เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 566: การแสดงอำนาจอย่างเต็มที่ (1)
ตอนที่ 566: การแสดงอำนาจอย่างเต็มที่ (1)
ยามเมื่อได้ยินว่าเจี้ยนเฉินเป็นหนึ่งในคนในห้องพิเศษ 8 ดวงตาของไคเช่อก็เผยเจตนาฆ่ามากขึ้น เขากัดฟัน “แม้กระทั่งตอนนี้ เจ้าก็ยังปฏิเสธที่จะอ่อนข้อให้กับตระกูลฮาริโต้ หืม การกระทำผิดนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะให้อภัยได้” ทันใดนั้น เขาหันหน้าไปมองที่หัวหน้าตระกูลเฮมมิ่ง ไคเช่อป้องมือเข้าหากัน “ข้าขออภัย แต่เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่ตระกูลฮาริโต้ของเราต้องจัดการ ข้าหวังว่าเจ้าจะปล่อยให้มันเป็นเรื่องของตระกูลฮาริโต้ของข้า แน่นอน ข้าจะแก้แค้นให้กับตระกูลของเจ้า”
ชายในชุดสีขาวที่มีบรรยากาศแปลก ๆ รอบตัว เขาเดินออกจากฝูงชนด้วยรอยยิ้ม “ไคเช่อ ข้าผู้นี้ไม่อาจเชื่อและหวังว่าเจ้าจะให้คำอธิบายว่าเหตุใดเจ้าถึงโกรธแค้นคนผู้นี้ แม้ว่ามันจะเกิดจากการประมูล ทว่าความเกลียดชังในตัวบุคคลมันไม่อาจที่จะฝังลึกได้เช่นนี้”
ชายคนนี้คือผู้ที่อังค์และไคเช่อไม่กล้าที่จะล่วงเกินบนเวที เขาเป็นหัวหน้าของตระกูลเฟิงที่มีพลังอำนาจเทียบเท่าตระกูลฮาริโต้
อังค์มองไปที่ไคเช่ซึ่งลังเลที่จะตอบคำถามนั้น ไคเช่อตอบเพียงว่า “ท่านหัวหน้าตระกูลเฟิง เรื่องนี้ มันเกิดจากเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนและผลประโยชน์ของตระกูลข้า โปรดยกโทษให้ข้าที่ไม่อาจที่จะอธิบายเกี่ยวกับความเกลียดชังของข้านี้
“อะไรที่เจ้าไม่สามารถเอ่ยได้ในที่นี้ ? ไคเช่อ ข้า อึ้งฉางกง รู้สึกค่อนข้างสงสัยกับเรื่องเช่นนี้มันคืออะไรกัน ที่ทำให้พี่ชายรู้สึกเกลียดจนอยากจะฆ่าเขาเช่นนั้น” เป็นอีกเสียงที่อาจได้ยินจากด้านหลัง เป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเหยี่ยววิญญาณเดินออกมา
ใบหน้าของไคเช่อมืดครึ้ม แต่เขาไม่ได้กล่าวอะไรตอบสนอง
หัวหน้าตระกูลเฟิงมองด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ข้าเชื่อว่า ทุกคนในที่นี้ได้เข้าใจผิดเกี่ยวกับน้องชายคนนี้ สำหรับวู่หยุน ใน 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เจ้านั้นได้เรียกร้องให้เขาได้มอบทักษะการต่อสู้ของเขา มันอาจเป็นเพราะวู่หยุนนั้นมีทักษะการต่อสู้ที่ตระกูลฮาริโต้หมายตาไว้”
คำพูดของหัวหน้าตระกูลเฟิงนั้น ทำให้ใบหน้าของไคเช่อซีดเผือดลง “ท่านตระกูลเฟิง หากไม่มีหลักฐานแน่นหนา อย่าได้กล่าววาจาเช่นนั้น” ไคเช่อรู้ว่าหากเซียนผู้เชี่ยวชาญสามารถสังหารเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้ มันจะต้องมาจากทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี
ภายในอาณาจักรวายุคราม ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีนั้นเป็นสิ่งที่ทุกขุมอำนาจต่างเห็นว่ามีความสำคัญ แม้กระทั่งเซียนสวรรค์ก็ยังต้องการครอบครองทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีที่แข็งแกร่ง
หัวเราะออกมา หัวหน้าตระกูลเฟิงจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉิน “น้องชาย ที่ข้ากล่าว มีสิ่งอันใดผิดไปหรือไม่ ? “
เจี้ยนเฉินแสดงรอยยิ้มที่ยินดีด้วยใบหน้าที่เบิกบาน “ถูกต้อง สองปีที่ผ่านมา หยานไคเช่อนั้นเห็นว่าข้ามีทักษะการต่อสู้ และจงใจฆ่าข้าเพื่อหมายช่วงชิงทักษะของข้าไปให้ตระกูลของเขา”
ด้วยคำพูดของเจี้ยนเฉินนั้น ทำให้ใบหน้าของไคเช่อมืดครึ้มมากขึ้น ขณะที่เขารู้ว่า เรื่องทักษะการต่อสู้นั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้แพร่ไป เพราะมันจะรวมผู้คนที่แข็งแกร่งจำนวนมากที่นี่ แม้กระทั่งเขาก็ไม่สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดเพื่อรักษาความลับได้
“น้องชาย เจ้ามีทักษะการต่อสู้อันใด หากว่ามันทำให้ตระกูลฮาริโต้ต้องการมัน มันไม่ควรเป็นทักษะระดับต่ำไปได้” อึ้งฉางกงกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังเช่นกัน
นอกจากนี้ทุกคนที่อยู่ที่นี่แล้วย่อมสามารถคาดเดาได้ ทักษะดังกล่าวที่ทำให้ตระกูลฮาริโต้ต้องการนั้น มันจะต้องมีค่ามาก การรับรู้เกี่ยวกับมันก็เพียงพอที่จะจุดชนวนความโลภภายในจิตใจของทุกคนให้เริ่มอยากได้เช่นกัน
เมื่อเห็นประกายโลภในดวงตาของทุกคน เจี้ยนเฉินเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย้ยหยัน เขาป้องมือที่หน้าอกของเขา “ทักษะการต่อสู้ของข้าคือทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูง”
ราวกับอัสนีบาต ทุกคนที่ได้ยินต่างตกตะลึง ได้ยินว่ามีทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูง หลังจากที่ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยออกไป มันทำให้ทุกคนจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉิน กับเรื่องจริงที่ออกจากปากของเขา ทักษะการต่อสู้นี้ มันถือได้ว่าเป็นทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรวายุคราม
สีหน้าของไคเช่อได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขานั้นเต็มไปด้วยความเสียใจ หากว่าเขารู้ว่าเจี้ยนเฉินนั้นครอบครองทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูง แล้ว เขามั่นใจว่าเขาจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าเจี้ยนเฉินไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ ขณะที่ข่าวนี้ยังไม่กระจายออก มันไม่มีทางที่ใครจะรับรู้มันได้
ไคเช่อ ทำไมเจ้าไม่บอกข้าเกี่ยวกับเรื่องสำคัญดังกล่าวก่อนหน้านี้ เจ้าบ้า ตอนนี้ ดูสิ่งที่เจ้าทำเอาเสียเถิด เจ้าทำความลับรั่วไหลออกไป” อังค์ตะเบ็งเสียงใส่ไคเช่อ
กับสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปจากความคาดหวังของเขา ไคเช่อได้เต็มไปด้วยความเสียใจทันที เขาไม่ควรกล่าวถึงทักษะการต่อสู้ทันทีที่วู่หยุนได้ปรากฏขึ้น
ข้าไม่คาดคิดเลยว่า เจ้าจะมีทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูง น้องชาย ข้าจะไม่สงสัยเลยว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้ ในอาณาจักรวายุครามของเรา อึ้งฉางกงระเบิดเสียงหัวเราะที่ดูสดใสและอบอุ่นในสายตาของเขา ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูงนั้นมากพอที่จะหลอกล่อบุคคลใดก็ได้
ตอบสนองอย่างช้า ๆ หัวหน้าตระกูลเฟิงกล่าวออกมาด้วยสายตาเป็นประกาย “น้องชาย การที่มีทักษะการต่อสู้ดังกล่าวนั้นมันจะเป็นภาระของเจ้า มันจะเป็นอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ข้ามีทางที่จะแก้ไข ตระกูลเฟิงนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนิกายที่แข็งแกร่งภายในอาณาจักรวายุคราม นิกายซือจื้อ แล้วทำไมไม่ขายให้พวกเขา พวกเขาจะรับประกันสวัสดิภาพของเจ้า หากเจ้ามีนิกายซือจื้อที่หนุนหลังเจ้าแล้วละก็ ไม่มีใครภายในอาณาจักรวายุครามกล้าที่จะสร้างปัญหาให้กับเจ้า
“นายท่านกล่าวได้ถูกน้อง น้องชาย นิกายซือจื้อนั้นแข็งแกร่งมากและมีเซียนสวรรค์อยู่ภายในนั้น ภายในอาณาจักรวายุคราม เขาเป็นกลุ่มนิกายที่แข็งแกร่งที่สุด หากว่าเขาหนุนหลังเจ้าแล้ว มันก็ไม่มีใครที่จะกล้าสร้างปัญหาให้กับเจ้าได้ เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการถูกเอาเปรียบ ชายชราที่ยืนอยู่ด้านข้าง ยืนยันอีกครั้ง เสียงของเขาดูเหมือนมีความหมายจริงใจถึงสวัสดิภาพของเจี้ยนเฉิน
ใบหน้าของไคเช่อและอังค์เปลี่ยนสีไป ในความโกรธและความโศกเศร้า นิกายซือจื้อนั้นเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งภายในอาณาจักรและถูกเชื่อมต่อกับตระกูลตัวเอง อำนาจดังกล่าวก็ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลฮาริโต้นั้น จะสามารถต่อกรได้ แม้ว่าบรรพชนของตระกูลฮาริโต้นั้นจะสามารถกลายเป็นเซียนสวรรค์ในไม่ช้า พวกเขาก็ไม่อาจที่จะเทียบเคียงกับนิกายซือจื้อได้
ไม่เพียงนิกายซือจื้อมีอำนาจยิ่งกว่าตระกูลฮาริโต้ แต่ทว่าการมีเซียนสวรรค์ภายในตระกูลนั้น นับว่าเขานั้นเต็มไปด้วยอำนาจ
ทุกคนที่ได้ยินสะดุ้ง การกล่าวถึงนิกายซือจื้อนั้นทำให้พวกเขาได้แต่ถอนหายใจ พวกเขาตระหนักว่าถ้าเจี้ยนเฉินจะลี้ภัยไปกับนิกายซือจื้อแล้ว พวกเขานั้นก็สูญเสียโอกาสที่จะได้รับทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
เจี้ยนเฉินยิ้ม “ขอบคุณสำหรับความตั้งใจดีของเจ้า แต่ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูงนั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองใด ๆ นายท่านตระกูลเฟิงนั้นไม่จำเป็นต้องกังวล
ใบหน้าของชายผู้นั้นเปลี่ยนแปลง น้องชาย เจ้าต้องคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบ ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีมีค่ามาก มีนิกายซือจื้อปกป้องเจ้า ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ไข ชีวิตของเจ้าดีมาก” หัวหน้าตระกูลเฟิงกล่าวออกมา หากคนผู้นี้ยอมมอบทักษะต่อสู้กับนิกายซือจื้อ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นิกายซือจื้อนั้นจะต้องมองตระกูลเฟิงดีขึ้น และเรื่องนี้มันจะช่วยให้เรื่องนั้นง่ายขึ้น
โดยไม่ลังเล เจี้ยนเฉินส่ายศีรษะของเขา นี่เป็นปัญหาที่ไม่จำเป็นต้องกังวล ปัญหาเล็กน้อยปล่อยให้เป็นเรื่องของข้า ปล่อยให้คนของข้าจัดการ
ยามเมื่อเห็นเจี้ยนเฉินปฏิเสธข้อเสนอของนิกายซือจื้อ ก็พบกับประกายตาของคนรอบข้างเขา อย่างแรกความหวังได้จุดประกายขึ้นภายในจิตใจของพวกเขา หลังจากพวกเขาตระหนักว่านี่ยังมีโอกาสอีกครั้งที่จะได้รับทักษะการต่อสู้
วู่หยุน เจ้าฆ่าคนจำนวนมากจากตระกูลยู่หลันเมื่อสองปีก่อน เจ้าวางแผนที่จะอธิบายว่าอย่างไรกัน ? หัวหน้าของตระกูลยู่หลันกล่าวพลางคิดถึงการตายของพวกเขาก่อนหน้านี้ เขาก็เตรียมการต่อสู้ด้วยทักษะการต่อสู้
เจ้าได้ฆ่าผู้ชายจากตระกูลเฮมมิ่ง เช่นเดียวกับการทำร้ายลูกชายของข้าให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าจะไม่อนุญาตให้ตระกูลของข้าปล่อยผ่านเรื่องนี้แน่ หัวหน้าตระกูลเฮมมิ่งกล่าวขึ้น
วันนี้หนี้ของพวกเราจะถูกล้างด้วยเลือด
ยังมีตระกูลเทียนมู่ของข้า…
สองฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจี้ยนเฉินก็เริ่มที่จะร้องทุกข์กับคนอื่น เนื่องจากทุกคนที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์เริ่มนำความตายของคนในตระกูลมาอ้าง พวกเขาได้วางแผนการใช้ความสูญเสียมาเรียกร้องให้ได้รับทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี
สำหรับคนที่เดินทางมาจากเมืองอื่น พวกเขาเพียงยืนอย่างสงบในความเงียบ ตามที่พวกเขาสังเกตเห็นสถานการณ์ชุมนุมด้านหน้า
กับทุกคนที่เปลี่ยนแปลง คนที่เศร้านั้นเป็นเพียงแต่ไคเช่อ ทว่าเขารู้ว่ามีไม่มีเวลาที่จะเสียใจ มิฉะนั้นอย่างอื่นอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อีกครั้ง เขาไม่ปล่อยให้จากไป เขาคว้าค้อนของเขาและบินไปที่เจี้ยนเฉิน ด้วยการร้องออก วู่หยุน เจ้าจะต้องชดใช้หนี้เลือดของเราที่นี่ และเดี๋ยวนี้
ด้วยการที่ไคเช่อเคลื่อนไหว ตู่กูเฟิงได้โบกมือและใช้ดาบเพลิงของเขาป้องกันค้อน
อาวุธเซียนทั้งสองปะทะกัน หลังจากที่มันปะทะมันก็ยังเป็นเช่นนี้ และมันทำลายถนนเป็นพลังงานไหลผ่านพื้นดิน หลังจากโจมตีเพียงคราเดียว ทว่าไคเช่อนั้นเป็นฝ่ายที่จะถูกส่งให้บินกลับออกไป ขณะที่อีกฝ่ายยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมของเขาโดยไม่สั่นไหวเลย