เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2903 : กองกำลังเสริม
ตอนที่ 2903 : กองกำลังเสริม
การปรากฏตัวของเชิงยี่และความแข็งแกร่งที่น่าเหลือเชื่อที่เจี้ยนเฉินแสดงออกมานั้นทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดที่นั่นต่างก็พากันตะลึง
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าเจี้ยนเฉินนั้นเป็นยอดฝีมือที่ทัดเทียมกับขั้นบรรพกาลได้ เขาคงไม่อาจจะเทียบกับยอดฝีมือในตอนนี้ได้ การจับกุมเขานั้นเป็นเรื่องง่าย ๆ
แต่หลังจากที่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายโอสถหยก แล้ว ทุกคนก็ตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน พวกเขาเข้าใจทันทีว่าเด็กนี่ที่อายุไม่ถึงพันปีนั้น กลับไม่ได้จัดการได้ง่าย ๆ เหมือนที่พวกเขาคิดเอาไว้
ยอดฝีมือขั้นบรรพกาลบางคนต้องการจะขโมยดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ต้องพากันข่มความต้องการของตัวเองเอาไว้
“งั้นมันก็คือสหายเชิงยี่ ข้า ซานหยุน หนึ่งในหกผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายสวรรค์ ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานานแล้ว ข้าอยากจะพบเจ้าด้วยตัวเองมาตลอด ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้พบก กับสหายในวันนี้ ในที่สุดข้าก็ทำตามที่หวังมานานได้” ซานหยุนซึ่งกระเด็นออกมาเพราะพัดของเชิงยี่ได้พูดขึ้นมา ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนและพ พูดด้วยท่าทีสุภาพราวกับประจบเชิงยี่
เจี้ยนเฉินมองไปที่เชิงยี่ เชิงยี่สวมผ้าคลุมขนาดใหญ่ปิดบังใบหน้าเขาเอาไว้
ผ้าคลุมนี้ดูเหมือนผ้าคลุมธรรมดา มันสามารถกันการรับรู้วิญญาณและปกปิดพลังได้ ผลก็คือมีใครเห็นหน้าตาที่แท้จริงของเชิงยี่ได้ ซึ่งทำให้เขาดูลึกลับกว่าเก่า
แต่เชิงยี่ไม่อาจจะยืนยันตัวตนได้จากหน้าตาหรือพลัง พัดในมือที่เป็นวัตถุเทพขั้นสูง พัดแยกหยินและหยางต่างหากที่เป็นตัวยืนยันตัวตนของเขา
ตอนนั้นก้านพัดได้บินกลับมาและกลับไปรวมตัวกันเป็นพัดในมือของเชิงยี่อีกครั้ง
ตอนนั้นเชิงยี่ได้สะบัดมือพร้อมกับหอคอยกระดูกที่ปรากฏขึ้นแผ่แรงกดดันของวัตถุเทพขั้นกลางออกมา เขาไม่ได้หันกลับไปหาเจี้ยนเฉินและพูดขึ้น “เข้าไปด้านใน ! ”
เจี้ยนเฉินมองไปที่ด้านหลังเชิงยี่สักพักโดยที่ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย
“เชิงยี่ เจ้าคิดจะทำอะไร ? ”
“หยางยู่เทียนเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนของเราตายในโลกดาวทมิฬ เขาติดหนี้เราก้อนโต ดังนั้นเขาไม่อาจจะไปไหนได้…”
“นี่คือความแค้นของเราจากภายในโลกดาวทมิฬ เชิงยี่ อย่าเข้ามายุ่งในเรื่องที่ไม่ควร…”
“เชิงยี่ อย่าบอกข้านะว่าพรรคกระดูกโอฬารเองก็ต้องการประโยชน์จากเรื่องนี้ด้วย…”
…
เมื่อเห็นว่าเชิงยี่พยายามจะพาหยางยู่เทียนหลบหนี เหล่ายอดฝีมือก็เริ่มไม่พอใจ พวกเขาต่างก็พากันตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว
“หยางยู่เทียนได้ฆ่าศิษย์และลูกหลานที่โดดเด่นที่สุดของเราไป เขาต้องชดใช้ให้กับองค์กรทั้งห้าของเราในเรื่องนี้…” ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งห้าจากตระกูลฉู่, ตระกูลเส้า, ตระกูลกง , นิกายหยูเจียง และตระกูลคังเฉียง ได้พูดขึ้นมา ตอนนั้นทั้งห้าองค์กรได้ร่วมมือกันในเรื่องหยางยู่เทียน พวกเขายืนกรานแบบเดียวกัน
ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว คนของพวกเขาที่ตายไปนั้นไม่สำคัญอีกต่อไป ทั้งห้าคนพากันคาดเดาว่าหยางยู่เทียนจะเอาสมบัติจากโลกดาวทมิฬมามากแค่ไหน ด้วยความแข็งแกร่งที่เจี้ยนเฉิ นได้แสดงออกมา
ดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ 5 ชั่งและหญ้าราชาเทพทั้งหมดอาจจะเป็นส่วนน้อยนิด
สำหรับคนของพวกเขาที่ตายไป ไม่ต้องคาดเดาเลยว่าเป็นหมากไว้ต่อรองเพื่อที่พวกเขาจะได้อ้างเอาประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
“สหายเชิงยี่ นิกายสวรรค์ของเราเป็นมิตรกับพรรคกระดูกโอฬารมาโดยตลอด ความสัมพันธ์ของเราเป็นเรื่องหนึ่ง ดังนั้นข้าจึงหวังว่าสหายเชิงยี่จะส่งตัวหยางยู่เทียนให้กับนิกายสวรรค์เพื อความสัมพันธ์อันยาวนานของเรา หยางยู่เทียนคือคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดของนิกายสวรรค์ในโลกดาวทมิฬ” ซานหยุนจากนิกายสวรรค์ได้บอกกับเชิงยี่ สายต ตาเขาแสดงความคาดหวังและร้อนรนออกมา
ในฐานะสมาชิกของนิกายสวรรค์แล้ว แน่นอนว่าเขาไม่อาจจะตัดความสัมพันธ์กับพรรคกระดูกโอฬารได้ ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเชิงยี่ พวกเขาต่างก็เป็นคนของพวกระดับสูงในองค์กร หากพวกเขาไม่ จัดการเรื่องนี้ให้ดี งั้นมันอาจจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองกลุ่มได้
พรรคกระดูกโอฬารอาจจะไม่สนใจนิกายสวรรค์ แต่นิกายสวรรค์นั้นต้องรักษาความสัมพันธ์กับพรรคกระดูกโอฬารเอาไว้ให้ได้
บางทีความสัมพันธ์นี้อาจจะเปราะบางเหมือนปีกจักจั่น แต่นิกายสวรรค์ได้พยายามอย่างมากเพื่อสร้างสายสัมพันธ์นี้ขึ้นมา
“ข้าได้รับคำสั่งให้เอาตัวชายคนนี้ไป หากเจ้าต้องการตัวเขา งั้นก็จงไปพบรองหัวหน้าพรรค” เชิงยี่พูดขึ้นมา เขาไม่ได้พูดอะไรมาก น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้าง เขาไม่ได้ไว้หน้าใคร แต่ข้อมูลที่เขาเผยออกมานั้นไม่ต่างอะไรจากสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่ทุกคนที่นั่น
“อะไรนะ ? รองหัวหน้าพรรคต้องการตัวหยางยู่เทียน…”
“พรรคกระดูกโอฬารมีรองหัวหน้าพรรคแค่คนเดียว คนของโลกเซียนต่างก็เรียกเขาว่าเด็กไร้หัวใจ หยางยู่เทียนเป็นคนที่เด็กไร้หัวใจต้องการตัว ระ เราจะทำยังไงได้….”
“เจ้าก็ได้เห็นแล้ว พวกเจ้าได้เห็นกันหมดแล้ว หยางยู่เทียนจะไม่มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่ได้ยังไงด้วยการขึ้นไปถึงระดับนี้ได้ตั้งแต่อายุที่ยังน้อยแบบนี้ ? เด็กไร้หัวใจต้องคือค คนที่อยู่เบื้องหลังหยางยู่เทียนแน่ ๆ…”
“ข้าไม่พอใจคนในเมืองร้อยเซียนมานานแล้ว มาดูกันว่าพวกเขาจัดการกับสถานการณ์นี้ยังไง…”
….
คำพูดของเชิงยี่ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาในหมู่พวกระดับสูงขององค์กรชั้นนำ ในฐานะยอดฝีมือขั้นบรรพกาลแล้ว ทุกคนต่างก็รู้เกี่ยวกับเด็กไร้หัวใจ เขาคือคนระดับสูงสุดที่ซึ่งส สร้างพายุขึ้นมาในโลกเซียนด้วยการสะบัดมือได้ เขาเหนือกว่าองค์กรชั้นนำใด ๆ ในตอนนี้ พวกเขาไม่อาจจะหาเรื่องอีกฝ่ายได้
แม้แต่ตระกูลสายฟ้าสวรรค์ที่มีตระกูลเทพเจ้าสายฟ้าคอยหนุนหลังก็ต้องกลัวเมื่อพวกเขาได้ยินชื่อเด็กไร้หัวใจ
ตอนนั้นเจี้ยนเฉินได้ก้าวออกมา เขาได้เอาดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ออกมาอีกครั้งและบอกกับองค์กรจากเมืองร้อยเซียน “ผู้อาวุโส ข้ายังยืนยันคำเดิม คนของท่านตายเพราะเผ่าดาวทมิฬ ฬ การตายของพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้า สำหรับเหรียญผลึกแล้ว ข้าเต็มใจจะใช้ดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ 1 ตำลึงและหญ้าราชาเทพ 1 ก้านเพื่อชดเชยให้กับพวกท่าน” หลังจากที่พูด จบ เจี้ยนเฉินก็ไม่รอให้พวกนี้ตกลง เขาได้แบ่งดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ในมือออกเป็น 50 ส่วนพร้อมกับหญ้าราชาเทพตามที่เขาได้รับปากเอาไว้ แล้วส่งให้กับเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดที ละคน ๆ
ในหมู่องค์กร 52 แห่งภายใต้การปกป้องของเมืองร้อยเซียน ทุกองค์กรต่างก็ได้รับค่าชดเชยยกเว้นแค่นิกายโอสถหยกและตระกูลสายฟ้าสวรรค์
เมื่อพวกเขาเห็นดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ 1 ตำลึงและหญ้าราชาเทพ 1 ก้าน สายตาของเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดต่างก็พากันสั่นไหว พวกเขาพากันรู้สึกซับซ้อนและลังเล แต่สุดท้ายพวกนั้น กว่าครึ่งก็พากันถอนหายใจราวกับว่าได้ตัดสินใจแล้ว พวกเขาได้ยอมรับการชดเชยครั้งนี้เอาไว้
หากเจี้ยนเฉินเป็นผู้บ่มเพาะที่ไม่มีภูมิหลังหรือมีภูมิหลังที่อ่อนแอ พวกเขาคงไม่ทิ้งโอกาสนี้ไปง่าย ๆ พวกเขาจะพยายามเอาเปรียบอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด
แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าเด็กไร้หัวใจหนุนหลังเจี้ยนเฉินอยู่ พวกเขาไม่กล้าจะหมายหัวเจี้ยนเฉินอีกต่อไป พวกเขาได้แต่ต้องเอากำไรแค่เพียงเล็กน้อยและรับดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ก กับหญ้าราชาเทพเอาไว้เป็นค่าชดเชย
แน่นอนว่าเมื่อเสียงส่วนมากตัดสินใจว่าจะมองข้ามเรื่องในโลกดาวทมิฬไป มันก็ยังมีผู้อาวุโสจากองค์กรส่วนที่เหลือน้อยนิดที่ยังโลภมากเหมือนก่อนหน้านี้แม้ว่าจะได้รับค่าชดเชยไปแล้ว
“หยางยู่เทียน เจ้าคิดจะชดเชยให้กับความเสียหายของนิกายโอสถหยกยังไง ? ”
“ตระกูลสายฟ้าสวรรค์ของเราเองก็เช่นกัน เพื่อจะได้รับหยกที่มีกฎเวลากว่า 30 ชิ้น ตระกูลของเราได้จ่ายเงินไปจำนวนมาก”
นิกายโอสถหยกและตระกูลสายฟ้าสวรรค์ก้าวออกมาข้างหน้า ในหมู่องค์กรของเมืองร้อยเซียนนั้น พวกเขาเสียหายมากที่สุด หากพวกเขาได้รับค่าชดเชยเท่ากับองค์กรอื่น ๆ พวกเขาคงไม่อาจจะยอ อมรับได้