เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 539 เถี่ยต้าเข้าร่วมกลุ่ม
ตอนที่ 539 เถี่ยต้าเข้าร่วมกลุ่ม
“ใต้เท้าเสี่ยวไม่จำเป็นต้องมากพีธี ข้า เจียงหยางเซียงเทียน มาวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับธุระบางประการที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเสี่ยว” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเป็นกลาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินชื่อ เจียงหยางเซียงเทียน ครอบครัวเสี่ยวทุกคนอึ้ง จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเจี้ยนเฉิน ดวงตาของเขาฉายแววไม่อาจเชื่อ
ถ้าเช่นนั้นข้าผู้นี้ขอสอบถาม ท่านใช่เจียงหยางเซียงเทียนคนเดียวกับที่เป็นนายน้อยสี่ของตระกูลเจียงหยางหรือไม่ ? หัวหน้าของครอบครัวเสี่ยวถามเสียงสั่น การได้ยินชื่อของเจียงหยางเซียงเทียนนั้นราวกับฟ้าผ่าใส่หูของเขา เขามีชื่อเสียงมากในอาณาจักรเกอซุน ไม่เพียงแต่เขาเป็นอัจฉริยะที่สวรรค์ส่งมา เขายังกลายเป็นเซียนสวรรค์ หลังจากเข้าสู่วัยยี่สิบต้น ๆ ของเขา และเขากลายเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรเกอซุน — ตำแหน่งที่แม้แต่องค์ราชาเองจะไม่สามารถที่จะล่วงเกิน
ใช่ เป็นข้าคนนี้ เจี้ยนเฉินประกาศ
ใบหน้าของสมาชิกระดับสูงของครอบครัวเสี่ยวเปลี่ยนไปทันที พวกเขาก้มคำนับแทบติดดิน พวกเขากล่าวทันที พวกเราขอคารวะท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ เสียงหลายเสียงผสานเข้าด้วยกันจากความเคารพและชื่นชม สำหรับการที่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรเกอซุนปรากฏขึ้นภายในบ้านของพวกเขา มันก็เป็นเกียรติอย่างมากแก่ครอบครัวเสี่ยว แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขากังวลนั้นคือการที่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิมาเยือนนั้น ความหมายของมันก็ไม่ทราบว่าเขาจะนำโชคลาภหรือโชคร้ายมาให้
ท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ได้โปรดนั่งลงและพักผ่อนภายในห้องโถงของเรา อนุญาตให้ครอบครัวเสี่ยวต้อนรับอย่างสุดความสามารถของเรา หัวหน้าครอบครัวเสี่ยวพูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพแต่กังวลใจ
นั่นไม่จำเป็น ข้านี้มาเพื่อจัดการกับบางสิ่ง หลังจากที่มันได้รับการแก้ไข ข้าผู้นี้จะจากไป เจี้ยนเฉินตอบกลับ
หากเป็นคำสั่งของผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ครอบครัวเสี่ยวเราจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของท่าน ! งานดังกล่าวถือเป็นเกียรติอย่างมากสำหรับครอบครัวของข้า แม้จะตายหมื่นครั้ง ก็ไม่อาจที่จะหยุดยั้งงานดังกล่าวของบ้านของเสี่ยวได้ หัวหน้าตระกูลกล่าวออก โดยไม่ได้หลบซ่อนความพยายามที่จะประจบประแจง
ก่อนหน้านี้ หากเพื่อสอบถามบุคคลซึ่งเป็นแข็งแกร่งภายในอาณาจักรเกอซุน มันจะไม่ต้องสงสัยเลยว่า นั่นคือสำนักหัวหยุน อย่างไรก็ตาม หลังจากการรุกรานที่ล้มเหลวของอาณาจักรทั้งสี่ สถานการณ์ภายในอาณาจักรเกอซุนได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบัน ตระกูลเจียงหยางขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง ในขณะที่สำนักหัวหยุนและพระราชวงศ์นั้นไม่อาจเทียบได้
ถึงแม้กำลังทหารชั้นยอดของอาณาจักรฉินหวงราว 500,000 คนจะพำนักอยู่ที่เมืองลอร์ ตระกูลเจียงหยางก็มีเซียนสวรรค์หลบซ่อนอยู่ภายในตระกูลจำนวนมาก มันมากกว่ายุคทองของอาณาจักรเกอซุนเสียอีก และด้วยความจริงที่ว่าพวกเขาเอาชนะเซียนสวรรค์นับโหลจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์นั้นก็ไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด
มันจะไม่เกินไปที่พูดว่า ตระกูลเจียงหยางเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่ง แม้กระทั่งสำนักหัวหยุนก็ไม่อาจที่จะเปรียบเทียบได้
จากภายในตระกูลเจียงหยาง นายน้อยสี่เจียงหยางเซียงเทียนนั้นเป็นบุคคลสำคัญและมีอิทธิพลมาก เมื่อหัวหน้าครอบครัวเสี่ยวได้ยินชื่อของผู้ที่เป็นถึงผู้พิทักษ์จักรพรรดิ เขาก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน เขารู้สึกว่านี่จะเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้เกาะติดเจียงหยางเซียงเทียนและปีนป่ายขึ้นไปบนท้องฟ้าผ่านทางนี้ ครอบครัวเสี่ยวจะมีอะไรที่ต้องกังวลและสามารถสำรวจอาณาจักรเกอซุนทั้งหมดโดยไม่ต้องกลัว หัวหน้าเริ่มที่จะพยายามอย่างดีที่สุดและปวารณาตัวเองและสำหรับครอบครัวเสี่ยวที่จะช่วยเหลือตระกูลเจียงหยาง
อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินหันมองด้วยแววตานิ่งสนิท ด้วยน้ำเสียงสงบ เขากล่าว หัวหน้าครอบครัวเสี่ยว คนของเจ้าได้สร้างปัญหาให้กับผู้หญิงในหมู่บ้านของพี่น้องข้า ข้าหวังว่า ท่านจะสั่งสอนผู้ที่เกี่ยวข้อง มิฉะนั้นแล้ว หากข้าจะต้องมากลับมาที่นี่ในอนาคตและทำอะไรลงไปก็อย่าได้กล่าวว่าข้าใจร้าย น้ำเสียงของเจี้ยนเฉินกลายเป็นเย็นชาขณะที่เขาพูด
หัวหน้าครอบครัวเสี่ยวพร้อมด้วยสมาชิกระดับสูงคนอื่น ๆ ทั้งหมดสะดุ้งขึ้นมา ใบหน้าแสดงถึงความเป็นกังวล เริ่มมีเหงื่อบนหน้าผากของพวกเขา
ด้วยความหวาดกลัว บุคคลที่เป็นหัวหน้าครอบครัวเสี่ยวคุกเข่า เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ได้โปรดระงับความโกรธของท่าน มันคงเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากข้าละเลยครอบครัวของข้าไป นอกจากนี้ข้า เสี่ยวหยุน จะลงโทษคนเหล่านั้นอย่างเข้มงวด เพื่อท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ครอบครัวของข้าจะไม่ทำผิดในเรื่องเช่นนี้อีก
ข้าหวังว่า เจ้าจะทำอย่างที่เจ้าพูด ข้าจะไม่สนใจเรื่องที่ผ่านมา แต่จะดีกว่าที่จะไม่มีครั้งต่อไป เจี้ยนเฉินตอบเสียงเย็นชา
ไม่มีครั้งต่อไป ข้าสามารถรับประกันได้ เสี่ยวหยุนรีบตอบสนองด้วยความหวาดกลัว เขาได้ทราบอย่างชัดเจนว่า ถ้าครอบครัวของเขาได้ล่วงเกินกับนายน้อยสี่แห่งตระกูลเจียงหยาง แล้วแม้นิกายลมทมิฬที่อยู่เบื้องหลังก็หมดหนทางทำสิ่งใด แม้แต่สำนักหัวหยุนที่ซึ่งดีกว่านิกายลมทมิฬก็ยังไม่อาจที่จะเผชิญหน้ากับตระกูลเจียงหยางได้ แล้วนิกายลมทมิฬจะกระทำเช่นนี้ได้อย่างไร
ไปและต้องขออภัยชาวบ้านเหล่านั้นด้วยตัวเอง เจี้ยนเฉินกล่าวขึ้น
ขอรับ ข้าจะทำตามคำสั่งทันที คนผู้นั้นไม่กล้าที่จะพูดสิ่งใดอีกต่อไป
เมื่อได้จัดการเรื่องเรียบร้อย เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ มองย้อนกลับไปเถี่ยต้า เขาถาม เถี่ยต้า เจ้ามีความสุขกับวิธีแก้ไขปัญหานี้ ?
ฮ่าฮ่าฮ่า พอใจมาก เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าช่างมีชื่อเสียงยอดเยี่ยมจริง ๆ ข้าไม่คิดว่า เจ้าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ เถี่ยต้าหัวเราะอย่างมีความสุข ความจริงที่ว่า มีการแก้ไขปัญหากับครอบครัวเสี่ยวโดยแทบไม่ได้เสียพลังงานใด ๆ แทบทำให้เขารู้สึกร่าเริงมาก
หลังจากที่เราได้หมดธุระแล้ว กลับกันเถอะ เจี้ยนเฉินเริ่มนำธาตุลมมาห่อหุ้มรอบหมิงตงและเถี่ยต้า นำพาทั้งสองคนขึ้นไปในอากาศ ในไม่กี่ลมหายใจ พวกเขาทั้งสามคนก็หายเข้าไปในขอบฟ้า
ครอบครัวเสี่ยวทั้งครอบครัวมองเจี้ยนเฉินและทั้งสองที่บินจากไป พวกเขาทั้งหมดใจชื้นขึ้นมา เมื่อพวกเขาไม่ได้เห็นทั้งสามคน ความกลัวบางอย่างตกค้าง ใบหน้าของทุกคนก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
หลังจากที่จากกันไป เสี่ยวหยุนมีใบหน้าที่แข็งค้าง เขาสั่ง “ข้าต้องการให้พวกเจ้าทั้งหมดค้นหาคนที่กล้าล่วงเกินนายน้อยสี่แห่งตระกูลเจียงหยางทันที ค้นหาพวกมันให้เจอและนำตัวพวกมันมา”
ขอรับ นายท่าน ทุกคนเชื่อฟังและมีท่าทีจริงจัง พวกเขาทั้งหมดตระหนักถึงต้นเหตุของปัญหาที่ซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่หลวง
เจี้ยนเฉิน หมิงตง และเถี่ยต้า ทั้งหมดบินกลับไปยังภูเขาด้วยความเร็วมหาศาล ก่อนที่จะร่อนลงในสถานที่ที่เต็มไปด้วยพืช เพื่อที่จะเดินทางไปทางหมู่บ้าน
หลังจากที่เข้าหมู่บ้าน เถี่ยต้านั้นบอกชาวบ้านด้วยท่าทีมีความสุขว่า เจี้ยนเฉินได้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็เต็มไปด้วยความสุขและมองดูเจี้ยนเฉินกับหมิงตงอย่างชื่นชม ในขณะที่ทุกคนต่างกล่าวชื่นชมทั้งสองคน
หลังจากพบเจอกับชาวบ้าน เจี้ยนเฉินต่างก็ถูกดึงในการพูดคุยกับชาวบ้านคนอื่น ๆ ในขณะที่มารดาของเขาปิดห้องครัว เพื่อทำอาหารมากมายให้กับเจี้ยนเฉิน
เฮ้ เจียงหยางเซียงเทียน ข้าจำได้ว่า ในสำนักคากัต ความแข็งแกร่งของเราเทียบเท่ากัน ทว่าไม่กี่ปีหลังจากนั้น เจ้าได้แข็งแกร่งขึ้นมากมาก อย่าบอกนะ เจ้ามีวิธีการลับที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง สอนมันให้กับข้า ! เถี่ยต้ากล่าวคำวิงวอนต่อเจี้ยนเฉิน ในทวีปเทียนหยวน ผู้บ่มเพาะพลังต่างก็ต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
หัวเราะออกมา เจี้ยนเฉินตอบ “แน่นอน มันมีความลับ แต่ว่าเจ้านั้นไม่อาจที่จะฝึกฝนไปบนเส้นทางเดียวกันได้”
“ความลับอันใด บอกข้าตอนนี้ ข้า เถี่ยต้า จะได้แข็งแกร่งเท่าเทียมกับเจ้า แม้กระทั่งหัวหน้าครอบครัวเสี่ยวก็ต้องถอยให้กับเจ้า ถ้าหากว่าข้าสามารถแข็งแกร่งได้เท่าเจ้าแล้ว ข้าก็จะสามารถทำให้หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยความสุข” เถี่ยต้าพูดด้วยความตื่นเต้น
ความลับนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน แม้แต่ข้าก็สามารถบอกเจ้าได้โดยตรง หมิงตงเอ่ยปากออกมาเป็นครั้งแรก เถี่ยต้า หากเจ้าต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของเจ้าอย่างฉับพลัน วิธีที่ดีที่สุดนั้น จะต้องสำรวจโลกภายนอกและได้รับประสบการณ์บางอย่าง ถ้าเจ้าเสียเวลาในหมู่บ้าน ด้วยความสามารถของเจ้า มันจะปิดกั้นอนาคตเท่านั้น ไม่เพียงแต่เป็นโลกภายนอกสดใส ทว่ามันจะสอนสิ่งต่าง ๆ มากมายและไปได้ไกลมากขึ้นจากหมู่บ้านที่นี่
เถี่ยต้าเกาศีรษะของเขา “จริง ๆ ข้าคิดว่า สิ่งที่เจ้าพูด ข้าเองนั้นก็คิดเกี่ยวกับมัน ในสำนักคากัต เจียงหยางเซียงเทียนนั้นไม่ได้ห่างไกลจากข้านักในเรื่องของความแข็งแกร่ง แต่หลังจากนั้น เขาออกจากสำนักคากัต ระหกระเหินไปทั่วทวีปเป็นเวลาหลายปี ข้าไม่คิดเลยว่า เขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเดินทางในทวีปเทียนหยวนนั้นสามารถทำให้ได้รับประสบการณ์ในระยะเวลาสั้น ๆ
เถี่ยต้า หมิงตงไม่ได้โกหก มันเป็นเพียงเมื่อเจ้าออกไปและสำรวจโลกภายนอก สิ่งนี้เองที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเจ้าได้อย่างรวดเร็ว เจ้าจะเรียนรู้สิ่งที่เจ้าจะไม่เคยได้สัมผัสหรือดูมากมาย โชคดีว่า มีกลุ่มทหารรับจ้างที่ข้าจะพัฒนาได้ในอีก 2 วัน ณ ตอนนี้ ข้าต้องการกำลังคนเพื่อที่จะช่วยพัฒนามัน ดังนั้นหากเจ้าเต็มใจ เจ้าอาจเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างของข้าเช่นกัน ในอนาคตเราสามารถกระจายไปทั่วทวีปและพัฒนากลุ่มทหารรับจ้างนี้ให้กลายเป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีป เจี้ยนเฉินกล่าวออกมา
ทันใดนั้นเถี่ยต้ามีดวงตาที่เป็นประกายตามที่เขาพูดว่า แล้วนั่นก็หมายความว่า เราจะสามารถเดินทางด้วยกัน
แน่นอน เจี้ยนเฉินพูด
“ดีแล้ว ข้า เถี่ยต้า จะทำตามในสิ่งที่พวกเจ้าทำ ไปกับเจ้าทั่วทุกที่ ข้าจะไป” เถี่ยต้าตอบด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น
หลังจากเชิญชวนเถี่ยต้าเข้าร่วมกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี เจี้ยนเฉินเผยรอยยิ้มที่มีความสุข “เถี่ยต้า ทำไมเจ้าไม่กล่าวอำลากับคนทั้งหมู่บ้าน วันพรุ่งนี้เราจะกลับไปบ้านของข้าเพื่อเดินทาง และจากนั้น เราจะแนะนำเจ้า กับสหายของข้า
ในวันที่ ยามเช้า เจี้ยนเฉินและทั้งสองกล่าวอำลากับชาวบ้านทั้งหมด ก่อนที่จะออกจากหมู่บ้าน
นอกทางเข้าหมู่บ้าน ประชาชนทั้งหมดของหมู่บ้านประชุมกัน ก่อนที่ท้ายที่สุดจะกล่าวอำลากับเถี่ยต้า
พี่ยักษ์ ท่านควรจะกลับมาโดยไว ดวงตาของซิ่วหยูเป็นประกายด้วยความไม่เต็มใจ มองร่างกายยักษ์ของเถี่ยต้า
มองย้อนกลับไปที่ซิ่วหยู เถี่ยต้าแสดงอารมณ์ที่ซับซ้อนบนใบหน้าของเขา โบกมือของเขา เขากล่าว “น้องซิ่วหยู ข้าจะกลับมาโดยเร็วและจะสามารถป้องกันทั้งหมู่บ้าน ถ้าเจ้าไม่รังเกียจคนที่หยาบช้าเช่นข้าแล้ว รอจนกว่าข้าจะกลับมาพร้อมกับเงิน ข้าจะ ข้าจะ ข้าจะกลับมาและแต่งงานกับเจ้า เถี่ยต้ากล่าวออก กลั่นความกล้าออกมาเป็นวลีสุดท้าย แต่หลังจากเขาพูดจบ ใบหน้าของเขาก็เผยให้เห็นสีแดง
ร่างกายทั้งหมดของซิ่วหยูเริ่มสั่นไหว ราวกับนางถูกย้อมด้วยคำพูดของเขา นางซับน้ำตาและเอ่ยว่า “พี่ยักษ์ ซิ่วหยูคนนี้จะรอท่านกลับมา…