เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2911: ดาวเคราะห์เทียนหมิง
ตอนที่ 2911: ดาวเคราะห์เทียนหมิง
หลังจากออกจากภาคกลาง เจี้ยนเฉินก็กลับไปที่ตระกูลเทียนหยวนอีกครั้ง เนื่องจากเขากำลังจะจากไป เขาจึงต้องเตรียมของที่ต้องการ
ดาวเคราะห์เทียนหมิงอยู่ห่างจากที่ราบเมฆามาก เขาไม่ได้มีการบ่มเพาะที่สูงเท่าเด็กไร้หัวใจ เด็กไร้หัวใจเพียงต้องเดินทางผ่านอวกาศเท่านั้นไม่ว่าเขาต้องการไปที่ใดในโลกเซียน ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องใช้ค่ายกลส่งตัวทางไกลระหว่างดาวเคราะห์
อย่างไรก็ตามหากเจี้ยนเฉินต้องการออกจากที่ราบเมฆาและผจญภัยไปยังที่ราบอื่นหรือดาวเคราะห์ใด ๆ ในโลกเซียน เขาก็จำเป็นต้องใช้ค่ายกส่งตัวทางไกลเหล่านี้
มิฉะนั้นด้วยความเร็วปัจจุบันของเขาใครจะรู้ว่าต้องเสียเวลาไปในมิติอวกาศอีกกี่ปี
หลังจากกลับไปที่ตระกูลเทียนหยวน เจี้ยนเฉินก็ดึงทุกสิ่งที่เขาเก็บไว้ในโถงเมฆธารากลับมา แก่นกลางของกุสต้า กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ และอื่น ๆ ทั้งหมดกลับคืนมาเก็บไว้
ในเวลาเดียวกัน เขาได้ทิ้งทรัพยากรพิเศษบางอย่างที่เขานำออกมาจากโลกดาวทมิฬไว้ในโถงเมฆธารา เช่นหญ้าราชาเทพระดับต่ำ ซากศพของสัตว์อสูรกลืนชีวิตและส่วนหนึ่งของน้ำแห่งชีวิต
สำหรับดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์เขาทิ้งไว้เพียงหยิบมือ เขานำส่วนที่เหลือติดตัวไป
ดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์มีค่ามากเกินไป แม้แต่เขาเองก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าตัวตนของหยางหยุนเทียนที่เขาใช้ในโลกวิญญาณจะถูกเปิดเผยหรือไม่
อย่างไรก็ตามหากเขาถูกเปิดเผย มันเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ขั้นอัครสูงสุดจะดำเนินการเป็นการส่วนตัว
หากต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญเช่นนั้น แม้แต่วัตถุเทพคุณภาพปานกลางอย่างโถงเมฆธาราก็ยังไม่มีโอกาสรอดพ้น
ด้วยเหตุนี้เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น เจี้ยนเฉินจึงถูกบังคับให้ต้องพกทรัพยากรที่มีค่าที่สุดทั้งหมดไว้กับเขา แม้ว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้น เขาก็ต้องการดึงความหายนะมาสู่ตัวเอง เขาไม่ปรารถนาที่จะลากตระกูลเทียนหยวนให้ต้องเข้ามาพัวพัน
ในท้ายที่สุดเจี้ยนเฉินก็ถอนส่วนหนึ่งของเหรียญผลึกสีในตระกูลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการใช้งานค่ายกลส่งตัวทางไกลระหว่างดาวเคราะห์ก่อนที่จะออกจากตระกูลเทียนหยวน เขาออกเดินทางไปยังพื้นที่ภาคกลางอีกครั้งตรงไปที่ค่ายกลส่งตัวทางไกลระหว่างดาวเคราะห์ที่นั่น
ในโลกเซียน ค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวสาธารณะทั้งหมดถูกป้องกันอย่างแน่นหนา และค่ายกลเหล่านี้มีรูปแบบการรักษาความปลอดภัยจำนวนมากที่สามารถตรวจจับองค์กรที่มีชีวิตใด ๆ ได้โดยตรงในวัตถุเทพเชิงมิติเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บ่มเพาะใช้สิ่งวัตถุเทพเชิงมิติเพื่อพาผู้คนจำนวนมากไปด้วยผ่านค่ายกลส่งตัว รูปแบบการรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ช่วยให้องค์กรที่อยู่เบื้องหลังการสร้างค่ายกลส่งตัวหลีกเลี่ยงการสูญเสีย
เป็นผลให้เมื่อเจี้ยนเฉินผ่านรูปแบบการรักษาความปลอดภัยของค่ายกล จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์จึงถูกค้นพบทันที ค่ายกลส่งเสียงเตือนและผู้คุมที่ประจำการอยู่ใกล้ ๆ ก็เข้าล้อมรอบเจี้ยนเฉินทันที
พลังแห่งการมีอยู่ของขั้นอสงไขยพุ่งมาจากบริเวณใกล้เคียง ก่อนที่เขาจะมาถึงเสียอีก เสียงก้องกังวานของเขาก็มาถึงที่นั่น เขาพูดด้วยความรู้สึกเย่อหยิ่งเล็กน้อย “หากจ่ายเงินก้อนเดียว การใช้ค่ายกลส่งตัวก็จะอนุญาตสำหรับคน ๆ เดียว เจ้าต้องจ่ายเงินตามจำนวนคนที่จะใช้ค่ายกลส่งตัวไปพร้อมกับเจ้า”
เจี้ยนเฉินโบกมือ ทันใดนั้นเหรียญผลึกสีก็บินออกมาจากวงแหวนมิติทันที เขาพูดอย่างเฉยเมย “เปิดค่ายกลส่งตัวเดี๋ยวนี้ ข้ากำลังรีบ”
เมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่เพิ่งมาถึงเห็นเจี้ยนเฉินโยนเเหรียญผลึกศักดิ์สิทธิ์หลากสีออกมาโดยไม่สนใจใยดี ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นทันที เขายิ้มจาง ๆ “ท่านใจกว้างมาก ท่านต้องมาจากองค์กรนิรันดร์เป็นแน่”
สิ่งที่เรียกว่าองค์กรนิรันดร์นั้นโดยพื้นฐานแล้วเป็นตระกูลหรือนิกายที่มีขั้นบรรพกาล
ในขณะที่พูด ขั้นอสงไขยผู้พิทักษ์ค่ายกลส่งตัวทางไกลค่อย ๆ แสดงความสงสัยในสายตาที่กำลังจ้องมองเจี้ยนเฉิน  ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาพบว่าบุคคลข้างหน้าเขาเป็นคนที่คุ้นเคย
แต่ในช่วงเวลาต่อมาเขารู้สึกเหมือนสายฟ้าระเบิดในหัวของเขา เขานึกออกทันทีว่าคน ๆ นี้คือใคร เขาตัวสั่นทันทีและลดตัวลงจากระดับความสูงที่เขากำลังลอยอยู่ ความหยิ่งผยองของเขาหายไปและเขาวิ่งไปหาเจี้ยนเฉินเหมือนพยายามประจบประแจงอีกฝ่าย เขาพูดอย่างเอาอกเอาใจว่า “ท่านคือผู้นำของตระกูลเทียนหยวนนั่นเอง ข้าเสียมารยาทต่อท่าน โปรดยกโทษให้ข้าด้วยสำหรับความหยาบคายก่อนหน้านี้…”
“ไม่เป็นไร เร็วเข้าและเปิดค่ายกลส่งตัวทางไกล ข้ารีบมากจริง ๆ ” เจี้ยนเฉินโบกมือและพูดอย่างไม่ใส่ใจ เขายืนอยู่ในค่ายกลส่งตัวทางไกลแล้ว
ขั้นอสงไขยแสดงความเคารพอย่างเต็มที่ เขาพูดอย่างรีบร้อน,“ขอรับ ขอรับ ขอรับ ข้าจะเปิดค่ายกลส่งตัวทางไกลเดี๋ยวนี้ … และโปรดเก็บเหรียญผลึกสีไว้ บนที่ราบเมฆาก็คงมีเพียงคนโง่เท่านั้นที่รับค่าธรรมเนียมการใช้งานค่ายกลส่งตัวจากท่าน ถ้าท่านไม่รับคืน ข้าต้องเจอกับบทลงโทษหนักเมื่อข้ากลับไปที่องค์กร…”
วิธีที่ขั้นอสงไขยปฏิบัติต่อเจี้ยนเฉินกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้บ่มเพาะในบริเวณรอบ ๆ พวกเขาหยุดนิ่งและจ้องมองเจี้ยนเฉินที่อยู่ในค่ายกลส่งตัวทางไกลและพูดคุยกัน
“หืม ? ชายคนนี้เป็นใคร ? ผู้อาวุโสชิงแห่งนิกายจักรวาลกำลังปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพราวกับว่ากลัวว่าจะทำให้เขาขุ่นเคือง…”
“ข้าได้ยินอย่างคลุมเครือว่าผู้อาวุโสชิงพูดถึงบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลเทียนหยวน ? อย่าบอกนะว่าคนที่กำลังใช้ค่ายกลส่งตัวมาจากตระกูลเทียนหยวนแห่งภาคใต้…”
“คือตระกูลเทียนหยวนนั่นเอง มิน่าล่ะ ไม่น่าแปลกใจเลยที่กล่าวกันว่าตระกูลเทียนหยวนนั้นควบคุมพื้นที่ทางใต้ทั้งหมดอย่างลับ ๆ องค์กรทั้งหมดของภาคใต้ได้ยอมจำนนต่อตระกูลเทียนหยวนอย่างเปิดเผยแล้ว…”
“ส่วนที่ทำให้งงงวยเพียงอย่างเดียวในทั้งหมดนี้คือในขณะที่ตระกูลเทียนหยวนมีความโดดเด่นพอ ๆ กับดวงอาทิตย์เที่ยงวัน พวกเขากลับไม่ได้แสดงเจตนาที่จะขยายองค์กร … ”
“ข้าแค่อยากรู้ว่าคนที่อยู่ในค่ายกลส่งตัวทางไกลคือสมาชิกชั้นสูงคนใดของตระกูลเทียนหยวน…”
……
…
ในท้ายที่สุดเจี้ยนเฉินก็สามารถประหยัดค่าธรรมเนียมการใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายได้ เขาออกจากที่ราบเมฆาภายใต้การจ้องมองที่ประจบสอพลอของขั้นอสงไขยที่ประจำการ
อย่างไรก็ตามการได้รับสิทธิพิเศษนี้ถูกจำกัดไว้ที่ที่ราบเมฆา หลังจากออกจากที่ราบเมฆา ตัวตนของเขาในฐานะผู้นำของตระกูลเทียนหยวนก็ไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไป
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินจึงถูกก็เคลื่อนย้ายผ่านค่ายกลส่งตัวทางไกลอีกสองสามค่ายกล หลังจากจ่ายเหรียญผลึกสีจำนวนมหาศาลเป็นค่าธรรมเนียม ในที่สุดเขาก็เดินไปถึงดาวเคราะห์เทียนหมิง
เขาได้เรียนรู้ตำแหน่งที่แม่นยำของตระกูลราชาโอสถบนดาวเคราะห์เทียนหมิงจากผู้เฒ่าเทียนซาน หลังจากที่ตรวจสอบทิศทาง เขาก็มุ่งตรงไปยังตระกูลราชาโอสถ
ในบรรดาดาวเคราะห์หลัก 81 ดาวเคราะห์ของโลกเซียน ดาวเคราะห์เทียนหมิงถูกจัดอันดับให้อยู่ด้านล่างสุด แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นดาวเคราะห์เทียนหมิงก็ยังมีองค์กรสูงสุด 5 แห่ง
ตระกูลราชาโอสถเป็นหนึ่งในห้าองค์กรสูงสุดเหล่านี้ ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขา นอกเหนือจากสวนสมุนไพรที่สำคัญเพียงไม่กี่แห่ง ทั้งตระกูลยังไม่มีค่ายกลส่งตัวใด ๆ ที่ใช้งานอยู่
ตระกูลราชาโอสถเป็นองค์กรระดับสูงสุดที่เปิดรับโลกภายนอกตลอดเวลา
นั่นเป็นเพราะพวกเขาเป็นกลุ่มนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียง พวกเขาไม่เพียงแต่ขายยาทั้งหมดที่พวกเขาหลอมเท่านั้น แต่พวกเขายังยอมรับคำขอเล่นแร่แปรธาตุจากภายนอกด้วย ไม่ใช่แค่จากดาวเคราะห์เทียนหมิง แม้แต่องค์กรจากนอกดาวเคราะห์เทียนหมิงก็มักจะส่งคนมายังตระกูลราชาโอสถพร้อมกับค่าตอบแทนจำนวนมากเพื่อหลอมยา
“เจี้ยนเฉิน ผู้นำตระกูลเทียนหยวนแห่งที่ราบเมฆามาขอเข้าเยี่ยมปรมาจารย์หมึกคราม”
ทันใดนั้นเสียงอันหนักหน่วงก็ดังขึ้นจากด้านบนของตระกูลราชาโอสถ มันดังสนั่นเหมือนฟ้าร้องและกึกก้องไปทั่วทั้งเทือกเขา
ในเวลาเดียวกัน พลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังก็พุ่งออกมาโดยไม่ได้มีเจตนายั่วยุแม้แต่น้อย เขาใช้วิธีนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาเท่านั้น
ในโลกเซียน,ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง หากเจี้ยนเฉินต้องการเจอตัวปรมาจารย์หมึกคราม วิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดคือการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา
“นี่คือ… ขั้นบรรพกาล …”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งหมดในตระกูลราชาโอสถต่างตื่นตระหนกและจ้องมองไปในทิศทางของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยังไม่ถึงระดับขั้นบรรพกาลแต่ตอนนี้พลังแห่งการมีอยู่ของเขามีพลังมากจนดูเหมือนขั้นบรรพกาลแล้ว
แม้จะอยู่ในตระกูลสูงสุดซึ่งยืนอยู่ที่ส่วนบนสุดของที่ราบ ใครบางคนเช่นนั้นต้องเป็นผู้อาวุโสสูงสุดที่มีสถานะและอำนาจที่ยิ่งใหญ่ มันเพียงพอแล้วสำหรับตระกูลราชาโอสถที่จะปฏิบัติต่อเขาด้วยความเอาใจใส่
“ที่ราบเมฆารึ ? แต่ดูเหมือนที่ราบเมฆาจะไม่มีองค์กรที่เรียกว่าตระกูลเทียนหยวน…”
“ตระกูลเทียนหยวนแห่งที่ราบเมฆารึ ? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน…”
ขั้นอสงไขยในตระกูลราชาโอสถจำนวนมากพึมพำเบา ๆ
 
                                         
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
         
                                     
                                     
                                     
                                     
		 
		 
		 
		