เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 576: นำโลงศพเข้าเมือง
ตอนที่ 576: นำโลงศพเข้าเมือง
ไป๋หยุนเทียนคุกเข่าลงต่อหน้าหลุมศพของไป๋หยุนไห่ และสัมผัสที่แผ่นป้ายหลุมศพที่เย็นจัดอย่างนุ่มนวล หยาดน้ำตาของนางไหลรินลงจากดวงตาของนาง ขณะที่นางทำสีหน้าเศร้าโศก ภายในจิตใจของนาง นางไม่สามารถช่วยอะไรได้ ได้แต่หวนคิดกลับไปเมื่อยี่สิบปีก่อน ตอนที่นางกับน้องสาวของนาง ไป๋หยุนไห๋ อยู่ด้วยกัน คืนวันที่ผันผ่านล้วนแล้วแต่มีความสุข พวกนางแทบจะไม่เคยแยกจากกันเลย พวกนางจะเล่นด้วยกัน กินด้วยกัน และพวกนางก็ไม่เคยแยกจากกัน
น้องหยุนไห่ ทุกอย่างเป็นความผิดของพี่สาวผู้นี้ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าหนีรอดมาได้ ข้าจะไม่มีวันยอมให้เจ้าตกอยู่ในสภาพแบบนั้น น้องหยุนไห่ เจ้าทนทุกข์ทรมานมาหลายปี แม้แต่การตายของเจ้า หลุมฝังศพของเจ้าก็ช่างเรียบง่าย โทษพี่สาวที่มาไม่ทัน ไป๋หยุนเทียนคร่ำครวญด้วยความเศร้าโศก
ท่านแม่ ลูกกำลังจะแก้แค้นให้ท่าน ลูกจะฆ่าสัตว์เดรัจฉานที่อยู่ในคราบมนุษย์ที่สังหารท่าน ได้โปรด ท่านแม่ ได้โปรดพักผ่อนอย่างสงบ ไป๋เหลียนคุกเข่าอยู่ข้างหลุมฝังศพและร้องไห้พร้อมกับไป๋หยุนเทียน
เห็นความเจ็บปวดบนใบหน้าของพวกนาง เจี้ยนเฉินรู้สึกถึงคลื่นของความเศร้าโศก เขาทำได้เพียงยืนอยู่ที่ด้านข้าง แต่เขาไม่พูดอันใด ข้าง ๆ เขาเป็น หมิงตง โหยวเยว่ และเถี่ยต้า ทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ด้านหน้า ไม่มีสักคนในหมู่ของพวกเขาที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือจะเข้าใจในทันทีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมารดาของไป๋เหลียนและไป๋หยุนเทียน
ไม่สามารถเก็บงำไว้ได้ หลังจากที่ในช่วงเวลาสั้น ๆ โหยวเยว่กระซิบกับเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉิน เกิดอะไรขึ้นที่นี่ ? สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ถอนหายใจ เจี้ยนเฉินอธิบาย แม่ของหยุนเหลียนและแม่ข้าเป็นพี่น้องกัน นางไม่ได้ชื่อหยุนเหลียนอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้นางเปลี่ยนชื่อเป็นไป๋เหลียน นางเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าโดยชอบธรรม
หมิงตงและโหยวเยว่ได้แต่อ้าปากค้างกับข้อมูลที่ได้รับรู้ สร้างความตกตะลึงให้กับพวกเขา
อะไร ? ลูกสาวของครอบครัวหยุนเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า โหยวเยว่ร้องอุทานตกใจ
นั่นมันโคตรเหลือเชื่อ ! หมิงตงร้องออกมาเช่นกันก่อนจะมองกลับไปที่ไป๋เหลียนที่ร้องไห้ตรงหน้าหลุมศพด้วย เขาไม่เคยคิดเลยว่า เด็กสาวที่ได้เข้ามาในห้องของตนเมื่อสองวันก่อนจะกลับกลายเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินเห็นแม่ของเขาร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกสักพัก ถอนหายใจออกครู่หนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายจะเดินเข้าไปเพื่อปลอบโยนนางว่า ท่านแม่ โปรดอย่าเศร้าโศกเลย คนตายแล้วไม่สามารถหวนกลับมามีชีวิตได้ และท่านป้าหยุนไห่ได้จากไปหลายปีแล้ว
เช็ดน้ำตาของนางออกไป ไป๋หยุนเทียนสะอื้นให้เล็กน้อย น้องหยุนไห่ เจ้าต้องอยู่โดดเดี่ยวอยู่ในที่นี่มานานหลายปี ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ในที่สุดข้าก็พบเจ้าแล้ว ไม่มีทางที่ข้าจะไม่พาเจ้ากลับไปที่คฤหาสน์เจียงหยาง ข้าจะอยู่กับเจ้าทุกวัน เจ้าจะไม่เหงาอีกต่อไป ย้ายไปอยู่ด้านหลังของป้ายหลุมศพ ไป๋หยุนเทียนค่อย ๆ กอดป้ายหลุมศพและปล่อยให้น้ำตาหยดลงบนแผ่นดินเหนียวที่ด้านล่าง
หลังจากผจญแดด ลม และฝนมาหลายปี ดินมันก็แห้งและแข็ง หลังจากพยายามหลายครั้งที่จะขุดดินด้วยมือที่บอบบางของนาง ปลายนิ้วมือของไป๋หยุนเทียนก็เริ่มที่จะมีเลือดออกมา
อย่างไรก็ตาม นางก็ไม่ได้ดูเหมือนจะสังเกตหรือให้ความสนใจ ความเจ็บปวดที่นางรู้สึกในมือของนาง มันเปรียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่นางรู้สึกอยู่ในหัวใจ ดังนั้น ด้วยพลังงานทั้งหมดของนาง นางขุดหลุมศพ ด้วยความคิดของนางที่จะนำหลุมศพของน้องสาวนางออกไปจากที่นี่
ภาพที่เห็นสร้างความเจ็บปวดให้กับเจี้ยนเฉินเป็นอย่างมาก เขารีบกอดแขนมารดาของเขา เขาวิงวอนกับนางว่า ท่านแม่อย่าทำเช่นนี้เลย ให้ลูกเป็นคนทำเอง โปรดพักผ่อนเถิด
ไป๋หยุนเทียนส่ายหน้า ไม่ต้อง ข้าจะช่วยน้องสาวของข้าเอง ข้าจะพาน้องหยุนไห่กลับคฤหาสน์เจียงหยาง ด้วยมือของข้าเอง ออกแรงขุดด้วยแรงทั้งหมดของนาง นิ้วมือก่อนหน้านี้ที่เคยงดงามราวหยก บัดนี้กลับถูกปกคลุมไปด้วยดินและเลือด พื้นดินได้เต็มไปด้วยเลือดของนาง
ท่านแม่ โปรดให้ลูกได้ช่วยท่าน” ถ้าเขาไม่อาจหยุดนางแล้ว เจี้ยนเฉินจะต้องทำตามแผนของแม่ของเขาและเข้าร่วมด้วย ย้ายไปขุดหลุมศพที่สูงเท่าตัวของเขา เจี้ยนเฉินพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของแม่ของเขาให้ได้มากที่สุด
ไป๋เหลียนนั้นได้เข้ามาร่วมกับทั้งสองที่ข้างหลุมศพอย่างรวดเร็ว ทั้งสามคนได้ขุดที่หลุมฝังศพโดยใช้เพียงมือของพวกเขาเท่านั้น ท่านแม่ ลูกสาวของท่านได้กระทำผิด โดยให้ปล่อยให้ท่านต้องอยู่คนเดียวในดินแดนรกร้างว่างเปล่าแห่งนี้มานานหลายปี ท่านแม่ ท่านจะได้บ้านและครอบครัวใหม่ ลูกสาวของท่านจะตามไปที่นั่น ท่านจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
ให้ข้าช่วยท่าน โหยวเยว่เดินมาทั้งน้ำตา นางคุกเข่าต่อหน้าหลุมศพและเริ่มใช้มือที่ขาวนุ่มของนางนั้นขุดลงที่ดิน
หมิงตงมีความสับสนใบหน้าของเขาขณะที่เขายืนดู โดยไม่ต้องพูดอะไร เขาก็กระทำตามโหยวเยว่เช่นกัน คุกเข่าข้างหลุมศพ และใช้นิ้วมือของเขาเองที่จะขุดลงไปในดินเพื่อขุดหลุมฝังศพข้างใต้ สุดท้าย เป็นเถี่ยต้าที่เข้าร่วมตรากตรำกับพวกเขา
ภายใต้การเคลื่อนไหวเป็นระเบียบของทุกคน หลุมศพได้ถูกขุดอย่างรวดเร็ว แค่ 2 เมตรใต้ผืนดิน ก็เป็นโลงศพสีเข้ม
ท่านแม่ ! ! ! เห็นโลงศพ ความทุกข์และความเจ็บปวดของไป๋เหลียนระเบิดทั้งหมดในคราวเดียวกันในรูปแบบของเสียงคร่ำครวญที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ถ้าไม่ใช่เจี้ยนเฉินหยุดนาง นางคงกระโดดลงกอดโลงศพ
หัวใจของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเมื่อเห็นโลงศพเปื้อนโคลนนี้ เขาถอนหายใจ เขาค่อย ๆ ยกโลงศพลอยขึ้นจากพื้นดิน โดยการใช้พลังงานของโลก เขาวางมันอย่างระมัดระวัง วางมันลงบนพื้นโล่ง
ที่ใกล้โลงศพ มือที่เต็มไปด้วยเลือดของไป๋หยุนเทียนนั้นค่อย ๆ เช็ดสิ่งสกปรกออกบนโลงศพ นางกระทำอย่างระมัดระวังราวกับกำลังขัดอัญมณีมีค่าอย่างหาค่ามิได้
น้องหยุนไห่ ยี่สิบปีได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจ้ายังคงจำข้าได้มั้ย ข้าเอง พี่สาวของเจ้า หยุนเทียน ไป๋หยุนเทียนพึมพำ หยุนไห่ กลับบ้านกับพี่สาวของเจ้า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าทุกวัน เจ้าจะได้ไม่เหงาอีกต่อไปแล้ว
อีกด้านหนึ่งเป็นไป๋เหลียนที่ทรุดตัวลงกับโลงศพพร้อมกับน้ำตาที่ไหลจากตาของนางราวกับไม่มีวันหมด ที่สุดแล้ว นางร้องไห้หนักมากจนทำให้ตาของนางแดงก่ำ
ท่านแม่ ไป๋เหลียน เราควรรีบนำศพกลับไปที่เมือง หลังจากถูกฝังอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายปีในดินแดนนี้ ข้าแน่ใจว่า ท่านป้าคงจะเอือมระอากับสถานที่นี้ เจี้ยนเฉินปลอบพวกเขา
ช่วงเวลานี้ไม่มีการคัดค้านจากไป๋หยุนเทียนและไป๋เหลียน พวกเขาต่างเห็นด้วยกับคำแนะนำของเจี้ยนเฉิน ภายใต้การกระทำของเจี้ยนเฉิน เขานำโลงศพออกจากพื้นที่
แบกโลงศพ เจี้ยนเฉินเดินทางเข้าไปในเมืองเฟิงหนางภายใต้สายตานับไม่ถ้วนของผู้เห็นเหตุการณ์ พวกเขาจ้องมองด้วยความฉงนฉงาย
เจ้าคิดว่าผู้ชายมีการเจ็บป่วยหรือเป็นอะไร ? ดูจากความสกปรก ข้าพนันได้เลยว่า เขาเพิ่งขุดมันขึ้นมาจากพื้นดิน เขาจะเข้าเมืองด้วยเหรอ ? เขาไม่รู้หรือว่ามันเป็นสิ่งต้องห้ามที่จะทำแบบนั้น
เขาไม่ได้รู้กฎอย่างแน่นอน รอดูว่ายามจะหยุดเขา
ทหารและทหารรับจ้างต่างนับไม่ถ้วนพากันหัวเราะเยาะเจี้ยนเฉิน
กับโลงศพบนบ่า เจี้ยนเฉินเดินอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าไปในเมือง
ทหารนายหนึ่งรีบเข้ามาหยุดเจี้ยนเฉินเมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินก็แบกโลง ทหารคาดเดาเอาว่าเขาเป็นคนเร่ร่อนที่ไม่อาจมีเงินและตัดสินใจว่าไม่ต้องสุภาพกับเขา ด้วยเสียงดังและมีอำนาจ เขาบอกว่า หยุดเดี๋ยวนี้นะ ! เมืองเฟิงหยางของเราไม่อนุญาตให้นำโลงศพเข้าเมือง ถ้าเจ้าต้องการที่จะเข้าเมือง . . . . . . .
ไปให้พ้น ! ก่อนที่เขาจะพูดจบ เจี้ยนเฉินพูดเสียงดังก่อนเตะทหาร ส่งให้ทหารบิน
“มีการก่อเหตุร้าย จับกุมตัวเขา
ราวกับว่ามีคนได้ไปแหย่รังแตน บรรดาทหารบินมาพร้อมกับอาวุธของพวกเขา ที่ด้านบนของกำแพงเมือง ทหารทั้งหลายได้จัดเตรียมหน้าไม้ไว้เพื่อจัดการเจี้ยนเฉิน
อารมณ์เจี้ยนเฉินในตอนนี้ไม่ปกติ โดยเหตุการณ์ในปัจจุบันและเสียงที่น่ารำคาญของทหารทำให้เขารู้สึกถึงเจตนาฆ่าจากทหารจำนวนมากที่เข้ามา ดวงตาของเจี้ยนเฉินเย็นเยียบก่อนที่เจตนาสังหารจะเล็ดรอดออกมา ร่างกายของเขาทำให้อุณหภูมิโดยรอบให้ลดลงหลายองศา ใครที่ใกล้กับเขารู้สึกทันทีว่าราวกับพวกเขากระโจนเข้าสู่น้ำแข็ง หยุดยั้งพวกเขาจากความตาย
บนกำแพงเมือง ผู้บัญชาการกล่าวออก ยั้งมือ ด้วยศีรษะของหัวหน้าตระกูลทั้งสามที่เสียชีวิตไป เมืองเฟิงหยางของเราได้สูญเสียทหารไปจำนวนมาก แต่ทว่าท่านเจ้าเมืองของเราก็เป็นเซียนปฐพีที่เหลืออยู่ ผลลัพธ์จากจากเหล่าผู้เยาว์ที่แข็งแกร่งที่กลับมาจากโรงประมูลฟินิกซ์สวรรค์ ด้วยวัย พวกเขาอายุน้อยกว่าข้า แต่ด้วยความแข็งแกร่ง พวกเขาแข็งแกร่งกว่าข้ามากนัก หนึ่งในนั้นคือเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 พวกเขาจะกลายเป็นเซียนสวรรค์ในวันข้างหน้า น่าเหลือเชื่อจริง ๆ ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าพวกเขามาจากตระกูลไหน ดวงตาของผู้บัญชาการสะท้อนให้เห็นถึงความอิจฉา
ในเวลาเดียวกัน เจตนาฆ่ามาจากเจี้ยนเฉินได้ทำให้ผู้บัญชาการเกิดความสับสน
รับรู้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนแรง ผู้บัญชาการใบหน้าซีดเผือดไปด้วยตกใจ ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ของเขา เขากล่าวออก เจ้ามาจากไหน ก่อนที่เขาจะจบประโยคของเขา ผู้บัญชาการได้ออกจากอาคารด้านใน
เมื่อผู้บัญชาการเห็นทหารล้อมรอบเจี้ยนเฉินที่ด้านล่าง ตาของเขาถลนออกมาทันทีและใบหน้าของเขาซีดเผือด รีบออกมาหยุดทหารแล้วบอก “ทหารคุกเข่าลงพร้อมกัน ตามที่ร้องขอ ผู้บัญชาการคิดย้อนไปถึงสายตาเขาได้เห็นการกลับมาที่โรงประมูลฟินิกซ์สวรรค์ มันได้ฝังแน่นลึกรวมในใจของเขาที่คนกลุ่มนี้ใหม่ ไม่ใช่คนที่พวกเขาสามารถล่วงเกินได้