เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 292: เทวสถานลอยฟ้า
ตอนที่ 292: เทวสถานลอยฟ้า
ชายทั้งสองหยุดอยู่ห่างจากหมอกพิษนั้นในขณะที่หมิงตงก็จ้องออกไปด้วยท่าทางที่เคร่งเครียด “มีเสียงเรียกออกมาจากทิศทางนั้น แต่หมอกพิษก็ขวางทางพวกเราอยู่ พวกเราไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ แม้ว่าข้าจะมียาแก้พิษ แต่ข้าก็ไม่มั่นใจว่ามันจะใช้ได้ผลหรือไม่ “
เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาอย่างมีความหมายในขณะที่เขาแตะไปที่ไหล่ของหมิงตง “อย่าห่วงไปเลย หมอกพิษธรรมดาพวกนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เดี๋ยวข้าจะกลับมา”
“ถ้าเช่นนั้น เจ้ากินนี่หน่อย” หลังจากนั้น หมิงตงก็เอาขวดยาเล็ก ๆ ออกมาและหยิบยาเม็ดเล็กที่อยู่ในนั้นส่งให้เจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินปฏิเสธแล้วตอบกลับ “ข้าไม่จำเป็นต้องใช้มันหรอก พิษพวกนี้ทำอะไรข้าไม่ได้”
หมิงตงสงสัยที่เจี้ยนเฉินไม่กลัวพิษ แต่เขารู้ว่านี่ต้องเป็นหนึ่งในความลับของเจี้ยนเฉินแน่ ดังนั้นเขาจึงไม่ถามเพิ่ม เขาไม่พูดอะไรต่อและตามเจี้ยนเฉินเขาไปในเทือกเขา
20 เมตรในหมอกพิษ ใบหน้าของหมิงตงเปลี่ยนสีทันทีก่อนที่เขาจะกระอักออกมาเป็นเลือด
เขาวิ่งกลับไปทันทีแล้วเอาขวดหยกออกมาจากเข็มขัดมิติเพื่อที่จะเอายาเม็ดสีดำออกมา เขาลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะโยนยาเข้าไปในปากแล้วกลืนมันลงไป
หลังจากที่กลืนยาลงไปแล้ว สีหน้าของหมิงตงก็ดีขึ้นก่อนที่เขาจะมองไปที่หมอกพิษอย่างเคร่งเครียด “พิษนี้แรงเกินไป ยิ่งพวกเราเข้าไปลึก มันก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ! ข้าใช้ยาแก้พิษที่ดีที่สุดไปแล้ว แต่ข้ายังเกรงว่ามันจะไม่สามารถปกป้องข้าได้ถ้าเจ้าไปมากกว่า 50 เมตร พวกเราไม่สามารถเข้าไปลึกกว่านี้ได้”
เจี้ยนเฉินเอากระติกน้ำออกมาจากเข็มขัดมิติอย่างเงียบ ๆ เขาเฉือนไปที่ข้อมือของเขา ก่อนที่เลือดจะหยดลงไปในกระติก
“เจี้ยนเฉิน เจ้าทำบ้าอะไรอยู่น่ะ ? ” หมิงตงร้องออกมาอย่างตกใจในขณะที่เขามองดูการกระทำของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินพันข้อมือของเขาด้วยผ้าพันแผลธรรมดาก่อนที่จะส่งกระติกน้ำไปให้หมิงตง “เลือดของข้ามีสรรพคุณต้านพิษ ดื่มมันซะ”
หมิงตงทำหน้าเหลือเชื่อก่อนที่จะพูดออกมา “เจ้าพูดอะไรน่ะ ข้าได้ยินผิดไปหรือเปล่า ? เลือดของเจ้าเป็นยาต้านพิษที่ดีที่สุด เป็นไปได้อย่างไร?” ใบหน้าของหมิงตงประหลาดใจมากเหมือนว่าเขาไปพบกับโลกใบใหม่เข้า
เมื่อเห็นใบหน้าที่ประหลาดใจของหมิงตง เจี้ยนเฉินก็ยิ้มออกมา “ข้าได้รับหมื่นต้านพิษมานานแล้ว มีพิษแค่ไม่กี่อย่างบนโลกที่ทำอันตรายกับข้าได้ในตอนนี้”
“หมื่นต้านพิษ ? มีอะไรแบบนั้นบนโลกด้วยหรือ ? ” หมิงตงจ้องมองด้วยความสงสัยตาไม่กระพริบ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
“ดื่มมัน แล้วพวกเราจะเดินผ่านหมอกพิษนี้ไปได้” เจี้ยนเฉินพูดโดยที่ไม่ได้อธิบายอะไร
“ถ้างั้น พวกเรามาดูกันว่าเลือดของเจ้าจะมีประสิทธิภาพขนาดไหน” หมิงตงเอากระติกน้ำมาแล้วดื่มเลือดที่อยู่ในนั้นจนหมด ทันทีที่เลือดเข้าไปในร่างของเขา พลังงานแปลก ๆ ก็กระเพื่อมไปทั่วร่างของเขาและกำจัดพิษที่เหลืออยู่ในร่างของหมิงตงออกไป
เมื่อรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ใบหน้าของหมิงตงก็กระตุก “เจี้ยนเฉิน เลือดของเจ้าแก้พิษได้จริง ๆ ด้วย มันดีกว่ายาแก้พิษที่ข้ามีเสียอีก ! ข้ารับรองเลยว่า ถ้าเจ้าขายเลือดของเจ้า เจ้าต้องได้กำไรมหาศาลแน่ ! “
เมื่อได้ยินดังนั้น เจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “เช่นนั้นพวกเรารีบไปกันต่อเถอะ”
หลังจากที่ดื่มเลือดของเจี้ยนเฉินไปแล้ว หมอกพิษก็ทำอะไรหมิงตงไม่ได้อีก เจี้ยนเฉินเดินตามหมิงตงไปติด ๆ ทั้งสองเดินเข้าไปลึกในเทือกเขา
พิษรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขายิ่งเดินลึกเข้าไป แม้แต่การมองเห็นก็จำกัดเพราะหมอกหนาขึ้นเรื่อย ๆ แม้พิษจะแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 10 เท่าจากที่พวกเขาเข้ามาในตอนแรก แต่มันก็ไม่มีผลกับทั้งสองคน นี่ทำให้หมิงตงตะลึงในผลของเลือดของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินและหมิงตงตามเสียงเรียกไปเป็นเส้นทางตรง พวกเขาเจอเข้ากับสัตว์อสูรพิษเป็นครั้งคราว แต่พวกมันก็ถูกเจี้ยนเฉินฆ่าไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เดินต่อไป 3 ชั่วยามในหมอกพิษ เจี้ยนเฉินและหมิงตงก็มาถึงบริเวณที่ไม่มีหมอกพิษ ตรงหน้าของพวกเขามีหุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าเขียวขจี เมื่อเปรียบเทียบกับตินแนที่แห้งแล้งด้านนอก พื้นที่นี้ก็เป็นเหมือนกับดินแดนอุดมสมบูรณ์ที่เหมาะกับสิ่งมีชีวิต
ทันนั้นเอง หมิงตงก็ตกใจ “บ้าจริง เสียงเรียกมันหายไป ! ข้าสัมผัสมันไม่ได้แล้ว ! “
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเจี้ยนเฉินก็เต้นไม่เป็นจังหวะ นี่เป็นลางบอกเหตุที่ดีสำหรับพวกเขา เขามองไปที่ภาพข้างหน้าแล้วเริ่มคิด “พวกเราค้นสถานที่นี้กัน ข้ามั่นใจว่า เสียงเรียกมาจากที่นี่แหละ”
หลังจากที่ครุ่นคิดสักพัก หมิงตงก็พูดขึ้นมา “ได้ พวกเรามาดูกันว่าพวกเราจะหาอะไรเจอ”
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินและหมิงตงก็ดูไปทั่วพื้นที่สีเขียวนี้ด้วยความหวังที่จะพบสิ่งที่หมิงตงรู้สึกก่อนที่จะเข้ามาที่บริเวณนี้
“เจี้ยนเฉิน มานี่เร็ว ข้าพบบางอย่างแล้ว ! ” ทันใดนั้นเอง เสียงเรียกของหมิงตงก็ดังมาแต่ไกล
เมื่อได้ยินเสียงนั้น เจี้ยนเฉินก็บินไปทางหมิงงทันทีและพบว่าหมิงตงยืนอยู่ด้านหน้าทิวหลากสีที่กำลังเปล่งพลังงานจาง ๆ ออกมาช้า ๆ
“นี่มันประตูมิติ ! ” เจี้ยนเฉินพูดออกมาอย่างตกใจ เขาไม่คิดว่าในเมือกเขาพิษจะมีประตูมิติอยู่
ทั้งสองมองไปที่ประตูมิติสักพักก่อนที่หมิงตงจะพูดออกมา “ทำไมพวกเราไม่เข้าไปในนั้นล่ะ ? “
เจี้ยนเฉินลังเลสักพักก่อนที่จะตกลงทำตามข้อเสนอของหมิงตง ทันนั้นเอง เจี้ยนเฉินก็ใช้แกนอสูรระดับ 5 จำนวนว 5 อันในการเพิ่มพลังให้กับประตูมิติ ตอนที่ประตูมิติเปิดออก ทั้งสองก็เดินเข้าไปในนั้นทันที
หลังจากที่ผ่านเข้าไปในประตูมิติ ทั้งสองก็เจอกับโลกที่สวยงามที่มีพืชพันธุ์ต่าง ๆ และกลิ่มหอมที่มหัศจรรย์ ทุกครั้งที่พวกเขาหายใจเข้าไปมันก็ทำให้พวกเขาสงบ
จู่ ๆ เจี้ยนเฉินก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างเหนือหัวของพวกเขาและเขาก็มองขึ้นไป สายตาของเขาเบิกกว้างในขณะที่เขาอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
มีวังใหญ่ลอยอยู่ 100 เมตรหลางอากาศ แรงกดดันที่เปล่งประกายออกมาจากมันนั้นผิดปกติ เหมือนว่านี่เป็นเทวสถานที่ตัดขาดออกจากโลกภายนอก มันไม่ยึดอยู่กับอะไรเลยและลอยอยู่อย่างอิสระกลางอากาศ ใครก็ตามที่เห็นมันคงเหลือเชื่อและประหลาดใจมาก ๆ
หมิงตงมองตามเจี้ยนเฉินขึ้นไปข้างบนและมีปฏิกิริยาเดียวกันเหมือนที่เจี้ยนเฉินมี ตาของทั้งคู่เบิกกว้างในขณะที่ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความทึ่งในขณะที่จ้องไปที่เทวสถาน
หลังจากนั้น ผู้เฒ่าในชุดสีขาวก็บินลงมาจากท้องฟ้าก่อนที่จะหยุดอยู่ที่พื้นด้านหน้าเจี้ยนเฉินและหมิงตง ผู้เฒ่าคนนี้มีผมขาวที่รวบอยู่เหมือนแส้ ร่างของเขาทั้งหมดเปล่งท่าทางผ่อนคลายออกมา ดูเหมือนว่าเขานั้นไม่ใช่มนุษย์
ผู้เฒ่ายิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะพูดออกมา “แขกผู้มีเกียรติ นายท่านของพวกเราได้รอมานานแล้ว ให้ข้าพาพวกเจ้าเข้าไป” ก่อนที่รอให้หนึ่งในทั้งสองตอบ ชายคนนั้นก็โบกมือ ทำให้เกิดฟองอากาศพลังงานล้อมร่างของเจี้ยนเฉินและหมิงตงเอาไว้ ก่อนที่พวกเขาจะลอยขึ้นไปในอากาศไปยังเทวสถานนั้น
มาถึงจุดนี้ ทั้งเจี้ยนเฉินและหมิงตงก็พูดไม่ออกและอึ้งไป ในตอนที่พวกเขาตั้งสติได้ พวกเขาก็อยู่ที่ประตูของเทวะสถานแล้ว
“แขกผู้มีเกียรติ โปรตามชายชราคนนี้มา ข้าจะพาพวกเจ้าไปหานายท่าน” หลังจากนั้น ผู้เฒ่าก็เดินเข้าไปในเทวสถาน
“เดี๋ยวก่อน! ผู้อาวุโสที่เคารพ ที่นี่คือที่ไหนกันแน่ ? ” เจียนเฉินร้องถามไปอย่างเร่งรีบ คำพูดของผู้เฒ่าทำให้เขาสับสนจนถึงจุดที่เขารู้สึกประหลาดใจในสถานการณ์
“ชายชราผู้นี้มาที่นี่เพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติของนายท่าน รายละเอียดทุกอย่างนอกจากนี้จะดีที่สุดถ้าให้นายท่านเป็นคนตอบ” ผู้เฒ่าหัวเราะเหมือนท่านปู่ที่ใจดี
“ผู้อาวุโส ท่านมั่นใจหรือเปล่าว่าท่านไม่ได้ต้อนรับผิดคน ? พวกเราอาจจะไม่ใช่แขกที่ท่านรออยู่ก็เป็นได้” หมิงตงตะโกนออกมาอย่างกังวลจากด้านหลัง นายท่านที่ลึกลับของเทวสถานลอยฟ้านี้ต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเกิดพวกเขาทั้งสองไม่ใช่แขกที่เขากำลังรออยู่ แบบนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้
เมื่อได้ยินหมิงตงพูดออกมาแบบนั้น ผู้เฒ่าก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “พวกเจ้าคิดว่านายท่านเป็นคนแบบไหนกัน ? นายท่านมีพลังมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ เขาจะทำให้เกิดความผิดพลาดเล็กน้อยแบบนี้ได้อย่างไร ? ไม่จำเป็นต้องถามเพิ่มแล้ว ได้โปรดรอให้นายท่านมาตอบพวกเจ้าด้วยตัวเอง ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะตอบคำถามเหล่านั้น”
ทั้งสองตามหลังผู้เฒ่าไปอย่างกังวล ในขณะที่มองไปรอบ ๆ พวกเขาเป็นครั้งคราว เทวสถานนี้ใหญ่มากและมีพลังปริมาณมหาศาลวนเวียนอยู่ในนี้ มันเหมือนว่าเทวสถานนี้สร้างมาจากพลังงานบริสุทธิ์
มีโถงหลายโถงในเทวะสถานนี้ แต่ทั่วบริเวณก็เงียบสงัด ไม่มีสักคนให้เห็น และมันรู้สึกเหมือนว่ามีเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้นที่อยู่ที่นี่
เจี้ยนเฉินและหมิงตงเดินผ่านไปหลายทางเดินก่อนที่จะหยุดที่ทางเดินที่ใหญ่มากในที่สุด ที่ตรงนั้น ผู้เฒ่าประสานมืและคำนับไปที่ประตูที่ปิดอยู่ “นายท่าน แขกผู้มีเกียรติมาถึงแล้ว”
“เจ้าออกไปได้ ! ” เสียงสง่างามดังออกมา ฟังจากเสียงแล้ว คนที่พูดคงเป็นผู้ชาย
“ขอรับ นายท่าน ! ” ผู้เฒ่าคำนับอีกครั้งอย่างเคารพมากกว่าเดิมก่อนที่จะออกไป และทิ้งเจี้ยนเฉินและหมิงตงที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปไว้
“เจ้าทั้งสองเข้ามาได้” เสียงยิ่งใหญ่พูดออกมาจากด้านในอีกครั้ง ต่อมา ประตูก็เปิดออกอย่างช้า ๆ เพื่อให้ทั้งสองเข้าไป
พวกเขาทั้งสองมองหน้ากันและลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินเข้าไปในโถง