เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 36 : ฝูงหมาป่า
Chaotic Sword God ตอนที่ 36 ฝูงหมาป่า
ในช่วงกลางคืนเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้านั่งอยู่ใต้ต้นไม้และบ่มเพาะพลัง คบไฟที่อยู่ข้างตัวพวกเขาทั้งสองได้มอดดับไปนานแล้ว และบนกิ่งไม้ 5 หรือ 6 เมตรเหนือพวกเขาคือเหลียงเสี่ยวเย่ นางมองไปรอบ ๆ อย่างกระวนกระวาย เมื่อใดก็ตามที่นางได้ยินเสียงเห่าหอนของสัตว์อสูรในยามค่ำคืน นางก็ไม่อาจข่มตาหลับลงได้เต็มตา
ดวงตาอันเป็นประกายของเหลียงเสี่ยวเย่มองจ้องไปที่เจี้ยนเฉินกับเถี่ยต้า ราวกับว่านางกำลังจับตามองพวกเขา ในสายตาของนางนับว่าเป็นเรื่องเป็นหรือตายเลยทีเดียว นางไม่ได้ต้องการที่จะให้คนสองคนที่นางได้พบหลังจากค้นหามานานละทิ้งนางและและนางก็จะสูญเสียการป้องกันนั้นไป
ในขณะนั้นมีสายลมอ่อนพัดผ่านป่าและผ่านหญ้าสูง ในขณะเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็ลืมตาของเขาขึ้นมาทันที ดวงตาของเขาเป็นประกายในขณะที่เขาจ้องมองลึกเข้าไปในหญ้าสูงนั้น ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนบนพื้นดินโดยมีแท่งเหล็กในมือของเขา
เหลียงเสี่ยวเย่สับสนขณะที่นางเฝ้าดูเจี้ยนเฉินลุกขึ้นยืน ไม่รู้เพราะอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น หัวใจของนางก็เต้นแรงด้วยความตื่นตระหนก
เฮ้ เกิดอะไรขึ้น ? เหลียงเสี่ยวเย่กระซิบถามอย่างระมัดระวัง ในสถานการณ์เช่นนี้นางไม่กล้าใช้เสียงดังที่จะพูดเพราะกลัวว่ามันจะไปดึงดูดสัตว์อสูร
เจี้ยนเฉินไม่ได้คำตอบของนางและหันมองไปยังเถี่ยต้าที่กำลังบ่มเพาะพลังอยู่ เถี่ยต้า ตื่นได้แล้ว เหมือนจะมีสัตว์อสูรบางตัวกำลังจะโจมตีเรา
อ่า เจ้าพูดว่าอะไรนะ? สัตว์อสูรโจมตี ? เหลียงเสี่ยวเย่กลายเป็นตื่นกลัว ใบหน้าของนางไร้สีเลือดทันที เมื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งร่างกายของนางก็เริ่มสั่นเทาด้วยความกลัว
ในขณะที่เถี่ยต้ากำลังบ่มเพาะพลัง เขาไม่กล้าที่จะหมกมุ่นมากเกินไป ดังนั้นเมื่อเจี้ยนเฉินเรียกร้องเขา เถี่ยต้าก็ลืมตาขึ้นออกจากการบ่มเพาะพลังและลุกขึ้นยืนพร้อมกับขวานรบของเขาที่พาดอยู่บนไหล่
เจียงหยางเซียงเทียน สัตว์อสูรอยู่ตรงไหน ? เขาถามในขณะที่เขามองไปรอบ ๆ เขาไม่สามารถมองเห็นรอยเท้าใด ๆ รอบตัวพวกเขาหรือแม้กระทั่งได้ยินเสียงอะไรเลย
เจี้ยนเฉินหันศีรษะของเขาอย่างช้า ๆ ในขณะที่เขามองไปรอบ ๆ เถี่ยต้า คราวนี้ต้องระวังให้มาก คราวนี้มันไม่ใช่แค่สัตว์อสูรเพียงตัวเดียว แต่มันเป็นฝูง
เป็นฝูง ! ใบหน้าเถี่ยต้าเปลี่ยนไปทันที จากท่าทีประมาทเป็นท่าทีจริงจังขึ้นมา
อา! อะไร! เป็นฝูง ! เป็นไปไม่ได้ ! เฮ้ เจ้า โปรดอย่าทำให้ข้ากลัวเช่นนั้น เหลียงเสี่ยวเย่ที่ซ่อนบนต้นไม้ อ้อนวอนกับพวกเขา นางได้ยินสิ่งที่น่ากลัวจากเจี้ยนเฉินมากเหลือเกิน
คิ้วของเจี้ยนเฉินขมวดเข้าหากัน ก่อนจะออกคำสั่งเบา ๆ กับเสียงร้องของเหลียงเสี่ยวเย่ เจ้าเงียบได้หรือไม่? เจ้าต้องการที่จะดึงดูดสัตว์อสูรจากทั่วทุกมุมหรือ ?
คำสั่งเจี้ยนเฉินพิสูจน์ให้เห็นว่ามันมีประโยชน์อย่างยิ่ง เหลียงเสี่ยวเย่รีบใช้มือปิดปากตัวเองทันที เพื่อให้แน่ใจว่านางไม่ได้พูดอะไร
เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าคิดว่าสัตว์อสูรมีอยู่ประมานกี่ตัว ? เถี่ยต้าถาม
มากทีเดียว อย่างน้อยที่สุดก็ 10 ตัว พวกมันกำลังเตรียมที่จะโจมตีพวกเรา พวกมันล้อมเราไว้โดยรอบแล้ว ใบหน้าเจี้ยนเฉินเคร่งขรึมมากขึ้น
เถี่ยต้าเริ่มแสดงท่าทีหนักใจขณะที่เขาฟังเจี้ยนเฉิน ถ้ามันเป็นเพียงสัตว์อสูรตัวเดียวเขาจะไม่กังวลเลย พวกเขาทั้งสองคนจะร่วมมือกัน แต่ตอนนี้มีอย่างน้อย 10 ตัว ในตอนนี้เถี่ยต้าไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
เมื่อเหลียงเสี่ยวเย่ได้ยินที่เจี้ยนเฉินพูดแล้ว ใบหน้าของนางก็ได้ขาวซีดและจิตใจของนางก็เต็มไปด้วยความกลัว เพียงอย่างเดียวที่นางคิดในหัวของนางว่า ไม่รอดแน่แล้ว! พวกเราถูกปิดล้อม พวกเราไม่อาจเอาตัวรอดได้ …
หญ้าสูงเริ่มแกว่งไปแกว่งมาเป็นแสงสีฟ้าที่ปรากฏอยู่ในด้านหน้าของพวกเขา มันอยู่ในทุกทิศทาง ด้วยจุดกำเนิดของแสงสีฟ้ากว่า 50 จุดนั่น ในขณะที่เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้ามองอย่างประหลาดใจ พวกเขาตระหนักในจุดสว่างของแสง แท้จริงคือสายตาของสัตว์อสูร และมันมีอย่างน้อยที่สุด 20 ตัว
นี่สัตว์อสูรระดับ 1 หมาป่าน้ำเงิน เถี่ยต้า ถ้าเจ้าต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ จงรีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้ตอนนี้ เจี้ยนเฉินกล่าว ในขณะที่เขามองไปที่หมาป่าสีน้ำเงิน 20 ตัวจากทุกทิศทาง
เถี่ยต้าจ้องด้วยความโกรธ ก่อนควงขวานรบของเขา เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่กล้าหาญว่า ไม่ต้องกังวล เจียงหยางเซียงเทียน มีเพียงแค่ 20 ตัว ข้ายืนยันว่าพวกเราไม่พ่ายแพ้ให้กับพวกมันแน่
ช่วงเวลาที่นางได้ยินว่ามีหมาป่า 20 ตัวกำลังบุก เหลียงเสี่ยวเย่กำลังกลัวตายอย่างแท้จริง ในเวลานี้แม้ว่า นางเชื่อว่าเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าแข็งแกร่ง แต่นางจะไม่เชื่อว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะสามารถเอาชนะ สัตว์อสูร 20 ตัวได้ ขณะที่พวกมันยังไม่ถึงระดับเซียน ยกเว้นแต่ว่าจะมีอาจารย์คนหนึ่งของสำนักที่จะมาช่วยให้เขารอด ตอนนี้พวกเขาไม่อาจที่จะหลบไปไหนได้
อาจารย์ ท่านอยู่ที่ไหน? กรุณามาช่วยเรา … เหลียงเสี่ยวเย่มองไปรอบ ๆ ในทุกทิศทาง ขณะที่นางอ้อนวอนขอให้อาจารย์มา มีเพียงอาจารย์เท่านั้นที่จะช่วยเหลือพวกนางได้ แต่มันน่าละอายเหลือเกินที่มันมีสัตว์อสูรจำนวนมาก ดังนั้นนางจึงร้องออกมาเสียงดัง และเมื่อเป็นเช่นนั้น สัตว์อสูรก็เริ่มที่จะให้ความสนใจนาง
หมาป่าสีน้ำเงิน 20 ตัวค่อย ๆ เดินไปทางเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้า โดยสายตาของพวกมันจ้องมองพวกเขาอย่างระมัดระวัง เมื่อระยะห่างของพวกเขาอยู่ห่างจากพวกมันไม่ถึง 5 เมตร พวกมันก็หยุดเคลื่อนไหว
เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าคว้าอาวุธของตน แม้ว่าพวกเขาจะถูกล้อมรอบไปด้วยสัตว์อสูร แต่ทั้งสองคนกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
อ๋าววววว !
ทันใดนั้น หมาป่าสีน้ำเงินเริ่มที่จะหอนขึ้นไปบนฟ้า หลังจากนั้นหมาป่า 20 ตัวที่อยู่รอบพวกเขาก็เริ่มที่จะเห่าหอนตาม เสียงหอนของพวกมันเริ่มทับซ้อนกันและกัน ก่อนที่จะกลายเป็นคลื่นเสียงขนาดใหญ่ที่มุ่งเป้าหมายไปที่พื้นที่กว้าง
ได้ยินหมาป่าเห่าหอน ร่างกายของเหลี่ยงเสี่ยวเย่ก็ลื่น ร่างของนางล้มลงกับพื้นขณะที่นางเริ่มสั่น เมื่อถึงจุดนี้ใบหน้าของนางไร้สีเลือดและกลายเป็นซีดเหมือนคนตาย
ห่างจากเจี้ยนเฉิน 5 กิโลเมตร ชายวัยกลางคนซึ่งยืนอยู่บนกิ่งไม้ เมื่อเขาได้ยินเสียงหอนใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป ตาที่เคยปิดก่อนหน้านี้ของเขาเปิดออกในขณะที่เขาจ้องมองไปทางทิศทางของเสียง
“ไม่ดีแล้ว ฝูงหมาป่าสีน้ำเงิน ตัดสินโดยเสียงหอน มันต้องมีอย่างน้อยสัก 10 ตัวเห็นจะได้ ดูเหมือนว่ามีคนได้พบกับอันตรายเสียแล้ว ใบหน้าของชายวัยกลางคนโตเคร่งขรึม เป็นมือของเขาสัมผัสต้นไม้ที่เขากำลังยืนอยู่บน เขากระโดดลงมาจากต้นไม้ก่อนที่จะวิ่งออกไปทางทิศทางของเสียงหอนอย่างไม่รีรอ
ข้าหวังว่าจะทัน ชายวัยกลางคนเป็นกังวลยิ่งนัก แต่เขากำลังตรงไปด้วยความเร็วเท่าที่จะเร็วได้ สัตว์อสูรในเขตแดนชั้น 2 นั้นไม่ได้แข็งแกร่งนัก แต่ฝ่ายตรงข้ามที่เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้ากำลังเผชิญอยู่นั้นคือ สัตว์อสูรระดับ 1 หมาป่าสีน้ำเงิน โอกาสที่พวกเขาจะเอาชนะได้นั้นไม่มีเลย
ในเวลาเดียวกันใน 3 สถานที่แตกต่างกัน 3 คนต่างได้ยินเสียงหอนก่อนที่จะวางอะไรก็ตามที่อยู่ในมือของพวกเขาและรีบวิ่งไปทางเสียงหอน
เหล่าหมาป่าส่งเสียงหอน มันเป็นสัญญาณสำหรับการโจมตี หมาป่านั้นรีบพุ่งเข้าไปหาเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าในทันที
ตายซะ ! เถี่ยต้าคำรามในขณะที่เขาเงื้อขวานรบของเขาขึ้นเตรียมพร้อมโจมตี เขาเหวี่ยงขวานลงใกล้ ๆ หมาป่า กระแทกขวานเข้าไปในท้องของมัน หมาป่าร้องออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องก้องหู
เพล้ง
หมาป่าสีน้ำเงินที่ถูกเถี่ยต้าโจมตีถูกตัดขาดทันทีด้วยการโจมตีที่ทรงพลังของขวานรบ และตอนนี้มันมีบาดแผลยักษ์บนร่างของมัน หมาป่าถูกส่งให้ลอยออกไปจากการแกว่งขวานอันยิ่งใหญ่ แม้ว่ามันจะเป็นถึงสัตว์อสูรระดับหนึ่ง แต่มันก็ไม่ใช่คู่มือของเถี่ยต้าที่แข็งแกร่ง
เถี่ยต้ากวัดแกว่งขวานรบที่หนักราว 100 ปอนด์ของเขาได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่ามันไม่หนักเลยสักนิด เมื่อใดก็ตามที่หมาป่าสีน้ำเงินเข้าหา เขาจะส่งมันบินออกไป ดังนั้นหมาป่าที่เข้ามาใกล้ตัวเขามากเกินไปจึงถูกส่งตัวไปพร้อม ๆ กับแผลใหม่บนร่างของมัน แต่ผิวหนังของหมาป่าสีน้ำเงินทนทานเป็นอย่างมาก แม้แต่เถี่ยต้าจึงไม่สามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่หมาป่าเดินเข้ามาหาเขาในเวลาเดียวกันดวงตาของเจี้ยนเฉินก็เป็นประกายเย็นชามากขึ้น เมื่อเขารีบวิ่งไปข้างหน้า ในทันใดนั้นเขาก็นำแท่งเหล็กแหลมขึ้นมาแทงทะลุคอของหมาป่าตัวที่อยู่ใกล้ ๆ
บู๊ววว
มีความต้านทานบางอย่าง แท่งเหล็กทะลุหมาป่าที่ซ่อนอยู่และเจาะผ่านลำคอหมาป่าอีกตัว เขากระชากแท่งเหล็กออกและเอียงตัวไปทางด้านข้างเพื่อหลบการโจมตีของหมาป่าตัวอื่นที่กระโดดลงมาที่เขา
หมาป่าที่ถูกเจี้ยนเฉินแทงคอทะลุล้มลงที่พื้นอย่างสิ้นหวัง สี่ขาของมันกระตุกและท้ายสุดมันก็ตายลง มันไม่สามารถยืนขึ้นด้วยขาของมันเองไม่ว่ามันพยายามมากเท่าไร เลือดสีแดงสดใสไหลออกมาจากบาดแผลของมัน
คอเป็นจุดที่อ่อนแอของเกือบทุกสิ่งมีชีวิตและสัตว์อสูรนั้นก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ตอนนี้ตั้งแต่หมาป่าสีน้ำเงินได้ถูกแทงคอมันก็ตายลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่ามันจะพยายามที่จะหลีกเลี่ยงความตายแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็อยู่ได้ไม่นาน
เจี้ยนเฉินอาศัยความคล่องแคล่วของร่างกายของเขาในการเคลื่อนไหวไปมา แท่งเหล็กของเขาจะทิ้งบาดแผลที่ถูกแทงในทุกครั้งของการโจมตี แม้จะถูกล้อมรอบไปหมาป่านับสิบตัว เจี้ยนเฉินก็ได้ใช้รูปแบบการเคลื่อนที่ที่แปลกและคาดเดาไม่ได้ของเขา ในการเคลื่อนไหวที่จะหลบได้อย่างง่ายดาย ฟันที่คมและกรงเล็บของหมาป่าก็ไม่สามารถสัมผัสเขาได้เลย และเมื่อใดก็ตามที่ดูเหมือนว่าจะคับขัน เจี้ยนเฉินก็สามารถหลุดรอดออกมาได้ในทันใด
การต่อสู้ไม่ได้กินเวลานานมากนัก ก่อนที่หมาป่าทั้งสามตัวจะถูกเจี้ยนเฉินแทงทะลุคอ ในขณะที่หมาป่าสูญเสียเลือด พวกมันสะดุดลงกับพื้นดินในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่จะมีชีวิตอยู่ แต่หลังจากลมหายใจเฮือกสุดท้ายพวกมันก็ตายบนพื้นดิน มีหมาป่าหลายตัวได้รับความบาดเจ็บจากบาดแผลแต่ไม่มีตัวไหนตายและถูกทำร้ายโดยมุ่งไปที่ข้อต่อของสัตว์
เจี้ยนเฉินเคลื่อนไหวไปมาระหว่างหมาป่าขณะที่แท่งเหล็กอยู่ในมือของเขาแทงต่อไปยังพวกมัน เขาไม่เพียง การเคลื่อนไหวของเขาไม่เพียงแต่รวดเร็วเท่านั้นแต่มันยังงดงามอีกด้วย มันเกือบจะเหมือนกับการร่ายรำมากกว่าที่จะต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
ในอีกด้านหนึ่ง เถี่ยต้าปล่อยเสียงคำรามและนำเอาขวานหนักนับ 100 ปอนด์ ตวัดไปกลางอากาศ ผลลัพธ์ความเร็วนั้น ก่อให้เกิดภาพหมาป่ารอบตัวเขาถูกส่งไปอย่างไม่หยุดหย่อนตลอดเวลาโดยมีบาดแผลที่น่าสะพรึงกลัว แม้ว่าบาดแผลจากคมงขวานเหล่านี้จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของพวกมันก็ตาม
แม้ว่าเมื่อมองดูแล้ว เถี่ยต้าค่อนข้างแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน และมันก็ยังห่างไกลนักจากความสำเร็จของเจี้ยนเฉิน หลังจากที่นับตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้น เถี่ยต้านั้นไม่สามารถสังหารหมาป่าสีน้ำเงินได้เลยแม้แต่ตัวเดียว