เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2932: อายุขัย 1,000 ปี
ตอนที่ 2932: อายุขัย 1,000 ปี
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนแท่นหยกชะตา ทันทีที่เขานั่งเขาก็รู้สึกได้ถึงวิถีของโลกที่ดูเหมือนจะ ‘มองเห็น’ ได้อย่างชัดเจนผ่านม่านหมอก เขายังเข้าใจพวกมันได้อย่างง่ายได้และมีประ ะสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน เขาได้รับประโยชน์มากกว่าที่เขาไม่ได้นั่งบนแท่นหยกชะตา
อย่างไรก็ตามผลกระทบของหยกโชคชะตานั้นค่อยเป็นค่อยไปและในระยะยาวก็ไม่รุนแรงเท่ากับผลแห่งวิถีฟื้นฟูซึ่งเพิ่มความเข้าใจของบุคคลในเวลาสั้น ๆ
ไม่ต้องพูดถึงว่าหลังจากมาถึงระดับการบ่มเพาะของเขาแล้ว ทุกความก้าวหน้าของวิถีกระบี่ของเขาต้องใช้ความพยายามและความยากลำบากมากกว่าเดิมหลายเท่าหรือหลายพันเท่าเมื่อเทียบกับก่อน นหน้านี้
ทำให้แม้ว่าเขาจะได้รับการช่วยเหลือของหยกโชคชะตา แม้ว่าเขาจะเข้าใจวิถีของโลกได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการเปลี่ยนจากความสำเร็จบางส่วนของอมตะกระบี่ไปสู่ค ความสำเร็จขั้นกลาง
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่รู้ว่าการบ่มเพาะอย่างสันโดษนั้นใช้เวลานานแค่ไหน แต่เมื่อผู้อาวุโสลมได้สติมาอีกครั้ง จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ก็มาปลุกเขา
นี่เป็นสิ่งที่เขาบอกล่วงหน้า เมื่อผู้อาวุโสลมได้สติ ให้จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์มาปลุกเขาได้ทันที โถงศักดิ์สิทธิ์เป็นวัตถุเซียนคุณภาพสูงสุด มันสามารถป้องกันการสอดส่องได้แต ต่มันก็ไม่อาจปิดกั้นสัมผัสวิญญาณขอบเขตตั้งต้น
เจี้ยนเฉินเก็บแท่นหยกชะตาและโผล่ออกมาด้านนอกอีกครั้ง แน่นอนว่าเขาพบว่าผู้อาวุโสลมอยู่ที่นี่แล้ว
ผู้อาวุโสลมไม่ได้มีสตินานมากในแต่ละครั้ง อย่างมากก็ 3-4 ชั่วยาม หรือสั้น ๆ เพียง 1 ชั่วยามเท่านั้น
“วันนี้ ข้าจะไม่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์โบราณให้เจ้าฟัง แม้ว่าเจ้าจะรู้เกี่ยวกับประวัติศาตร์โบราณพวกนี้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเจ้าในตอนนี้ ข้าจะอธิบายวิถีต่าง ๆ ให้เจ้าฟัง” ” ผู้อาวุโสลมพูด
เจี้ยนเฉินและจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยความสุขทันที พวกเขาทั้งคู่หันไปมองที่เฉินเจี้ยน ทั้งคู่ก็เข้าใจว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเฉินเจี้ยนที่ทำให้พวกเขาสามารถฟังสิ่งต่ าง ๆ เกี่ยวกับวิถีผ่านประสบการณ์ของผู้อาวุโสลมได้
พวกเขาได้รู้มานานแล้วจากเฉินเจี้ยนว่าก่อนที่เขาจะมาถึงดาวเคราะห์นิรนาม ผู้อาวุโสลมจะใช้เวลาที่มีสติสั่งสอนเฉินเจี้ยน เขาจะถ่ายทอดความรู้จำนวนมากหรือให้คำแนะนำในบางแง่มุมต่าง ๆ ของเฉินเจี้ยนเป็นการส่วนตัวเพื่อการบ่มเพาะของเฉินเจี้ยน
หากไม่มีเฉินเจี้ยน ทั้งสองคนก็คงไม่ได้เพลิดเพลินกับทุกอย่างที่ได้ในตอนนี้อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นผู้อาวุโสลมก็เริ่มอธิบายแก่นแท้ของวิถี ขอบเขตการบ่มเพาะของเขาสูงเกินไป แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ก้าวไปก้าวสุดท้ายอย่างแท้จริงและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายกับวิถีสวรรค์ แต่เขาก็ยังสามารถสร้างกฎได้อย่างไม่รู้จบเมื่อเขาอธิบายวิถีต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อโลกสภาพแวดล้อมในแบบต่าง ๆ อย่างน่าตกใจ
ผู้อาวุโสลมดูเหมือนจะรวมเข้ากับมิติ หลอมรวมเข้ากับโลกและผสานเข้ากับทุกวิถี ทุกคำที่เขาพูดออกมาจะเป็นตัวแทนของแก่นแท้โลกซึ่งมีความลับที่ไม่สิ้นสุด
เจี้ยนเฉิน, จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์และเฉินเจี้ยนกำลังหมกมุ่นอยู่ในใจของพวกเขา พวกเขาซึมซับราวกับฟองน้ำจากคำอธิบายของผู้อาวุโสลมจนลืมเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขาเอง
อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสลมไม่ได้อธิบายวิถีนานเกินไป 1 ชั่วยามต่อมาเขาก็หยุดและจากไปอีกครั้ง มุ่งหน้าไปอีกด้านของดาวเคราะห์
“เมื่อใดก็ตามที่ผู้อาวุโสลมอธิบายวิถีต่าง ๆ เขาก็ยังคงมีสติในช่วงเวลาสั้น” เฉินเจี้ยนกล่าวด้วยความรู้สึกที่หลากหลายขณะที่เขาเฝ้ามองผู้อาวุโสลมจากไป
หลังจากพูดอย่างนั้น ทั้งสามก็บ่มเพาะด้วยตัวเองต่อไป สิ่งเหล่านี้ดำเนินไปทุก ๆ วันซ้ำ ๆ เพื่อให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเข้าใจในวิถีของพวกเขาค่อยๆลึกซ ซึ้งและก้าวหน้าไปทีละขั้นๆ
นั่นเป็นเพราะพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจคอยอธิบายวิถีต่าง ๆ ให้กับพวกเขาอย่างไม่รู้จบและเนื้อหาในการอธิบายได้ครอบคลุมทุกอย่าง
“เจี้ยนเฉิน, เฉิ้นเจี้ยน ข้าจะอธิบายวิถีกระบี่ให้เจ้าในวันนี้” วันหนึ่งผู้อาวุโสลมที่ได้สติก็พูดอีกครั้ง
“ผู้อาวุโสลม ท่านก็รู้จักวิถีกระบี่ด้วยหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างแปลกใจ
ผู้อาวุโสลมส่ายหัว “ข้าไม่ได้เข้าใจวิถีกระบี่ แต่ด้วยวิธีที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามพันวิถีนั้นต่างมีต้นกำเนิดเดียวกัน ตราบใดที่เจ้าอยู่ในระดับสูง เจ้าก็จะมีความเข้าใจในระดับหนึ่ง แ แม้ว่าจะมีวิถีอื่นที่เจ้าไม่เข้าใจ แต่เพราะขอบเขตการบ่มเพาะของเจ้านั้นต่ำเกินไปสำหรับข้า ดังนั้นความเข้าใจของข้าจึงมากพอที่จะสอนเจ้าได้”
“นอกจากนี้ข้าก็ได้เห็นส่วนที่ดีเกี่ยวกับผู้ที่เชี่ยวชาญในวิถีกระบี่….”
หลังจากนั้น ผู้อาวุโสลมก็เริ่มอธิบายวิถีกระบี่เช่นเดียวกันที่เขาพูดว่าเขาได้เข้าใจวิถีกระบี่ แต่เนื่องจากการบ่มเพาะของเขาสูงเกินไปและเขาได้เห็นผู้เชี่ยวชาญหลายคนใช้วิธีกร ระบี่ เขาก็มีความเข้าใจที่ยอดเยี่ยมกว่าคนทั่ว ๆ ไป เขาสามารถบอกได้จากการชำเลืองมองเพียงแว่บเดียวว่าเจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยนนั้นขาดความเข้าใจวิถีกระบี่ที่ส่วนไหน
หากผู้เชี่ยวชาญวิถีกระบี่อธิบายและถ่ายทอดวิถีกระบี่ให้พวกเขา ความเข้าใจในการจะสร้างแนวทางได้อย่างชัดเจนของกฏวิถี
คำอธิบายของผู้อาวุโสลมเกี่ยวกับวิถีกระบี่นั้นคล้ายกับเส้นทางกว้าง ๆ ในการก้าวไปข้างหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงคูน้ำและโคลมตม
แม้ว่าพวกเขาจะเดินเข้าไปในวิถีผิดทาง ผู้อาวุโสลมก็สามารถชี้ให้เห็นได้ทันทีเพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าใจและแก้ไขด้วยตัวเอง
“จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะอธิบายวิถีสังหารของเจ้า….”
ภายใต้คำแนะนำอย่างระมัดระวังของผู้อาวุโสลม เจี้ยนเฉิน, เฉินเจี้ยนและจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเจี้ยนเฉิน นอกจากนี้เขายังมีหยกชะตา เมื่อใดก็ตามที่ เขาฟังผู้อาวุโสลมอธิบายวิถีเสร็จ เขาจะเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ทันทีและฝึกฝนอยู่บนแท่นหยกชะตา ทำให้เขาก้าวหน้ามากที่สุดในบรรดาทั้งสามคน
“วิถีกระบี่ของข้าก้าวหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ข้าเข้าใกล้ความสำเร็จขั้นกลางของอมตะกระบี่มากขึ้นเรื่อย ๆ ” เจี้ยนเฉินคิด เขามีความรู้สึกว่าด้วยความสำเร็จขั้นกลางของวิถีกระบี่ เขาน่าจะไปถึงขั้นอสงไขยสวรรค์ชั้นสวรรค์ที่ 9 เรียบร้อยแล้ว
“ความสำเร็จขั้นใหญ่ของอมตะกระบี่จะต้องไปถึงขอบเขตบรรพกาลอย่างเป็นทางการ ! ” เจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความคาดหวังมากมาย เขาเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ วันข้างหน้าก็ไม่ไกลเกินไปนัก
อย่างไรก็ตาม นั้นทำให้เขาที่มีหยกชะตาจะทำให้ความก้าวหน้าของเขามากขึ้นหลายสิบเท่าหรือแม้แต่ร้อยเท่า
“นายท่าน ผู้อาวุโสลมคนนี้ดูเหมือนจะมองโลกในแง่ดีไม่น้อยเลย” ในตอนนี้เสียงจิตวิญญาณกระบี่ก็ดังขึ้น
เจี้ยนเฉินสั่นสะท้านเมื่อได้ยิน เขารู้สึกถึงลางร้ายทันที เขาเชื่อว่าจิตวิญญาณกระบี่เข้าใจสถานะของผู้อาวุโสลมว่าจะเสียสติเป็นครั้งคราว แต่จิตวิญญาณกระบี่ก็ได้พูดอะไรเช่นนี้ในเ เวลานี้ นั่นหมายความว่าเขาต้องพบสิ่งอื่น ๆ
“ใช่ นายท่าน ผู้อาวุโสลมนี้อาจจะดูทรงพลังในสายตาท่าน แต่ตอนนี้เขาอยู่ในสถานการณ์อันตราย ถ้าเขาไม่ประสบโชคดี เขาอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงพันปี” เสียงของฉิงโซวก็ดังออกมา
หัวใจของเจี้ยนเฉินกระตุกทันทีที่เขาได้ยินว่าผู้อาวุโสลมมีเวลาเหลือเพียง 1,000 ปี เจี้ยนเฉินเป็นหนี้บุญคุณเขาอย่างมาก จากคำแนะนำของเขาซึ่งได้แสดงให้เห็นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตอนนี้เข ขาได้รู้ถึงสถานการณ์ของผู้อาวุโสลมนั้นรุนแรงมาก หัวใจของเจี้ยนเฉินแทบจะกระดอนขึ้นมาถึงลำคอ
“จือหยิง, ฉิงโซว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างกังวล