เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 577: การฝังศพที่น่าประทับใจ (1)
ตอนที่ 577: การฝังศพที่น่าประทับใจ (1)
มันไม่มีความจำเป็นในการที่จะสั่งให้หยุด เนื่องจากเหล่าทหารที่รายล้อมเจี้ยนเฉินได้หยุดเรียบร้อยแล้ว ด้วยดวงตาที่หวาดกลัว พวกเขาเห็นกลิ่นอายสังหารที่แผ่จากเจี้ยนเฉิน ในความหวาดกลัว มันเป็นการข่มขู่อย่างชัดเจนจากเจี้ยนเฉิน ที่ซึ่งไม่มีทหารคนใดที่จะกล้าที่จะก้าวร้าว
ผู้บัญชาการทหารกลัวว่าเจี้ยนเฉินจะโกรธ และเขาจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดด้วยความโกรธ ดังนั้นผู้บังคับบัญชาจึงไม่ได้ล่าช้าสำหรับแม้แต่เพียงครู่เดียว เขากระโดดออกมาจากกำแพงวิ่งไปหาเจี้ยนเฉิน เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่มืดครึ้มและเลวร้ายของเจี้ยนเฉิน ใบหน้าผู้บัญชาการเริ่มกระวนกระวายและร่างกายของเขาเริ่มที่จะสั่นเทา
ชายหนุ่มที่อยู่ในด้านหน้าของเขาเป็นคนที่น่าหวั่นกลัวมาก ที่แม้กระทั่งตระกูลฮาริโต้ อำนาจนั้นเป็นสิ่งที่ไกลเกินกว่าเมืองเฟิงหยางจะกล้าล่วงเกิน
“นายท่าน โปรดระงับความโกรธของท่าน เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากความประมาทของข้า ข้าจะลงโทษเจ้าพวกคนเหล่านี้ที่ได้ล่วงเกินท่าน ข้าหวังว่าว่าท่านจะเมินเฉยต่อคำดูถูกและปล่อยให้มันแล้วไปเถิด” ผู้บัญชาการรีบขอร้องเจี้ยนเฉินเพื่อการให้อภัย ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเคารพ เขาเป็นคนที่กลัวว่าการกระทำผิดกฎหมายเล็ก ๆ นี้จะทำให้เกิดภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นแก่เมืองเฟิงหยาง
ผู้บัญชาการทหารสังเกตใบหน้าเจี้ยนเฉินอย่างระมัดระวัง ก่อนที่เขาจะรีบหันไปดูทหารรอบตัวพวกเขา เขาแน่นอนว่าไม่ปฏิบัติต่อทหารเหล่านี้ด้วยความเคารพเหมือนที่ปฏิบัติต่อเจี้ยนเฉิน ในขณะที่เขากำลังพูดกับเจี้ยนเฉิน ใบหน้าของเขามืด ในขณะเขาตะโกนเสียงดังออกมา “ไอ้ตาบอด เจ้ากล้าที่จะหยาบคายต่อนายท่านผู้นี้หรือ ? เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ ? เจ้าคนโง่ที่จะมีปัญหากับนายท่าน ออกมาข้างหน้าให้หมด และขออภัยกับนายท่านเสีย”
มีความลังเลใจเล็กน้อยภายในเหล่าทหาร ก่อนที่ทหารที่หน้าซีดเผือดจะสะดุดออกมาจากด้านหลังของกลุ่ม มันมีรอยชัดเจนอยู่ที่หน้าอกของเขา มันเป็นเครื่องหมายของทหารคนแรกที่ได้ล่วงเกินเจี้ยนเฉินจนถูกเจี้ยนเฉินเตะ
เดินไปที่ทหาร เขาถีบเข้าไปที่ก้นของทหารและเริ่มข่มขู่เขา “รีบไปขออภัยจากนายท่าน!”
ผู้บัญชาการทหารได้เตะเขาอย่างแรง จนทหารทรุดลงแทบเท้าเจี้ยนเฉิน ความโกรธในใบหน้าของทหารนั้นได้หายไปอย่างสมบูรณ์ มีเพียงความหวาดกลัวอย่างที่สุด เขาเป็นคนที่ตระหนักถึงความจริงที่ว่า เขาได้ล่วงเกินคนที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้
“ข้า ทหารผู้ต่ำต้อยคนนี้ได้ทำผิด ทหารผู้ต่ำต้อยคนนี้ทำให้นายท่านเสียเวลาอันมีค่าของท่าน นายท่าน โปรดใจกว้างและไว้ชีวิตของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่าน” ทหารเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างน่าสมเพช ที่ด้านหน้าของเจี้ยนเฉิน ตอนนี้ในใจของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างมาก
ด้วยการแสดงออกอย่างหนักหน่วงและเจี้ยนเฉินจ้องมองอย่างเย็นชา จ้องทหารในด้านหน้าของเขา ชุดของเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในวันนี้ ได้ก่อให้ทำให้หัวใจของเขาจะรู้สึกดิ่งลึก ทำให้อารมณ์ของเขาไม่ได้คงที่นัก เมื่อทหารได้หยุดเขาจากการแบกโลงศพของป้าหยุนไห่ของเขาเข้าไปในเมือง เจี้ยนเฉินนั้นพร้อมที่จะฆ่าอย่างแท้จริง ถ้าไม่ได้รับคำขอโทษในเวลาที่เหมาะสมจากผู้บัญชาการ ไม่เช่นนั้นแล้ว มันคงมีการนองเลือดที่ด้านหน้าของประตูเมือง
โดยขณะนี้ โหยวเยว่ได้ย้ายไปอยู่ด้านเจี้ยนเฉินและจับแขนซ้ายของเขา “เจี้ยนเฉิน ปล่อยไปเถิด ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้”
อันเป็นผลมาจากคำพูดของโหยวเยว่ กลิ่นอายฆาตกรรมที่แผ่ไปทั่วร่างกายเจี้ยนเฉินหายไปอย่างช้า ๆ แต่ทว่าเขายังคงจ้องมองอย่างไม่ไยดีไปที่ทหารคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา เขาตะโกนว่า”ไปซิ ! “
เห็นว่าสถานการณ์ที่ด้านหน้าคงที่แล้ว ผู้บัญชาการก็สามารถที่จะผ่อนลมหายใจยาวออกมา คว้าคอเสื้อของทหารและเขาโยนไปที่ด้านข้างเขา ร้องออกมาด้วยความโกรธ “รีบไปให้พ้นทาง ! อย่าปิดกั้นเส้นทางของนายท่าน” รอยยิ้มได้ปรากฏบนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขาพูดกับเจี้ยนเฉินด้วยน้ำเสียงจริงใจ”นายท่าน ข้าต้องขออภัยสำหรับการเสียสละเวลาอันมีค่าของท่าน ขอให้เดินทางอย่างปลอดภัย ! “
แม้ว่าเมืองเฟิงหนางนั้นจะมีกฎ เช่น ห้ามไม่ให้แบกโลงศพเข้าไปภายในเมือง แต่ทว่าผู้บังคับบัญชาไม่ได้พยายามที่จะหยุดเขา ในทางตรงกันข้าม ผู้บังคับบัญชาได้ต้อนรับเขาด้วยความเคารพอย่างถึงที่สุด ราวกับว่าเขาได้หวั่นเกรงต่ออีกฝ่าย
โดยไม่พูดอะไรอีกเจี้ยนเฉินแบกโลงศพที่มีไป๋หยุนไห่เข้ามาในเมือง ด้วยความหนักใจของผู้ที่อยู่ข้างหลังเขา ไป๋หยุนเทียน โหยว่เยว่ เถี่ยต้า ไป๋เหลียน ที่ตามมา
หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในเมือง บริเวณที่อยู่ใกล้กับประตูเมืองก็กลับมาสู่ช่วงเวลาปกติในที่สุด คนจำนวนมากต่างก็หยุดหลังการต่อสู้ แต่ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะพูดถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น ทุกคนเพียงแต่จ้องมองที่ร่างของเจี้ยนเฉินและกลุ่มของเขาในความหวาดกลัวอย่างเงียบ ๆ
ในสายตาของพวกพ่อค้าและทหารรับจ้าง ยามรักษาเมืองไม่ได้ที่จะล้อเล่น แม้ว่าทหารเหล่านี้ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าทหารรับจ้างที่พวกเขายังคงเป็นตัวแทนของอาณาจักรวายุครามในฐานะที่เป็นทหาร ในกรณีที่มีความขัดแย้ง ทั้งอาณาจักรวายุครามจะตอบแทนให้เงินรางวัลสำหรับหนึ่งรับผิดชอบ หากไม่ได้มีการสนับสนุนที่เหมาะสม
คนแรกที่เห็นชายหนุ่มแบกโลงศพไปทางประตูและเตะยามจนได้รับบาดเจ็บ และเฝ้าดูชายหนุ่มคนเดียวกันถูกโบย ขณะที่ผู้บัญชาการทหารภายในเมืองนั้นราวกับสุนัขที่ประจบเจ้าเพื่อการให้อภัย ทุกคนทำได้แค่พยายามที่จะคาดเดาอำนาจของชายหนุ่มที่ทำให้ผู้บังคับบัญชาต้องหวาดกลัวเขามาก
กับโลงศพที่ยังคงสกปรก ได้ถูกแบกขึ้นสูงบนไหล่ของเขา เจี้ยนเฉินก้าวลงถนนของเมือง ทำให้ทุกคนพยายามที่จะก้าวไปจากเขาอย่างรวดเร็ว ไม่มีคนใดที่จะกล้าหยุดเจี้ยนเฉินที่เดินผ่าน และทำได้เพียงหันไปมองเขาด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
เข้ามาในเมืองที่มีโลงศพในมือ มันเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากมากที่จะเห็นในเมืองเฟิงหยาง สิ่งอัปมงคลเหมือนโลงศพนั้นไม่ได้รับอนุญาตภายในเมือง พวกเขาต้องทิ้งไว้ด้านนอก
อย่างไรก็ตาม คนมากมายของพวกเขาได้รับการยอมรับเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินนั้นเป็นคนหนึ่ง ที่สังหารเซียนปฐพีทั้งห้าที่โรงประมูลฟินิกซ์สวรรค์เมื่อหลายวันที่ผ่านมา มันน่ากลัวอย่างยิ่ง ในสายตาของพวกเขากลายเป็นหวาดกลัว
ในไม่ช้า เจี้ยนเฉินได้นำโลงศพกลับไปที่โรงเตี้ยม เมื่อเข้าสู่โรงเตี้ยม เขาก็ตกใจ หนึ่งในเสี่ยวเอ้อได้คร่ำครวญทันที ท่านไม่สามารถนำโลงศพเข้าในเมืองนี้ได้นะท่าน
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมวิ่งออกมาเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้เลย เมื่อเขาเห็นโลงศพ เขาพูดด้วยสีหน้าละอาย นายท่าน ท่านจะกรุณาหาที่อื่นเพื่อวางโลงศพ ที่นี่ไม่สามารถมีโลงศพเข้ามาในที่นี่ได้นะนายท่าน ได้โปรดนำออกไป”
เดินออกไปที่ข้างหน้า หมิงตงโยนเหรียญสีม่วงหลายเหรียญไปยังฝ่ามือเจ้าของโรงเตี๊ยม ถ้าเช่นนั้น ข้าเช่าโรงเตี้ยมทั้งหมด ถ้าพวกเขาต้องการอยู่ที่นี่ก็ตามใจ ถ้าพวกเขาไม่ทำ พวกเขาก็รับเงินไปและออกไปให้พ้นทางของเรา
กองเหรียญสีม่วงที่หมิงตงให้เถ้าแก่โรงเตี้ยม มันเพียงพอที่จะจ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายของโรงเตี้ยมเป็นเวลาหลายเดือน เห็นเงินมหาศาลอยู่ในมือของเขา เถ้าแก่โรงเตี้ยมซึ่งขมวดคิ้วอย่างกังวลก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มอย่างมีความสุข เขารีบเก็บเหรียญและตอบว่า ใช่ โลงศพเท่านั้น แต่เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ มันไม่มีอะไรน่ากังวลเลย
เมื่อเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ หายไปที่บันได กำเหรียญม่วงไว้ในมือทั้งสองข้างอย่างสุขใจ นายท่านเหล่านั้นมีน้ำใจ เหรียญสีม่วงเหล่านี้เป็นมากกว่าเพียงพอสำหรับโรงเตี้ยมนี้กว่าหลายเดือนแล้ว นี่นับว่าเป็นกําไรสําหรับเรา”
ทหารรับจ้างบางส่วนที่ได้รับการรับประทานอาหารออกโดยด้านข้าง เลือกเวลาที่จะพูดขึ้น เถ้าแก่ เจ้าไม่รู้จักคำว่า ‘กลัว’ ใช่มั้ย ? เจ้ารู้รึเปล่าว่าคนที่ให้เงินเจ้าเป็นใคร ? “
แน่นอน ข้ารู้ พวกเขาต้องเป็นขุนนางหนุ่มที่มีฐานะครอบครัวดี พวกเขาจึงมีเงินมาก เถ้าแก่โรงเตี้ยมหัวเราะในการตอบ
นี่ ข้ามีอะไรจะบอกเจ้า เด็กพวกนั้น เป็นคนฆ่าเซียนปฐพีของตระกูลทั้งสามในเมืองนี้ แม้กระทั่งเซียนปฐพี จากตระกูลฮาริโต้ยังถูกฆ่าตาย. . . . . . . ทหารรับจ้างกล่าว
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมมีสีหน้าซีดเผือด อะไรนะ ? เขาเป็นคนที่ฆ่าหัวหน้าตระกูลทั้งสาม ?
ทหารรับจ้างได้พยักหน้ายืนยันในเวลาเดียวกัน ถูกต้อง ชายหนุ่มที่มอบเงินให้กับเจ้า งอีกก้าวเดียวก็จะกลายเป็นเซียนสวรรค์
เถ้าแก่โรงเตี้ยมแทบจะเช่าอ่อน ล้มลงกับพื้นด้วยความกะปลกกะเปลี้ย เขาพึมพำอย่างไม่อาจตอบสนอง โอ้ สวรรค์ ข้ารับเงินของพวกเขาและยังกล้าที่จะบอกพวกเขาให้เอาโลงศพไปไว้ที่อื่น ……ข้าต้องเบื่อที่จะมีชีวิตต่อไป”
…………..
เจี้ยนเฉินและ คนอื่น ๆ เพียงอยู่ในโรงเตี๊ยมอีกไม่กี่วัน ก่อนที่เหล่าทหารจะพาสัตว์อสูรระดับ 4 เข้ามาในเมืองเฟิงหยาง ทั้งหมดพวกเขามีอยู่ 50 คน และพวกเขาทั้งหมดสวมเกราะสีดำ
เมื่อทหารเห็นสัตว์อสูรระดับ 4 พวกเขาไม่กล้าหยุดพวกเขา โดยไม่ได้ถามพวกเขา ทหารเมืองเปิดประตูเพื่อให้พวกเขาเข้าไปในเมือง
ทั้งห้าสิบคนเดินผ่านถนนของเมืองเฟิงหยางก่อนที่จะมาหยุดอยู่หน้าโรงเตี้ยม พวกเขาทั้งหมดมุ่งหน้าเข้าไปในโรงเตี้ยม และมุ่งหน้าไปที่ห้องของเจี้ยนเฉิน
เราขอคารวะแด่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ทหารก้มลงทำความเคารพอย่างในขณะที่พวกเขาทักทายเจี้ยนเฉิน
ดวงตาของเจี้ยนเฉินกวาดผ่านกลุ่มทหารเกราะดำ ฉินหวู่เจี้ยน เจ้ามาถึงอย่างรวดเร็ว”
ถ้ามันเป็นคำสั่งของผู้พิทักษ์จักรวรรดิ แล้วข้าน้อยจะไม่กล้าลังเลที่จะสั่งทหารของข้ามาที่นี่เลย ชายในชุดเกราะตอบ เขาเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการจากอาณาจักรฉินหวง ฉินหวู่เจี้ยน
เตรียมรถม้าและจัดการย้ายโลงศพท่านป้าของข้ากลับไปอาณาจักรเกอซุน เจี้ยนเฉินสั่งการ เพื่อที่จะทำให้ไป๋หยุนไห่ในโลงศพได้กลับไปยังอาณาจักรเกอซุน เจี้ยนเฉินได้ตัดสินใจที่จะใช้รถม้าเพื่อการขนส่งนางกลับไปยังที่นั้น มันเป็นวิธีที่ให้เกียรติแก่ไป๋หยุนไห่และมันจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่จะส่งนางกลับบ้าน เรื่องอย่างนี้ไม่ควรจัดการอย่างมั่วซั่ว ดังนั้นเจี้ยนเฉินคิดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้