เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 411: จับตัวฮ่องเต้.
ตอนที่ 411: จับตัวฮ่องเต้.
ภายในป้อมปราการทางตอนเหนือของอาณาจักรเกอซุนเงียบสงบชั่วคราว ทหารหลายคนเริ่มรักษาบาดแผลของตัวเองในขณะที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงสองสามคนยังคงรักษาอีกหลายคนอย่างสุดความสามารถด้วยพลังเซียนธาตุแสง บนกำแพง ทหารที่พันผ้าพันแผลหลายคนออกไปลาดตระเวนบริเวณนั้น ที่ซึ่งหัวของศัตรูที่เป็นเซียนสวรรค์ 9 คนแขวนอยู่บนกำแพง ซึ่งช่วยเป็นขวัญและกำลังใจให้กับทหาร
ทั้งสองด้านของกำแพง ช่างตีเหล็กจำนวนมากกำลังทำงานหนัก พวกเขาพยายามที่จะซ่อมแซมด้วยสิ่งของหลากหลายที่เรียงรายอยู่ในระยะ 1 เมตร พวกเขาถอดชิ้นส่วนที่เสียหายออกและแทนที่ด้วยชิ้นส่วนที่ใหม่กว่า
นอกป้อมปราการ ทหารหลายคนจากอาณาจักรเกอซุนกำลังขุดหลุมและฝังศพศพทหารที่เสียชีวิต ตอนนี้ กองทัพจากอาณาจักรปิงหยางอยู่ห่างออกไป 15 กิโลเมตรและยังคงแน่นิ่งโดยไม่ได้ตั้งใจที่จะเดินหน้าต่อไป หลังจากที่ได้เห็นเซียนสวรรค์ตายต่อหน้าพวกเขา พวกเขาก็ตกใจเกินกว่าที่จะโจมตีต่อไป
ภายในป้อมปราการ มีผู้บัญชาการรถหุ้มเกราะ 30 คนชุมนุมกันพร้อมกัน พวกเขามีสีหน้าเคร่งขรึม
“ทุกคน ข้าเพิ่งได้รับนกพิราบที่ส่งสารมาจากอีกสามป้อมปราการ ณ ตอนนี้กองทัพศัตรูได้บุกโจมตีพวกเขาและกำลังมุ่งหน้าสู่พระราชวัง เราได้รับบาดเจ็บสาหัส เซียนสวรรค์ได้ตายด้วยน้ำมือของศัตรู และเซียนสวรรค์อีกคนได้รับบาดเจ็บสาหัส เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว” ผู้อาวุโสพูดอย่างเคร่งขรึม
ใบหน้าของทุกคนแข็งทื่อขณะที่พวกเขารับฟัง เมื่อป้อมปราการอีกสามแห่งถูกทำลาย หากไม่มีความพยายามที่จะหยุดพวกเขา เมืองหลวงของอาณาจักรเกอซุนก็จะถูกโจมตีและอาณาจักรเกอซุนจะสิ้นสุดลงอย่างแท้จริง
“ในความคิดของข้า แม้จะมีที่ปรึกษาจักรพรรดิช่วยเรา มันก็จะไม่มีประโยชน์ ความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นกว้างใหญ่เกินไป และคนเพียง 5 คนเท่านั้น พวกเขาคงทำอะไรได้ไม่มากนัก” ผู้บัญชาการคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“ข้าหวังว่าพละกำลังของที่ปรึกษาจักรพรรดิจะเพียงพอที่จะข่มขู่ศัตรู ในความเชื่อของข้า ข้าคิดว่าพวกเขาจะไม่กล้ารุกรานอาณาจักรฉินหวง ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับว่าพวกเขาต้องเสี่ยงเจอกับทหารชั้นยอดหนึ่งล้านคนจากอาณาจักรฉินหวงเข้ามาทำลายอาณาจักรของพวกเขา”
“ข้าไม่เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยง่ายเช่นนั้น ทุกคนรู้ว่าอาณาจักรฉินหวงอยู่ไกลจากเรามาก อีกทั้งยังไม่มีความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างสองอาณาจักรเช่นกัน ข้าพนันได้เลยว่าศัตรูคงเชื่อว่าที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าคนไม่ใช่ตัวจริง และศัตรูคงคิดว่าพวกเขาเป็นเพียงทหารที่ถูกจ้างมาช่วยเหลืออาณาจักรเกอซุน”
“เจ้าพูดตรงประเด็น ข้าสามารถมองเห็นเหตุการณ์นั้นล่วงหน้า แม้จะมีอำนาจและศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรฉินหวง แต่มันก็ไม่สำคัญกับสถานการณ์ของเรามากนักหากเมืองของเราถูกรุกราน การป้องกันป้อมปราการของเราจะไม่มีประโยชน์ มันจะนำไปสู่การยอมแพ้”
ผู้บัญชาการเริ่มพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น ทุกคนพูดถึงมุมมองของตัวเองในเรื่องนี้ด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
“ข้าขอเสนอว่า เราควรจะส่งกองทหารหลายกองไปยังอีกสามป้อมเพื่อให้ความช่วยเหลือ ทุกคนคิดอย่างไร ? ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งเสนอ
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ทุกคนก็หรี่ตาและมีชายคนหนึ่งพูดว่า ” แต่กองหนุนทหารของเราสามล้านคน ทุกคนบาดเจ็บและเหน็ดเหนื่อย นอกจากนี้ยังมีทหารรับจ้างจำนวนมากที่ไม่ได้รับการฝึกฝน ข้าเชื่อว่าเราควรส่งกองทหารแนวหน้าไปยังป้อมเท่านั้น”
“นี่เป็นทางออกเดียวที่เป็นไปได้ ข้าเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้”
ถูกต้อง นี่เป็นแนวทางปฏิบัติเพียงอย่างเดียวของเราในตอนนี้ ป้อมปราการทางเหนือมั่นคงแล้ว อาณาจักรปิงหยางมีเซียนสวรรค์ 8 คน ซึ่งมีเพียง 2 คนที่ปกป้องพระราชวัง ข้าสามารถเดิมพันได้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าเคลื่อนไหวใด ๆ และจะเคลื่อนทัพของพวกเขาไปยังป้อมปราการอีก 3 แห่ง แม้ว่าเราจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ แต่อย่างน้อยเราก็ถ่วงเวลาไว้ได้”
………
หลังจากการสนทนาอย่างดุเดือด ผู้บัญชาการก็มาถึงข้อสรุป ผู้บัญชาการที่แข็งแกร่งและไม่ได้รับบาดเจ็บจะนำทหาร 2 ล้านคนและแบ่งออกเป็น 3 เส้นทางสู่ป้อมปราการ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงก็ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเช่นกัน
ไม่นานหลังจากนั้น เซียนสวรรค์ในป้อมปราการทางเหนือก็ได้รับข้อมูลใหม่ ก่อนที่เจียงหวูจี่และคาเฟอร์จะฟื้นตัว ทั้งสองก็เดินทางไปยังป้อมปราการทางทิศตะวันออกพร้อมกับสมาชิกคนอื่น ๆ จากตระกูลเจียงหยาง
เมื่อทหารออกไป 2 ล้านคน ป้อมปราการทางเหนือก็ว่างเปล่า ทหารที่เหลืออยู่มีหลายแสนคน อย่างไรก็ตามหลายคนได้รับบาดเจ็บหรือพิการ
กองทัพที่แข็งแกร่งของทหาร 2 ล้านคนยืนอยู่ด้านนอกของป้อมปราการทางเหนือมีผู้บัญชาการ 10 คนรวมตัวกันอย่างเคร่งขรึม ผู้บังคับการหลายคนที่นี่มีอาวุโสซึ่งเป็นหนึ่งในเซียนสวรรค์ที่ถูกฆ่าตาย
“แม่ทัพฮง ท่านกำลังลังเลอะไรอยู่ ? มีเพียงคนพิการและผู้บาดเจ็บที่เหลืออยู่ในป้อมปราการ หากท่านสามารถส่งสัญญาณบุก เราจะสามารถบุกเข้ายึดป้อมปรากรได้สำเร็จ ! เซียนสวรรค์ของอาณาจักรเกอซุนเหล่านั้นจะต้องพ่ายแพ้ให้กับบรรพชนของเรา”
“ไม่ อาณาจักรปิงหยางของเราสูญเสียพลังไปอย่างมากเนื่องจากเซียนสวรรค์ทั้งแปดคนที่ต้องตาย ความแข็งแกร่งของเรามีไม่ถึงครึ่งที่เคยเป็น ดังนั้นเราควรคิดเกี่ยวกับวิธีการป้องกันตัวเองจากอาณาจักรเกอซุน แทนที่จะคิดเรื่องการบุกรุกพวกเขา” ผู้อาวุโสที่สวมชุดเกราะพูดอย่างจริงจัง อาณาจักรปิงหยางสูญเสียเซียนสวรรค์ไป 8 คน พวกเขาเป็นนักสู้ระดับสูงสุดของอาณาจักร และการตายของพวกเขาทำให้อาณาจักรไร้อำนาจอย่างสิ้นเชิง
ผู้อาวุโสอีกคนพูดขึ้นมาทันทีว่า “ท่านแม่ทัพฮงพูดถูก ตอนนี้เซียนสวรรค์ของเราลดลงเหลือ 2 คน – ทั้งคู่กลับเข้ามาในพระราชวัง ถ้าอาณาจักรมังกรซ่อน, อาณาจักรวายุคราม, และอาณาจักรอันเดรียสบุกอาณาจักรเกอซุน ใครจะรับประกันกับเราได้ว่าพวกเขาจะไม่ใช้ประโยชน์จากความอ่อนแอของเราและหันมาบุกรุกอาณาจักรของเราเอง ? “
“ท่านหมายถึงว่าเราจะไม่ได้ล้างแค้นให้กับการตายของบรรพชนของเราหรือ ? ” ผู้บัญชาการอีกคนพูดด้วยความตื่นตระหนก
“ไม่ต้องกังวล คราวนี้อาณาจักรเกอซุนจะล่มสลายอย่างแน่นอน เซียนสวรรค์เหล่านั้นจะต้องตายในไม่ช้าเช่นกัน เมื่อพวกเขาตาย บรรพชนจะได้รับการล้างแค้น อย่าบอกข้าว่าท่านต้องการที่จะฆ่าเซียนสวรรค์ด้วยพลังเซียนปฐพีของท่าน ? ” แม่ทัพฮงพูดอย่างเย็นชา
ณ จุดนี้ แม่ทัพที่เคียดแค้นให้กับบรรพชนที่ถูกสังหารถอนหายใจ เขารู้ว่าเขาไม่มีพลังที่จะทำสิ่งนี้
กองทัพของอาณาจักรปิงหยางไม่มีเหตุผลที่จะโจมตีป้อมปราการของอาณาจักรเกอซุน สิ่งที่พวกเขาทำได้คือยืนห่างออกไป 30 กิโลเมตรและรอ
อย่างไรก็ตามไม่นานป้อมปราการของอาณาจักรปิงหยางก็มาพร้อมกับข้อมูลบางอย่างจากพระราชวัง รายงานกล่าวว่าเซียนสวรรค์นิรนามได้เข้ามาในเขตแดนของอาณาจักรปิงหยางและเริ่มโจมตีพระราชวัง
ทันทีที่มีการประกาศข้อมูลนี้ให้กับทุกคน ผู้บัญชาการมองหน้ากันก่อนที่จะรีบนำกองทัพกลับไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
………
ในเขาวงกตใต้ดิน ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรปิงหยางและผู้คุ้มกันหลายคนของเขามองอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ผนึกซึ่งมีโต๊ะหยกตั้งอยู่ หยกนี้เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดในทวีปนี้ และถูกเรียกว่าหยกแฝด หยกชุดนี้มี 2 ชิ้นและในกรณีที่ชิ้นหนึ่งหัก, อีกชิ้นส่วนจะแตกสลายอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น
หยกชิ้นหนึ่งตั้งอยู่ในเขาวงกตใต้ดินในขณะที่อีกชิ้นอยู่ในที่ลับสุดยอด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่ามันมีอยู่จริง และเมื่ออันตรายจากอาณาจักรหมดไป คนที่อยู่ด้านนอกจะทำลายชิ้นหยกและแจ้งให้ฮ่องเต้ที่ซ่อนอยู่รู้
ตอนนี้ทหารผู้คุ้มกันและฮ่องเต้กำลังรอให้โต๊ะหยกแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ทันใดนั้นฮ่องเต้และผู้คุ้มกันของเขาก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ กำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางของพวกเขา ขณะที่พวกเขาหันไปมอง กำแพงเหล็กที่ปกป้องพวกเขาเริ่มเปล่งประกายด้วยแสงสีฟ้าและสีม่วง
ทุกคนหน้าซีดด้วยความกลัวและสิ้นหวังขณะที่มองดูแสงไฟ พวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร แต่ลางสังหรณ์เริ่มไหลวนในตัวพวกเขา “นั่นคืออะไร ? ” แม้แต่ฮ่องเต้ก็ไม่สามารถรักษาความเยือกเย็นของตัวเองไว้ได้
อย่างไรก็ตามไม่มีใครตอบฮ่องเต้ พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในจุดที่พวกเขาสามารถทำได้เพียงจ้องมองรูด้านหน้า
แสงสีฟ้าและสีม่วงเริ่มเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ก่อนที่จะกระจายออกไปทั่วผนังเหล็ก เมื่อแสงถูกสาดผ่านผนัง รอยแตกก็จะกระจายไปทั่วเหล็ก
“ไม่ เขากำลังทำลายผนัง ! ” ทหารคนหนึ่งร้องออกมาด้วยความกลัว ผนังเหล็กถูกสร้างขึ้นให้มีความหนา 10 เมตรและสามารถทนต่อพลังของเซียนสวรรค์ได้ แต่ตอนนี้ศัตรูของพวกเขาทุบมันจนแตก ผู้บุกรุกคนนี้แข็งแกร่งเพียงใด ?
ทหารและฮ่องเต้เริ่มซวนเซด้วยความกลัวขณะที่พวกเขามองเห็นแสงไฟทั้งสองยังคงทำลายผนังเหล็กด้านหน้าพวกเขา
“เป็นไปไม่ได้ นี่ไม่ใช่กำแพงปกติธรรมดาที่จะถูกทำลายง่าย ๆ เช่นนี้ ! ศัตรูของเราเป็นเซียนผู้คุมกฎหรือ ? ” ฮ่องเต้ไม่สามารถซ่อนความกังวลใจใด ๆ ของเขาได้ในขณะนี้ เสียงของเขาสั่นเครือ
ปัง !
ในช่วงเวลาที่ฮ่องเต้พูด มีการระเบิดอีกครั้งพวกเขาได้ยินเสียงชิ้นส่วนของกำแพงบินมาก่อนที่จะพังทลายลงมาที่พื้น ทุกคนสามาสามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นกระแทกที่รุนแรงในขณะที่เหล็กแต่ละชิ้นกระแทกกับพื้นและผนังก็มีรูสูง 2 เมตร
พวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่คมชัดที่มุ่งหน้าเข้ามา ร่างชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาวมีเลือดไหลลงมาอย่างช้า ๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา ชายคนนี้ไม่แก่และน่าจะมีอายุยี่สิบต้น ๆ เขาดูสง่าสมกับรูปร่างทั้ง ๆ ที่แทบจะไม่มีผม
ฮ่องเต้และทหารคนอื่น ๆ ต่างก็มองดูด้วยความหวาดกลัวขณะที่ขาของพวกเขายังคงถอยไปข้างหลัง
“ทำไม..เจ้าเป็นใคร ? ” ฮ่องเต้ถาม
เจี้ยนเฉินไม่พูดอะไรเลยและเดินตรงไปหาฮ่องเต้ด้วยสายตาเย็นชา ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรปิงหยางเป็นชายชราชรา เขาสวมเสื้อคลุมและมงกุฎมังกรสีม่วงทอง เขาดูสูงส่งและสง่า แต่ภายใต้สายตาพิฆาตของเจี้ยนเฉิน มันทำให้เขาก็รู้สึกกลัวอย่างมาก
เจี้ยนเฉินเดินไปข้างหน้ามุ่งไปยังกลุ่มที่ซ่อนตัว
“ปกป้องฮ่องเต้ ! ” ทหารคุ้มกันคนหนึ่งร้องออกมาก่อนที่จะละทิ้งความกลัวและพุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉิน
เมื่อมีชายคนหนึ่งเป็นผู้นำ คนอื่น ๆ ก็ไม่กล้าแสดงความกลัว พวกเขากระโจนเข้าใส่เจี้ยนเฉินด้วยความลังเลใจเฮือกสุดท้าย