เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 578: การฝังศพที่น่าประทับใจ (2)
ตอนที่ 578: การฝังศพที่น่าประทับใจ (2)
มันไม่ได้ใช้เวลานาน สำหรับรถม้าที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าโรงเตี้ยม คนหนึ่งสามารถบอกได้ว่า รถม้าที่มาใหม่นั้น มันงดงามอย่างยิ่ง ขณะที่มันเต็มไปด้วยดอกไม้ เหมือนกับว่า รถม้านี้ใช้ตกแต่งในเทศกาลบางอย่าง
เจี้ยนเฉินได้แบกโลงศพของไป๋หยุนไห่ออกจากโรงเตี้ยม ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ขึ้นเข้าไปในรถม้า
รถม้าที่เช่านั้นเป็นเป็นเช่นเดียวกับรถม้าที่มีสัตว์อสูรระดับ 1 แต่ทว่าสัตว์นั้นได้ถูกแทนที่ด้วยสัตว์อสูรระดับ 4 ซึ่งมันเป็นความแปลกใหม่สำหรับเมืองเฟิงหยาง พวกเขาไม่เคยได้ยินใครใช้สัตว์อสูรระดับ 4 เป็นสัตว์อสูรลากมาก่อน
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น กลุ่มคนนั้นได้ออกไปจากเมือง พวกเขาค่อย ๆ ขับรถม้าออกจากเมือง หลายคนเลือกที่จะเดิน แต่กองทัพเทพดาบตะวันออกอย่างน้อย 50 คน ยังคงนั่งอยู่บนด้านบนของสัตว์อสูรระดับ 4 ราวกับยามที่จงรักภักดี พวกเขาปกป้องรถจากทั้งสองข้างทาง มันเดินทางลงบนถนนที่ทอดยาว ท่ามกลางผู้คนที่พูดคุยเกี่ยวกับพวกเขา
ขบวนเช่นนี้ในเมืองเฟิงหยางนั้นแม้กระทั่งพ่อค้าและทหารรับจ้างต่างก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง พวกเขารีบแยกย้ายกันออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเห็นสัตว์อสูรระดับ 4 ผู้ที่เป็นเจ้าของพวกมันจะต้องเป็นผู้ที่เขาไม่อาจที่จะล่วงเกินได้
รถม้ายังคงเดินทางออกไปอย่างรีบเร่งพร้อมกับคนรอบข้าง ออกจากเมืองเฟิงหยาง พวกเขาเดินทางอย่างรวดเร็ว และไม่นานนักรถม้าก็มาถึงภายในอาณาจักรเกอซุน
เจี้ยนเฉินนั้นไม่ได้ลืมเรื่องของครอบครัวหยุน เขามีกองทัพที่คอยดูที่ด้านหลังรถม้า
การเดินทางสั้น ๆ นี้ใช้เวลาประมาณ 7 วัน ก่อนกลับมาที่เมืองลอร์ ภายในอาณาจักรเกอซุน ระยะเวลา 7 วันก็ไม่ได้มากสำหรับเจี้ยนเฉิน หมิงตงและทหาร แต่กับไป๋เหลียนและไป๋หยุนเทียนนั้นไม่เคยเดินทางไกล ใบหน้าของพวกนางจึงเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง
หลังจากกลับถึงบ้าน ไป๋หยุนเทียนไม่สนใจร่างกายเหนื่อยล้าของนางและพยายามหาผู้ช่วยพ่อบ้านของตระกูลเจียงหยางเพื่อจัดงานศพของไป๋หยุน
เมื่อเขาได้ยินข่าว ผู้ช่วยพ่อบ้านดูลังเล ฮูหยินสี่ การจัดงานศพหลังจากที่ตระกูลเจียงหยางพึ่งตกแต่งคฤหาสน์ใหม่ไม่นานนั้นไม่เหมาะสม ผู้อาวุโสของตระกูลส่วนใหญ่มักไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
ไป๋หยุนเทียนมีใบหน้าที่มืดครึ้ม ขณะที่นางกล่าวว่า คนนอกอะไร ? นี่น้องสาวของข้า ผู้ช่วยพ่อบ้านซู เจ้าช่วยจัดการให้ทันที
. . . . . . . เขาพบตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ตระกูลเจียงหยางนั้นไม่ได้เป็นแค่ตระกูลเล็ก ๆ พวกเขาเป็นตระกูลขุนนางภายในอาณาจักรเกอซุน การจัดงานให้คนนอก ผู้ช่วยพ่อบ้านพบว่าไม่เหมาะสม
พวกเจ้าได้ยินสิ่งที่ท่านแม่พูดหรือไม่ รีบฝังน้าของข้าที่นี่ รีบเตรียมการ เจี้ยนเฉินที่เดินตามมาจ้องมองด้วยสายตาที่คมกริบ
หลังจากถูกโจมตีด้วยสายตาโมโหของเจี้ยนเฉิน ผู้ช่วยพ่อบ้านเริ่มสั่นเทา นายน้อย ! ข้าต้องขออภัย นายน้อยสี่ ข้าจะรีบเตรียมการทันที เมื่อเจี้ยนเฉินก็พูดขึ้น เขาไม่กล้าพูดวาจายอกย้อนกับเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของตระกูลเจียงหยาง ทุกคนต่างตระหนักถึงมัน เกียรติและศักดิ์ศรีของตระกูลเจียงหยางนั้นล้วนแต่ได้รับมาเนื่องจากเป็นน้ำมือของเจี้ยนเฉิน
เมื่อเจี้ยนเฉินพูด ไม่มีแม้แต่คนเดียวหรือแม้แต่ผู้อาวุโสของตระกูลจะกล้าเอ่ยคำพูดที่ขัดแย้งกับอีกฝ่าย
ภายใต้การจัดการของผู้ช่วยพ่อบ้าน ทหารยามและคนรับใช้ของตระกูล แยกย้ายไปปฏิบัติงานทันทีเพื่อเตรียมงานศพและการจัดการสิ่งที่จำเป็น ในตอนท้าย เป็นเจียงหวู่จี่เองที่มาคอยให้คำแนะนำแก่ผู้อื่น
ภายใต้ความพยายามร่วมกันของผู้คนนับร้อย ก่อนที่ทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ โลงศพของไป๋หยุนไห่มีดอกไม้สดจัดอยู่รอบ ๆ ภาพของไป๋หยุนไห่นั้นสร้างมาจากความทรงจำในอดีต จากภาพ ไป๋หยุนไห่ดูเป็นคนที่สง่างาม และผู้คนสามารถเห็นความคล้ายคลึงกันอย่างใกล้ชิดระหว่างนางกับไป๋หยุนไห่
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย ภายในงานศพ พิธีการก็เริ่มขึ้น ส่วนที่เหลือของเมืองลอร์ต่างก็พบว่าการจัดงานศพในเมืองนั้นเป็นเรื่องที่ประหลาดนัก ในเวลาเดียวกัน มันทำให้เกิดการกล่าวขานไปทั่วเมือง หัวหน้าตระกูลหลักทั้งสามของเมืองลอร์ต่างก็มาเยี่ยมเยือนและสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะเดียวกัน หลายฝ่ายที่เป็นตระกูลขนาดเล็กต่างเดินทางมาเป็นอย่างดีเพื่อแสดงความเสียใจของพวกเขา พวกเขายังหวังว่าพวกเขาจะได้เข้าร่วมงานศพด้วยตัวเอง
หลังจากวันที่สองของงานศพ แม้กระทั่งราชาของอาณาจักรเกอซุนก็เสด็จมายังเมืองลอร์พร้อมกับผู้บัญชาการของเขา ไป๋เต๋าและทหารประมาณ 500 คน แม้กระทั่งอาจารย์ใหญ่ของสถาบันคากัต คาเฟอร์ ได้รับทราบ และบินจากสำนักศึกษาของเขาเพื่อมาร่วมงาน
กับสถานะพิเศษของตระกูลเจียงหยาง อนาคตทั้งหมดของอาณาจักรเกอซุนขึ้นอยู่กับตระกูลนี้ ตอนนี้ งานศพก็พลันผุดขึ้นมาในตระกูล เมืองทั้งหมดก็กลายเป็นตกใจ และสงสัยว่าเป็นคนสำคัญผู้ใดที่ได้จากไป สำหรับเหตุผลที่ทำให้ขุมพลังหลักของอาณาจักรมารวมตัวกันได้
เมื่อพวกเขาตระหนักว่า มันคือน้องสาวของไป๋หยุนเทียน ทุกคนต่างก็ถอนหายใจ
ข่าวงานศพได้แพร่กระจายออกอย่างรวดเร็ว และอีกไม่นาน หลายฝ่ายของอาณาจักรเกอซุนได้ทราบข่าวคราวภายในตระกูลเจียงหยาง ทำให้บุคคลสำคัญหลายคนต่างก็เดินทางมาเมืองลอร์เพื่อจะแสดงความเสียใจของพวกเขา
แม้กระทั่งสองผู้อาวุโสหลักจากนิกายหัวหยุนก็ยังมาด้วยตนเอง หนึ่งในเหตุผลที่พวกเขามาเพื่อแสดงความเสียใจของพวกเขา เหตุผลอื่น ๆ คือเพื่อขอโทษสำหรับสิ่งที่ได้ที่ทำระหว่างพวกเขาและเจี้ยนเฉินเมื่อหลายปีก่อน
ในงานศพของไป๋หยุนไห่เป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่เพียงแต่กลุ่มหลักของอาณาจักรเกอซุนมา แม้กระทั่งราชาก็ยังทรงเสด็จมาเพื่อแสดงความเสียใจ
งานศพจัดอย่างต่อเนื่องทั้งเจ็ดวัน ก่อนที่จะมาถึงคราสิ้นสุด หลุมศพของไป๋หยุนไห่ไม่ได้ตั้งอยู่ในสถานที่รกร้างเหมือนก่อน กลับกัน มันตั้งอยู่ในลานบริเวณที่ไป๋หยุนเทียนอาศัยอยู่ หลุมศพของไป๋หยุนไห่ตกแต่งประดับด้วยอัญมณีที่ทำขึ้นเป็นพิเศษและเป็นหลุมศพที่โอ่อ่าสง่างาม
เมื่องานศพจบลง ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันกลับไป เหลือเพียงแต่ไป๋เต๋าอยู่ภายในบ้าน เขายังคงยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าหลุมศพของไป๋หยุนไห่ 3 วัน ราวกับรูปปั้นโดยไม่เคลื่อนไหว แต่ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นความเจ็บปวด
ไป๋เต๋าและไป๋หยุนเทียนนั้น ทั้งสองเป็นพี่น้องภายใต้พ่อแม่เดียวกัน นั่นหมายความว่าพ่อแม่ของไป๋หยุนไห่นั้นต้องสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่เพียงเป็นสายเลือดที่แท้จริง แต่เขาก็สนิทกันมาก เล่นกับไป๋หยุนไห่ตั้งแต่เยาว์วัย
น้องหยุนไห่ ข้าไม่เคยคิดว่า เจ้าจะรอดชีวิตในวันนั้นและอาศัยอยู่ในเมืองใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี ทำไมข้าไม่ได้ยินเรื่องของน้อง เร็วกว่านี้ ถ้าข้ารู้ ข้าคงได้รวมตัวกัน เราสามคนอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้เราต้องแยกจากกันอีกครั้ง ในพรมแดนของหยินและหยาง ดวงตาของไป๋เต๋าจ้องมองอย่างเศร้าโศกที่หลุมฝังศพขณะที่เขาพึมพำข้างมัน
ไป๋หยุนเทียนดึงแขนไป๋เหลียนออกมา พี่ นี่ลูกสาวที่น้องหยุนไห่ทิ้งไว้ นางชื่อไป๋เหลียน ไป๋เหลียน นี่ลุงของเจ้า
มองไปที่ชายในชุดเกราะ ไป๋เหลียนกล่าวออกมาคำเดียว ท่านลุง
ดวงตาของไป๋เต๋ากลายเป็นตกตะลึง เพื่อมองดูเด็กสาววัย 18 ปีด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน หลังจากช่วงเวลาแห่งความเงียบ ในที่สุดเขาก็กล่าวว่า ถึงแม้ว่าน้องไป๋หยุนไห่ได้จากไป แต่นางก็ทิ้งลูกให้เรา
ไป๋เหลียน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ต่อจากนี้ไป ลุงจะปกป้องเจ้าเอง
เป็นครั้งแรกในชีวิต ไป๋เหลียนรู้สึกว่า ในที่สุดก็มีครอบครัวที่อบอุ่นห่วงใยและรักนาง ครอบครัวที่สามารถปกป้องนางได้ ครอบครัวที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับครอบครัวหยุน น้ำตาเริ่มไหลรินจากดวงตาของนาง เพราะครอบครัวใหม่ของนาง
ไป๋เต๋าหันกลับไปมองหลุมศพของไป๋หยุนไห่อีกครั้ง ใครเป็นฆาตกรที่สังหารหยุนไห่ ! ?
เขาถูกขังอยู่ภายในบ้าน ข้าไม่อยากให้มันตายง่าย ๆ ดังนั้น เราทิ้งมันไว้ที่นั่นสักพัก เจี้ยนเฉินตอบ ไป๋เหลียนได้มอบยาแก้พิษ ทำให้เขาหลุดพ้นจากอันตรายถึงตายของมัน
เจี้ยนเฉินลังเลเมื่อเห็นไป๋เต๋ามีดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง ท่านลุง อย่าปล่อยให้มันตายอย่างง่ายดาย
ข้ารู้ ! ไป๋เต๋าไม่แม้แต่จะหันกลับไปตอบ เขารีบเดินให้พ้นจากสายตาของเจี้ยนเฉิน
ไม่นานหลังจากที่เขาหายตัวไป เสียงร้องไห้คร่ำครวญเป็นทุกข์ได้ยินมาจากภายในตระกูลเจียงหยาง มันเป็นเสียงที่เจ็บปวดโอดครวญ ทุกคนที่ได้ยินมันก็จะบอกได้ว่าเป็นคนที่ถูกทรมาน
ในชั่วพริบตา ครึ่งเดือนผ่านไปและงานศพที่ถูกจัดขึ้นภายในตระกูลเจียงหยางก็ค่อย ๆ ถูกลืมเลือนหายไป แม้กระทั่งไป๋เหลียนและไป๋หยุนเทียนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดก็เริ่มลดน้อยลง แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น มันก็แทบจะไม่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกนาง
ไป๋เต๋ายังคงอยู่ภายในคฤหาสน์เจียงหยางอีกครึ่งเดือน ในช่วงเวลานี้ ความเกลียดชังที่เขารู้สึกกับคนที่ฆ่าไป๋หยุนไห่ได้ฝังลึกถึงภายในกระดูกของเขา และทุก ๆ วัน เขาจะใช้วิธีที่โหดร้ายที่สุดเท่าที่เขารู้จักเพื่อทรมานหัวหน้าครอบครัวหยุน มันจะเป็นนรกของความเจ็บปวด หลังจากผ่านวิธีการทั้งหมดที่เขารู้ในร่างกายของมนุษย์ ไป๋เต๋าก็ให้เขาตกตายอย่างช้า ๆ ด้วยความทรมาน เมื่อเขาตายแล้วก็โยนศพของเขาให้สัตว์ป่ากัดกิน สิ่งที่มนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมานในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งตาย อาจอธิบายได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่จะรู้สึกได้ในทวีปนี้ หลังจากการเสียชีวิตของหัวหน้าครอบครัวหยุน ความพยาบาทสำหรับไป๋หยุนไห่ในที่สุดก็ถึงจุดจบ ไป๋เต๋าไม่ได้อยู่ต่ออีกนานนักหลังจากนั้นและเขากลับไปที่พระราชวังในวันถัดไป
หลังจากที่ไป๋เต๋าจากไป เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ชุมนุมกันพร้อมกับพ่อแม่และคนอื่น ๆ จากตระกูล พวกเขาเตรียมจะจากไปเพื่อพัฒนากลุ่มทหารรับจ้างอัคนี
ญาติผู้พี่ โปรดให้ข้าไปกับท่าน ทันใดนั้น ไป๋เหลียนขอไปกับเจี้ยนเฉิน ด้วยใบหน้าที่จริงจังของนาง