เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2897 : หัวหน้าพรรคกระดูกโอฬาร
ตอนที่ 2897 : หัวหน้าพรรคกระดูกโอฬาร
จักรพรรดิดาวทมิฬไม่ได้พูดอะไรกับเจี้ยนเฉินมากนัก เขาได้ทิ้งแหวนมิติเอาไว้และจากไปทันที ยังไงซะเจี้ยนเฉินก็ได้สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับเผ่าดาวทมิฬ ดังนั้นจึงเป็นไปไม ม่ได้ที่เขาจะไม่รู้สึกแย่กับอีกฝ่าย แต่ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินตอนนี้สูงซะจนขึ้นไปถึงระดับที่เป็นภัยต่อความอยู่รอดของเผ่าดาวทมิฬได้ ซึ่งบังคับให้จักรพรรดิดาวทมิฬต้องเปล ลี่ยนท่าทีมาร่วมมือกับเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินรับแหวนมิติเอาไว้ก่อนจะแผ่การรับรู้เข้าไปด้านใน ไม่นานเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
มันมีหญ้าราชาเทพจำนวนมากในแหวนมิติ ไม่ใช่แค่หญ้าราชาเทพขั้นสูงแต่ยังมีขั้นกลางและขั้นต้นอยู่ด้วย เจี้ยนเฉินได้ขอหญ้าราชาเทพขั้นกลางและขั้นต้นไปเป็นพิเศษ เขาวางแหนที่จะ ะนำมันกลับไปที่โลกเซียนเพื่อนำมันไปใช้
เขาอยากจะทดสอบปรุงยาแต่เพราะเขาไม่มีประสบการณ์ในการปรุงยามาก่อน เขาจึงต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมาก เผื่อว่ามันจะเสียเปล่าในการปรุงยาร้อยเท่าทะลวงขั้นราชาเทพในเวลาอันสั้น
นอกจากหญ้าราชาเทพแล้ว มันก็ยังมีดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนอยู่จำนวนมาก เมื่อรวมกับส่วนที่ได้มาจากจักรพรรดิดาวทมิฬแล้ว จำนวนดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนที่เจี้ยนเฉินมีนั้นเกือบ 20 ชั่ ง
20 ชั่งนี้ถือว่ามีหน่วยเป็นหลายตำลึง
“ดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนนั้นคือวัตถุดิบที่วิเศษในการปรุงยาที่เกี่ยวข้องกับพลังชีวิต” เจี้ยนเฉินตื่นเต้นขึ้นมา เขาเริ่มคันไม้คันมือเริ่มอยากปรุงยาขึ้นมา
นอกจากหญ้าราชาเทพและดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนแล้ว มันยังมีของพิเศษจากโลกดาวทมิฬอยู่อีก ทุกชิ้นต่างก็โดดเด่น ของทุกชิ้นหาได้ยากในโลกเซียน พวกมันคือทรัพยากรที่มีน้อยนิด ดซึ่งองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ใช้เวลายาวนานกว่าจะรวบรวมมันมาได้
แน่นอนว่ามันไม่มีสมบัติสวรรค์แม้แต่ชิ้นเดียวที่กำเนิดขึ้นมาจากภูเขาโลกาแฝดอย่างน้ำแห่งชีวิต
เจี้ยนเฉินเก็บแหวนมิติและเดินทางออกไปด้วยกฎจักรวาล เมื่อเดินทางออกมาได้ล้านกิโลเมตรจากเมืองหลวงเขาถึงได้หยุด เขาได้ประกาศออกมาในมิติว่างเปล่า “ ผู้อาวุโสปราชญ์ผู้เที่ยงธรรม แห่งสวรรค์ โปรดแสดงตัวด้วย…”
แต่เขาก็ไม่ได้รับการตอบโต้ใด ๆ ปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์ไม่ได้ปรากฏตัว
เจี้ยนเฉินไม่ได้ผิดหวัง กลับกันแล้วเขาได้ตะโกนออกมาอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้รับการตอบกลับหลังจากที่เรียกลายครั้งสุดท้ายเขาก็ถอนหายใจออกมา “ปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์เป็นคน นเข้าใจยาก แน่นอนว่าการพบกับผู้อาวุโสไม่ใช่เรื่องง่าย ดูเหมือนข้าต้องไปหาจักรพรรดิดาวทมิฬให้ช่วยให้ข้าพบกับผู้อาวุโสปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์”
หลังจากที่พูดจบ เจี้ยนเฉินก็กำลังจะกลับไป
“คนนอก เจ้าช่างกล้าดีจริง ๆ หลังจากที่รบกวนพิธีของเราแล้ว เจ้ากลับกล้ามาพบข้าอีก” ตอนนั้นร่างลวงตาของ ก็ได้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเจี้ยนเฉินเงียบ ๆ ใบหน้าขอเขาพร่ามัว มันเป็นไป ปไม่ได้ที่จะมองอารมณ์ของเขาออกจากน้ำเสียง
เจี้ยนเฉินมองไปที่ปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์ด้วยตาที่เป็นประกาย เขายิ้มออกมาและพูดขึ้น“เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นไปแล้ว มันก็ไม่จำเป็นที่เราต้องปิดเป็นความลับอีก ทำไมเราไม ม่พูดกันตรง ๆ ? หัวหน้าพรรคกระดูกโอฬาร”
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไร” ปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“หัวหน้าพรรคกระดูกโอฬาร ท่านคือยอดฝีมือที่โด่งดังของโลกเซียน ทุกคนต่างก็เคารพท่าน ท่านจะบอกข้าว่าท่านไม่มีความกล้าพอจะยอมรับตัวตนของตัวเองรึ ? รึว่าท่านคิดว่าข้าเป็น นคนโง่ ? ” ก่อนที่ปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์จะได้ตอบกลับ เจี้ยนเฉินก็พูดต่อ “หัวหน้าพรรคกระดูกโอฬาร ข้าจะพูดเปิดอกกับท่าน ข้าต้องการให้ท่านช่วย ดังนั้นเราทั้งสองควรพูด กันตรง ๆ ด้วยวิธีนี้เราจะได้พูดคุยกันได้สะดวกขึ้นไม่ใช่รึ ? ”
ปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์ไม่ได้พูดอะไร เขามองมาที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่พร่ามัว จากนั้นสักพักเขาก็หัวเราะออกมา ในเวลาเดียวกันพลังของเขาก็เปลี่ยนไป แรงกดดันที่มองไม่เห็น นแผ่ออกมาโดยรอบ
เจี้ยนเฉินใจสั่นขึ้นมาทันที เขารู้สึกได้ว่าปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์ได้กลายแป็นตัวตนที่น่ากลัวขึ้นมา หาก ปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์ก่อนหน้านี้คือกระบี่ในฝัก งั้นต ตอนนี้เขาก็คือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดึงออกจากฝักและส่องแสงออกมา
แม้ว่าร่างวิญญาณเทียมของปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์จะไม่ได้แผ่พลังออกมา แต่เจี้ยนเฉินก็รู้สึกว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์
แต่เจี้ยนเฉินไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าหัวหน้าพรรคกระดูกโอฬารนั้นเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนในโลกเซียน
เขาคือยอดฝีมือระดับสูงที่อยู่ระดับเดียวกับองค์หญิงใหญ่ของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงและบรรพชนของตระกูลทลายสวรรค์
แม้ว่าจะไม่ได้มีพลังในการบ่มเพาะแต่คนแบบนี้ก็เหมือนมีพลังที่อันน่าตกใจด้วยความเข้าใจกฎของโลกที่พวกเขามี
“อย่างที่ข้าคาดเอาไว้ เจ้าเดาตัวตนของข้าอออก ข้าไม่คิดจะปิดบังมันจากเจ้า ไม่งั้นแล้วตัวตนของปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์และปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งโลกคงไม่ได้เปิดเผยต่อ ศาลาเทพทั้งสิบ พวกนั้นคงมองว่าเราเป็นแค่คนลึกลับ” ปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์พูดขึ้น เขาได้ยอมรับตัวตนของตัวเอง “ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเรื่องอะไร เจ้าออกไปจากโลกดาวทมิฬ ได้โดยไม่ต้องกังวลใน 3 วัน มันจะมีคนมารับเจ้า..” ปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์ ค่อย ๆ หายตัวไป เขาไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเจี้ยนเฉินและจักรพรรดิดาวทมิฬเลยแม้แต่น้อย
มันราวกับว่าไม่มีอะไรที่ทำให้เขาสนใจได้
เจี้ยนเฉินอ้าปากค้าง เขาอยากถามว่าทำไมอีกฝ่ายถึงใช้เวลานานในการขัดขวางพิธีของเผ่าดาวทมิฬ แต่เมื่อเขาเห็นปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์หายตัวไป เจี้ยนเฉินก็ได้แต่เก็บคำถามน นั้นไว้ในใจ
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขามั่นใจว่าปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์มีส่วนในการเอาพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์เข้ามาในโลกดาวทมิฬ
และด้วยความสามารถของหัวหน้าพรรคกระดูกโอฬารแล้ว เขาก็มีความสามารถที่จะปกปิดร่องรอยทุกอย่าง ไม่ว่าเจี้ยนเฉินจะตรวจสอบเรื่องนี้ยังไง แต่ก็ดูเหมือนว่าพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์จะตัดสินใจด ด้วยตัวเอง
แม้ว่าเขาจะถามพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์หลังจากนี้ แต่พยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่รู้ตัว
แต่ตอนนี้ที่เจี้ยนเฉินทำได้คือต้องโยนความคิดเรื่องแผนการของพรรคกระดูกโอฬารที่เกี่ยวกับพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ไปก่อน แม้ว่าเขาจะมองข้ามความจริงที่ว่ามันส่งผลดีต่อพยัคฆ์ศักดิ์สิทธ ธิ์ แต่ความแข็งแกร่งที่พรรคกระดูกโอฬารมีนั้นก็เหนือว่าที่เขาจะรับมือได้ไหว
….
ในที่หนึ่งในจักรวาลภายนอกของโลกเซียนมีหอคอยกระดูกตั้งอยู่ ด้านบนหอคอยนี้มีชายหนุ่มอายุประมาณ 8-9 ปีนั่งอยู่ เขาใส่เสื้อสีแดงกางเกงขาสั้น กฎนั้นหมุนวนรอบตัวเขาราวกับว่าเขาท ทำการบ่มเพาะอยู่
เด็กนี่คืออันดับสองของพรรคกระดูกโอฬาร เด็กไร้หัวใจ !
“เจี้ยนเฉินกำลังจะออกจากโลกดาวทมิฬ เจ้าเตรียมไปรับเขาด้วย เขาไม่อาจจะตายในโลกจิตวิญญาณได้ ไม่งั้นแล้วแม้ว่าเราสองคนจะกักตัวจักรพรรดิดาวทมิฬไว้ได้นาน แต่แน่นอนว่าคงไม่รอ อดจากหายนะจากลมที่น่านับถือ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เด็กไร้หัวใจลืมตาขึ้นมา สายตาเขาสะท้อนความยินดีออกมา “เจี้ยนเฉินทำสำเร็จรึ ? ”
“ใช่ เขาทำสำเร็จ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน..”
“ฮ่าฮ่า ดีจริง ๆ แน่นอนว่าเขาต้องไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ด้วยความล้มเหลวของพวกนั้นในครั้งนี้ ครั้งหน้าเผ่าดาวทมิฬก็จะจัดพิธีที่มีอัตราสำเร็จน้อยลงกว่าเดิม พวกนั้นจะติดอยู่ที นั่นอีกสิบล้านปีรึอาจจะร้อยล้านปี” เด็กไร้หัวใจยินดีราวกับว่ายกภูเขาออกจากอกได้ มันเหมือนว่าตัวเขาเบาขึ้นมา ชัดแล้วว่าเขายินดีกับข่าวนี้
“ไม่ต้องกังวล ข้าได้ส่งนักฆ่าเบอร์หนึ่งระดับเซียนอย่างเชิงยี่ไปยังโลกจิตวิญญาณแล้ว ข้าจะไม่เตรียมการกับคนสำคัญอย่างเจี้ยนเฉินได้ยังไง ? ยังไงซะนี่มันก็เกี่ยวข้องกับความอยู่ร รอดของพรรคกระดูกโอฬาร ด้วยการที่เชิงยี่อยู่ที่นั่น เขาจะปลอดภัย ไม่ว่าเขาจะสร้างปัญหาแค่ไหนก็ตาม” เด็กไร้หัวใจพูดขึ้น
“เจ้าประมาทเขาเกินไป หากเจ้ารู้ว่าเขาทำอะไรในโลกดาวทมิฬ จ้าคงไม่คิดแบบนี้อีกต่อไป..” หลังจากนั้นเสียงนั้นก็อธิบายทุกอย่างที่เจี้ยนเฉินได้ทำในโลกดาวทมิฬโดยไม่ปกปิดอะไรแม ม้แต่น้อย สุดท้ายเขาก็ได้พูดต่อ “ยิ่งกว่านั้นเขาก็รู้ตัวตนของเราแล้ว”
“เด็กนี่เก่งแต่การสร้างปัญหาจริง ๆ เขาถึงกับหาเรื่ององค์กรมากมาย” หลังจากที่รู้ทุกอย่างแล้ว แม้แต่เด็กไร้หัวใจก็อดไม่ได้ที่จะผงะ สำหรับเรื่องตัวตนของพวกเขานั้น เขาไม่ได้ ตกใจ
“งั้นข้าควรไปด้วยตัวเองจะดีกว่า…” อยู่ ๆ เด็กไร้หัวใจก็หายตัวไปทันที