เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2917: แผนการล้ำลึก
ตอนที่ 2917: แผนการล้ำลึก
คำพูดของผู้อาวุโสลมในตอนท้ายทำให้เจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความสงสัย ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมากหนุนหลังเขาหรือ ?
และเขาก็มีความสำคัญกับผู้เชี่ยวชาญคนนี้มาก ? สำคัญมากจนหากเขาตายผู้เชี่ยวชาญจะตามหาผู้อาวุโสลมเพื่อแก้แค้นโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ?
ถ้าผู้อาวุโสลมเป็นเพียงขั้นอัครสูงสุดธรรมดานั่นก็น่าจะสมเหตุสมผล ท้ายที่สุดเจี้ยนเฉินอยู่ในเชื้อสายนักรบวิญญาณ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เชื่อมต่อกันทางสายเลือด แต่ผู้สืบทอดเชื้อ อสายนักรบวิญญาณทั้งหมดได้รับการขนานนามว่าเป็นพี่น้องที่เชื่อใจกันและสำคัญที่สุดของกันและกันเนื่องจากลักษณะพิเศษที่พวกเขาได้รับมา
ด้วยเชื้อสายนักรบวิญญาณ การจัดการกับขั้นอัครสูงสุดทั่วไปจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
แต่ตอนนี้เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสลม เชื้อสายนักรบวิญญาณก็ไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะล้างแค้นให้เขาได้
ลำดับต่อมานายน้อยเทพสงคราม เถี่ยต้า ฉายเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉิน ตามมาด้วยพี่สาวของเขา เจียงหยางหมิงเย่วซึ่งยังไม่ฟื้นตัว แม้ว่าเขาจะมีสัมพันธ์พี่น้องกับทั้งสองคน แต่เจี้ ยนเฉินก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะยืนหยัดเพื่อเขาเมื่อผู้เชี่ยวชาญในระดับผู้อาวุโสลมเข้ามาเกี่ยวข้อง
“เป็นเถี่ยต้างั้นหรือ ? หรือพี่สาวของข้า ? หรือข้าควรจะพูดว่าอมตะเที่ยงแท้วัฎสงสารแห่งโลกอมตะ ? ” เจี้ยนเฉินคิด เขาตัดองค์หญิงใหญ่แห่งพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงออกไป เขาไ ไม่ได้มีความสำคัญต่อพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงมากขนาดนั้น แม้ว่าเขาจะได้รับการบริการที่ดีเยี่ยมเพราะการคืนหอคอยอนัตตา แต่การตายของเขาก็ไม่มีใกล้พอที่จะทำให้องค์หญิงใหญ่แห่ งพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงยื่นมือออกมาต่อต้านผู้เชี่ยวชาญในระดับเดียวกับนาง
ในขณะนี้ ผู้อาวุโสลมก็ยื่นนิ้วและชี้ไปที่เจี้ยนเฉินเบา ๆ เจี้ยนเฉินสัมผัสได้ทันทีถึงพลังที่มองไม่เห็นซึ่งดูเหมือนจะผ่านตัวเขาในฐานะสื่อกลาง มันยิงออกไปในอวกาศอันกว้างใหญ่ และพุ่งออกไปในสถานที่หนึ่ง
“ผู้อาวุโสลม นี่คืออะไร ? ” สีหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไป แม้ว่าท่าทางของผู้อาวุโสลมจะดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษบนพื้นผิว แต่เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงพลังมหาศาลที่ไม่น่าเ เชื่อที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งสัมผัสกับกฎและระเบียบที่โลกดำเนินการ
“เพื่อฆ่าปรมาจารย์หมึกคราม” ผู้อาวุโสลมกล่าวอย่างเรียบเฉย
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจี้ยนเฉินก็ตัวสั่นอยู่ข้างใน ใครจะรู้ว่าดาวเคราะห์นิรนามดวงนี้อยู่ห่างจากดาวเทียนหมิงแค่ไหนและปรมาจารย์หมึกครามก็เป็นปรมาจารย์ขั้นอัครสูงสุดชั้นสวร รรค์ที่ 1 ด้วย ท่าทางเรียบง่ายนี้เพียงพอที่จะฆ่าเขาได้จริงหรือไม่ ?
เจี้ยนเฉินประเมินความเข้าใจของตัวเองเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของ “ครึ่งก้าวจอมปราชญ์สูงสุด”อีกครั้งในทันที
“ผู้อาวุโสลม พรรคกระดูกโอฬารหลอกใช้ปรมาจารย์หมึกครามเช่นเดียวกับข้า เขาเป็นคนผิดก็จริง แต่ความผิดของเขาก็ไม่ได้ล้ำลึกขนาดนั้น โปรดสั่งสอนบทเรียนเล็กน้อยให้เขาแทนการสังหา ารด้วย” เจี้ยนเฉินกำหมัดแน่นและป้องมือเคารพผู้อาวุโสลม
“ไม่มีอะไรง่ายอย่างที่เจ้าคิด ข้าไม่ใช่คนที่ชอบฆ่าคน ถ้าเป็นไปได้ ข้าก็ไม่อยากจะฆ่าปรมาจารย์หมึกครามเลย อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ปัจจุบัน ปรมาจารย์หมึกครามต้องตาย ไม่เช่นนั้น นเฉินเจี้ยนจะตาย” ผู้อาวุโสลมกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแม้แต่เฉินเจี้ยนก็ยังรู้สึกฉงนสนเท่ห์ เขาถามด้วยความสงสัย “ผู้อาวุโสลม ข้าไม่เคยติดต่อกับปรมาจารย์หมึกครามคนนี้มาก่อน เหตุใดชะตากรรมของเขาจึงส่งผลต่อความ มปลอดภัยของข้าในตอนนี้ ? ”
ผู้อาวุโสลมทรุดตัวลงบนพื้น โซ่รอบตัวเขาส่องสว่างอย่างชัดเจน มันกักกันตัวเขาตลอดเวลา เขาจ้องมองไปโดยรอบและพูดช้า ๆ “ทั้งสองคนจากพรรคกระดูกโอฬารอาจจะค้นพบว่าข้าซ่อนตัวอยู่ ที่นี่เมื่อหลายปีก่อน และพวกเขาก็ตรวจสอบทุกอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ของข้าและดาวเคราะห์ใบนี้อย่างละเอียด”
“สมบัติสวรรค์ที่เติบโตขึ้นที่นี่แต่เดิมก็เพื่อตัวข้าเองเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถีส่งผลโดยตรงว่าข้าสามารถทำตามขั้นตอนที่สำคัญนั้นได้หรือไม่”
“ด้วยเหตุนี้แม้ว่าข้าจะสูญเสียสติ ด้วยจิตใต้สำนึกข้าก็จะหาหนทางปกป้องผลเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถีโดยไม่รู้ตัว เมื่อมีคนนำผลเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถีไป ข้าก็จะต้องฆ่าเขาอย่าง งแน่นอน”
“และมันจะไม่ใช่แค่คนที่เอาผลเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถีไป ด้วยระดับการบ่มเพาะของข้า ข้าสามารถมองเห็นทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้ที่อยู่เบื้องหลังเจ้าได้อย่างชัดเจน ภายใต้ควา ามโกรธเกรี้ยว เห็นได้ชัดว่าข้าจะไม่ไว้ชีวิตคนที่วางแผนเรื่องนี้”
“ด้วยเหตุนี้การโจมตีบุคคลที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้เท่านั้นจึงสามารถทำให้ พรรคกระดูกโอฬารเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนการของพวกเขา มันเท่ากับการส่งสัญญาณไปว่าเจ้าสิ้นชีพแล้วด้วยน น้ำมือของข้า”
“ถ้าข้าไม่ทำอย่างนั้น เราต้องเป็นฝ่ายสูญเสีย และยังทำให้พรรคกระดูกโอฬารสงสัย สิ่งที่จะตามมาคือทั้งสองคนจะมาสอบสวนด้วยตนเอง ข้าไม่กลัวพวกเขา แต่เมื่อพวกเขามาที่นี่ ตัวตนขอ องเฉินเจี้ยนก็ไม่สามารถถูกซ่อนได้อีกต่อไป”
“แม้ว่าเฉินเจี้ยนจะหนีไปในตอนนี้ พรรคกระดูกโอฬารก็จะค้นพบเกี่ยวกับตัวตนของเขาไม่ช้าก็เร็วด้วยสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้”
“ถ้าพรรคกระดูกโอฬารตระหนักว่าข้าให้ความสำคัญกับเฉินเจี้ยนมากแค่ไหน…เมื่อมองดูการจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ของพวกเขา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ข้าให้ความสำคัญกับเขา แม้ว่าข้าจะติดต่ อกับเขาเล็กน้อยที่สุด พวกเขาก็จะไม่ปล่อยเฉินเจี้ยนให้มีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นกว่าเฉินเจี้ยนจะสามารถออกจากดาวเคราะห์นี้ไปได้อย่างน้อยที่สุดก็ยังอีกหลายปีข้างหน้า”
“ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ข้าทำได้ก็คือเล่นไปตามแผนของพวกเขาและทำให้พรรคกระดูกโอฬารเข้าใจผิด เพื่อให้พวกเขาลดการป้องกันลง”
ริมฝีปากของผู้อาวุโสลมม้วนเป็นรอยยิ้มลึกลับ เขากล่าวต่อว่า “อันที่จริงการโจมตีของข้าอาจไม่เพียงพอที่จะฆ่าปรมาจารย์หมึกคราม แม้ว่าเขาจะอ่อนแอกว่าข้ามาก แต่เขาก็ยังคงเป็นข ขั้นอัครสูงสุดอยู่ดี การฆ่าเขาจากระยะไกลในการโจมตีครั้งเดียวนั้นค่อนข้างยาก ข้ามั่นใจว่าพรรคกระดูกโอฬารจะช่วยได้”
“นั่นเป็นเพราะข้างหลังเจ้า ข้าเห็นเพียงร่างของปรมาจารย์หมึกคราม ข้าไม่ได้ค้นพบความเชื่อมโยงกับพรรคกระดูกโอฬารเลยแม้แต่น้อย ข้าทำได้เพียงพึ่งพาสิ่งที่เจ้าพูดและร่องรอยต่าง ง ๆ ที่ข้าได้พบผ่านการมองเข้าไปในความลับของสวรรค์เพื่อค้นหาอำนาจเบื้องหลัง”
“พวกเขาใช้ความพยายามอย่างมากในการซ่อนตัวแม้กระทั่งปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทั้งหมดคือการผลักความรับผิดชอบไปให้คนอื่นโดยที่พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเร รื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการให้แน่ใจว่าพรรคกระดูกโอฬารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อยในเรื่องนี้”
“ด้วยเหตุนี้ตราบใดที่ปรมาจารย์หมึกครามเสียชีวิต พวกเขาก็จะอยู่ในสภาพปลอดโปร่งอย่างสบายใจ…” ผู้อาวุโสลมถอนหายใจเบา ๆ “เพื่อซ่อนตัวเฉินเจี้ยนและเพื่อให้เราได้รับช่วงเวลาแห่งความ มสงบ พวกเขาต้องเชื่อมั่นว่าเจ้าตายไปแล้ว ทั้งหมดที่ข้าทำได้คือสังเวยปรมาจารย์หมึกคราม…” เสียงของผู้อาวุโสลมเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทาง
ทันใดนั้นผู้อาวุโสลมก็สั่นสะท้าน และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาพูดอย่างรีบร้อน “หมดเวลาแล้ว ข้าต้องออกไปจากที่นี่ เจี้ยนเฉิน เจ้าต้องจำไว้ว่าถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ห้ามเ เจ้าออกไปจากที่นี่โดยเด็ดขาด ถ้าเจ้าดื้อรั้นออกไป มันจะเทียบเท่ากับการฆ่าเฉินเจี้ยน”
“สำหรับผลเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถีนั้น มันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับข้าในตอนแรก แต่ข้าไม่ต้องการมันอีกต่อไป เดิมทีข้าวางแผนที่จะมอบมันให้กับเฉินเจี้ยน เฉินเจี้ยน เจ้าสามาร รถตัดสินใจได้ว่าเจ้าต้องการแบ่งมันอย่างไร…” ผู้อาวุโสลมสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงมากขึ้น ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว และพลังแห่งการมีอยู่ของเขาผันผวนอย่างไม่มั่นคง เห็นได้ชัดว่าช่วงเ เวลาแห่งความชัดเจนของเขาสิ้นสุดลงแล้ว เขากำลังจะขาดสติสัมปชัญญะอีกครั้ง
หลังจากให้คำแนะนำอย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสลมก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและได้ออกผจญภัยไปยังอีกด้านหนึ่งของดาวเคราะห์