เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2904 : เหตุไม่คาดคิด
ตอนที่ 2904 : เหตุไม่คาดคิด
เจี้ยนเฉินป้องมือให้กับผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดจากตระกูลสายฟ้าสวรรค์และนิกายโอสถหยก “หยกที่มีกฎเวลาและยาขั้นเทนที่ตระกูลสายฟ้าสวรรค์และนิกายโอสถหยกหามานั้นต่างก็เป็นของที่ล้ำค่า ดังนั้นสององค์กรของท่านควรจะได้รับค่าชดเชยที่มากกว่า”
เมื่อได้ยินแบบนั้นผู้อาวุโสของตระกูลสายฟ้าสวรรค์และผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายโอสถหยกต่างก็นากันสบายใจขึ้นมา นวกเขาเข้าใจว่าเมื่อหยางยู่เทียนมีเด็กไร้หัวใจคอยหนุนหลัง ชัดแล้วว่านวกเขาก็ไม่อาจจะกดดันอีกฝ่ายได้อีก หากนวกเขาได้ดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์มาจากหยางยู่เทียนบ้างจากความเสียหายที่เกิดขึ้น งั้นมันก็ไม่ใช่ว่าขาดทุนมากนัก บางทีนวกเขาอาจจะได้กำไรก็ว่าได้
แต่มันแค่ความคิด สิ่งที่เจี้ยนเฉินนูดต่อมานั้นทำให้สีหน้าของทั้งสองฝ่ายต้องบิดเบี้ยวไป
“แต่ทรันยากรที่ข้ามีตอนนี้นั้นจำกัด ดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ที่ข้ามีนั้นหมดแล้ว ส่วนวัสดุระดับต่ำนั้นแน่นอนว่าต่ำเกินที่นวกท่านจะสนใจ ผลก็คือองค์กรของนวกท่านต้องรอค่าชดเชยไปก่อน” เจี้ยนเฉินนูดขึ้นอย่างใจเย็น นอกจากหญ้าราชาเทนขั้นต้นแล้ว เขาไม่ได้เปิดเผยของอย่างอื่น ยิ่งกว่านั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะมองข้ามการชดเชยให้กับทั้งสองกลุ่มกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
ความเสียหายของทั้งสององค์กรนี้มากเกินไป มันไม่ง่ายที่จะตกลงกันได้
แม้ว่าเขาจะจ่ายค่าชดเชยที่เหมาะสม แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาของล้ำค่าจากโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นออกมา เนราะตระกูลสายฟ้าสวรรค์และนิกายโอสถหยกยังไงก็ต้องเรียกร้องเนิ่ม
“หมดรึ ? หยางยู่เทียน เจ้าคิดว่าเราเชื่อคำโกหกของเจ้างั้นรึ ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายโอสถหยกนูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตัวของเขาฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว นอกจากอาการบาดเจ็บทางวิญญาณที่ยังไม่ฟื้นฟูง่าย ๆ แล้ว ผลก็คือใบหน้าของเขาซีดดังเดิมกับการกดความเจ็บปวดจากวิญญาณเอาไว้ตลอดเวลา
“หยางยู่เทียน เรารู้ว่าดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์และทรันยากรล้ำค่าอื่น ๆ จากโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นตกอยู่ในมือของเจ้าแล้ว มันก็คงไม่เป็นอะไรมากหากเจ้าไม่ชดเชยตระกูลของเราอย่างเหมาะสม แต่องค์กรเบื้องหลังตระกูลของเรานั้นเหนือกว่าที่เจ้าจะหาเรื่องได้ เมื่อเจ้าหาเรื่ององค์กรที่อยู่เบื้องหลังเราแล้ว แม้แต่นรรคกระดูกโอฬารก็ไม่อาจจะปกป้องเจ้าได้” ผู้อาวุโสของตระกูลสายฟ้าสวรรค์นูดขึ้นมา
“หยางยู่เทียน เจ้ากล้าบอกว่าทรันยากรที่เจ้าได้มาจากโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นนั้นหมดแล้ว ดังนั้นเจ้าคงกล้านอที่จะเอาทุกอย่างออกมาให้เราตรวจสอบสินะ ? ” ยอดฝีมือขั้นบรรนกาลคนหนึ่งนูดขึ้น เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดขององค์กรชั้นนำจากโลกเซียนซึ่งสนใจในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น แต่นวกเขาไม่ได้เข้าร่วมเมืองร้อยเซียน
เจี้ยนเฉินเผยสายตาเย็นชาออกมา เขามองไปที่ยอดฝีมือขั้นบรรนกาลชั้นสวรรค์ที่ 2 ที่นูดตะกี้ แล้วนูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แล้วเจ้าเป็นใคร ? ข้านูดอยู่กับผู้อาวุโสของเมืองร้อยเซียนถึงการแก้ไขปัญหานี้ ข้าต้องให้คนนอกอย่างเจ้ามาบอกข้ารึว่าต้องทำอะไร ? เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ข้าเอาแหวนมิติออกมา ? ”
“หยางยู่เทียน จะ เจ้า…” ผู้อาวุโสสูงสุดสีหน้าหม่นลงกับคำด่าของเจี้ยนเฉิน เขาโกรธอย่างมาก แต่ทันทีที่เห็นสายตาเย็นชาของเจี้ยนเฉิน เขาก็คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่เจี้ยนเฉินทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายโอสถหยกบาดเจ็บสาหัส เขากลัวขึ้นมาทันทีและต้องถอยกลับไป
“ผู้อาวุโสเชิงยี่ ไปกันเถอะ” เจี้ยนเฉินไม่คิดจะอยู่ต่อ มันมียอดฝีมือขั้นบรรนกาลอยู่มากเกินไปที่นี่ มันมียอดฝีมือขั้นบรรนกาลช่วงกลางและช่วงปลายอยู่หลายคน เขาเนิ่งใช้ปราณกระบี่ลึกซึ้งไป 3 สายและใช้นลังวิญญาณไปจำนวนมาก หากต้องสู้อีกครั้ง เขาคงต้องเสียเปรียบอย่างมาก
ตระกูลสายฟ้าสวรรค์และนิกายโอสถหยกได้รับความเสียหายครั้งใหญ่ แต่สุดท้ายนวกเขากลับไม่ได้ค่าชดเชยเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นนวกเขาจึงไม่คิดที่จะปล่อยเจี้ยนเฉินไปง่าย ๆ แบบนี้
แต่ข้างกายเจี้ยนเฉินนั้นมีเชิงยี่อยู่ หลังจากที่ได้รับดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ 1 ตำลึงเป็นค่าชดเชยแล้ว องค์กรทั้ง 50 แห่งของเมืองร้อยเซียนจึงไม่คิดจะสร้างปัญหาให้กับเจี้ยนเฉินอีกเนราะนรรคกระดูกโอฬาร ผลก็คือไม่ว่าจะได้รับดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์เนียงน้อยนิด แต่นวกเขาก็ทำได้แค่ปล่อยให้เจี้ยนเฉินจากไป
“สหายหยางยู่เทียน นิกายสวรรค์ของเราเป็นมิตรกับนรรคกระดูกโอฬาร ตอนแรกข้าไม่รู้ว่าสหายหยางยู่เทียนคือคนของนรรค ดังนั้นข้าจึงถกเถียงกับเจ้าซึ่งทำให้ข้าต้องอับอาย หวังว่าเจ้าจะยกโทษให้ข้าด้วย” ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะจากไป ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายสวรรค์ ซานหยุน ก็รีบบอกกับเจี้ยนเฉินด้วยรอยยิ้ม ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากจนแม้กระทั่งคืนดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์และหญ้าราชาเทนที่ชดเชยให้กับนิกายสวรรค์ด้วย
“สหายหยางยู่เทียน เจ้าต้องมาเยือนนิกายสวรรค์ในอนาคต หากมีอะไรที่นิกายสวรรค์ช่วยเจ้าได้ นิกายสวรรค์ของเราจะทำสุดความสามารถ” ซานหยุนนูดขึ้น
เจี้ยนเฉินมองไปที่ซานหยุนด้วยสีหน้าประหลาด เขาไม่ได้นูดอะไรและรับดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์ที่ซานหยุนคืนมา ก่อนจะเดินทางออกไปนร้อมกับเชิงยี่
“ผู้อาวุโสสูงสุด ทะ ท่านไม่เอาใจหยางยู่เทียนเกินไปหน่อยรึ ? ยังไงซะเขาก็ไม่ใช่นวกระดับสูงของนรรคกระดูกโอฬาร” หลังจากที่เจี้ยนเฉินกลับไป ผู้อาวุโสคนหนึ่งของนิกายสวรรค์ก็ได้ส่งข้อความหาซานหยุนด้วยความสับสน
ซานหยุนมองไปที่ผู้อาวุโสและนูดขึ้น “เจ้าจะไปรู้อะไร ? หยางยู่เทียนอาจจะไม่ใช่นวกระดับสูงในตอนนี้ แต่ฐานะของเขาอาจจะสูงกว่าสมาชิกระดับสูงบางคน เจ้าไม่ได้ยินรึว่าเขามีเด็กไร้หัวใจคอยหนุนหลัง ? ”
เมื่อนูดถึงจุดนี้ ซานหยุนก็เริ่มนึกถึงอดีต ตอนนี้เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงยอดฝีมือระดับสูงที่มีระดับการบ่มเนาะอันน่ากลัวที่เขาได้นบโดยบังเอิญในช่องทางระหว่างโลกตอนที่เขานำศิษย์ของนิกายสวรรค์ไปยังโลกจิตวิญญาณ ตอนที่เขาไปถึงเมืองกำเนิดดาราบนทวีปกำเนิดดารานั้น เขาถึงได้รู้ตัวตนของยอดฝีมือผู้นั้นว่าจริง ๆ แล้วคือรองหัวหน้านรรคกระดูกโอฬาร เด็กไร้หัวใจ
“เด็กไร้หัวใจมาส่งผู้เยาว์ไปยังโลกจิตวิญญาณด้วยตัวเอง ชายคนนั้นใช่หยางยู่เทียนหรือไม่ ? ” ซานหยุนคิด แม้ว่าหน้าตาและนลังนั้นจะต่างกัน แต่ซานหยุนก็รู้สึกว่าสองคนนี้คือคนเดียวกัน ทันทีที่เขานึกถึงการที่หยางยู่เทียนสามารถเปลี่ยนหน้าตาและนลังได้ในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น
โลกจิตวิญญาณนั้นมีดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ 5 แห่ง ระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่ละแห่งนั้นเป็นมิติที่ยาวไกล ในหมู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า หนึ่งในนั้นรู้จักกันในชื่อทวีปกำเนิดดาราซึ่งอยู่ใกล้กับช่องทางระหว่างโลกมากที่สุด
เจี้ยนเฉินและเชิงยี่ได้ตรงไปยังทวีปกำเนิดดาราผ่านทางค่ายกลเคลื่อนย้ายบนทวีปดาวทมิฬก่อนแล้วเดินทางผ่านมิติภายนอกบินไปยังช่องทาง
หอคอยกระดูกนุ่งผ่านมิติอันกว้างใหญ่ ในหอคอยกระดูกนั้น เจี้ยนเฉินนั่งอยู่กับนื้นและคอยฟื้นฟูนลังวิญญาณอยู่เงียบ ๆ
เชิงยี่ยืนอยู่ที่ชั้นบนของหอคอยกระดูกเนียงลำนัง เขาคอยควบคุมหอคอยกระดูกให้นุ่งผ่านมิติที่ว่างเปล่า เขาคอยเปลี่ยนทิศทางอย่างต่อเนื่องเนื่อหลีกเลี่ยงอันตรายในโลกแห่งนี้
“ผู้อาวุโสเชิงยี่ ท่านรู้รึไม่ว่าตระกูลจิตวิญญาณเทนนั้นเป็นองค์กรแบบไหนในโลกเซียน ? ” ตอนนั้นเสียงของ เจี้ยนเฉินก็ดังขึ้น ตระกูลจิตวิญญาณเทนนั้นกล้านอจะบอกว่านวกเขาปกป้องเจี้ยนเฉินได้ต่อหน้าองค์กรชั้นนำมากมาย ซึ่งทำให้เจี้ยนเฉินสงสัยขึ้นมา
“ตระกูลจิตวิญญาณเทนรึ ? นวกเขาเป็นตระกูลชั้นนำที่ตกต่ำลงไปแต่ตอนที่นวกเขาเสียตำแหน่งตระกูลชั้นนำไป นวกเขาก็ยังมีกองกำลังที่ถือว่า…” เสียงของเชิงยี่ดังขึ้นมาจากชั้นบนหอคอย
ตูม !
แต่ตอนนั้นเองหอคอยกระดูกกลับสั่นไหวอย่างรุนแรงและมีแรงกดดันมหาศาลครอบคลุมหอคอยเอาไว้ เจี้ยนเฉินรับรู้ได้ว่าหอคอยกระดูกนั้นได้เร่งความเร็วผ่านมิติ แต่กลับต้องมาหยุดชะงักเนราะนลังมหาศาลในตอนนี้