เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 541 - การกลับเข้าไปในเมืองเวค
ตอนที่ 541 – การกลับเข้าไปในเมืองเวค
หลังจากที่เจี้ยนเฉินและกลุ่มของเขาออกจากเมืองลอร์ ครอบครัวเสี่ยวทั้งหมดก็รวมตัวกันภายในห้องโถงของตระกูลในเมืองหวงเกอ หัวหน้าครอบครัวเสี่ยวอยู่ในตำแหน่งบนสุด ในขณะที่ชายหนุ่มหลายคนคุกเข่าลงที่ด้านหน้า ถ้าเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าอยู่ที่นี่ พวกเขาจะยืนยันได้ว่าชายหนุ่มเหล่านี้เป็นคนเดียวกับคนที่พยายามลักพาตัวซิ่วหยูจากหมู่บ้าน
รายงานนายท่าน เราได้ทำการตรวจสอบอย่างรัดกุม และคนเหล่านี้เป็นคนที่สร้างความขุ่นเคืองให้กับนายน้อยสี่แห่งตระกูลเจียงหยาง ชายคนนั้นป้องมือเข้าหากันก่อนที่จะรายงานออกมา
หัวหน้าครอบครัวเสี่ยว เสี่ยวหยุนจ้องไปที่ชายหนุ่มเบื้องหน้า ดวงตาของเขาเย็นยะเยือก ทำให้คนกลัวที่จะตอบหรือแม้แต่จะเงยหน้า
ให้อภัยเถิด นายท่านของข้า โปรดยกโทษให้เรา เราไม่รู้ว่า พวกเขาเป็นคนจากตระกูลเจียงหยาง เราเพียงรู้ว่าหญิงชาวบ้านผู้นั้นค่อนข้างสะสวย และเราอยากมอบนางให้กับนายน้อยของเรา เราทำทั้งหมดนี้เพื่อนายท่าน
นายท่าน โปรดให้อภัยเรา เราจะไม่กล้าทำสิ่งนั้นอีก…
นายท่านของข้า โปรดให้โอกาสแก่พวกเรา โปรดยกโทษให้เราครั้งนี้…
ชายหนุ่มทั้งหมดรู้ว่าพวกเขาได้เชื้อเชิญภัยพิบัติด้วยตัวเอง ดังนั้นพวกเขาได้แต่คุกเข่าลงและร้องขอการอภัย
เสี่ยวหยุนแค่นเสียงขึ้นจมูกและตอบว่า ลากออกไป และทำลายขาทั้งสองของพวกเขา
“ขอรับ” ชายวัยกลางคนตอบแล้ว เรียกทหารยามหลายคนลากชายหนุ่มพวกนั้นออกไป
มัดมันและเตรียมพร้อมให้เป็นของขวัญ เราจะมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านเพื่อขอโทษ เสี่ยวหยุนบัญชา สำหรับหัวหน้าครอบครัว การมาขออภัยต่อหมู่บ้านบนภูเขา นี่เป็นเพียงแสดงวิธีสำคัญในการจัดการเรื่องนี้
เทือกเขาครอสเป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเทียนหยวน สัตว์อสูรจำนวนมากอยู่ภายในเทือกเขาครอส มันเป็นสวรรค์ของเหล่าสัตว์อสูร มันเต็มไปด้วยสัตว์อสูรระดับ 6 จำนวนมากอาศัยอยู่ที่นั่น นอกจากนี้ ในตำนานมีว่า ในส่วนลึกของภูเขา มันยังมีสัตว์อสูรระดับ 7 อยู่อีกมากมาย เป็นผลให้เทือกเขาครอสนั้นได้ถูกกำหนดเป็นเขตต้องห้ามสำหรับมนุษยชาติ บุคคลใดที่พยายามเข้าไปในเทือกเขาครอส พวกเขาจะไม่อาจมีชีวิตรอดกลับไป
ดังนั้นภายในส่วนลึกของเทือกเขาครอส มันมีที่พื้นที่ต้องห้ามนานนับพันปี ที่แม้แต่เซียนสวรรค์ต่างก็หวั่นกลัวที่จะก้าวไปยังผืนแผ่นดินตรงนั้น
ตอนนี้ ภายในความลึกของเทือกเขาครอส ชายคนหนึ่งที่เมื่อหยัดยืนนั้นมีความสูงถึง 3 เมตร ชายคนนี้มีร่างกายที่แข็งแรงมาก เส้นเลือดปูดขึ้นในกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อทองแดงเหมือนของเขาเป็นสัญญาณของการพัฒนาที่ดีและเขาสวมเสื้อผ้าเพียงตัวเดียว มันเป็นเพียงกางเกงขาสั้นที่ปิดตรงที่หัวเข่าของเขา
มือของเขาทั้งสองข้างตกลง ในขณะที่เขายืนลังเลอยู่ในพื้นที่ ดวงตาของเขาเป็นประกายไปด้วยความไม่แน่นอน ที่ด้านข้างนั้นเป็นขอบเขตระหว่างหุบเหวภูเขาและโลกภายนอก
เทือกเขาครอสได้ถูกค้นหาทั้งหมดแล้ว แต่กลับไม่พบพยัคฆ์ปีกเทวะ มันปรากฏตัวหลังการปรากฏตัวของรัมกุยเนส นางได้นำพยัคฆ์ปีกเทวะออกจากเทือกเขาครอสเป็นเวลานอน ในดินแดนของมนุษย์ ถ้าเราต้องการจะฆ่าพยัคฆ์ปีกเทวะ แล้วเราจะต้องก้าวผ่านไปยังดินแดนนั้น ชายร่างกำยำกล่าวขึ้น พร้อมกับคิ้วที่ผูกเป็นปม
แท้จริงแล้วรัมกุยเนสได้ละเมิดสนธิสัญญาที่เรามีกับมนุษย์ ข้าควรเปิดเผยข้อมูลนี้และให้ยอดฝีมือฝั่งมนุษย์จัดการกับพวกเขา ชายคนนั้นกล่าว ก่อนที่อีกคนสั่นศีรษะของเขาอย่างรวดเร็ว ไม่ ไม่ควรทำเช่นนั้น นี่เกี่ยวข้องกับตำนานของพยัคฆ์ปีกเทวะโบราณ เรื่องนี้สำคัญเกินไปกว่าที่จะให้มนุษย์ตระหนักถึงปัญหาได้ หากพวกเขาค้นหาและหาวิธีที่จะทำให้พยัคฆ์ปักเทวะเชื่องในขณะที่มันยังเล็กอยู่ มันจะเป็นวิกฤตอย่างมากสำหรับการต่อสู้ระหว่างสัตว์อสูร มันกลายเป็นว่าเราไม่อนุญาตให้มันยังคงอยู่ในดินแดนมนุษย์ เราต้องฆ่ามัน แต่หากข้าก้าวเข้าสู่ดินแดนของมนุษย์… ทันใดนั้น เสียงของชายคนนั้นเริ่มหายไป กับดวงตาของเขาเริ่มเผยเป็นสีลึกของความกลัว
หลังจากครู่หนึ่ง ทำให้ทุกคนที่หันมอง ปรากฏความสั่นไหวในสายตาของเขา ว่าเขาก็มุ่งมั่น เขาคำรามออก ยอดฝีมือของมนุษย์ทั้งหมดซ่อนตัวเอง ตราบใดที่ข้าระมัดระวัง พวกเขาจะไม่เจอ ทันใดนั้น เขาก้าวไปทางด้านหน้า ผ่านขอบเขตของภูเขาที่ตัดกับโลกภายนอก ร่างกายของเขาเริ่มเป็นประกายระยับและสั่นไหว ครู่หนึ่งก่อนแปรเปลี่ยนเป็นภาพติดตา และหายไปจากสายตาในที่สุด
วันที่สองของการเดินทาง ก็ได้มาถึงป้อมปราการของอาณาจักรวายุคราม อาจจะเป็นเป็นกองคาราวานสินค้าที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ ท่ามกลางฝูงสัตว์อสูรระดับ 3 ที่ย่างก้าวไป นั่งอยู่บนสัตว์อสูรเหล่านั้นเป็นชายหกคนและสตรีนางหนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูสามัญ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะปิดบังกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาของพวกเขา แม้กระทั่งคนทั่วไปก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้ ด้วยราวกับกลัวว่าจะไปล่วงเกินพวกเขา
หลังจากสองวันของการเดินทาง เจี้ยนเฉินและกลุ่มของเขาได้มาถึงในอาณาจักรวายุคราม หลังจากเข้าไปในอาณาจักร เจี้ยนเฉินไม่ได้หยุด พวกเขายังคงตรงไปทางเมืองเวค
สัตว์อสูรระดับ 3 ได้ก้าวต่อไปอย่างรวดเร็วผ่านดินแดน พวกเขาทิ้งร่องรอยไว้บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยฝุ่นจากระยะไกล
ในตอนท้ายของวันเมื่อเริ่มดวงจันทร์จะขึ้น ท้ายที่สุด กลุ่มของเจี้ยนเฉินก็มาเยือนยังเมืองเวค ที่ครึ่งหนึ่งของดวงอาทิตย์เกือบลับตาไป แสงที่ปล่อยจากพระอาทิตย์ตกดิน ก็เพียงพอเพื่อเพิ่มความสว่างของท้องฟ้า
ไม่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่จะเข้าไปและออกมาจากประตูของเมืองเวค มีเพียงทหารไม่กี่นายที่เฝ้าอยู่ที่ประตู
กลุ่มของเจี้ยนเฉินนำทางไปที่ประตูของทางเข้าเมือง ยามมองไปที่กำแพงเมืองซึ่งมีร่องรอยของการต่อสู้ เจี้ยนเฉินมีอารมณ์ซับซ้อนที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา ราวกับว่าเขาได้หวนคิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง
เมืองเวคเป็นเมืองชั้นสามขนาดเล็ก ณ พื้นที่นี้เองที่เจี้ยนเฉินได้ต่อสู้ด้วยความพยายามไม่น้อยเพื่อที่จะอยู่รอด การต่อสู้ของเขาประทับลึกลงไปบนภูเขา แต่ละก้าวที่เชื่อมโยงไปถึงความทรงจำส่วนลึกในจิตใจของเขา
หมิงตงกวาดสายตามองไปที่กำแพงเมืองเวคที่เก่าแก่ ก่อนที่จะพูดขึ้น “เจี้ยนเฉิน กลุ่มทหารรับจ้างของเจ้าอยู่ในเมืองนี้ ? “
จากนั้น เจี้ยนเฉินพยักหน้าลง “ใช่ แต่มันเป็นระยะเวลาที่นานมากแล้ว ข้าไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะอยู่ในเมืองเวคหรือไม่”
ด้วยเจี้ยนเฉินและคนเข้าเมืองหยุดลง เจี้ยนเฉินสอบสวน “สวัสดี พี่ชาย กลุ่มทหารรับจ้างอัคนียังคงอยู่ในเมืองเวคหรือไม่ ? “
“นี่เป็นคำถามที่ประหลาดนัก กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีอยู่ในเมืองเวคเสมอ พวกเขาจะอยู่ที่ไหนหากไม่ใช่ที่นี่ ? ” คนจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างแปลก ๆ
เจี้ยนเฉินมองดูอย่างยินดี หลังจากที่ได้ยินว่า “ดี ข้าไม่คิดว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะอยู่ที่นี่ ข้ากังวลใจว่าพวกเขาจะย้ายตำแหน่งไปที่อื่น ท่านรู้หรือไม่ว่าอยู่ที่ใด ? “
“ครอบครัวไคอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง” ชายคนนั้นตอบ
ขอบคุณมาก ! เจี้ยนเฉินป้องมือเข้าหากัน ก่อนที่จะกระตุ้นสัตว์อสูรของเขาไปข้างหน้า เขานั้นจดจำทางไปยังเมืองไคได้ถูกต้อง
ในช่วงเวลานั้น มีกลุ่มใหญ่ของชายที่แข็งแกร่งรวมตัวกันอยู่ที่หน้าบ้านของครอบครัวไค บรรยากาศของเขาราวกับฆาตกร พวกเขารวมกว่าสองร้อยคน
ตรงหน้าของพวกเขา ถูกชายวัยกลางคนสามคนและชายชราผู้หนึ่งหยัดยืนอยู่ที่หน้าประตู ที่ยืนอยู่ข้างหลังสี่คนเหล่านี้ เป็นคนกลุ่มใหญ่อีกคนกับแสงสะท้อนหนาวในดวงตา
“นักรบแขนเดียว กลุ่มทหารรับจ้างดีเฟนท์ของเจ้ารังแกกันมากเกินไป แม้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเราอาจไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนแต่ก่อน แต่เราก็ไม่ใช่เป้าหมายที่ง่ายต่อการรุกราน จริง ๆ เจ้าคิดว่าเราจะยืนให้เจ้าทำลายล้างกลุ่มของเราเช่นนั้นหรือ ? เรารับประกันได้เลยว่า กลุ่มรับจ้างของเจ้าที่กล้าท้าทายเรา จะต้องสูญเสียมากกว่าที่เจ้าจะได้รับ” ชายชราที่ยืนด้านหน้ากล่าวขึ้นขณะจ้องมองไปที่กลุ่มของเขา
ที่ยืนด้านหน้า เป็นกลุ่มทหารรับจ้างดีเฟนท์ของนักรบแขนเดียว เขาหัวเราะออก และพูดว่า “กลุ่มทหารรับจ้างอัคนี หากที่ผ่านมาเจ้าแข็งแกร่งกว่ากลุ่มของข้า แต่ทว่าในตอนนี้ ข้า นักรบแขนเดียว กลับไม่เห็นว่าเจ้าเป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด ถ้าเจ้าไม่ต้องการตายก็ร่วมมือกับเรา เข้าร่วมกับทหารรับจ้างของข้า และเราจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างยุติธรรม
หืมมม์ หวังให้กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเข้าร่วมอะไรกับกลุ่มทหารรับของเจ้า นี่เป็นอะไรที่มากกว่าความฝันของคนบ้างั้นหรือ พี่น้องของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะไม่ขี้ขลาด เราจะไม่ยอมรับสิ่งนี้ ชายวัยกลางคนพูดขึ้นจากประตู
ฉิงเฟิง ข้ารู้ว่า เจ้าไม่ได้ขี้ขลาด เจ้าเป็นคนที่มั่นคงในคำพูด และข้าเคารพเจ้า อย่างไรก็ตาม กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีไม่สามารถเปรียบเทียบกับทหารรับจ้างของข้าได้ แทนที่จะต่อต้าน ทำไมไม่เข้าร่วมกับเราและช่วยให้ขยายกลุ่มทหารรับจ้าง เมื่อเรากลายเป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งของอาณาจักรวายุคราม ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างดี หนทางที่รุ่งโรจน์และงดงามจะรอเราอยู่ เจ้าไม่เห็นด้วยหรือ ? มันไม่คุ้มค่าชีวิตของเจ้า หากยังต่อปากต่อคำมากกว่านี้ นักรบแขนเดียวหัวเราะออกมา
หืม สำหรับการยอมแพ้ของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นหาได้มีไม่ หากว่าท่านผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างอัคนียังคงอยู่ที่เมืองเวคแล้ว ไม่ว่าใครก็หาได้มีโอกาสไม่ หากเจ้าต้องการที่จะกระทำเช่นนั้น เจ้าจะถูกจัดการก่อนที่เจ้าจะเริ่ม โม่เทียนกัดฟันของเขา
หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี อา เจ้าต้องพูดคุยเกี่ยวกับเจี้ยนเฉิน ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเขามาก่อน ผู้ชายคนเดียวที่ทำลายกลุ่มทหารรับจ้างโจวและตระกูลโจว ก่อนที่จะทำลายตระกูลเทียนซ่งในเมืองเวค และต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับ 5 ด้วยทักษะของเขา จุ๊ จุ๊ ความแข็งแกร่งนั้น ไม่เลว ไม่เลวเลย ไม่มีทางเลือกใด ได้แต่ชื่นชมเขา โดยจุดนี้ ชายจากกลุ่มทหารรับจ้างนักรบแขนเดียวยังมีใบหน้าที่ดูหมิ่น บนใบหน้าของเขาขณะที่เขายังคงพูด แต่ความอัปยศอย่างหนึ่ง คือ หัวหน้าของเจ้าไม่ได้ที่นี่ เขาไปเข้าร่วมงานชุมนุมทหารรับจ้างด้วยความที่ไม่รู้จักโลกดีพอ เขาเพียงแค่มีชื่อเสียงเล็กน้อยในเมืองเล็กนี้ เขาคิดว่าเขาจะเป็นหนึ่งในโลกและเข้าร่วมชุมนุมของทหารรับจ้าง เขาควรได้ตระหนักว่า มันมีช่องว่างอยู่ มีเพียงเซียนปฐพีเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดในนั้น หากมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ เขาก็ควรจะตายลงในเมืองทหารรับจ้างแล้ว ดังนั้นวิธีใดกันที่เขาจะสามารถกลับมาเมืองเวค !