เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 473: ภัยพิบัติที่ตระกูลเจียงหยาง
ตอนที่ 473: ภัยพิบัติที่ตระกูลเจียงหยาง
ที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้ารีบพุ่งเข้าไปใส่เซียนสวรรค์ทั้งสอง พวกเขาพุ่งเข้าปะทะคนอื่นอีก 3 คนหลังจากที่จัดการ 2 คนนั้นไปได้แล้ว
น่าละอายยิ่งนัก ! ใครเป็นคนรับผิดชอบในการสอดแนมข้อมูล ? ตระกูลเจียงหยางมีผู้เชี่ยวชาญมากมายได้อย่างไร ? ชายทั้งห้าที่ต่อสู้กับเจียงหวูจี่ได้เอากระดาษจดขึ้นมาก่อนที่จะผละออกจากเขาไป 3 คนลงไปยังด้านล่างทันทีและบินเข้าปะทะกับคนที่มาใหม่ทั้ง 5 ส่วน 2 คนที่เหลือรับมือกับเจียงหวูจี่
ที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าไม่พูดอะไรแม้แต่น้อยและปะทะกับคนจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์อย่างดุเดือด ในบรรดาคนที่มาจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์มีเซียนสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อาวุโสในเสื้อคลุมสีแดงเท่านั้นซึ่งกำลีงเผชิญหน้ากับเซียวเทียน ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็รับมือกับอีกฝ่าย
ชายวัยกลางคนที่เป็นคนควบคุมราชาแห่งเกอซุนได้ส่งราชาให้กับอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ และพูดว่า ข้าจะปล่อยให้ราชาอยู่กับเจ้า ดูแลเขาดี ๆ ส่วนข้าจะไปรับมือ
ชายอีกคนที่รับราชามาและยังมีไป๋เต๋าที่สลบอยู่ในมือพร้อมกับพูดว่า ระวังตัวด้วย !
ชายวัยกลางคนพยักหน้าอย่างจริงจังก่อนที่จะชักอาวุธเซียนและเข้าร่วมต่อสู้ ตอนนี้มีเซียนสวรรค์ทั้งหมด 10 ที่กำลังต่อสู้กัน การต่อสู้อยู่เหนือพื้นที่ตระกูลเจียงหยางพร้อมกับพลังที่แข็งแกร่ง
ชายผมแดงที่เป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 4 ยังคงแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับเซียวเทียนอยู่หลายครั้ง เพียงสักพักเซียวเทียนก็ได้จังหวะก่อนที่จะกระแทกฝ่ามือเข้าหน้าอกของชายผมแดงจนกระอักเลือดและมีสีหน้าย่ำแย่
เซียวเทียนเป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 5 และเป็นที่ปรึกษาของอาณาจักรฉินหวง ความแข็งแกร่งของเขานั้นเกิดกว่าเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 5 คนอื่น ๆ และอาจกล่าวได้ว่าเขาเทียบได้กับเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6 ดังนั้นมันจึงมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนอย่างมากกับเซียนสวรรค์ที่มาจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์กับเขา
เมื่อเห็นความแข็งแกร่งของเซียวเทียน ชายผมแดงก็ดูขึงขังอย่างมาก ใบหน้าของเขากระตุกก่อนที่จะพูดว่า อาณาจักรเกอซุนไม่เคยมีผู้เชี่ยวชาญอย่างเจ้า เจ้าไม่ได้อยู่ในอาณาจักรนี้ เจ้าเป็นใคร ?
เซียวเทียนไม่ต้องการตอบและฟันอาวุธไปยังชายผมแดงอย่างรุนแรง พริบตาชายผมแดงไม่มีทางเลือกนอกจากป้องกันการโจมตีด้วยอาวุธของเขาเอง
เข้ามาช่วยข้า ! เมื่อติดอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม ผู้เฒ่าผมแดงก็ไม่สนใจกับความภาคภูมิใจอีกต่อไป เขาตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
เมื่อได้ยินชายผมแดงตะโกนขอความช่วยเหลือ ชายอีกสองคนก็หันหน้ามามองอย่างซีดเซียว ปากของเขายังคงมีเลือดอยู่แต่พวกเขาก็ยังเข้าร่วมต่อสู้ทันทีเพื่อที่พวกเขาจะได้เปรียบเซียวเทียนจาก 3 รุม 1
ชายสองคนนี้เป็นกลุ่มแรกที่รับผิดชอบในการจับองค์หญิง แต่พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทันทีจากการปรากฏตัวของที่ปรึกษาจักรพรรดิ หลังจากที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บจากคนทั้งห้า ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่อาจใช้ได้เต็มที่และมีเพียง 7 ส่วนเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกับชายผมแดง แต่พวกเขาก็ยังไม่อาจเอาชนะเซียวเทียนได้ อย่างมากพวกเขาก็ยังคงประคับประคองความสมดุลได้อยู่
ดังนั้นเซียนสวรรค์อีก 3 คนจึงหยุดโจมตีเจียงหวูจี่และหันไปต่อสู้กับเซียวเทียน ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ไม่ห่างจากเซียวเทียนและหลังจากที่ได้แลกเปลี่ยนกันได้ครั้งหนึ่ง พวกเขาก็เริ่มที่จะได้เปรียบแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะย่ำแย่เพราะพวกเขาไม่อาจตอบโต้ได้ทันท่วงที
มีเซียนสวรรค์ 10 คนจากอาณาจักอินทรีสวรรค์ หนึ่งในนั้นจับราชาและไป่เต๋าอยู่ ขณะที่อีก 9 คนยังคงติดพันการต่อสู้ใกล้ ๆ ในบรรดา 9 คน เซียวเทียนต่อสู้กับอีก 3 คน เจียงหวูจี่รับมือ 2 คนและพวกเขาทั้งคู่ก็กำลังจะได้ชัย ส่วนที่เหลืออีก 4 คนยังคงต่อสู้กับ 4 ที่ปรึกษาจักรพรรดิที่เหลือ
ฉิงเส้าฟาน,ตงยี่จุนป่าย,เกาอวี่ฉินและเทียนลั่ว เป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 3 และ 4 ความแข็งแกร่งของพวกเขาเทียบได้กับเซียนสวรรค์ชั้นแนวหน้าและการต่อสู้ของพวกเขาก็เต็มไปด้วยแรงกดดันต่อคนที่มาจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์
ผู้ที่มีความแข็งแกร่งเท่ากันจะพบว่านี่เป็นงานที่ยากมากที่จะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามในการต่อสู้ตัวต่อตัว อย่างไรก็ตามอาณาจักรฉินหวงได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแปดมหาอำนาจ แถมยังมีฉายาว่าอันดับสองในมหาอำนาจทั้งสามในทวีปเทียนหยวน การที่จะเป็นที่ปรึกษาจักรพรรดิได้นั้นพวกเขาต้องเป็นผู้ที่ฝีมือดีที่สุดในหมู่พวกเขา
เมื่อเซียนสวรรค์ทั้ง 15 คนทำการต่อสู้กัน การปะทะพวกเขาแต่ละครั้งได้สร้างเสียงระเบิดดังมากซึ่งสามารถได้ยินจากที่ไกล ๆ เมืองลอร์ทั้งหมดตอนนี้ได้หยุดการกระทำลงและจ้องมองไปยังด้านบนของตระกูลเจียงหยางด้วยความสับสน
แม้แต่ทหารรับจ้างที่กินอาหารอยู่ใกล้เคียงก็วิ่งออกมาถนนหรือไปยังจุดที่สูงที่สุดของร้านค้าเพื่อสังเกตและพูดคุยด้วยกัน
เกิดอะไรขึ้น ทำไมมีเสียงดังขึ้นมา ?
เสียงดังมาจากตระกูลเจียงหยาง มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นเหนือคฤหาสน์เจียงหยาง
….
เสียงที่เกิดจากการต่อสู้ของเซียนสวรรค์นั้นทำให้ทุกคนทั้งเมืองลอร์ได้ยิน แม้ว่าจะมีระยะห่างจากตระกูลเจียงหยางและตัวเมืองอยู่ แต่เสียงการต่อสู้ก็ยังถูกผู้เชี่ยวชาญหลายคนสัมผัสได้
ภายในลานกว้างกลุ่มทหารรับจ้างที่ดูแข็งแกร่งคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องของเขาอย่างรวดเร็วขณะที่เขามองขึ้นไปบนฟ้า เกิดอะไรขึ้น พลังงานโลกถึงได้แปรปรวนอย่างนี้ ? อาจเพราะมีเซียนสวรรค์หลายคนต่อสู้กันอยู่ใกล้ ๆ ?
ภายในลานกว้างอีกสามตระกูลใหญ่ในเมืองลอร์ เซียนปฐพีหลายคนได้มารวมตัวกันและจ้องมองไปยังท้องฟ้าด้วยความตกใจ
พลังงานของโลกกำลังผันผวนอย่างรุนแรงแม้กระทั่งเซียนปฐพีก็ยังรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือน ปริมาณพลังงานของโลกที่ผันผวนอยู่นี้ทำให้บางคนถึงกับสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว
ผลกระทบที่มาพร้อมกับการต่อสู้ในตอนนี้เป็นอันตรายอย่างมาก หากเซียนสวรรค์ยังคงสู้กันอยู่
ความผันผวนของพลังงานของโลกมาจากทิศทางที่ตระกูลเจียงหยางอยู่ มันเกิดสงครามกันที่นั่น ?
ตระกูลเจียงหยางมีเซียนสวรรค์เพียงคนเดียวในเมืองลอร์ มันอาจเกิดอะไรขึ้นที่นั่นก็เป็นได้ ?
ชายคนหนึ่งจากสามตระกูลกำลังพูดกับเซียนปฐพีด้วยความคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น แต่ละคนต่างก็อยากรู้อย่างมากและรีบออกไปยังที่ตั้งตระกูลเจียงหยางทันที
แม้ว่าผู้คนในเมืองลอร์ยังคงตื่นตระหนก แต่ก็มีเซียนปฐพีหลายคนรีบรุดไปยังคฤหาสน์เจียงหยางทันที
ถึงตอนนี้เซียนปฐพีทั้งหมดในเมืองลอร์ต่างก็คาดเดากันว่ามีเซียนสวรรค์หลายคนได้มาต่อสู้กันอย่างรุนแรงมาก พวกเขาหยุดทำทุกอย่างและวิ่งไปยังแหล่งที่มาของเสียง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลเจียงหยาง การต่อสู้ระหว่างเซียนสวรรค์ก็ไม่ควรจะพลาดชม มันเป็นโอกาสสำหรับพวกเขา มีโอกาสหนึ่งในนั้นที่อาจจะเข้าใจถึงความลึกลับของโลกจากเซียนสวรรค์และอาจบรรลุเป็นเซียนสวรรค์ได้
คนทั้งหมดในคฤหาสน์ในตระกูลเจียงหยางตกอยู่ในความโกลาหล เมื่อมีเซียนสวรรค์ 10 คนมาต่อสู้กัน ทุกคนรู้สึกราวกับว่าหัวของพวกเขาเจ็บจนแทบจะระเบิด คนที่อยู่รอบ ๆ ตกอยู่ในความวุ่นวาย ยามและคนรับใช้วิ่งพล่านไปทั่ว มีคนบางคนที่โชคร้ายถูกคลื่นพลังงานกระแทกจนตกตายไปในที่สุด
ภายในไม่กี่นาทีบรรดาห้องพักทั้งหลายก็พังลงหลังจากที่รับความเสียหายและแทบจะยุบลงทั้งหมด แม้กระทั่งศาลาที่เก็บทักษะก็พังลงและหอคอยสูง 10 เมตรก็พังลงเช่นกัน คนรับใช้หลายคนที่ยังคงอยู่ในภายในอาคารขณะที่มันยุบตัวลงก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
นายท่าน โปรดหนีไป ! ยามหลายคนที่มีความภักดีต่อเจียงหยางป้าเมื่อได้ยินเสียงด้านนอก พวกเขาก็พยายามที่จะเขาหลบหนีไปจากอันตราย
ฮูหยิน โปรดรีบหนีไป ! ยามอีกหลายคนกำลังพยายามนำหลิงหลงผู้ที่กำลังหวาดกลัวหลบหนีไปด้วยเช่นกัน
เกิดการระเบิดของเพลิงกลางอากาศและตกลงมายังสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากมันเป็นไฟ ดังนั้นทุกสิ่งที่โดนมันก็ลุกไหม้ทันที
อาหู่ อาหู่ ! ช่วยเหลืออาหู่เร็ว ๆ เขายังอยู่ในห้องของเขา ! หลิงหลงตกตะลึงทันที นางรีบวิ่งไปยังห้องที่กำลังถูกเผาไหม้ห้องหนึ่ง
ปกป้องฮูหยิน ข้าจะช่วยนายน้อยเอง ! หนึ่งในหัวหน้ายามตะโกนออกมาก่อนที่จะเข้าไปยังห้องที่ถูกเผาก่อนที่เจียงหยางป้าจะสั่ง
เร็วเข้า รับพาฮูหยินทั้งสองไปยังห้องใต้ดิน ! ยามได้นำหยู่เฟิ่งหยานที่กำลังตกใจเข้าไปยังห้องใต้ดิน
ในเวลาเดียวกันไป๋หยุนเทียนก็ถูกยามพาเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน
ฮูหยินสี่ มันอันตราย โปรดเข้ามาในห้องใต้ดิน ยามพูดอย่างกระวนกระวาย แต่ในขณะที่พวกเขาพูด ปราณกระบี่จำนวนมากที่สามารถมองเห็นได้จากบนฟ้าก็ตกลงมายังพื้นดินและทำให้เกิดรูขึ้น ทันใดนั้นสีหน้าของยามก็แข็งทื่อก่อนที่จะมีเลือดไหลออกมาจากศีรษะของเขาก่อนที่จะล้มลงบนพื้น
หัวหน้า หัวหน้า ! เกิดอะไรขึ้น ! ยามที่พาไป๋หยุนเทียนไปก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นตกใจก่อนที่จะวิ่งไปหาหัวหน้าที่นอนอยู่ที่พื้น
ไม่มีเวลาแล้ว รีบพาฮูหยินสี่ลงไปเร็ว ๆ ! ยามอีกคนพูดออกมาอย่างเจ็บปวดก่อนที่จะใช้ร่างของเขาปกป้องไป๋หยุนเทียนและเข้าไปยังพื้นที่หลบภัย
ในเวลานี้พลังงานที่รุนแรงก็พุ่งจากบนฟ้าลงมายังหลังคาด้านหนึ่งที่ไป๋หยุนเทียนอยู่ ทำให้ทหารที่อยู่รอบ ๆ ตัวนางตกใจอย่างมาก
ในตอนนั้นแสงสีฟ้าได้พุ่งเข้ามาให้เห็น หมิงตงที่สวมชุดคลุมขาวก็เข้ามา ปราณกระบี่ของเขาได้แยกซากตึกออกเป็นสองข้างเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย
หมิงตงมองยังพายุพลังงานเหนือพวกเขาและหันกลับมามองไป๋หยุนเทียนอย่างเคร่งขรึม ข้าจะนำทางเอง ตู่กูเฟิง เจ้ารักษาความปลอดภัยให้กับท่านน้าไป๋ให้ดี อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่อาจมองหน้าเจี้ยนเฉินได้อีก ?
ตู่กูเฟิงยืนอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับแสดงท่าทีระมัดระวัง ข้าจะทำให้ดีที่สุด แต่การต่อสู้ของเซียนสวรรค์นั้นไกลเกินกว่าที่เราจะร่วมได้ ขณะที่พลังงานปลิวว่อนขนาดนี้แม้กระทั่งพวกเราทั้งสองคนก็ต้องระมัดระวังให้ดีเช่นกัน
เข้าใจแล้ว พาพวกเขาไปยังพื้นที่ปลอดภัย เจ้าน่าจะหนีออกไปจากพวกมันได้ หมิงตงเริ่มเป็นหัวหอกนำทาง ขณะที่ตู่กูเฟยวิ่งเข้าไปปกป้องไป๋หยุนเทียนจากอันตรายภายนอก