เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 508: ความแข็งแกร่งของเซียนผู้คุมกฎ (2)
ตอนที่ 508: ความแข็งแกร่งของเซียนผู้คุมกฎ (2)
ท้องฟ้าส่องแสงสีม่วงออกมาในตอนที่ได้เอาลำแสงสีฟ้าและสีม่วงห่อหุ้มรอบตัวเขาเอาไว้ เป็นเพราะเจี้ยนเฉินเคลื่อนที่ได้เร็วเกินไปทำให้พลังงานดั้งเดิมของจิตวิญญาณกระบี่สีม่วง-ฟ้าเปลี่ยนเป็นม่านแสงปกคลุมร่างกายเขา
ถึงแม้ว่าเจี้ยนเฉินจะสูญเสียพลังงานเซียนไปซึ่งนั่นทำให้เขาช้ากว่าเดิมหลายเท่าตัว แต่กล้ามเนื้อได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขา แม้ว่าเขาจะไม่มีพลังงานเซียนแต่ด้วยพลังงานในร่างกายเขาแล้ว ความเร็วของเขาก็อยู่ในระดับสูงได้
แม้ว่าชายทั้งสามคนพยายามที่จะเอาชนะเจี้ยนเฉิน แต่พวกเขารู้อยู่แล้วว่าพวกเขาคงไม่สามารถแม้แต่สัมผัสพลังงานอันแปลกประหลาดที่เจี้ยนเฉินครอบครองได้ อาวุธเซียนของพวกเขาไม่ได้เข้าใกล้เจี้ยนเฉินแม้แต่นิดเดียว นั่นทำให้ทั้ง 3 คนเหมือนกับโดนมัดมือมัดเท้าเอาไว้ พวกเขาไม่สามารถเข้าต่อสู้ได้แม้จะมีความสามารถเช่นไร มันช่างรู้สึกสิ้นหวังเสียจริง ๆ
ไม่ว่าเขาจะฟาดฟันไปที่เจี้ยนเฉินมากเพียงใดแต่ในตอนที่พวกเขาโจมตีเข้าไปนั้นจะมีพลังงานขึ้นมาหยุดการโจมตีของพวกเขาเอาไว้ พลังงานนั่นมันพุ่งมาตรงอาวุธของพวกเขาและทำให้พวกเขาต้องยกเลิกการโจมตีเพื่อหลบพลังงานนั้น ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาคงได้รับการโจมตีอันรุนแรง
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วชายทั้ง 3 คนก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดอย่างรุนแรง ทันใดนั้นเจ้าสำนักและชายชราก็ได้ส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกันและได้ใช้ทักษะต่อสู้เข้าปะทะกับเจี้ยนเฉิน
อาวุธเซียนทั้งสองเปล่งแสงออกมาและได้พุ่งผ่านท้องฟ้าไปด้วยความเร็วแสง ความกดดันที่การโจมตีนั้นมีเหมือนว่าจะผ่าโลกออกเป็นเสี่ยง ๆ
เมื่อสัมผัสได้ถึงความกดดันนั้น เจี้ยนเฉินก็ได้เลียปากพร้อมกับพูดอย่างเย็นชาขึ้น “เจ้าคิดว่าทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีนั้นจะทำให้ข้าบาดเจ็บได้งั้นหรือ ? ! “
ฟุ๊ซ ! ฟุ๊ซ !
ทันทีที่เขาพูด เขาก็ได้ฟันกระบี่ออกไป 2 ครั้งเข้าปะทะกับทักษะต่อสู้ทั้งสอง ทันทีที่เข้าปะทะกัน มันก็ได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้เกิดพายุทรายครอบคลุมทั้ง 4 คนเอาไว้
ร่างกายของเจี้ยนเฉินได้ส่องแสงออกมาและเขาก็ได้นำเอาธาตุลมขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายเขาไว้
เมื่อแสงสีครามส่งประกายพร้อมกับแรงหนุนของธาตุลมที่ร่างกายเจี้ยนเฉินมี แค่เพียงเสี้ยวพริบตาเขาก็ได้ไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าคริส เขาแกว่งมือขวาของเขาทำให้เกิดพลังงานดั้งเดิมของกระบี่ฟาดฟันไปยังคริส
ใบหน้าของคริสซีดลง เขาได้ถอยกลับไปเพื่อหลบการโจมตีพวกนั้น
ตอนนี้ชายอีกสองคนจากนิกายพยัคฆ์มังกรนั้นได้อยู่ห่างออกไป 10 เมตร เนื่องจากแรงสะท้อนจากระเบิด พวกเขายังไม่สามารถเข้าไปช่วยคริสได้ เจี้ยนเฉินรู้ว่านี่คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะจัดการพวกนั้นทีละคน และเขาจะสูญเสียโอกาสนี้ไปไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับไล่ตามคริส
แม้ว่าคริสจะอยู่ในระดับเซียนขั้นที่ 6 แต่เขานั้นไม่มีธาตุลมซึ่งทำให้ความเร็วของเขานั้นไม่สามารถเทียบเคียงเจี้ยนเฉินได้ ระยะห่างของทั้งคู่นั้นลดลงอย่างรวดเร็ว แค่เสี้ยวพริบตาเจี้ยนเฉินก็ไล่ตามเขาทัน ทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงสีม่วงและแสงสีฟ้า แสงนั่นมันส่องแสงมาจากร่างกายของเจี้ยนเฉิน ไม่มีทางที่เขาจะหนีได้เลย
“งั้นให้ข้า คริส รับมือกับพลังงานอันลึกลับแสนอันตรายนี่ ฮูป้าเองเคยบอกกล่าวเอาไว้แล้ว” ดวงตาของคริสส่องประกายโหดร้ายออกมา เขาได้ชักดาบออกมาพร้อมกับฟันไปที่เจี้ยนเฉินด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี
ดาบของคริสนั้นได้ฟันมาข้างหน้า ทันทีที่ดาบยักษ์นั่นเข้ามาใกล้หน้าอกของเจี้ยนเฉิน มันก็ได้เกิดเสียงปะทะกันดังขึ้น
“ติ๊ง ! “
พลังงานดั้งเดิมของจิตวิญญาณกระบี่นั้นปะทะเข้ากับดาบของคริส และทำให้เกิดเสียงเหมือนเสียงของเหล็กเข้าปะทะกัน พลังงานดั้งเดิมนั้นได้ย่อตัวลงแม้ว่าพลังงานดั้งเดิมนี้จะไม่ใช่ประเภทเดียวกับกระบี่เซียนแต่ความแข็งแกร่งที่มันมีก็เหมือนเหล็ก
ทันทีที่เกิดเสียงปะทะ ใบหน้าของคริสก็ได้ซีดลงก่อนที่จะกระอักเลือดออกมาจากปากของเขา
แม้ว่าฮูป้านั้นจะอยู่ในระดับเซียนสวรรค์ขั้นที่ 6 อีกทั้งยังมีอาวุธเซียนที่เชื่อมตรงเข้ากับเจ้าของ แม้ว่าอาวุธเซียนนั้นไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บปวด แต่ไม่ว่าผู้ใช้นั้นจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่เขาก็จะได้รับพลังโจมตีที่เท่ากับอาวุธที่เขาได้รับ แม้แต่เซียนผู้คุมกฎก็มิใช่ข้อยกเว้น
“พลังนี่ช่างน่าหวาดหวั่นเสียจริง ๆ ฮูป้าพูดถูก พวกเราไม่สามารถสู้เขาได้” ฮูป้าพูดกับตนเอง หลังจากที่เขาได้เข้าปะทะกับพลังงานดั้งเดิมอันน่ากลัว นี่มันก็ทำให้เขารู้ว่ามันน่าอัศจรรย์เพียงใด
ในตอนที่คริสครุ่นคิดอยู่ เจี้ยนเฉินก็ได้ฟันกระบี่มาอีก 2 ครั้งเข้าสู่อาวุธของฮูป้า ก่อนที่ฮูป้าจะเก็บมันลงไป
ร่างกายของคริสสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมกับกระอักเลือดมาอีก 2-3ครั้ง ใบหน้าของเขาซีดขาวและได้มีรอยบิ่นอยู่สามรอยบนดาบของเขา ตอนนี้ร่างกายเขาเข้าสู่ภาวะอันตรายแล้ว
“หัวหน้านิกาย ! “
“ระวังตัวด้วย หัวหน้านิกาย ! “
เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของคริส ฮูป้าและชายชราอีกคนก็ร้องออกมา พวกเขาบินด้วยความเร็วที่สุดที่สามารถทำได้เพื่อดึงดูดความสนใจของเจี้ยนเฉิน
การโจมตีที่อาวุธเซียนได้รับนั้นสามารถส่งต่อความเจ็บปวดอันมหาศาลให้แก่ร่างกาย ความสามารถของคริสลดลงอย่างมาก เนื่องจากเจี้ยนเฉินนั้นไม่ได้มุ่งหมายเอาชีวิตเขา แต่เจี้ยนเฉินได้เปลี่ยนเป้าหมายไปยังฮูป้าและชายชราอีกคน
ความกดดันที่เจี้ยนเฉินได้รับลดลงเมื่อไม่มีเซียนสวรรค์ขั้นที่ 6 เข้าร่วมต่อสู้ เขาสามารถปลดปล่อยกระบี่ออกมาได้เรื่อย ๆ โดยใช้จากพลังงานดั้งเดิมของเขา เมื่อเขาโจมตีสำเร็จก็ได้ทำให้ฮูป้าและชายชราอีกคนกระอักเลือดออกมาเช่นกัน
“บัดซบ พลังงานนี่ทำไมมันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ? ” ฮูป้าก่นด่าออกมาพร้อมกับปาดเลือดตรงปาก พลังงานด้งเดิมของจิตวิญญาณกระบี่นั้นทำให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้จะมีพลังงานเหลืออยู่ในร่างกายเขา แต่เขาก็กลัวจนไม่สามารถใช้มันออกมาได้
ในตอนนั้นเองพลังงานอันมหาศาลก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ทันใดนั้นเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าก็เริ่มแหวกออก ลมได้ปรับเปลี่ยนเป็นพายุซึ่งก่อให้เกิดเสียงแหลมเสียดแทงหู ที่ด้านบนนั้นมีเมฆก้อนดำลอยขึ้นบดบังพระอาทิตย์และดูดกลืนแสงสีต่าง ๆ ในพื้นที่
“ทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ ! ” เจี้ยนเฉินครุ่นคิด เขาหันหน้าไปยังทิศทางนั้นและเห็นฉินหวู่หมิง, ฉินหวู่เทียน, และฉินหวู่เจี้ยนได้ใช้ทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ออกมาพร้อมกัน แล้วปล่อยทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ออกมา
“อย่าคิดว่ามีแต่เจ้าที่มีทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ นิกายพยัคฆ์มังกรของเรานั้นก็มีมันเช่นกัน” เสียงของผู้ฝึกตนดังขึ้น ก่อนที่จะมีพลังงานอันมหาศาลปลดปล่อยออกมาจากเขา เขาได้ใช้ทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ด้วย
หลังจากที่ชายผู้นั้นได้ประกาศขึ้น สมาชิกอีก 3 คนจากนิกายพยัคฆ์มังกรก็ได้ใช้ทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ของตนเอง แม้ว่าผลของทักษะต่อสู้ของพวกเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกแม่ทัพ แต่ยังไงเสียก็ยังได้เปรียบในเรื่องจำนวน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลเสมอกันก็เป็นได้
เมื่อเห็นดังนั้น คริสก็หน้าซีดลงก่อนที่จะรีบตะโกนออกมา “ไม่ ! หยุด ! “
พลังงานจากการปะทะกันของทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ทั้งเจ็ดนั้นมีแรงสะท้อนที่สามารถทำลายภูเขาได้ง่าย ๆ ที่นี่เป็นที่ที่นิกายพยัคฆ์มังกรตั้งอยู่ แม้ว่าจะมีเกราะป้องกันปกป้องนิกายเอาไว้แต่มันมิได้ปกป้องภูเขาด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วภูเขาลูกนี้คงถูกทำลายลงและฐานของนิกายก็คงจะพังทลายลงไป นั่นเป็นสิ่งที่หัวหน้านิกาย คริส ไม่อยากให้เกิดขึ้น
โชคร้ายที่ทั้งสองฝั่งได้ดำเนินมาถึงจุดที่ไม่สามารถยับยั้งพลังได้ แม้คริสจะตะโกนเตือนออกมา แต่นั่นก็สายไปเสียแล้ว
เจี้ยนเฉินได้ยิ้มออกมาพร้อมกับถอยห่างออกไปหลายกิโลเมตร เขาได้ดึงธาตุดินในโลกเข้าสู่ร่างกายและมันได้ก่อตัวเป็นเกราะสีเหลืองห่อหุ้มร่างกายเขาไว้ พลังงานจากทักษะทั้งเจ็ดนั้นแข็งแกร่งกว่าทักษะแค่เพียงอันเดียวอยู่หลายเท่าตัวนัก เจี้ยนเฉินต้องระวังตัวให้ดีที่สุด เกราะธาตุดินนี่คงเป็นเหมือนกระดาษเมื่อต้องปะทะเข้ากับทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ แต่อย่างน้อยมันคงช่วยปกป้องเสื้อผ้าเขาเอาไว้ได้ ที่เจี้ยนเฉินมีพลังป้องกันต่ำเช่นนี้ เป็นเพราะเขาไม่มีพลังเซียนปกป้องเฉกเช่นผู้อื่น
ในตอนนั้น นักสู้ทั้ง 10 คนจากอาณาจักรฉินหวงและสมาชิกคนที่เหลือของนิกายพยัคฆ์มังกรได้หยุดต่อสู้และพยายามถอยห่างให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ พลังงานเซียนของพวกเขาได้ก่อตัวเป็นชั้น ๆ ห่อหุ้มร่างกายของพวกเขาเอาไว้ เพื่อปกป้องแรงสะท้อนที่เกิดจากการปะทะของทักษะทั้งเจ็ด
ทันทีที่ทุกคนเตรียมตัวป้องกันเสร็จสิ้น ทักษะทั้งเจ็ดเองก็เตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน พวกเขาคำรามออกมาพร้อมกับปลดปล่อยทักษะทั้งเจ็ดออกมาพร้อมกัน พลังงานอันแข็งแกร่งได้ฉีกบรรยากาศระหว่างทั้งสองฝั่ง ทำให้เกิดเสียงแตกหักดังขึ้นหลายครั้ง พื้นที่ที่ทักษะเข้าปะทะกว่า 10 เมตรนั้นได้เริ่มหมุนวนและรวมตัวเข้าหากัน
ในตอนนั้นเองทักษะทั้งเจ็ดก็ได้เข้าปะทะกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลับทำให้ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงและไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ในตอนที่ทักษะทั้งเจ็ดปะทะกัน มันไม่ได้มีเสียงใด ๆ เกิดขึ้นแม้แต่เสียงเดียว ไม่มีแม้แต่พลังงานสักนิดที่หลงเหลืออยู่ในพื้นที่ พลังงานที่ทักษะทั้งเจ็ดนั้นได้หายไปโดยไร้ร่องรอย เมื่อทุกคนเห็นดังนั้นก็มึนงงกับผลของมัน
“เกราะป้องกัน เป็นเกราะป้องกันนั่นเองที่ป้องกันพวกมันไว้ ! ” มีเสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อได้ยินดังนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปยังจุดที่อยู่ระหว่างทั้งเจ็ดคนนั้น ที่ตรงนั้นมันกลับมีเกราะป้องกันที่ปรากฏจากที่ไหนไม่ทราบได้ มันแบ่งทั้งสองฝั่งออกจากกัน ไม่เพียงแค่นั้นอาวุธเซียนของทั้งเจ็ดก็ได้หายไปด้วย
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้น — รวมถึงเจี้ยนเฉินด้วย — ก็ส่งเสียงตกตะลึงออกมา ชัดเจนแล้วว่านี่ต้องเป็นฝีมือของเซียนผู้คุมกฏของนิกายพยัคฆ์มังกรเป็นแน่แท้
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดคือเซียนผู้คุมกฎนั้นจะแข็งแกร่งขนาดที่หยุดทักษะทั้งเจ็ดได้ด้วยเกราะป้องกันนี่โดยไม่มีปัญหาหรือมีพลังงานใด ๆ หลุดรอดออกไปแม้แต่เพียงนิดเดียว
“นั่นเป็นความแข็งแกร่งของเซียนผู้คุมกฎงั้นหรือ ? ” ความคิดของเจี้ยนเฉินนั้นปั่นป่วน ในอดีตนั้นเขาได้คาดคะเนถึงความแข็งแกร่งของเซียนผู้คุมกฎมาหลายครั้ง แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าพวกนั้นจะมีความแข็งแกร่งจนไม่น่าเชื่อ แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าพวกนั้นจะมีความแกร่งถึงเพียงนี้
ต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎ พวกนั้นล้วนเป็นมดปลวก คำพูดนี้ไม่ผิดไปเลยจริง ๆ