เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2926: รวบรวมหลักฐาน
ตอนที่ 2926: รวบรวมหลักฐาน
หลังจากออกจากเหมืองเหรียญผลึก ราชาเทพที่ไล่ตามก็เร่งความเร็วขึ้นทันทีโดยไม่มีค่ายกลใด ๆ ใช้ขวางหัวหน้าฝ่ายที่หลบหนีไปแล้ว มันมีความแตกต่างมากในด้านความแข็งแกร่ง เนื่องจากเ เขาเป็นเพียงเหนือเทพช่วงต้น ในขณะที่คนไล่ตามเป็นราชาเทพช่วงปลาย
ทำให้ไม่กี่วินาทีต่อมาราชาเทพที่เฝ้าเหมืองก็ล้อมหัวหน้าฝ่ายเอาไว้ได้
“เจ้าพยายามทำอะไร ? ข้าเป็นหัวหน้าฝ่ายตระกูลเทียนหยวน ข้าอยู่ภายใต้การสั่งการของหัวหน้าและรองหัวหน้าตระกูลตรง ๆ ในฐานะคนของตระกูลเทียนหยวน อย่าบอกนะว่าเจ้ากล้าพอที่จะสั งหารหัวหน้าฝ่าย ? ” เมื่อหนีไปไหนไม่ได้ หัวหน้าฝ่ายก็ชูป้ายสูงและตะโกนเสียงหลง มีเศษเสี้ยวแห่งความสิ้นหวังปรากฏในดวงตาของเขา
“ฮี่ฮี่ฮี่ หัวหน้าฝ่าย ? เนื่องจากเจ้ากล้าพอที่จะขวางทางเรา แม้ว่าเจ้าจะเป็นหัวหน้าฝ่าย มันก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเจ้า….”
“เจ้าหัวหน้าฝ่าย เจ้าไม่ยอมเลือกที่จะใช้เวลาสนุกสนานข้างนอก แทนที่จะสอดจมูกเข้ามายังเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า โดยพื้นฐานแล้วเจ้ากำลังร้องขอให้พวกเราฆ่าเจ้า…..”
“นั่นเรียกว่าการรนหาที่ตายมาเพื่อตัวเอง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า หัวหน้าฝ่าย วันนี้ปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของเจ้า….”
“หัวหน้าฝ่าย เจ้าต้องบันทึกทุกอย่างไว้ในผลึกความจำแล้วตอนที่เจ้าหลบอยู่ก่อนหน้านี้ เจ้าควรจะมอบผลึกความจำมาให้เราดีกว่า….”
……
…
ราชาเทพทั้งหมดต่างหัวเราะเยาะ พวกเขาไม่สนใจตัวตนของหัวหน้าฝ่ายใด ๆ เลย
แล้วหัวหน้าฝ่ายคือตัวอะไร ? มีมือดีนับไม่ถ้วนที่ตายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“อย่าเสียเวลา เราควรจัดการเขาให้เสร็จเร็ว ๆ เผื่อว่ามันจะมีปัญหาอื่น ๆ เข้ามาอย่างไม่จำเป็น….” ราชาเทพอีกคนตะโกน จากนั้นวัตถุเซียนคุณภาพสูงก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาและเขา าก็ฟันมันไปที่หัวหน้าฝ่ายอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าฝ่ายเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความแตกต่างระหว่างเหนือเทพขั้นต้นกับราชาเทพช่วงปลายนั้นมากมายจนเขาไม่อาจตอบโต้ใด ๆ ได้
“โอ้ เกิดอะไรขึ้นกันล่ะวันนี้ ? ทำไมพวกเจ้าถึงสู้กันเอง ? ” แต่ในเวลานี้ก็มีเสียงที่นุ่มนวลดังขึ้น ทันใดนั้นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ก็ปราฏขึ้นที่นั่น เพียงนางโบกมือเบา ๆ ริ้วแสง งของราชาเทพช่วงปลายก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ
“ผะ ผะ ผู้พิทักษ์เหม่ย…”
ราชาเทพหน้าเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็วทันทีเมื่อพวกเขาเห็นหญิงสาวคนนั้น จิตใจของพวกเขาหล่นวูบไปที่ตาตุ่ม
“จิ๊ ๆ รุ่นหลังสมัยนี้มีความโดดเด่นมาขึ้น ๆ เจ้ายังมีความกล้าที่จะฆ่าหัวหน้าฝ่ายของตระกูลเทียนหยวน กฎของตระกูลเทียนหยวนนั้นเข้มงวดมากรู้หรือไม่ ? แม้แต่พวกเราผู้พิทักษ์ขั้นอส สงไขยก็ไม่อาจสังหารหัวหน้าฝ่ายได้ตรง ๆ หากไม่มีเหตุผลที่ดี” ผู้พิทักษ์เม่ยพูดอย่างอ่อนโยนและหัวเราะคิกคัก ใครจะรู้ว่าเธอกำลังล้อเลียนความกล้าของเหล่าราชาเทพหรือชื่นชมพวกเ เขากันแน่
“ผู้พิทักษ์เหม่ย คนนี้ไม่ใช่หัวหน้าฝ่าย เขาเป็นคนนอกที่ปลอมตัวเข้ามา ดังนั้นโปรดให้เราฆ่าเขาซะ ผู้พิทักษ์เหม่ย เราจะอธิบายให้ผู้พิทักษ์เข้าใจในภายหลัง” เขากัดฟัน ทันทีที่เ เขาพูดจบ เขาก็เริ่มการโจมตีอีกครั้งแม้ว่าผู้พิทักษ์เหม่ยจะอยู่ข้าง ๆ เขาฟันไปยังหัวหน้าฝ่ายของตระกูลเทียนหยวนอย่างเต็มกำลัง
“ฮิฮิฮิ เจ้าเด็กนี่ยังไม่ยอมแพ้ ? เห็นได้ชัดว่าตระกูลจะตัดสินเองว่าเขาเป็นหัวหน้าฝ่ายหรือไม่ เราไม่ต้องให้เจ้าทำเรื่องวุ่นวายที่นี่ สำหรับผู้พิทักษ์อัน เขาเป็นเพียงผู้พิทักษ์ ตระกูลเทียนหยวน ที่ได้รับการคัดเลือกมาจากภายนอก เมื่อไหร่กันที่ตระกูลต้องการให้เขาอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูล ? ” ผู้พิทักษ์เหม่ยหัวเราะพลางโบกก่อนที่สายรัดเอวจะบินอ ออกไปทันที มันพุ่งยาวถึง 300 เมตรในพริบตาและพันรอบ ๆ ราชาเทพ
ราชาเทพช่วงปลายไม่ได้รับโอกาสใด ๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น พวกเขาทั้งหมดถูกพันอย่างแน่นหนา
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ ผู้พิทักษ์เหม่ย” หัวหน้าฝ่ายที่รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดก้มหัวขอบคุณผู้พิทักษ์เหม่ยอย่างซาบซึ้ง
ผู้พิทักษ์เหม่ยมองเขาอย่างไม่แยแส “เด็กน้อย เจ้าโชคดี ข้าบังเอิญมาแถวนี้ ไม่อย่างนั้นเจ้าคงรักษาชีวิตไม่ได้อีกต่อไป
หลังจากนั้นผู้พิทักษ์เม่ยก็คิดกับตัวเองว่า “เมื่อเร็ว ๆ นี้ แม่นางน้อยซีหยูได้ทำเรื่องรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ นางลงมือหนักกว่าเดิมเช่นกัน เธอยังให้ผู้พิทักษ์เซว่ไปทำภารกิจ บางอย่าง ดูเหมือนว่านางกำลังทำเรื่องใหญ่”
“อย่างไรก็ตามหัวหน้าตระกูลยังไม่กลับมาและผู้อาวุโสซูก็ยังคงเฉยเมยกับเรื่องเหล่านี้เช่นกัน นางยังคงไม่ความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องตระกูลเทียนหยวน ถ้ามีแค่แม่นางน้อยคนนี้ นางไ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน.…”
……
ในเมืองหลวงของอดีตจักรวรรดิตะวันโลหิต ภายในสมาคมการค้าสมบัติจิตวิญญาณได้จัดการสมบัติสวรรค์ต่าง ๆเป็นพิเศษ
“รองหัวหน้าสมาคม ให้ข้าเป็นตัวแทนตระกูลเทียนหยวนในครั้งนี้เพื่อซื้อเหรียญผลึกระดับสูงสุดกว่าพันล้านด้วยสมบัติสวรรค์จากสมาคมการค้าสมบัติจิตวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้นหัวหน้าของเรา าได้พูดแล้วว่าเราจะเอาคำสั่งซื้อนี้กว่า แปดในสิบส่วน…”
“เจ้าควรจะจัดการกับคำสั่งซื้อเหล่านี้อย่างเหมาะสม หากเจ้าสร้างความพึงพอใจให้กับหัวหน้าตระกูลเทียนหยวนของเรา เราจะยังเป็นลูกค้าของเจ้า สำหรับการซื้อขายแบบเดียวกันนี้ในอนาคต. ….”
“ท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลเทียนหยวนของเรากำลังเติบโตขึ้นมา เรามีคนมากมาย ดังนั้นค่าใช้จ่ายในแต่ละวันจึงน่าตกใจ สมบัติสวรรค์จะหมดลงอย่างรวดเร็ว….”
ภายในสมาคมการค้าสมบัติจิตวิญญาณ ราชาเทพตระกูลเทียนหยวนยิ้มอย่างลึกลับ ขณะที่กำลังเจรจากับรองหัวหน้าสมาคมการค้าสมบัติจิตวิญญาณ
“ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องห่วง ปล่อยเรื่องนี้ให้เรา เราจะทำให้หัวหน้าพึงพอใจอย่างแน่นอน ดูสิ สมบติสวรรค์ที่ตระกูลเทียนหยวนต้องการนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าเนื่องจากความต้องก การมากขึ้นเป็นพิเศษเมื่อไม่นานมานี้….”รองหัวหน้ายิ้มอย่างอารมณ์ดี
การเจรจาสิ้นสุดลง โดยทั้งสองฝ่ายออกจากห้องรับแขกพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าอย่างพึงพอใจ
หลังจากพวกเขาจากไป ก็มีคนแต่งตัวเหมือนกับคนรับใช้เดินเข้ามาจากข้างนอกทำความสะอาดห้องรับแขก หลังจากเห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้ว คนรับใช้ก็มาถึงมุมหนึ่งของห้องและเปิดช่องรับที่ต้อง ใช้ทักษะเฉพาะ ก่อนที่จะทำผลึกความจำออกไปจากที่นั่น
……
…
ในโถงใหญ่ของตระกูลเทียนหยวน
ซีหยูนั่งอยู่บนที่นั่งหลังอย่างเย็นชา ด้านล่างนางมีคนระดับสูงหลายคนของแผนกกำกับดูแล
“รองหัวหน้า ด้วยการมีส่วนร่วมของผู้พิทักษ์และการควบรวมจานค่ายกลจำนวนมาก การรวบรวมหลักฐานจึงมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยพื้นฐานแล้วเรามีหลักฐานเพียงพอสำหรับทุกด้านในตอน นนี้ ปัญหาเดียวคือพื้นฐานแล้วหลักฐานทั้งหมดที่เราเก็บไว้เป็นแต้มของราชาเทพบางส่วน เราไม่มีแม้แต่ผู้พิทักษ์ที่อยู่เบื้องหลังอย่างเป็นรูปธรรม…..”
คนของฝ่ายดูแลได้รายงาน
ซีหยูเหลือบมองไปที่โต๊ะที่ปกคลุมไปด้วยผลึกความจำกว่าพันชิ้น นางโบกมืออย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าทำได้ดีมาก เจ้าไปได้ ข้าจะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นในภายหลัง”
สมาชิกระดับสูงทั้งหมดได้กลับออกไป แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาออกไป ผู้พิทักษ์ขั้นอสงไขย 6 คนติดตามผู้พิทักษ์ซือที่เข้ามาในโถงหลังในเวลาเดียวกัน
ผู้พิทักษ์เหม่ยก็อยู่ท่ามกลางพวกเขา
“เดาสิว่าข้าเจออะไรในระหว่างขากลับ ? “ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในโถงหลัก ผู้พิทักษ์เหม่ยก็หัวเราะคิกคักก่อนที่จะปล่อยราชาเทพที่รับหมายให้ปกป้องเหมืองผลึกระดับสูง นางกล่าวต่อ อว่า “ถ้าข้าเดาดูต้อง คนเหล่านี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเทียนหยวน อย่างไรก็ตามพวกเขารวมตัวกันเพื่อตามล่าคนของฝ่ายดูแลที่ภายนอกอย่างเปิดเผย ถ้าข้าไม่เจอพวกเขา หัวหน้าฝ่าย คงตายด้วยน้ำมือของพวกเขานานแล้ว เฮ้อ คนพวกนนี้นี่นะ หน้าด้านขึ้นเรื่อย ๆ ”
เมื่อนางได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของซีหยู่ก็มืดหม่นทันที
“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด มันเป็นเรื่องเข้าใจ ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราคิดว่ามีคนปลอมตัวเป็นหัวหน้าฝ่าย ท้ายที่สุดตระกูลได้เสียคนไปหลายคนเมื่อไม่นานมานี้ เรากังวลว่าจะมีคนน นอกแอบเข้ามาขโมยป้ายของหัวหน้าฝ่ายดูแลและทำบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อตระกูล ซึ่งเป็นสาเหตุที่พวกเราพยายามจับตัวของเขาไว้ เราไม่อาจปล่อยให้ชะตากรรมของตระกูลอยู่ในมือของเข ขาได้ แต่เราก็ไม่คิดว่าผู้พิทักษ์เหม่ยจะปรากฏขึ้นมาปุ๊บปั๊บ….”
“เอาพวกเขาออกไป ! ” ซีหยูตะคอกอย่างเย็นชาและสั่งให้ราชาเทพออกไป หลังจากนั้นเธอก็จ้องไปที่ขั้นอสงไขยอย่างระมัดระวังและถาม “ผู้พิทักษ์ ข้าถามได้ไหมว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่าง งไร ? ”
“เราทำภารกิจสำเร็จ โชคดีที่หลักฐานทั้งหมดอยู่ภายในผลึกความจำเหล่านี้” ผู้พิทักษ์ซือพูดอย่างเรียบเฉยและโยนผลึกความจำหลายโหลออกมาทันที เขาพูดตามความคิดของเขาว่า “อย่างไรก็ ตามหากเจ้าต้องจัดการกับผู้พิทักษ์เหล่านี้ หลักฐานเพียงแค่นี้ไม่พอและไม่ใกล้เคียงเลย เนื่องจากหลักฐานบางอย่างอาจปลอมแปลงได้ หากพวกเขาปฏิเสธไม่ยอมรับ เราก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้เ เช่นกัน”
“ใช่ หลังจากที่พวกเขาได้รวมกลุ่มกันแล้ว พวกเขากลายเป็นกลุ่มที่ทรงพลังที่สุด หากเจ้าต้องการจัดการกับพวกเขา หลักฐานแค่นี้ไม่พอ เจ้ายังต้องพึ่งหมัดของเจ้าด้วย….”