เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 406 - กองหนุนที่แข็งแกร่ง (2)
ตอนที่ 406 – กองหนุนที่แข็งแกร่ง (2)
ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงคำรามอันดุร้ายสองเสียงในขณะที่เปล่งประกายสีแดงและสีเหลืองพุ่งเข้าหาป้อมปราการของอาณาจักรเกอซุน ด้วยพลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากร่างของพวกเขา ทหารเบื้องล่างก็รู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ออก
เซียนสวรรค์ทั้งสองคนส่งกำลังไปเพื่อปกป้องกองทัพที่เปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งไปทันทีเมื่อเห็นศีรษะเหล่านั้น
เจียงหวูจี่เตรียมพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญเพื่อหยุดเซียนสวรรค์ทั้งสอง ในเวลาเดียวกัน ก็มีพลังงานกระเพื่อมอีกอันเพิ่มขึ้นจากป้อมปราการ ในขณะที่เซียนสวรรค์อีกคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เจียงหวูจี่
ผู้มาใหม่เป็นผู้อาวุโสอีกคนที่มีผมสีขาวซึ่งบินอยู่ท่ามกลางสายลม แม้ว่าจะดูน่าเร้าใจ แต่นี่เป็นอาจารย์ใหญ่ของสำนักคากัตแห่งอาณาจักรเกอซุน – คาเฟอร์
เมื่อเซียนสวรรค์ทั้งสองเห็นหัวของชายทั้งสี่ที่ตายแขวนอยู่บนกำแพงป้อมปราการของอาณาจักรเกอซุุน ร่างกายทั้งหมดของพวกเขาเริ่มสั่นเทาและสั่นไหว เมื่อรวมกับเซียนสวรรค์ทั้งสอง ที่เจียงหวูจี่ได้สังหารไปก่อนหน้านี้นั่นหมายความว่าอาณาจักรปิงหยางสูญเสียเซียนสวรรค์ทั้งหมด 6 คน การสูญเสียขนาดนี้มากเกินกว่าที่อาณาจักรปิงหยางจะยอมรับได้
เซียนสวรรค์ทั้งสี่คนจ้องหน้ากันด้วยความโกรธแค้น แต่ไม่ได้พูดอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียว ด้วยพลังงานที่กระเพื่อมทำให้ประตูป้อมปราการที่สั่นสะเทือนแล้วเริ่มสั่นคลอนอีกครั้ง
เจียงหวูจี่และคาเฟอร์ต่างก็มีประสบการณ์การต่อสู้นับไม่ถ้วนและได้รับบาดเจ็บหลังจากสงครามที่ยืดเยื้อ จุดสูงสุดของพวกเขาคือเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ห้า แต่ก่อนหน้านี้คาเฟอร์ถูกกระแทกเข้าที่หน้าอกด้วยแรงระเบิดจำนวนมหาศาลทำให้อวัยวะภายในของเขาบาดเจ็บสาหัส
“คาเฟอร์ เจ้าไปยืนข้างหลังข้า ข้าจะจัดการกับพวกเขาเอง” เจียงหวูจี่ส่งเสียงคำรามด้วยแววตาที่เป็นประกายแวววับ ในการระเบิดของพลังงานอย่างฉับพลัน ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เมื่อเห็นหนึ่งในฝ่ายตรงข้ามของเขาพุ่งเข้าใส่คาเฟอร์ เจียงหวูจี่จึงออกไปปกป้องเขาทันที
ในขณะที่เจียงหวูจี่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เขาก็ยังแข็งแกร่งอยู่ ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถสกัดกั้นเซียนสวรรค์จากอาณาจักรปิงหยางทั้งสองเอาไว้ได้เท่านั้น แต่เขายังคงได้เปรียบ
“เขาต้องใช้วิธีแปลก ๆ เพื่อเสริมกำลังตัวเขา” เซียนสวรรค์ทั้งสองคนเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเจียงหวูจี่ได้จัดการเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของตนเอง
แต่เจียงหวูจี่ก็นิ่งเงียบเพราะรู้ว่าเขาไม่สามารถทำเช่นนี้ไปได้ตลอดกาล มันจะต้องเพ่งสมาธิทั้งหมดของเขาเพื่อให้เขาสามารถต่อสู้ต่อไปได้ หลังจากการปะทะกันหลายครั้ง เซียนสวรรค์คนหนึ่งจากอาณาจักรปิงหยางได้รับบาดเจ็บจากทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีของเจียงหวูจี่ ทำให้เซียนสวรคค์อีกคนที่เหลืออยู่รู้สึกกดดันทันที
คาเฟอร์มองไปที่การต่อสู้พร้อมด้วยหน้าที่ซีด เมื่ออวัยวะภายในของเขาถูกทำลายจนเกือบหมดแล้ว เขาก็สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ในระหว่างนี้ แม้เขาจะเต็มใจต่อสู้ แต่เขาก็ได้แต่เพียงยืนหยัดและดูอยู่ข้างสนามโดยไม่สามารถเข้าร่วมได้
“อาจารย์ใหญ่ โปรดลงมารักษาตัว” ชายวัยกลางคนเดินขึ้นไปที่ด้านข้างของ คาเฟอร์ ชายผู้นี้เป็นรองอาจารย์ใหญ่ของสำนักคากัต, ไป่เอิน
คาเฟอร์ส่ายหน้า “บาดแผลของข้าสาหัสเกินไป แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงภายในป้อมก็ไม่สามารถที่จะรักษาข้าได้ แม้ว่าพวกเขาจะทำได้ พวกเขาก็ต้องใช้พลังงานมากเกินไป ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาและตอนนี้มันก็ไร้พลัง”
“อาจารย์ใหญ่ โปรดอย่ากังวล ผู้อาวุโสหวูจี่แข็งแกร่งมาก เขาจะต้องเอาชนะผู้คนในอาณาจักรปิงหยางได้อย่างแน่นอน” ไป่เอินปลอบใจ
คาเฟอร์ส่ายหัวอีกครั้ง “สถานการณ์ของเขาไม่แตกต่างจากข้ามากนัก เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งหมดในอาณาจักรเกอซุนนั้นกระจัดกระจายไปยังฐานที่มั่นสำคัญ แต่แม้กระนั้นพวกเขายังไม่เพียงพอเมื่อเปรียบเทียบกับพลังของศัตรู บาดแผลของเจียงหวูจี่นั้นยังไม่หายดี แม้ว่าเขาจะทำร้ายเซียนสวรรค์ทั้งสองอย่างหนัก แต่ก็ไม่ควรใช้กับพลังเซียนธาตุแสงที่พวกเขามีอยู่กับพวกเขา หากเราไม่ฆ่าพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็จะรักษาตัวเอง”
“กระบวนท่าแรกของอสรพิษป่า!”
เมื่อได้ยินเสียงคำรามอันดัง ในขณะที่ร่างของเจียงหวูจี่เริ่มปลดปล่อยพลังเซียนทีละระลอก ๆ อาวุธเซียนในมือของเขาพุ่งขึ้นไปในอากาศก่อนที่แรงกดดันจะปกคลุมพื้นที่ราวกับว่าทั้งโลกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
โลกทั้งใบเริ่มมืดลงเมื่อพายุโหมกระหน่ำ ทรายปลิวไปทุกหนทุกแห่งปกคลุมท้องฟ้าด้วยหมอกสีเทาราวกับบอกล่วงหน้าถึงวันสิ้นโลก
“นี่คือทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของเขา รีบถอยหนี ! ” เซียนสวรรค์ทั้งสองคนหน้าซีดด้วยความตกใจ พวกเขาก็เริ่มบินถอยหลังอย่างรวดเร็ว
น่าเสียดายที่มีเพียงหนึ่งในพวกเขาเท่านั้นที่สามารถหลบหนีเอาชีวิตรอดไปได้ ส่วนอีกคนหนึ่งถูกขังไว้เนื่องจากความสามารถของทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ด้วยข้อจำกัดจากทักษะการต่อสู้ ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้เคลื่อนไหวเลย
ในช่วงเริ่มต้นของทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ เจียงหวูจี่ได้ปล่อยเสียงคำรามก่อนที่จะปล่อยพลังทำลายลงบนหัวของเซียนสวรรค์ที่ติดอยู่
พลังที่เหลือจากทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ยังคงพุ่งต่อไปจนถึงพื้นดิน แบ่งแยกโลกที่อยู่ข้างใต้ ทิ้งรอยแยกยาว 10 เมตร ทหารโดยรอบจากอาณาจักรปิงหยางได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้จนตายหลายคน
หลังจากการใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ร่างกายของเจียงหวูจี่เริ่มส่ายไปส่ายมาอย่างรุนแรงก่อนที่จะล้มลงกับพื้น หน้าของเขาซีด ตอนนี้ดูไร้เลือดฝาดและดูเหมือนป่วยด้วยโรคร้าย
เซียนสวรรค์คนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่จากอาณาจักรปิงหยางมีหน้าตาไม่พอใจ สงครามครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับอาณาจักรปิงหยางโดยมีเซียนสวรรค์ตายไปแล้ว 7 คน การต่อสู้ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวก็จบลงด้วยการสูญเสียแม้จะมีความได้เปรียบในเรื่องของตัวเลขเช่นกัน
ทันใดนั้น ปริมาณพลังงานที่น่าเกรงขามซึ่งสามารถสัมผัสได้จากด้านหลังเนื่องจากผู้คนที่มีรูปร่างหน้าตาแข็งแกร่งหลายคนกำลังบินผ่านอากาศมา
“อาณาจักรปิงหยาง อาณาจักรมังกรซ่อนของเราได้มาเพื่อให้ความช่วยเหลือในการบุกของเจ้า ! ” ทันใดนั้นเสียงผู้อาวุโสก็ร้องออกมา
เมื่อได้ยินถึงตัวตนของผู้มาใหม่ ทุกคนในอาณาจักรเกอซุนก็ตกอยู่ในความสิ้นหวังทันที
แม้แต่อาจารย์ใหญ่ของสำนักคากัตก็ถอนหายใจ “สวรรค์ได้ละทิ้งอาณาจักรเกอซุนของเรา”
เจียงหวูจี่มองไปที่เซียนสวรรค์ทั้งสี่ที่กำลังบินด้วยความสิ้นหวังเช่นกันก่อนที่จะถอนหายใจและกลับไปที่กำแพงป้อมปราการ
คาเฟอร์และเขาเป็นเซียนสวรรค์ 2 คนที่เหลือจากการปกป้องที่มั่นทางเหนือของอาณาจักรเกอซุน เมื่อทั้งคู่ไม่เหลือกำลัง พวกเขาจะไม่สามารถต่อสู้กับเซียนสวรรค์ทั้งห้าได้
อาณาจักรปิงหยางและอาณาจักรมังกรซ่อนได้รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว เมื่อมองไปที่เซียนสวรรค์จากอาณาจักรอื่น เซียนสวรรค์ที่เหลืออยู่จากอาณาจักรปิงหยางก็มีรอยยิ้มอันรื่นเริงบนใบหน้าของเขา ” เป็นไปได้ไหมที่อาณาจักรมังกรซ่อนของเจ้าได้ทลายป้อมปราการตะวันตกแล้ว ? “
เสียงหัวเราะ ผู้อาวุโสคนหนึ่งจากอาณาจักรมังกรซ่อนยิ้ม แน่นอน เราได้ทลายการป้องกันและสังหารเซียนสวรรค์ 2 คนแล้วในขณะที่คนที่สามหนีไป ณ ตอนนี้กองทัพของเรากำลังเดินไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรเกอซุน เราได้ยินมาว่าป้อมปราการทางเหนือนั้นค่อนข้างดื้อรั้น ดังนั้นเราทั้งสี่คนจึงตัดสินใจมาสนับสนุน ข้าเชื่อว่าป้อมปราการทางทิศตะวันออกจะถูกทำลายโดยอาณาจักรวายุคราม”
ผู้อาวุโสจากอาณาจักรมังกรซ่อนพูดด้วยเสียงอันดังเพื่อโจมตีขวัญกำลังใจของทหารในฐานที่มั่น
ทันทีที่พวกเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้นทหารหลายคนเริ่มสูญเสียความกล้าหาญในการต่อสู้ พวกเขาหลายคนล้มลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่แข็งทื่อราวกับหิน ขณะที่คนอื่นเริ่มปลดเกราะของตัวเองและยอมรับความพ่ายแพ้
“อาณาจักรเกอซุนวางอาวุธของเจ้า แล้วเราจะปล่อยเจ้าไป” ผู้เฒ่าพูดออกมาจากกลางอากาศ เสียงของเขานั้นยิ่งใหญ่อยู่ระดับสูงในอากาศ
“อาณาจักรเกอซุนของเราไม่มีคนขี้ขลาด ! เรายอมตายมากกว่าตกเป็นทาส ! ” ผู้บัญชาการคนหนึ่งร้องออกมาอย่างไม่กลัวตาย
“โอหัง ! ” ดวงตาของผู้เฒ่ามีแววอันตรายขณะที่โบกมือ ทันใดนั้นกระบี่สีเหลืองก็ปรากฏขึ้นจากอากาศจาง ๆ ก่อนที่จะบินตรงไปหาผู้บัญชาการ
“ตูม!”
กระบี่ธาตุดินถล่มผู้บัญชาการทันทีและสังหารเขาโดยไม่ชักช้า
” ผู้บัญชาการหลิง!”
” ผู้บัญชาการหลิง!”
……
ผู้บัญชาการที่อยู่ใกล้เคียงเริ่มร้องอย่างโศกเศร้าเมื่อสหายของพวกเขาเสียชีวิต
เจียงหวูจี่และคาเฟอร์ทั้งคู่ถอนหายใจก่อนที่จะมองหน้าอย่างรู้กัน ทั้งคู่มีสีหน้าที่ตกลงปลงใจแล้วขณะที่ทั้งคู่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าไปหาเซียนสวรรค์ทั้งห้า พวกเขาทั้งสองพร้อมที่จะตายในสนามรบมากกว่าที่จะยอมรับชะตากรรมของพวกเขาในฐานะทาส
เซียนสวรรค์จากอาณาจักรปิงหยางมองดูเจียงหวูจี่ด้วยท่าทางดูถูก “เจียงหวูจี่, คาเฟอร์, เจ้าสองคนปรารถนาจะตายจริง ๆ หรือ ? ถ้าอย่างนั้นให้ข้าช่วยเจ้าในเส้นทางนั้น ! สหาย พวกเรารวมพลังของเราและฆ่าพวกเขาทั้งคู่ ! “
“เยี่ยม ข้าเคยได้ยินข่าวลือว่า เจียงหวูจี่มีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ในกรณีที่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นให้เราต่อสู้พร้อมกัน” ผู้อาวุโสจากอาณาจักรมังกรซ่อนพูด
หลังจากนั้นไม่นาน เซียนสวรรค์ทั้งห้าก็บินไปที่คนทั้งสองโดยมีเจตนาที่จะฆ่า
เจียงหวูจี่และคาเฟอร์ต่างก็มีสีหน้าไร้อารมณ์ แต่หัวใจของพวกเขาก็มีความตั้งใจจริง
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ พลังอันมหาศาลอีกพลังหนึ่งก็สามารถรับรู้สึกได้ว่ามาจากที่ไกล ๆ สิ่งเดียวที่มองเห็นได้จากที่ไกลคือความจริงที่ว่ามีเซียนสวรรค์ 5 คนที่ถูกห่อหุ้มด้วยแสงอันงดงามขณะที่พวกเขาบินมา
ในการปรากฏอย่างฉับพลันของ 5 คนนี้ แม้แต่เซียนสวรรค์ของอาณาจักรปิงหยางและอาณาจักรมังกรซ่อนก็ยังประหลาดใจเมื่อพวกเขามองดูร่างที่กำลังจะมาถึง
“อาณาจักรวายุครามได้ทำลายป้อมปราการตะวันออกแล้วและส่งคนมาช่วยพวกเราหรือ ? “
” เป็นไปไม่ได้ อาณาจักรวายุครามไม่น่าจะมาจากทิศทางนั้น ! “
เซียนสวรรค์อาณาจักรมังกรซ่อนเริ่มพูดคุยกันสักครู่ก่อนที่จะหันมาอย่างดุร้ายและมองดูผู้มาใหม่ทั้งห้า
อย่างรวดเร็ว เซียนสวรรค์ทั้งห้าก็หยุดห่างไป 100 เมตร มีผู้เฒ่า 4 คนและคนวัยกลางคน 1 คน ด้านหน้าเป็นผู้อาวุโสที่มีสัตว์อสูรสีขาวบริสุทธิ์ในมือ
ถึงตอนนี้เซียนทุกคนจากอาณาจักรมังกรซ่อนระมัดระวังตัวเนื่องจากผู้มาใหม่ทั้งห้าคนล้วนเป็นคนแปลกหน้า พวกเขาไม่รู้จักสักคนเดียวในหมู่ของพวกเขาซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ได้มาจากแถวนี้