เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 565: เอกลักษณ์ที่ผิดพลาด
ตอนที่ 565: เอกลักษณ์ที่ผิดพลาด
ไคเช่อบินผ่านฝูงชน ในขณะที่มือถือค้อนยักษ์เหนือศีรษะของเขา ประกายแสงสีฟ้าที่สร้างมาจากพลังศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำที่มาจากค้อน มันตรงไปที่ตู่กูเฟิง
มาหยุดที่ตู่กูเฟิงซึ่งจ้องมองด้วยท่าทีไร้อารมณ์ โดยไม่ได้หันมองไคเช่อ ระเบิดไฟได้กระจายออกจากตัวของตู่กูเฟิง มันขดรอบตัวเขา พร้อมกับความร้อนระอุ กับอุณหภูมิที่สูงขึ้นบนพื้นที่โดยรอบ
ด้วยเปลวเพลิงที่เผาไหม้รอบร่างกายของเขา ตู่กูเฟิงดูราวกับว่าเขาจะกลายเป็นเทพแห่งเพลิง มือขวาของเขาเป็นกำปั้น บังคับมันให้มาล้อมรอบตัวเขา ด้วยการสับมือของเขาลง ลูกบอลไฟทันทีตรงไปยังไคเช่อ
ปัง
พลังธาตุทั้งสองได้ปะทะกัน ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นในอากาศด้วยเสียงอันดัง พลังงานของมันสั่นไหวแผ่นดินบางส่วน อีกฝ่ายถูกบังคับให้ถอยกลับหลายก้าว
“เซียนปฐพี ชายผู้นี้เป็นเซียนปฐพี”
“วู่หยุน แข็งแกร่ง จึงไม่แปลกใจที่เขาก็สามารถกำจัดเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษในเมืองเมื่อ 2 ปีก่อน มีเพียงเซียนปฐพีเท่านั้นที่จะสามารถต่อสู้กับเขา มันเป็นสิ่งที่ดี ที่เขาไม่ได้ต่อสู้กับเรา “
เสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยความตกตะลึง พวกเขาจ้องมองไปที่ตู่กูเฟิงซึ่งปะทะกับเซียนปฐพีฝีมือดีในเมืองเฟิงหยาง นี่เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหวัง กับอำนาจอื่น ๆ ในเมืองนี้ มีเพียงสี่ผู้นำตระกูลเท่นนั้นในเมืองเฟิงหยางที่จะมีความแข็งแกร่งในระดับนี้
เมื่อได้รับการเปิดเผยความแข็งแกร่ง ของวู่หยุน ความแข็งแกร่งของชายที่ต้องการโจมตีเขา กับเซียนปฐพีนั้น เป็นอำนาจที่พวกเขาไม่อาจยุ่งเกี่ยวได้
ไคเช่อตกลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่ปั้นยาก วู่หยุน ใครจะมีความคิดว่าความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลา 2 ปี กลายเป็นเซียนปฐพี นับว่า เจ้าได้โชคลาภจากภัยพิบัติ
ด้วยมือทั้งสองที่ไพล่หลังกันอย่างสบาย ตู่กูเฟิงเพียงมองใบหน้าของไคเช่ออย่างไร้อารมณ์ ใบหน้าของไคเช่อมีประกายด้วยความรังเกียจ วู่หยุน เขาไม่ได้เป็นคนโง่ ด้วยการเชื่อมต่อความคิด ด้วยแผนที่แปลกของเจี้ยนเฉิน มันทำให้เขาคาดเดาได้ว่าคนที่ไคเช่อพูดถึงคือเจี้ยนเฉิน
เห็นว่าวู่หยุนไม่ได้กล่าวสิ่งใด ไคเช่อจึงเอ่ยขึ้นอย่างลำพองใจว่า วู่หยุน ถึงแม้เจ้าจะกลายเป็นเซียนปฐพี มันก็ไม่ได้ช่วยให้เจ้ารอดจากตระกูลฮาริโต้ ข้า ไคเช่อ เสนอให้เจ้านั้น มอบทักษะการต่อสู้ของเจ้าให้กับตระกูลของเรา และเราจะไม่ไล่ล่าเจ้าอีกต่อไป รู้หรือไม่ตอนนี้ว่าเป็นบรรพชนของตระกูลของข้าเป็นถึงเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 อีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะกลายเป็นเซียนสวรรค์ ใช้เวลาอีกไม่ถึง 20 ปีก่อนที่ตระกูลฮาริโต้ของข้านั้นกลายเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งของอาณาจักรวายุคราม”
ถ้อยคำของไคเช่อทำให้ผู้คนตื่นตระหนก ทุกคนต่างรับรู้ว่ามันเป็นวิธีการที่ยากลำบากและขมขื่นกว่าที่จะก้าวไปเป็นเซียนสวรรค์ หากว่าบรรพชนของตระกูลฮาริโต้กลายเป็นเซียนสวรรค์ในอีกเพียง 20 ปีข้างหน้า มันนับว่าเป็นข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อนัก
อาณาจักรวายุครามนั้นได้สูญเสียเซียนสวรรค์ในการทำสงคราม เหลือเพียง 4 คนเท่านั้น และหากว่าตระกูลฮาริโต้จะไปเพิ่มจำนวนนั้น แล้วจะกลายเป็นหนึ่งในด้านบนสุดของอาณาจักร มันจะกลายเป็นห้า
รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าตู่กูเฟิง “ข้ารู้ทักษะการต่อสู้มากมาย แต่ข้าไม่ปรารถนาจะให้มันกับเจ้า”
คิ้วของไคเช่อขมวดเข้าหากัน ด้วยถ้อยคำเหล่านั้น ก่อนที่ท่าทีปิติจะปรากฏบนใบหน้าของเขา “แล้วถ้าเจ้ามีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากมาย เช่นนั้นแล้ว ไม่ต้องกังวล ตระกูลฮาริโต้จะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไม่เป็นธรรม”
ด้วยท่าทีดูแคลน เป็นตู่กูเฟิงซึ่งจ้องมองไปที่ไคเช่อ “ทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งนั้นหมายถึงทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ข้ามีมันอยู่สอง แล้วเจ้าต้องการหนึ่งในมันงั้นหรือ ? “
“อะไรนะ ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ 2 ทักษะ” ไคเช่อทันทีได้กลายเป็นแข็งค้าง ก่อนที่จะจ้องไปที่ตู่กูเฟิงด้วยท่าทีไม่อาจเชื่อ คลื่นอารมณ์ไหลออกจากหัวใจของเขาราวกับคลื่นยักษ์ ทักษะการต่อสู้นั้นเป็นอะไรที่ห่างไกลนัก กระทั่งเซียนสวรรค์ก็แห่งอาณาจักรวายุครามก็ไม่อาจที่จะครอบครองทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ได้
คำกล่าวของตู่กูเฟิงนั้น ทำให้ไคเช่อถึงกับตกตะลึง
เขามีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์หรือ ? สวรรค์ มันต้องเป็นเรื่องโกหก
“จากอาณาจักรโดยรอบมีเพียงตระกูลเจียงหยางแห่งอาณาจักรเกอซุนเท่านั้นที่จะมีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ข้าไม่เคยได้ยินบุคคลอื่นครอบครองทักษะการต่อสู้ระดับนี้มาก่อน”
“เพ้ย ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ นั่นสามารถสังหารเซียนสวรรค์ได้ แล้วเซียนปฐพีเช่นเขาจะมีถึงสอง ข้านั้นไม่อาจเชื่อมัน”
“ใช่ เขาต้องโกหกเป็นแน่”
กับทุกคนที่พูดคุยกับคนอื่น พวกเขาทั้งหมดเชื่อว่าตู้กู้เฟิงไม่มีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์
กระทั่งไคเช่อก็ไม่เชื่อว่าเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียง 20 ปีจะมีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ เขากล่าวออกมาว่า “หากว่าเจ้ามีมันจริงแล้ว ทำไมเจ้าไม่แสดงให้ทุกคนเห็นเล่า ! “
“ใช่ แสดงทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ให้เราดู”
“ช่วยเปิดหูเปิดตาพวกเรา แสดงทักษะเฉกเช่นทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ออกมา”
ทันทีที่ไคเช่อกล่าวจบ ทุกคนรอบตัวเขา ก็มองไปที่ตู่กูเฟิงเป็นสายตาเดียวกันราวกับจะเยาะเย้ย
ตู่กูเฟิงทำได้เพียงยิ้มเท่านั้น จากนั้นเขาเพียงยืนหยัด มองที่ด้านหลังของไคเช่อ มองไปที่เจี้ยนเฉิน หมิงตง เถี่ยต้า และโหยวเยว่ เดินออกจากห้องพิเศษ
เพียงหลังจากที่เจี้ยนเฉินได้เดินผ่านทางเดินนั้น เสียงขนาดเล็กก็ดังขึ้น “สิ่งมหัศจรรย์นั้นไม่เคยจะหยุด เพียงหลังการประมูลจบลง มันยังมีฉากน่าตื่นเต้นให้ดูอีกงั้นหรือ ? ช่างเป็นวันที่น่าตื่นตาตื่นใจนัก”
เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดเสียงดัง แต่เมื่อเขากล่าวขึ้น ทุกคนนั้นก็ได้ยินคำพูดของเขาอย่างชัดเจน เผยให้เห็นหน้าของพวกเขาและอีก 3 คน
ไคเช่อหันมองไปที่เจี้ยนเฉิน เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่หล่อเหลานี้ ดวงตาของเขาหวนคิดกลับไปถึงวู่หยุนเมื่อสองปีที่ผ่านมา
เจี้ยนเฉินมีความสามารถในการเปลี่ยนใบหน้าและหลอกสายตาของคนในเมืองเฟิงหยาง และกระนั้น เขาหนีจากเมืองโดยใช้หลุมและทางเดินด้านล่าง เป็นผลให้สมุนไพรที่เขาใช้ในการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์หน้าตาของเขาได้รับการล้างออกจนหมดจด ทำให้ไคเช่อเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเจี้ยนเฉิน
จ้องมองอย่างหนักไปยังใบหน้าที่คุ้นเคยของเจี้ยนเฉิน ไคเช่อได้เพียงกล่าวออกอย่างติดขัด “เจ้านั่นเองที่คือวู่หยุน”
ทุกคนก็ตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินสิ่งที่ไคเช่อกล่าวขึ้น เขากำลังมองดูเจี้ยนเฉินด้วยสายตาประหลาด ไม่มีใครหวังจะได้ยินว่าพวกเขาเกือบจะต่อสู้ผิดคน
เดินผ่านฝูงชน เจี้ยนเฉินเผยรอยยิ้มเย็นชาที่ใบหน้า “หยานไคเช่อ เจ้ายังคงจดจำข้าได้เช่นกัน ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าจะจดจำมันได้ เจ้ากล่าวถูกแล้ว ข้าคือวู่หยุนที่เจ้าโยนลงหน้าผาเมื่อ 2 ปีก่อน”
ด้วยการยืนยันของเจี้ยนเฉิน คนอื่น ๆ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด ได้แต่ยอมรับมัน พวกเขาได้ก่อปัญหาผิดคน คนที่ขายแกนอสูรระดับ 5 นี้ไม่ใช่วู่หยุนเมื่อ 2 ปีก่อน
ผู้ชายที่แข็งแกร่งมองอย่างรวดเร็ว เดินไปข้างหน้าล้อมกลุ่มเจี้ยนเฉิน คนหนึ่งได้กล่าวขึ้นด้วยท่าทีโกรธแค้น วู่หยุน เจ้าได้ฆ่าคนจำนวนมากจากตระกูลยู่หลัน อาชญากรรมนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจอภัยได้ ข้าไม่อาจปล่อยเจ้าออกจากเมืองเฟิงหยางทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นแน่
จากตระกูลเฮมมิ่ง ชายวัยกลางคนรีบกระซิบกับหัวหน้าตระกูลที่ข้างหู “นายท่าน เขาเป็นคนที่ทำให้นายน้อยบาดเจ็บเมื่อหลายวันที่ผ่านมา”
แสงวาบได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขากล่าวว่า “ข้าไม่คิดว่า มันจะเป็นวู่หยุนที่ได้ทำให้บุตรชายข้าได้รับบาดเจ็บ วู่หยุนได้ฆ่าคนของข้ามากมาย ดี ข้าจะชำระทั้งหนี้เก่าและหนี้ใหม่”
ด้วยการโบกมือ และคน 2 โหลได้ล้อมรอบเจี้ยนเฉิน เพื่อให้เขาไม่อาจที่จะหลบหนีไปได้
หลังจากจ้องมองกลุ่มของเจี้ยนเฉิน ไคเช่อนั้นเพียงสามารถตรวจสอบความแข็งแกร่งของโหยวเยว่และเถี่ยต้า หมิงตง ส่วนเจี้ยนเฉินนั้นได้ซ่อนความแข็งแกร่งไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ไคเช่อนั้นไม่อาจที่จะตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตาม ไคเช่อยังไม่คิดว่าสองคนนั้นเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดนั้นยังเยาว์นัก
ด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน ไคเช่อกล่าวออก “วู่หยุน เจ้ามาได้จังหวะพอดี ข้าเกือบที่จะลงมือผิดตัวแล้ว” ด้วยความปั่นป่วนไปทั่วใบหน้าของไคเช่อ ก่อนจะลังเลและป้องมือเข้าหากัน “พี่น้องที่รัก ข้าต้องขออภัย ข้าหวังว่าเจ้าจะยกโทษให้กับข้า บางที ในอนาคต หากเจ้ามีเวลา กรุณามาที่เมืองลูซของข้า และมาเยือนยังตระกูลฮาริโต้ของข้า” ถ้าคนนี้เป็นวู่หยุนแล้ว ไคเช่อจะสังหารโดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา หลังจากที่โยนวู่หยุนลงหน้าผานั้น ความเกลียดชังระหว่างทั้งสองนั้นก็ไม่มีทางที่จะอภัยให้ได้ มีเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องล้มหายตายจากไปเท่านั้น กับเขาที่กระทำผิดกับอีกคน ไคเช่อได้ขออภัยทันที กับเซียนปฐพีเช่นนี้ ตระกูลฮาริโต้ไม่คิดที่จะมีปัญหาด้วย
ตู่กูเฟิงไม่ได้กล่าวสิ่งใด เพื่อให้ไคเช่อตัดสินใจที่จะจบบทของตน เขาหันหน้าไปหาอีกคน “ไคเช่อ ข้ายังมีธุระที่จะต้องจัดการกับวู่หยุน โปรดให้อภัยตระกูลฮาริโต้ของข้า”
ใบหน้าของอังค์มืดครึ้ม ตาของเขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉิน สี่คนนี้ที่อยู่ในห้อง 8 หากใครปฏิเสธที่จะลงสู้กับตระกูลฮาริโต้ของข้า ทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงประมูลด้วยตัวเอง ข้าหวังว่าเจ้าจะสำนึกในสิ่งที่ตนกระทำลงไป