อนจะเดินทางผ่านมิติเพื่อไปยังซากโลกจิตวิญญาณ หลังจากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังจุดที่ผู้อาวุโสหรงตาย — เขตสุสาน
หลังจากผ่านมากว่าสิบวัน ในที่สุดผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ก็ได้มาถึงจุดที่ผู้อาวุโสหรงตาย พวกเขาพบศพของผู้อาวุโสหรงทันทีที่มาถึง มันไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสหรง แต่ยังมีผู้อาวุโส 2 คน ของตระกูลสายฟ้าสวรรค์รวมถึงคนอื่น ๆ ในตระกูลอีกหลายร้อยคน พวกที่เหลือต่างก็อยู่ในสภาพเดียวกับก่อนหน้านี้ ศพของพวกเขากระจายเกลื่อนไปทั่ว
ใกล้ ๆ นั้นมีผู้หญิงชุดขาวหันหลังให้กับพวกเขาอยู่ นางนั่งอยู่บนก้อนหินและทำการบ่มเพาะ บนหัวนางนั้นมีผลึกสีขาว มันมีพลังงานบริสุทธิ์แผ่ออกมาจากผลึกไหลลงมา นางได้ดูดซับ พลังงานนี้เอาไว้อย่างรวดเร็วผลึกนี้เล็กลงเรื่อย ๆ พร้อมกับพลังงานที่ลดลงไป
นางเหมือนไม่รับรู้ถึงการมาของผู้อาวุโสสูงทั้งสี่ นางยังคงทำการบ่มเพาะเหมือนที่นั่นมีนางคนเดียว นางไม่ลืมตาเลยด้วยซ้ำ
“ เจ้าคือคนที่ฆ่าผู้อาวุโสสูงของตระกูลสายฟ้าสวรรค์งั้นรึ ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่มองไปที่หญิงสาวในชุดขาวแล้วถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ทั้งสี่คนก็พากันระวังตัวราวกับ เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง
แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาที่อยู่ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 ก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา
พวกเขาบอกได้ทันทีที่เห็นว่าผู้อาวุโสหรงตายได้ยังไง เสื้อผ้าของเขาสะอาดไม่ได้ฉีกขาด เขายังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เขาโดนฆ่าโดยยังไม่ทันได้ต่อต้านแต่อย่างใด เท่าที่พวกเขาเข้า าใจแล้วคงมีแค่อัครสูงสุดที่ทำแบบนี้ได้ !
ยิ่งกว่านั้นผู้หญิงชุดขาวนี้ก็ยังแสดงท่าทีใจเย็นออกมา นางไม่ได้หนีไปหลังจากที่ฆ่าผู้อาวุโสสูงของตระกูลสายฟ้าสวรรค์เลยด้วยซ้ำ กลับกันแล้วนางกลับเลือกที่จะอยู่ที่นี่ต่อ นางไ ไม่ได้สนใจว่าตระกูลสายฟ้าสวรรค์จะส่งกองกำลังมาที่นี่หรือไม่
มันมีเพียง 2 เหตุผลเท่านั้นที่ทำให้นางทำเช่นนี้ ประการแรกคือเพราะนางไม่คิดว่าจะมีกองกำลังเสริมที่แข็งแกร่งมา ส่วนประการที่สองเพราะความแข็งแกร่งของนางขึ้นถึงระดับที่นางไม่ ต้องกลัวกองกำลังของตระกูลสายฟ้าสวรรค์เลยด้วยซ้ำ
การที่ฆ่ายอดฝีมือขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 6 ได้ง่าย ๆ นั้นเป็นไปไม่ได้ที่นางจะทำตัวโง่เง่าแบบเหตุผลแรก ดังนั้นมันคงจะเป็นเหตุผลที่สอง
“ เฮ้อ มีแค่พวกเจ้า 4 คนเองรึ ? ไม่มีอัครสูงสุดมาในตระกูลเจ้ามาแม้แต่คนเดียวเลยรึ ? ” ตอนนั้นนางได้ถอนหายใจออกมาด้วยวคามผิดหวังและเสียดาย
แต่เมื่อผู้อาวุโสสูงทั้งสี่ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“ท่าไม่ดีแล้ว นี่มันกับดัก นางคือมีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับบรรพชนของเราได้ นะ นางต้องการล่อบรรพชนของเราเข้ามาที่นี่ หนี ! รีบหนี ! กระจายตัวออกไปโดยรอบและหนีไปซะ…” – ผู้อาวุโสที่เป็นขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 ได้ตะโกนออกมา
การตายของผู้อาวุโสหรงบวกกับท่าทีใจเย็นของนางรวมถึงสิ่งที่นางพูดตะกี้ ทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่เดาความแข็งแกร่งของนางได้ซึ่งทำให้พวกเขาพากันกลัวขึ้นมา
ต่อมาทั้งสี่คนก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าและหนีออกไปในทิศทางต่าง ๆ โดยเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาทำได้