เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 394: การโจมตีของเหล่าขุนนาง
ตอนที่ 394: การโจมตีของเหล่าขุนนาง
เมื่อได้ยินเรื่องของเจี้ยนเฉิน บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างก็สับสน ขณะที่เขามองเจี้ยนเฉินอย่างไม่อยากเชื่อ
ทุกคนรู้ว่าราชาทหารรับจ้างชื่อเจี้ยนเฉิน แต่มีเพียงส่วนหน้าที่เคยเห็นเจี้ยนเฉิน ไม่มีใครคิดว่าเจี้ยนเฉินจะยังเด็กมาก และอายุน้อยกว่าองค์ชายสาม
ในการเปรียบเทียบอย่างง่าย ๆ เจี้ยนเฉินใช้เวลาบ่มเพาะน้อยกว่าองค์ชายสาม แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่า สิ่งนี้ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเจี้ยนเฉินเป็นอัฉจริยะที่ไม่มีใครเทียบได้
ราชาของอาณาจักรฉินหวงทรงพระสรวลเสียงดังด้วยความประหลาดใจ ขณะที่พระองค์มองมายังเจี้ยนเฉินด้วยความสนเท่ ดีมาก ! ดีมาก ! ข้าไม่ได้มองเจ้าผิดไป เจี้ยนเฉิน เจ้าเป็นยักษ์ในหมู่มนุษย์อย่างแท้จริง เจ้าเป็นราชาทหารรับจ้างตั้งแต่อายุยังน้อย อนาคตของเจ้าจะไม่มีข้อจำกัดและลูกชายของข้าก็ได้รับประโยชน์อย่างมากที่รู้จักกับเจ้า
เซียวฮานยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนพร้อมกับแสดงความโกรธแค้นไปที่เจี้ยนเฉิน เขากัดริมฝีปากของเขาขณะที่พึมพำกับตัวเองและถอนหายใจโกรธแค้น ข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นราชาทหารรับจ้างที่ไร้สาระนั่น ฮึ่ม มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้า เซียวฮานจะไม่รามือจากเจ้าง่าย ๆ
เมื่อได้ยินเสียงพึมพำของเซียวฮาน ชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมสีฟ้าก็ถามว่า เซียวฮาน นั่นอาจจะเป็นคนที่ทำให้เจ้าอับอายและทำร้ายเจ้าเมื่อวานนี้ใช่หรือไม่ ?
ถูกต้อง ท่านลุงมูซีเย่ ท่านต้องช่วยข้าสอนบทเรียนให้เขา ไม่อย่างนั้นข้าก็ไม่อาจกล้ำกลืนต่อไปได้ เซียวฮานพูด มูซีเย่เป็นเด็กฝึกหัดของปู่เขาและสนิทกับเขา
คิ้วของมูซีเย่เข้าหากันพร้อมกับคิดว่า ข้ากลัวว่ามันจะไม่ง่าย ข้าไม่รู้ว่าเขาจะเป็นราชาทหารรับจ้าง แม้ว่าข้าจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของเขา แต่เขาต้องแข็งแกร่งกว่าองค์ชายสามแน่นอน นอกจากนี้เขายังได้รับความโปรดปรานจากองค์ราชา ถ้าข้าทำอะไรเขา ข้าต้องได้รับความพิโรธขององค์ราชาแน่นอน
ท่านลุงมูซีเย่ เขาอายุไม่เท่าไร แม้ว่าองค์ชายสามไม่อาจเทียบเขาได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจี้ยนเฉินจะไม่มีวิธีการบางอย่างที่สามารถทำให้เขาเป็นราชาทหารรับจ้างได้ ท่านสามารถท้าทายเขาต่อหน้าธารกำนัลและทำให้เขาขายหน้า สำหรับฝ่าบาท ข้าจะให้ปู่ของข้าจัดการเรื่องเหล่านี้เอง เซียวฮานพูด
มูซีเย่พยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า วางใจได้ ข้าต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของเขาอยู่ดี ข้าอยากเห็นว่าข่าวลือนั้นว่าเป็นจริงแค่ไหนเมื่อพูดถึงความแข็งแกร่งของราชาทหารรับจ้าง
หลังจากที่รู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นราชาทหารรับจ้าง ทัศนคติของราชาที่มีต่อเขาก็เป็นมิตรมากขึ้น ในทางตรงข้ามองค์ชายคนอื่นที่ได้ยินว่าเจี้ยนเฉินเป็นสหายกับองค์ชายสาม พวกเขาล้วนแล้วแต่หงุดหงิด มีเพียงองค์ชายที่อายุน้อย 2 คนเท่านั้นที่ยังคงทำตัวสบาย ๆ ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา
เจี้ยนเฉินและองค์ราชาก็ยังคงพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่ปลายประโยคก่อนที่จะกลับเข้ามายังฝูงชน อย่างไรก็ตามในตอนนี้เหล่าขุนนางและมหาอำนาจได้เริ่มก่อหวอดต่อเจี้ยนเฉินอย่างมากแตกต่างจากแต่ก่อน พวกเขาแต่ละคนต่างก็พยายามที่จะมาเป็นมิตรต่อเจี้ยนเฉิน
นั่นเป็นเพราะในอดีต ราชาทหารรับจ้างทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นเซียนสวรรค์เป็นอย่างน้อย ที่สูงที่สุดคือพวกเขาได้พัฒนามากลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ
เมื่อพูดคุยกับคนเหล่านี้ เจี้ยนเฉินพูดคุยกับพวกเขาอย่างสุภาพโดยไม่มีอะไรที่มันลึกซึ้ง
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่ดังกึกก้องไปทั่วห้องโถงทำให้เสียงทั้งหมดในห้องโถงเงียบลงทันที
ฝ่าบาท อาณจักรฉิงฮวงของเราก่อตั้งขึ้นมาได้เพราะพลังของกองทัพตั้งแต่สมัยโบราณและปกป้องอาณาจักรของเราด้วยกำลังของทหารของเรา วันนี้เป็นวันคล้ายพระราชสมภพของฝ่าบาท แต่ทำไมถึงยังคงมีปัญหาการขาดแคลนพลังทางทหาร ? ด้วยข้าที่ต่ำต้อยคนนี้ปรารถนาที่จะประลองกับเจี้ยนเฉิน ! ในเวลาเดียวกันข้าต้องการที่จะใช้ความกล้าหาญของข้าในการต่อสู้เพื่อเป็นของขวัญแด่องค์เหนือหัว หวังว่าฝ่าบาทจะอนุญาตในครั้งนี้!
หัวของทุกคนเริ่มหันไปมองยังชายเสื้อคลุมฟ้าที่กำลังคุกเข่าลงกับพื้นขณะที่เขาพูดกับราชาด้วยความเคารพ
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ราชายิ้มเล็กน้อยขณะที่เขาแนะนำเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉิน นี่คือหัวหน้ากองทหาร มูซีเย่
ราชาไม่ได้ปฎิเสธหรือไม่ยอมรับคำขอของมูซีเย่และให้เจี้ยนเฉินตอบแทน ในท้ายที่สุดเขาก็อยากจะเห็นว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งแค่ไหน
เจี้ยนเฉินหัวเราะพร้อมกับก้าวไปข้างหน้าและป้องมือของเขา หากหัวหน้ามูซีเย่ต้องการประลองต่อหน้าพระพักตร์ อย่างนั้นเราควรจะมอบของขวัญที่ยิ่งใหญ่ต่อหน้าราชา
ราชาหัวเราะและพูดอย่างยินดี ดีมาก ! หากนี่คือคำตอบของเจ้า งั้นพวกเราก็จะเป็นกำลังใจให้พวกเจ้าทั้งคู่
เมื่อนั้น ราชาและผู้เฒ่าทั้งหลายก็เดินออกจากห้องโถงพร้อมกับฝูงชนที่เดินตามหลังพวกเขา
ภายในพื้นที่โล่งกว้างทุกคนได้มารวมตัวกันเพื่อชมการต่อสู้กันระหว่างเจี้ยนเฉินและมูซีเย่อย่างยินดีอย่างมาก การต่อสู้ระหว่างหัวหน้ากองและราชาทหารรับจ้างต้องเป็นภาพที่น่าชม มีเพียงไม่กี่คนที่ได้เห็นการต่อสู้ของราชาทหารรับจ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงมีรอยยิ้มที่พึงใจอยู่บนใบหน้าของเขาขณะที่ดู
มูซีเย่ถือหอกสีฟ้าของเขาไว้ในมือขณะที่มองไปยังเจี้ยนเฉินอย่างเคร่งขรึม แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะยังเด็กมาก แต่การเป็นราชาทหารรับจ้างก็ไม่ไม่ได้ทำให้มูซีเย่ประเมินเขาต่ำเกินไป
เจี้ยนเฉินยิ้มห่างออกไป 30 เมตร เมื่อมองไปที่หัวหน้ากอง เขาก็พูดว่า หัวหน้ามูซีเย่ ถ้างั้นก็เชิญท่านเริ่มก่อน
เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินยังไม่ได้นำอาวุธออกมา คิ้วของมูซีเย่ก็ขมวดด้วยความโกรธเล็ก ๆ ในสายตาของเขา การที่เจี้ยนเฉินที่ไม่ได้นำอาวุธออกมาถือเป็นการดูถูกตัวเขา
จ้องมองไปอย่างเย็นชา สาวเท้าของเขาเข้ามาและพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน ในเวลาเดียวกันหอกในมือของเขาก็เริ่มเปล่งประกายพร้อมกับพลังเซียนธาตุลม ขณะก้าวเข้าไป
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินมีรอยยิ้มน้อย ๆ เขากระทืบขาขวาของเขาลงบนพื้น ทันใดนั้นก้อนหินขนาดนิ้วโป้งก็พุ่งขึ้นมาก่อนที่จะประกายแสงสีม่วง-ฟ้า ก้อนหินนี้ก็ยิงตรงเข้าหามูซีเย่
“ติ้ง ! “
สามารถได้ยินเสียงที่แหลมคมขณะที่หินขนาดนิ้วโป้งปะทะกับปลายหอกของมูซีเย่ หลังจากที่ได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ แขนและหอกของมูซีเย่ก็เริ่มสั่นเทาอย่างรุนแรง
มองดูอย่างตกใจ การปะทะทำให้มูซีเย่หยุดไปจังหวะหนึ่งก่อนที่จะถอยออกไปหลายก้าว มือทั้งสองที่กำลังถือหอกก็สั่นไหวอย่างรุนแรงและมีเลือดซึมออกมาตามง่ามนิ้วมือของเขา
มูซีเย่หันหน้าไปมองเจี้ยนเฉิน แม้ว่าเขาจะใช้พลังทั้งหมดของเขาแต่เจี้ยนเฉินก็ใช้เพียงก้อนหินก้อนเล็ก ๆ เท่านั้นก็ทำให้เขาถอยหลังกลับไป นี่มันเกินกว่าที่มูซีเย่จะยอมรับได้
เมื่อเห็นว่าแค่หินก้อนเดียวที่เจี้ยนเฉินใช้ออกไปยังทำให้มูซีเย่ต้องตกตะลึง แต่ละคนต่างก็มองด้วยความไม่อยากจะเชื่อต่อการเห็นความแข็งแกร่งที่มูซีเย่ได้เผชิญ
นี่เป็นทักษะการต่อสู้ของเจี้ยนเฉินหรือไม่ ? บางคนเริ่มถาม
แม้กระทั่งราชาก็ถอนหายใจอย่างชื่นชม เขามองดูเจี้ยนเฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อก่อนที่จะหันไปมองผู้เฒ่าข้าง ๆ เขา
ก้อนหินเพียงก้อนเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้หัวหน้ากองเดินถอยหลังอย่างโซเซ นี่มากเกินกว่าที่องค์ราชาได้คิดเอาไว้เกี่ยวกับเจี้ยนเฉินในตอนแรก เซียนปฐพีไม่เพียงพอที่จะรับมือกับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจี้ยนเฉิน ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะนำคนอื่นมาทดสอบแทน
ผู้เฒ่าที่ยืนอยู่ข้างองค์ราชาพยักหน้าก่อนที่จะเดินออกมา เจี้ยนเฉิน ใช้ชายชราคนนี้ทดสอบบ้าง ก่อนที่จะรอให้เจี้ยนเฉินตอบตกลง ร่างของชายชราก็กลายเป็นพร่ามัวขณะที่พุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินหยักยิ้มบาง ๆ ขณะที่เขาชี้ออกไปพร้อมกับปล่อยปราณกระบี่ม่วง-ฟ้าไปยังชายชรา
เมื่อรู้ว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งมากเกินไป เขาก็ไม่กล้าประมาท เขาออกหมัดเข้าปะทะกับปราณกระบี่พร้อม
กับส่งพลังเซียนธาตุไฟออกมาด้วยจำนวนหนึ่ง
ปราณกระบี่ถูกชายชราทำให้แตกกระจายออกไป แต่ยังคงเหลือรอยแผลบนมือของชายชรา
มองไปที่แผลที่มือของเขา ชายชราก็ใบหน้ามืดหม่น โบกมือพร้อมกับปรากฏเปลวเพลิงหมุนวนกลางอากาศ ก่อนที่จะมารวมตัวกันเป็นกระบี่ยักษ์ทันที
เมื่อเห็นอย่างนี้เจี้ยนเฉินก็หัวเราะออกมาก่อนที่เขาจะยกมือเช่นกัน พลังธาตุไฟในโลกเริ่มรวมตัวกันที่มือขวาอย่างรวดเร็วกว่าของชายชราและกลายเป็นกระบี่เพลิงขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสีหรืออุณหภูมิ กระบี่ของเจี้ยนเฉินก็แข็งแกร่งกว่าของชายชราอย่างมาก
เขาสามารถควบคุมพลังงานของโลกได้ มันน่าประหลาดใจจริง…?
นี่คือพลังที่ควบคุมพลังงานของโลก เขาไปถึงขอบเขตเซียนสวรรค์แล้วหรือ ?
การกระทำของเจี้ยนเฉินในการควบคุมพลังงานของโลกทำให้ทุกคนเปลี่ยนไปเป็นหวาดกลัว ในตอนนี้ทุกคนเชื่อมั่นว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งกว่ามูซีเย่หลายเท่า แม้กระทั่งขุนนางและผู้ทรงอำนาจต่างก็เบิกตากว้างมองเจี้ยนเฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เซียนสวรรค์ไม่ได้เป็นภาพที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตามเซียนสวรรค์ผู้นี้ยังเด็กมาก นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ทำไม… เป็นไปได้อย่างไร ? เจี้ยนเฉินเป็นเซียนสวรรค์แล้วรึ ? แม้แต่ฉินจี๋เองก็ดูแปลกใจขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง
ราชาแห่งอาณาจักรฉินหวงก็ลอบถอนใจออกมา ขณะที่บังคับให้ตัวเองสงบลงช้า ๆ ในเวลานี้เขาสามารถรู้สึกได้เลยว่าหัวใจของเขาเต้นแรงอย่างมาก เซียนสวรรค์ที่อายุเพียง 20 ปีเศษ ๆ หากข่าวนี้กระจายออกไป มันต้องสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งทวีปเทียนหยวนแน่นอน
เขาเป็นเด็กตามที่เห็นตามรูปลักษณ์ภายนอกจริง ๆ งั้นรึ ? ราชาแห่งอาณาจักรฉินหวงพูดอย่างสงสัย