เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 344: เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 344: เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ตัดสินจากข่าวที่เจี้ยนเฉินได้ยินจากคุณหนูรองของตระกูลเทียนฉิน หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เป็นบุคคลในตำนานของทวีปเทียนหยวน นางสามารถทำให้คนทั้งอาณาจักรต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงความงามที่ไม่เหมือนใคร ความสามารถของด้านพิณของนางนั้นไม่มีใครเทียบเคียงได้ นางมีพิณของเมืองปีศาจที่สามารถทำให้ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ต้องยอมแพ้. แม้แต่ศัตรูของนางก็จะต้องตะลึงกับเพลงอันไพเราะและจะทำให้วิญญาณของพวกเขาถูกลบออกก่อนที่ร่างของพวกเขาจะตามมา
นอกจากนั้นหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ยังป้องกันสงครามระหว่างสองอาณาจักรด้วยบทกวีเดียวในสนามรบ ทำให้ทหารสองแสนคนจากทั้งสองฝั่งหลับไปสามวันสามคืน มันเป็นความสำเร็จที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์กลายเป็นเซียนมานานแล้วและยังเป็นเซียนผู้คุมกฏ คนแบบนี้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทวีป ซึ่งจะไม่เห็นใครในสายตา สิ่งที่เจี้ยนเฉินไม่เคยจินตนาการมาก่อนคือครั้งหนึ่งเขาจะมีโอกาสได้เจอเซียนผู้คุมกฎหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ นี่คือสิ่งที่ทำให้อารมณ์ของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไป
ตอนนี้เซียนผู้คุมกฎยืนอยู่ตรงหน้าเขา ยิ่งไปกว่านั้น นางคือผู้หญิงในตำนานที่ยังมีชีวิต
หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ซ่อนใบหน้าของนางไว้ แต่ก็ยังมีร่างกายภายนอกที่ยังสามารถมองเห็นได้ นางค่อนข้างสูงและมีร่างกายที่สวยงามจนไม่อาจพรรณนาไม่ได้ คนหนึ่งอาจจะหายใจไม่ออกเพราะความงามของนาง ราวกับว่านางไม่ได้มีความหมายสำหรับโลกนี้ และแม้แต่เจี้ยนเฉินเองก็ไม่อยากละสายตาของเขาออกไปจากนางในขณะที่เขาจ้องนางราวกับว่าบนโลกนี้มีนางอยู่คนเดียว โลกโดยรอบดูเหมือนจะสูญเสียสีสันในขณะที่ทุกคนจับจ้องมาที่นางคนเดียว
จากนั้นหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็รู้สึกว่าเจี้ยนเฉินกำลังจ้องมองนาง นางหันมามองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจขณะที่นางพูดด้วยเสียงอันไพเราะว่า “ผู้อาวุโส หนุ่มคนนี้ต้องเป็นราชาแห่งกลุ่มทหารรับจ้างใช่หรือไม่ ? “
ผู้อาวุโสแปดหัวเราะ “เจ้าเดาถูกแล้วล่ะ เขาคือเจี้ยนเฉินและเป็นราชาแห่งทหารรับจ้างของเรา เขาแข็งแกร่งมากในด้านการต่อสู้ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นเพียงเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 1”
หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ผงกศีรษะและไม่พูดอีกต่อไปราวกับว่านางหมดความสนใจในตัวเขา ดวงตาของนางฟุ้งซ่านทันทีที่นางหันไปมองป้ายจารึก
เจี้ยนเฉินประหลาดใจเมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสพูดกับหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เหมือนคนรุ่นเดียวกัน เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงคำที่อาวุโสสิบสามพูด ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ที่มีแต่เซียนผู้คุมกฏเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ และหากใครที่ไม่ได้เป็นเซียนผู้คุมกฎและต้องการที่จะเข้าไป เขาก็จะต้องเป็นราชาแห่งทหารรับจ้าง
“นี่หมายความว่าอย่างน้อยผู้อาวุโสเหล่านี้ที่นี่ล้วนเป็นเซียนผู้คุมกฏใช่หรือไม่ ? แม้แต่ผู้อาวุโสสิบสามที่อยู่ในคลังอาวุธก็เป็นเซียนผู้คุมกฏด้วย” เจี้ยนเฉินคิดกับตัวเองด้วยความตกใจ นั่นหมายความว่าเมืองทหารรับจ้างแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก พวกเขามีเซียนผู้คุมกฎถึง 10 คน
หลังจากนั้นผู้อาวุโสก็มาแนะนำตัวกับเจี้ยนเฉินทีละคน เมื่อเจี้ยนเฉินเริ่มเข้าใจตัวตนของพวกเขา เขาก็ตระหนักว่านอกเหนือจากผู้อาวุโสสองคนแรกแล้วส่วนที่เหลือล้วนแต่มีความสัมพันธ์กับอำนาจอื่น ๆ และมีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับเมืองทหารรับจ้าง
ตอนนี้นอกจากเจี้ยนเฉินแล้วยังมีคนอีก 26 คนทั้งชายและหญิง คนส่วนใหญ่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป แต่ก็ยังมีชายที่อายุ 40 ปีอีกสองสามคน แต่คนที่น่าสนใจมากที่สุดคือหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ที่ยืนอยู่ในกลุ่มคน มันยิ่งทำให้นางดูเหมือนว่านางเป็นนกกระเรียนท่ามกลางฝูงไก่
ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วยามในขณะที่มีคนอื่นบินผ่านอากาศและเข้าร่วมกลุ่ม
ชายคนนี้เป็นเด็กที่สวมเสื้อคลุมสีขาวราคาแพง อายุของเขาประมาณ 20 ปี เขายังหล่อเหลาเป็นพิเศษในระดับที่แตกต่างจากเจี้ยนเฉินอย่างมาก เขาหล่อโดยมีใบหน้าบางส่วนที่คล้ายผู้หญิงส่วนเจี้ยนเฉินหล่อในแบบที่เหมือนผู้ชายเต็ม ๆ
ชายหนุ่มมีสีหน้ายิ้มแย้มที่เปล่งแสงออกมาขณะที่เขาเดินไปหาหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และแสดงความเคารพ “หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ผ่านมา 50 ปีแล้วแต่ท่านกลับสวยงามกว่าเดิม” สายตาของเขามองนางอย่างหลงใหล
หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์หรี่ตา,นางมองเขาอย่างรังเกียจ. นางไม่ได้มองชายคนนั้นในขณะที่นางพูดว่า “ขอบคุณองค์ไป่เจี้ยนสำหรับคำชม”
ชายหนุ่มเพิกเฉยต่อทัศนคติที่หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ เขาเดินไปหานางพร้อมกับแสดงความหลงใหลที่มีต่อนางในขณะที่เขาพูดอีกครั้งว่า “หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ เราได้รู้จักกันมาสองร้อยปีแล้ว เมื่อไหร่ท่านจะเชิญข้าไปเยี่ยมชม เกาะสามเซียนของท่าน ? ข้าได้ยินมาว่าเกาะสามเซียนเป็นสวรรค์บนดินโดยปราศจากความขัดแย้งใด ๆ และมีเพียงกลุ่มชาวประมงที่มีความสามัคคี สถานที่นั้นไม่มีสงคราม ข้ารอคอยที่จะไปสถานที่ดังกล่าวมานานแล้ว ข้า ไป่เจี้ยนไม่ได้ต่อสู้มานานด้วยเหตุผลดังกล่าว ! “
ผู้อาวุโสแต่ละคนมองหน้ากัน พวกเขาฟังการสนทนานี้ด้วยใบหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก พวกเขาทุกคนรู้ว่าไป่เจี้ยนชื่นชมหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ย้อนกลับไปเมื่อไป่เจี้ยนเป็นชายวัยกลางคน เมื่อเขาได้พบกับหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ มันเป็นรักแรกพบ ด้วยวิธีการลับ เขาสามารถฟื้นฟูใบหน้าของเขาให้กลับสู่วัยเยาว์อีกครั้งเพื่อที่จะได้รับความรักจากนาง
โชคไม่ดีสำหรับหมาป่าที่หิวโหยความรัก หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้เพิกเฉยต่อความพยายามที่จะเอาชนะใจนางอย่างกระตือรือร้นของไป่เจี้ยน อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปนางถึงกลับจงเกลียดจงชังเขา
“ขอโทษด้วยองค์ชายไป่เจี้ยน เกาะสามเซียนของข้าไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา” เสียงของนางเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
ราวกับได้รับการสนับสนุน ไป่เจี้ยนมองนางอย่างไร้เดียงสาและพูดว่า “หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์” ข้าจะเป็นคนนอกได้อย่างไรกัน ? “
“ต้องใช่สิ” หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พูดโดยไม่ยั้งคิดในขณะที่นางไม่ไว้หน้าเขา
เมื่อเห็นทัศนคติที่เย็นชาของหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ไป่เจี้ยนก็หน้าเจื่อน เขาหันไปมองท้องฟ้าและถอนหายใจ หลังจากนั้นเขาก็เดินไปข้าง ๆ หญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์โดยไม่ส่งเสียง แม้ว่าเขาจะยังไม่ประสบความสำเร็จในการตามตื้อนาง เขาก็ไม่ยอมแพ้
ในขณะนั้นพื้นที่พวกเขายืนก็เริ่มสั่นสะเทือน พวกเขาสามารถรับรู้ถึงพลังงานจำนวนมากที่รวมกันอย่างช้า ๆ ภายใน
“ถึงเวลาแล้ว ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเปิด” ผู้อาวุโสของเมืองทหารรับจ้างพูด
สายตาของทุกคนถูกดูดเข้าไปในพื้นที่ที่พลังงานภายในเพิ่มขึ้นและมีความหนาแน่นยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับความเข้มข้น ในที่สุดพื้นที่ก็ดูเหมือนจะเริ่มบิดเบือน
ไม่กี่นาทีต่อมาพลังงานจำนวนมากที่รวมตัวกันได้ถึงขีดสูงสุด ทำให้พื้นที่แยกออกมาเผยให้เห็นประตูกว้างสามฟุตที่ทำจากมิติโกลาหลที่มองไม่เห็น.
“ประตูสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปิดออกแล้ว ทุกคนโปรดเดินเข้าไป” ผู้อาวุโสของเมืองทหารรับจ้างพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะเดินไปที่ประตูอย่างช้า ๆ จากนั้นก็หายเข้าไปในความโกลาหล
ทันใดนั้นผู้อาวุโสคนอื่นของเมืองทหารรับจ้างก็โค้งคำนับต่อประตูสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่จะหายไปข้างใน
เมื่อผู้อาวุโสทั้งหมดจากเมืองทหารรับจ้างเข้าไปทางประตู เซียนผุ้คุมกฎจากนอกเมืองก็โค้งคำนับที่ประตูด้วยความเคารพและหายไปเช่นกัน
เจี้ยนเฉินเป็นคนสุดท้ายที่เข้าไป แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงโค้งคำนับที่ประตูก่อนที่จะเข้าไป แต่เขาก็ทำตาม เขาโค้งคำนับให้กับประตูก่อนที่จะก้าวเข้าไปในประตูโกลาหล ไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เจี้ยนเฉินปรากฏตังขึ้นอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่บนแสงที่สว่างจ้า บรรยากาศในบริเวณนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ราวกับว่ามันค่อนข้างชื้น
เมื่อมองไปรอบ ๆ เจี้ยนเฉินก็ตกใจเมื่อพบว่าไม่มีท้องฟ้าให้เห็นในบริเวณนี้ พื้นที่ทั้งหมดข้างบน 100 เมตรนั้นเป็นแผ่นหินที่ยื่นออกไปไกลที่สุดเท่าที่จะมองเห็นราวกับว่ามันถูกตักจากท้องของภูเขา ตรงกลางเพดานจะเห็นผลึกที่มีแสงสลัวอยู่เหนือหัวซึ่งดูเหมือนจะปรวนแปรไปด้วยพลังงาน
ผู้อาวุโสแปดเดินไปข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน กระตุ้นให้เจี้ยนเฉินถามด้วยความสงสัยว่า “ผู้อาวุโสแปด นี่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือ ? “
อาวุโสแปดพยักหน้า “ถูกต้อง นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าแน่ใจว่าเจ้าสามารถเห็นว่าเราอยู่ในท้องของภูเขา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่อย่างแน่นอน ผู้ก่อตั้งเมืองทหารรับจ้างโมเทียนหยุนได้สร้างพื้นที่เดียวภายในเมืองเพื่อเดินทางไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ นั่นจะเป็นที่รู้จักในฐานะประตูสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และนอกเหนือจากวิธีการนั้น ไม่มีทางอื่นที่จะมาที่นี่”
เจี้ยนเฉินมองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่รู้ว่าโมเทียนหยุนจะเกี่ยวข้องกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ผู้อาวุโสแปดมองดูผลึกที่ลอยอยู่เหนือศีรษะ เขายกมือขึ้นราวกับว่าเขาถูกดึงดูดโดยแรงดึงดูดอันฉับพลัน ผลึกเริ่มค่อย ๆ ลอยไปที่มือของผู้อาวุโสก่อนที่มันจะสัมผัสกับเขาในที่สุด
เมื่อสังเกตสิ่งดังกล่าว เจี้ยนเฉินจึงเห็นว่ามันเป็นผลึกรูปทรงกรวยขนาดเท่าหัวแม่มือและยังส่องแสงจากร่างโปร่งใส พลังงานที่ไหลออกมาจากมันบริสุทธิ์อย่างน่าทึ่งราวกับว่าผลึกทั้งหมดนั้นบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์โดยไม่มัวหมอง
” ผู้อาวุโสแปด สิ่งนี้คืออะไร ? ” เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น