เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2921: จิตวิญญาณปราชญ์ (1)
ตอนที่ 2921: จิตวิญญาณปราชญ์ (1)
เฉินเจี้ยนเริ่มบอกเขาทุกอย่างที่ผ่านมาหลังจากที่ออกจากตระกูลเทียนหยวน
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับประสบการณ์อันยาวนานและน่าสนใจของเจี้ยนเฉิน สิ่งที่เฉินเจี้ยนทำนั้นสามารถอธิบายได้โดยพื้นฐานแล้วว่าเขาไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ใด ๆ โดยเฉพาะ
ย้อนกลับไป เขาได้ออกจากตระกูลเทียนหยวนบนยานอวกาศ หลังจากได้สัมผัสกับการเดินทางอันยาวนานผ่านอวกาศที่กว้างใหญ่จากพลังที่ยิ่งใหญ่ได้พาเขาออกจากยานอวกาศ หลังจากนั้นเขาก็ปราก กฏตัวบนดาวเคราะห์ไร้นามดวงนี้
หลังจากที่เขาได้มาถึงโลก เขาได้เรียนรู้ว่ามีปราชญ์แห่งลมที่น่านับถือกำเนิดขึ้นและรู้แจ้งในตอนนั้นโดยสังเกตการมีอยู่ของเขาอย่างคลุมเครือก่อนที่จะพาเขามาที่นี่ด้วยตัวเอง
หลังจากนั้นเฉินเจี้ยนยังคงอยู่บนดาวเคราะห์ไร้นามและบ่มเพาะภายใต้คำแนะนำส่วนตัวของผู้อาวุโสลม เขาได้เรียนรู้ทักษะลับมากมายภายใต้การสั่งสอนของเขา แม้แต่สมบัติสวรรค์ที่ล้ำค ค่าที่เขาเป็นคนปลูกก็ยังให้เฉินเจี้ยนใช้
โดยพื้นฐานแล้วความสัมพันธ์ของทั้งเฉินเจี้ยนและปราชญ์สายลมก็ไม่แตกต่างจากศิษย์อาจารย์ นอกเหนือจากความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ได้ยกน้ำชาคารวะอย่างทางการในฐานะลูกศิษย์-อาจารย์
“เนื่องจากปัญหาส่วนตัวของผู้อาวุโสลม เวลาส่วนใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความขุ่นมัวและคลุ้มคลั่งซึ่งทำให้เขาถึงกับทะยานออกไปเพราะความโกรธโดยไร้เหตุผล ด้วยเหตุนี้ผู้อาวุโสลมจึงสอนทักษะท ที่สามารถยับยั้งเขาได้เมื่อข้าต้องการเพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำอะไรผิดโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“ครั้งหนึ่ง ข้าใช้เทคนิคนี้เพื่อยังยั้งผู้อาวุโสลม เขาจะได้สติเป็นเวลาสั้น แต่การใช้ทักษะนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น พลังที่ยับยั้งผู้อาวุโสลมนั้นมาจากตัวของท่านเอง ง หากท่านไม่ถูกยับยั้งโดยพลังนี้ เมื่อเขาคลุ้มคลั่งเขาก็จะต่อต้านพลังนี้โดยไม่รู้ตัวแม้ว่ามันจะมาจากตัวของเขาเอง เพราะเขาสูญเสียสติของตัวเองไป”
“เมื่อผู้อาวุโสลมคลุ้มคลั่ง มันก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะต่อต้านพันธนาการต่าง ๆ ที่เขาประทับไว้ในใจของเขา อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่เขาต่อสู้กับพลังของตัวเอง ผู้อาวุโสล ลมก็จะได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่ง”
เมื่อไปถึงตอนนั้น เศษเสี้ยวแห่งความไม่พอใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเฉินเจี้ยน แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นความเห็นอกเห็นใจและเจ็บปวด
เมื่อใดก็ตามที่ผู้อาวุโสลมได้สติ เขาจะใช้เวลาทั้งหมดเพื่อชี้แนะเส้นทางการบ่มเพาะและสอนทักษะที่ยอดเยี่ยมมากมายให้
เฉินเจี้ยนเริ่มทำตัวเป็นศิษย์-อาจารย์กับผู้อาวุโสลมมานานแล้ว
ทำให้ผู้อาวุโสลมในสายตาของเฉินเจี้ยนนั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมผู้อาวุโสลมถึงเป็นเช่นนี้ ? และเราจะช่วยเหลืออะไรท่านได้บ้าง ? ” เจี้ยนเฉินถาม เขาเข้าใจลึกๆว่าการทิ้งปัญหาในการจัดสรรผลเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถี ให้กับเฉินเจี้ยน ผู้อาวุโสลมก็ได้อนุญาตให้ผลเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถีนี้ให้กับจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์
ไม่อย่างนั้นของด้วยของล้ำค่าที่มีแค่ผลเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถีเพียงอย่างเดียวก็ไม่อาจทำให้จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ได้ครอบครอง แม้ว่าเฉินเจี้ยนจะบอกว่ามันไม่มีประโยชน์กับ เขาก็ตาม
เจี้ยนเฉินรู้สึกขอบคุณสำหรับความเมตตาของผู้อาวุโสลม ถ้าเป็นไปได้เขาคิดที่จะตอบแทนการช่วยเหลือของอาวุโสสายลมสำหรับผลเลือดศักดิ์สิทธิ์แห่งวิถี
เฉินเจี้ยนส่ายหัว “ข้าเคยถามผู้อาวุโสถึงเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว แต่ผู้อาวุโสลมก็ไม่บอกข้า เขาบอกแค่เน้นการบ่มเพาะ คงเป็นเพราะข้าอ่อนแอเกินไป แม้ว่าจะมีวิธีช่วยเขา แต่ความ มแข็งแกร่งของข้าก็ยังห่างไกลนัก”
เมื่อถึงตอนนั้นเฉินเจี้ยนก็หยุดพูดชั่วคราวก่อนที่จะเพ่งมองเจี้ยนเฉินอย่างพิจารณา “เจี้ยนเฉิน เจ้าอยู่ในขอบเขตการบ่มเพาะไหนแล้ว ? ที่จริงข้าไม่อาจมองเห็นการบ่มเพาะของเจ้าเลย”
มีแสงประหลาดวาบในดวงตาของเฉินเจี้ยน ตัวเขาเชื่อว่าเขาบ่มเพาะไปเร็วมากแล้ว เขาอยู่ในขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 3 จากอายุของเขา แม้แต่ผู้อาวุโสลมก็ยังชมเชยเขาอย่างมากกับ การบ่มเพาะของเขา ถึงกับบอกเขาว่านอกจากพวกกลับชาติมาเกิดใหม่ของผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงแล้ว ความเร็วในการบ่มเพาะของเฉินเจี้ยนก็ไม่อาจมีใครเทียบได้แม้แต่ในโลกเซียน
เฉินเจี้ยนยังภูมิใจอย่างมากกับความก้าวหน้าของเขา แต่เมื่อเห็นเจี้ยนเฉิน เขาก็สูญเสียความมั่นใจ
เจี้ยนเฉินยิ้มเมื่อถูกถามคำถามนี้ เขาพูดอย่างมีความสุขว่า “ข้าเร็วกว่าเจ้านิดหน่อย ข้าน่าจะอยู่ราว ๆ ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 8 แน่นอนว่านั่นเป็นเพราะวิธีการบ่มเพาะของข้า าค่อนข้างพิเศษ วิธีที่การบ่มเพาะที่แตกต่างจากของเจ้าเล็กน้อย ชั้นสวรรค์ที่ 8 เป็นเพียงแค่การคาดเดาคร่าว ๆ จริง ๆ แล้วมันอาจจะต่ำกว่านี้เล็กน้อย”
“แน่นอนว่ามันก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะสูงกว่านิดนึง” เจี้ยนเฉินพึมพำอยู่ในใจของเขา เขาไม่ได้บอกออกไป
ใบหน้าของเฉินเจี้ยนเต็มไปด้วยความตกใจทันที เขามองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างว่างเปล่าโดยที่สรรหาคำพูดไม่ออกแม้คำเดียว
เขาเข้าใจต้นกำเนิดของเจี้ยนเฉินและความก้าวหน้าเป็นอย่างดี เขาใช้เวลาพันปีเพื่อไปถึงขั้นอสงไขย ชั้นสวรรค์ที่ 3 ในขณะที่เจี้ยนเฉินเกิดช้ากว่าเขาอย่างน้อยกว่า 800 ปีในโลกเบื้องล ล่าง เวลาที่เขาบ่มเพาะอย่างแท้จริงนั้นยังไม่ถึง 1,000 ปีด้วยซ้ำหรือแม้แต่ใกล้เคียง
เขามาถึงขอบเขตปัจจุบันนี้ในช่วงเวลาไม่กี่ร้อยปีสั้น ๆ สิ่งนี้ทำให้เฉินเจี้ยนเต็มไปด้วยความชื่นชม
เพื่อนเก่าทั้งสองนั้นสนิทกันและไม่ได้เจอกันมาหลายปีต่างก็พูดกันอย่างออกรส ทั้งสองคุยกันถึงสิ่งที่พวกเขาผ่านมาตลอดจนถึงสิ่งที่พวกเขาได้เห็นและได้ยินอะไรมา มันรวมถึงบางเรื องที่เกี่ยวกับการบ่มเพาะเช่นความเข้าใจและความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีของโลก
พวกเขาคุยกันราวกับไม่มีวันจบ มันยาวนานจนผ่านไป 3 วัน 3 คืน
“เจ้าเคยไปที่โลกดาวทมิฬหรือเปล่า ? ข้าเคยได้ยินผู้อาวุโสลมพูดถึงเผ่าดาวทมิฬมาก่อน เดิมทีพวกเขาเป็นเผ่าที่มีอำนาจสูงสุดของโลกจิตวิญญาณและมีอำนาจอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามพวก กเขาถูกขังให้อยู่ในการต่อสู้เป็นตายกับเผ่าอื่น ๆ ของโลกจิตวิญญาณ จิตวิญญาณไม้ และเผ่าดาวทมิฬเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกขังไว้ในโลกขนาดเล็กของจิตวิญญาณไม้และ ะไม่อาจออกไปได้อีก”
“ไม่อย่างนั้นเผ่าดาวทมิฬในตอนนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณปราชญ์….”
เมื่อพูดถึงเผ่าดาวทมิฬ เฉินเจี้ยนก็ถอนหายใจ เขามีความรู้สึกผสมผลานที่ไม่อาจบอกที่มาได้ว่าเป็นความเห็นอกเห็นใจหรือความอิจฉา
แม้ว่าเผ่าดาวทมิฬจะดูเหมือนถูกขัง แต่นั่นก็ทำให้เขาหลบหนีข้อพิพาทจากสถานที่อย่างโลกเซียนโดยไม่มีการนองเลือดได้ พวกเขาทั้งกินอิ่มนอนหลับได้อย่างสบาย
แม้แต่จิตวิญญาณปราชญ์ก็เคยเผชิญหน้ากับความยากลำบากและการทดลองมากมาย ใครจะรู้ว่ามีอัจฉริยะเท่าใดที่ตายก่อนที่จะเติบโต
“โอ้ ใช่สิ แล้วการบ่มเพาะปัจจุบัญของจิตวิญญาณไม้ล่ะ เฉินเจี้ยน ? “ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก็รู้สึกทึ่งกับศัตรูตัวฉกาจของเผ่าดาวทมิฬ
“ข้าได้ยินผู้อาวุโสลมบอกว่าจิตวิญญาณไม้ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้จิตวิญญาณไม้ไม่มีกองทัพหลงเหลืออยู่แม้แต่กองเดียว อย่างว่าแต่กองทัพเลย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญสักคนก็ไม่มี คนที่ แข็งแกร่งที่สุดของเขานั้นอยู่ในขั้นบรรพกาลเท่านั้น”
“จิตวิญญาณไม้ไม่มีพลังมากนักในเหล่าจิตวิญญาณปราชญ์ โดยพื้นฐานแล้วพวกเขามีสถานะเป็นคนชั้นสองในตอนนี้” เฉินเจี้ยนกล่าว
“เฮ้อ ข้าไม่คิดเลยว่าเผ่าที่สูงสุดที่ในครั้งหนึ่งที่เคยมีจอมปราชญ์จะล่มสลายขนาดนี้” เจี้ยนเฉินถอนหายใจทันทีเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ของจิตวิญญาณไม้ เขาเต็มไปด้วยอารม มณ์มากมาย
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็ถามต่อว่า “จิตวิญญาณไม้นั้นได้สร้างสุดยอดราชันย์ในอดีต พวกเขาไม่มีมรดกอย่างสมบัติประจำเผ่าเหลืออยู่ในตระกูลเลยหรือ ? “