เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 60 : เจียงหยางหู่บาดเจ็บ
ตอนที่ 60: เจียงหยางหู่บาดเจ็บ
ลั่วเจี้ยนโกรธเกรี้ยวและรวบรวมพลังงานเอาไว้ที่มือขวาของเขาทันทีก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาเจียงหยางหู่
ปฏิกิริยาของเจียงหยางหู่ก็ไม่ได้ช้าเลย เขาเตรียมพร้อมที่จะตอบโต้ตั้งแต่ตอนที่เขาถูกล้อมแล้ว ดังนั้นในตอนที่ลั่วเจี้ยนเอาอาวุธเซียนออกมา เขาก็เอาขวานศึกสีเหลืองของเขาออกมาอย่างไม่กลัวลั่วเจี้ยนที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่อาวุธเซียนทั้งสองเริ่มเคลื่อนไหว คนที่อยู่รอบ ๆ ก็ก้าวถอยไปโดยสัญชาตญาณเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ
“เคร้ง ! “
กระบี่ของลั่วเจี้ยนและขวานศึกของเจียงหยางหู่ปะทะกันและส่งเสียงดังออกมา หลังจากที่อาวุธทั้งสองปะทะกันแล้ว พลังที่พวกเขาปะทะกันก็ทำให้ทั้งสองสั่น เท้าของพวกเขาลาถอยกลับไป เจียงหยางหู่ถอยไปสี่ห้าก้าว ในขณะที่ลั่วเจี้ยนถอนไปสองสามก้าว
ทั้งสองเริ่มต่อสู้กันในระยะประชิด แต่คนที่ดูอยู่ก็บอกได้เลยว่าเจียงหยางหู่นั้นเสียเปรียบ แม้ว่าอาวุธเซียนธาตุลมของลั่วเจี้ยนจะเน้นไปที่ความเร็วและการโจมตีของเขาก็อ่อนแอกว่าเล็กน้อย แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็อยู่ในระดับเซียนขั้นกลาง แม้ว่าพลังเซียนธาตุดินของเจียงหยางหู่จะมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังเทียบกับลั่วเจี้ยนไม่ได้ เพราะว่าเจียงหยางหู่เพิ่งตัดผ่านระดับเซียนได้ไม่นาน
ลั่วเจี้ยนไม่คิดที่จะปล่อยเจียงหยางหู่ไปง่าย ๆ ร่างของเขาส่องประกายสีฟ้าออกมา และลมก็เริ่มหมุนรอบตัวเขาอย่างไม่หยุด ร่างของลั่วเจี้ยนปรากฏขึ้นตรงหน้าของเจียงหยางหู่ทันที กระบี่ใหญ่ซึ่งเปล่งแสงสีฟ้าชูขึ้นสูงไปในอากาศ เขาฟันมันลงไปที่เจียงหยางหู่ด้วยความเร็วที่น่ากลัว เพราะพลังเซียนของลั่วเจี้ยนนั้นเป็นธาตุลม ความเร็วของเขาจึงมากกว่าคนอื่น ๆ
ท่าทางของเจียงหยางหู่เปลี่ยนไปทันที ความเร็วในการโจมตีของลั่วเจี้ยนเร็วมากจนเขาไม่มีเวลาพอที่จะตอบโต้ สุดท้าย เขาก็พยายามยกขวานที่อยู่ในมือของเขาขึ้นมาอย่างยากลำบากเพื่อป้องกันการโจมตี
“เจียงหยางหู่ ตายซะเถอะ ! “
ในขณะที่ขวานของเจียงหยางหู่ปะทะกับกระบี่ของลั่วเจี้ยน เสียงร้องอีกเสียงก็ดังมาจากข้างข้าง เขาคือคาดิหยุนที่ถือกระบี่และตรงเข้ามาที่เจียงหยางหู่ และจากนั้นเขาก็ฟันมันลงไปที่แขนขวาของเจียงหยางหู่ทันที
ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เจียงหยางหู่ร้องโหยหวนออกมา เห็นได้ชัดว่าการโจมตีนี้นั้น คาดิหยุนใช้กำลังไปบ้าง มันทิ้งบาดแผลลึกมากจนเห็นกระดูกไว้ที่ไหล่ของเจียงหยางหู่
แขนของเขาได้รับการโจมตีอย่างรุนแรง เจียงหยางหู่จึงไม่สามารถที่จะถืออาวุธเซียนไว้ในมือของเขาได้ และขวานใหญ่ก็ได้หายไป
ตาของลั่วเจี้ยนเป็นประกายเย็นชาและเขาก็เหวี่ยงกระบี่ของเขาไปที่ท้องของเจียงหยางหู่ ปลายกระบี่ฉีกเครื่องแบบของเขาขาดและทิ้งรอยแผลลึกไวที่ท้องของเจียงหยางหู่ ทันใดนั้นเอง เลือดเป็นสายก็ไหลออกมาจากแผล ทำให้เครื่องแบบย้อมไปด้วยสีแดงจากเลือด
ใบหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวดออกมามาก แต่เขาก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมา
“เจียงหยางหู่ ข้ายังไม่คิดว่าสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับมันจะจบเร็วขนาดนี้นะ” ลั่วเจี้ยนคำรามออกมาพร้อมหัวเราะ ความเกลียดที่เขามีต่อเจียงหยางหู่นั้นไม่จบง่าย ๆ เขาฟันกระบี่ออกไปอีก และทิ้งแผลอีกแผลไว้ที่ร่างของเจียงหยางหู่
ตาของเจียงหยางหู่เต็มไปด้วยความดุร้ายที่จ้องไปที่ลั่วเจี้ยนในขณะที่เขาเย้ยเยาะออกมา “ลั่วเจี้ยน เจ้ามันไร้ประโยชน์จริง ๆ แค่เจ้าไม่สามารถเอาชนะน้องสี่ของข้าได้ เจ้าถึงต้องมาสู้กับข้า มาคอยดูให้น้องของข้าอัดเจ้าให้เละ”
เมื่อได้ยินเจียงหยางหู่พูด ใบหน้าของลั่วเจี้ยนก็มืดครึ้ม เขาก้าวไปข้างหน้าและเตะไปที่เจียงหยางหู่
ตาของเจียงหยางหู่เป็นประกายในโอกาสนี้ ในตอนที่ขาของลั่วเจี้ยนกำลังจะถูกเขา แขนซ้ายของเขาก็พุ่งออกมาและจับมันเอาไว้ ด้วยความแข็งแกร่งที่มหาศาล เจียงหยางหู่ก็กระชากมัน
สมดุลของลั่วเจี้ยนเสียไป ทำให้เขาล้มลงกับพื้น
“ฮ่าห์!” เจียงหยางหู่คำราม มือซ้ายของเขากำหมัดในขณะที่พลังเซียนก็เข้าไปที่มือของเขา เขาเหวี่ยงลงไปที่ลั่วเจี้ยนที่อยู่บนพื้น
อย่างไรก็ตาม ลั่วเจี้ยนไม่ได้มีปฏิกิริยาที่ช้าเลย ทันทีที่เขาล้มลงกับพื้น เขาก็กลิ้งไปข้าง ๆ ให้ห่างจากเจียงหยางหู่ ทำให้หมัดพลังเซียนของเขาพลาดเป้าไป
“ปัง!”
หมัดของเจียงหยางหู่กระแทกลงที่พื้นและทิ้งหลุมใหญ่ที่จมลงที่พื้นไว้
“เจียงหยางหู่ เจ้ามันรนหาที่ตายเสียจริง!” ใบหน้าอันหล่อเหลาของลั่วเจี้ยนขาวซีด หลังจากที่เขาคำรามออกมา พลังเซียนธาตุลมสีเขียวก็ควบแน่นอยู่ในมือของเขา และเขาก็ชกไปที่ท้องของเจียงหยางหู่เหมือนสายฟ้า
“เฮือก ! ” เจียงหยางหู่กระอักเลือดออกมาในขณะที่ร่างของเขากระเด็นถอยไป หลังจากนั้นสี่ห้าเมตรเขาก็ตกลงที่พื้นเสียงกระแทกดัง
ในตอนที่หลังเจียนกำลังตัดสินใจที่จะพุ่งเข้าไปโจมตีเจียงหยางหู่ต่อ เฉิงหมิงเซียงก็ขวางทางเขาเอาไว้ “เจ้าสั่งสอนมันไปแล้ว จุดประสงค์หลักของพวกเราในวันนี้คือเจียงหยาง เซียงเทียน ไม่ใช่เจียงหยางหู่ อย่างน้อยก็ให้พวกเราซ้อมมันเพื่อถามที่อยู่ของเจียงหยาง เซียงเทียนก่อน”
ลั่วเจี้ยนพยักหน้าเงียบ ๆ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เฉิงหมิงเซียง เขาก็คงจะไม่สนคำแนะนำ แต่เฉิงหมิงเซียงเป็นคนที่เขาไม่กล้าที่จะไปทำให้โกรธ
เฉิงหมิงเซียงเข้าไปหาเจียงหยางหู่พร้อมหัวเราะอย่างเย็นชา “เจียงหยางหู่ เจียงหยาง เซียงเทียนอยู่ที่ไหน”
เจียงหยางหู่ลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างยากลำบาก หน้าของเขาซีดเนื่องจากไม่มีเลือด และปากของเขาก็มีเลือดไหลออกมา แต่เพราะพลังเซียนของเขาเป็นธาตุดิน การป้องกันของเขาจึงค่อนข้างแข็งแกร่ง ถ้าเป็นคนอื่น คนผู้นั้นก็คงไม่มีกำลังพอแม้แต่จะกระดิกนิ้วได้
เจียงหยางหู่จ้องไปที่คนที่อยู่รอบ ๆ เขาแล้วคำรามออกมา “ข้าไม่รู้ แต่ถึงข้าจะรู้ ข้าก็คงไม่บอกพวกเจ้า” แม้ว่าเขาจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่อยู่ในระดับเซียน และเขาไม่ต้องการที่จะให้น้องของเขาต้องสู้กับกลุ่มทั้งหมดคนเดียว
ใบหน้าของเฉิงหมิงเซียงมืดมนในขณะที่เขาพูดออกมาอย่างเย็นชา “เจียงหยางหู่ ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง เจียงหยาง เซียงเทียนอยู่ที่ไหน?”
เจียงหยางหู่ขึ้นไปที่เขาและยิ้มอย่างเลือดเย็น “ข้าบอกไปแล้วว่าข้าไม่รู้”
“หืม!” เฉิงหมิงเซียงเหยียดออกมา เขาต่อยไปที่หน้าของเจียงหยางหู่ เขานั้นเขาก็ทุ่มเจียงหยางหู่ลงไปที่พื้นอีกครั้ง “เจ้าจะพูดหรือไม่ ? “
ความโกรธของเจียงหยางหู่เพิ่มขึ้นอย่างมากในขณะที่เขาใช้กำลังเฮือกสุดท้ายในการลุกขึ้นมาจากพื้น “ข้าจะไม่บอกเจ้า! เฉิงหมิงเซียง เจ้าฆ่าข้าไปเลยเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้น ข้า เจียงหยางหู่สาบานว่าเจ้าจะต้องเสียใจแน่ ! “
เฉิงหมิงเซียงมองไปที่เขาด้วยความเย่อหยิ่ง “เจียงหยางหู่ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนั้น เพราะว่าเจ้าเป็นนายน้อยของตระกูลเจียงหยางอย่างนั้นหรือ? หืม แค่ตระกูลเจียงหยางธรรมดาสามัญ สำนักหัวหยุนของข้าไม่สนใจตระกูลของเจ้าหรอก” ตาของเฉิงหมิงเซียงเป็นประกายอีกครั้งในขณะที่เขาง้างมือขวาไปด้านหลัง หมัดของเขาเป็นประกายสีแดง และเขาก็ชกมันไปที่หน้าของเจียงหยางหู่ “เจ้าจะพูดหรือไม่ ? “
ร่างของเจียงหยางหู่บอบช้ำไปหมดจากหมัด หัวของเขามีเลือดหยดออกมา แต่ท่าทางของเขายังคงเด็ดเดี่ยวและดูดุร้ายเหมือนทุกครั้ง
“เจ้าและข้าต้องตายไปด้วยกัน ! ” เจียงหยางหู่ทนอีกไม่ไหวแล้ว แสงสีเหลืองมารวมอยู่ที่มือซ้ายของเขา และเขาก็ฟันอาวุธเซียนที่สร้างขึ้นมาใหม่ไปที่เฉิงหมิงเซียง
กระบี่สีแดงเพลิงปรากฏขึ้นในมือของเฉิงหมิงเซียงและเขาก็ป้องกันการโจมตีของเจียงหยางหู่ได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่เจียงหยางหู่จะได้รีบบาดเจ็บหนักเท่านั้น เขายังไม่คุ้นเคยในการใช้มือซ้ายในการควบคุมขวานของเขา แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพเต็มร้อย เขาก็คงเทียบกับเฉิงหมิงเซียงไม่ได้อยู่ดี
เฉิงหมิงเซียงมองไปที่เจียงหยางหู่ด้วยท่าทีเยาะเย้ย “เจียงหยางหู่ ข้าแนะนำให้เจ้าเชื่อฟังและบอกพวกเรามาว่าเจียงหยาง เซียงเทียนอยู่ที่ไหน เจ้าจะเจ็บตัวน้อยกว่านี้ถ้าทำแบบนั้น”
เจียงหยางหู่สูดลมหายใจเขาเข้าไป ก่อนที่จะสงบลงอย่างแปลก ๆ เขาเข้าใจว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ มันต้องเป็นหายนะแน่แน่ เขามองไปที่บริเวณรอบ ๆ และหาโอกาสก่อนที่เขาจะสลายอาวุธเซียนในมือของเขาและเริ่มวิ่งไปที่ลานกีฬา
ป่าเล็กนี้ค่อนข้างอยู่ห่างไกล ปกติแล้วมีน้อยคนนักที่จะผ่านมามันไป ดังนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่นี่คนข้างนอกก็คงไม่มีทางรู้ เจียงหยางหู่เชื่อว่าเมื่อเขาวิ่งไปที่ที่มีคนพลุกพล่าน กลุ่มของเฉิงหมิงเซียงก็คงไม่กล้าทำอะไร นอกเหนือไปจากนั้น เขายังมีเพื่อนรักมากมายในสำนัก แม้ว่าเจียงหยางหู่จะไม่ได้หวังให้พวกเขาช่วยต่อต้านเฉิงหมิงเซียง แต่เขาก็รู้ว่าอย่างน้อยพวกนั้นก็จะวิ่งไปบอกอาจารย์หรืออาจจะบอกรองอาจารย์ใหญ่
เมื่อเห็นเจียงหยางหู่วิ่งหนีไปทางลานกีฬา ใบหน้าของเฉิงหมิงเซียงก็เปลี่ยนไป “หยุดมันไว้ ! ” เขาตะโกนออกมา
คนสิบกว่าคนที่ไม่ได้เคลื่อนไหวในตอนแรกก็เริ่มเคลื่อนที่และไล่ตามเจียงหยางหู่ไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่เฉิงหมิงเซียงยังเริ่มวิ่งเต็มกำลังไปยังทิศทางที่เจียงหยางหู่ไป
เจียงหยางหู่ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหนีคนพวกนั้นได้ มันคงอีกไม่นานนักก่อนที่คนที่ไล่มาจะตามเขาทัน
เมื่อได้เห็นศัตรูของเขาใกล้จะไล่มาถึง เจียงหยางหู่ก็รู้สึกกลัวออกมาจากหัวใจเพราะเขารู้ดีว่าเขาคงออกไปจากป่าไม่ได้ เมื่อเขาคิดได้แบบนั้น เขาจึงคำรามแล้วหยุดไปในเส้นทางเดิมก่อนที่มุ่งหน้าไปอีกเส้นทางในป่า
การที่จู่ ๆ เจียงหยางหู่ก็เปลี่ยนเส้นทางทำให้คนที่ไล่ตามเขามาสงสัย อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้า พวกเขาก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา และยังไล่ตามช้าลงไปอีก
กลุ่มคนด้านหลังยืนอยู่เป็นรูปครึ่งวงกลมในขณะที่พวกเขาไล่ตามเจียงหยางหู่ไป ลั่วเจี้ยนยืนอยู่ข้างข้างเฉิงหมิงเซียงและเหยียดออกมา “ตามทิศทางที่เจียงหยางหู่กำลังหนีไปนั้น เขาน่าจะกำลังไปหาเจียงหยาง เซียงเทียน”
เฉิงหมิงเซียงพยักหน้า “จริง ดูเหมือนว่าเจียงหยาง เซียงเทียนจะไม่อยู่ในสำนักจริงจริง”
เจียงหยางหู่ใช้กำลังทั้งหมดในการวิ่ง แต่สภาพของเขาในตอนนี้ก็ดูไม่ดีเท่าไร หัวของเขาชุ่มไปด้วยเลือดในขณะที่เครื่องแบบของเขาเปรอะไปด้วยเลือดและดิน เขาดูน่าเวทนา เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าเจี้ยนเฉินอยู่ที่ไหน แต่เขารู้ว่าภายในป่ามีเชิงเขาที่ซับซ้อนและมีต้นไม้เขียวชอุ่มอยู่ซึ่งเหมาะแก่การซ่อนตัว เมื่อความคิดที่จะหนีเข้าไปที่สำนักใช้ไม่ได้แล้ว ทางเดียวที่เป็นไปได้สำหรับเจียงหยางหู่คือซ่อนตัวอยู่ที่เชิงเขาและหวังที่จะสลัดศัตรูให้หลุดให้ได้
อย่างไรก็ตาม เจียงหยางหู่ก็ลืมไปว่า สถานที่ที่เจี้ยนเฉินสอนเขาเมื่อเช้านี้นั้นอยู่ในทางตรงข้ามในตอนนี้
ที่น้ำตกตรงไหล่เขา เด็กหนุ่มที่อยู่ในเครื่องแบบกำลังฝึกฝนอยู่ที่บ่อไม่ไกลจากต้นหญ้า ร่างนั้นดูค่อนข้างผอมบางและอ่อนแอและมีผมดำยาวประบ่า เขาดูค่อนข้างหล่อเหล่าและเขามีตาที่สว่างสดใสคล้ายกันประกายที่สะท้อนออกมาจากกระบี่ของเขา
คนหนุ่มนี้มีกระบี่สีเงินยาว 1.3 เมตรและกว้าง 2 นิ้ว ที่ด้ามกระบี่มีคำสองคำเขียนอยู่อย่างสวยงาม วายุโปรย
เด็กหนุ่มยืนอยู่อย่างสงบตรงนั้น กระบี่ในมือของเขาชี้ไปที่พื้นดิน และร่างของเขาทั้งร่างก็ไม่เคลื่อนไหวเหมือนภูเขา
ในตอนนี้เอง ตาของเด็กหนุ่มคนนี้ก็เป็นประกาย ร่างของเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างไม่มีสัญญาณ มีเพียงภาพติดตาของเขาเท่านั้นที่เหลืออยู่ กระบี่เงินในมือของเขากลายเป็นภาพพร่ามัวสีขาว และเงาของกระบี่ที่นับไม่ถ้วนก็ผสมกลมกลืนกันเหมือนภาพลวงตาที่ส่องประกายไปพร้อมกับแสงไฟ ในขณะที่เคลื่อนไหวในอากาศ ก็เกิดภาพติดตาจำนวนมาก
เด็กหนุ่มร้องออกมา ‘ย่างก้าวพริบตา’ ในขณะที่เคลื่อนไหวไปที่ไปบนพื้นอย่างรวดเร็วเหมือนว่าเขากำลังร่อนไปด้วยความคล่องตัวและความเร็วสูง เขาเห็นกระต่ายแล้วเขาก็แทงไปที่มันอย่างรวดเร็วด้วยกระบี่ของเขา ใครก็ตามที่เห็นภาพนี้คงจะตกตะลึง
คนหนุ่มนี้คือเจี้ยนเฉิน หลังจากที่ออกจากป่าไป เขาก็มุ่งหน้ามาที่ทิวทัศน์ที่สวยงามนี้ เขากำลังจำความรู้สึกในการใช้กระบี่ที่เขามีประสบการณ์มาจากชาติที่แล้ว