เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 694: ฮุสตัน
ตอนที่ 694: ฮุสตัน
แสงแดดที่ร้อนแรงบนท้องฟ้าได้หายไปในตอนนั้นและท้องฟ้าสว่างนั้นก็ถูกปกคลุมแทนที่ด้วยความมืด ความมืดที่ทำให้อึดอัด ประดุจเหมือนวันสิ้นโลก อากาศที่อยู่รอบ ๆ ก็เหมือนจะหยุดเคลื่อนที่ คล้ายกับเวลาหยุดเดิน
ลูกเสือที่ตอนแรกนั้นกำลังมุ่งตรงไปหาสัตว์อสูรจากตระกูลกิลลิกันได้หยุดทันที ก่อนที่จะหล่นไปที่พุ่มหญ้าใกล้ ๆ ด้วยพลังที่มองไม่เห็น
ท่าทางของสัตว์อสูรแสดงทีท่าน่ารังเกียจ เขาไม่สามารถปิดบังความประหลาดใจในแววตาของเขาได้ เพราะว่าร่างกายของเขานั้นถูกทำให้หยุดโดยพลังมหาศาลที่คาดไม่ถึง ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทำลายมันออกได้
“บ้าเอ้ย มันมีโอกาสแค่ไหนเนี้ยที่จะมาเจอมนุษย์ที่เก่งกาจในที่รกร้างแบบนี้ ! ” คนของตระกูลกิลลิกันโกรธจัด ความแข็งแกร่งของบุคคลปริศนาที่กำลังมุ่งตรงมาที่เขาทำให้เขากลัว เขายังไม่ได้มาปรากฏตัวข้างหน้า แต่เขาก็ทำให้คนของตระกูลกิลลิกันขยับไม่ได้แล้ว เขาแข็งแกร่งแค่ไหนกันเนี่ย?
“เจ้าคนของตระกูลกิลลิกัน เจ้าแหกข้อตกลงโดยการเข้ามายังโลกมนุษย์ ตามกฎแล้ว ข้ามีสิทธิ์ที่จะฆ่าเจ้า” เสียงที่ดูแก่และทรงพลังดังมาจากฟ้า น้ำเสียงเย็นชาเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและหลังจากนั้นไม่นานท้องฟ้าก็เกิดรอยแยกกลางอากาศความยาวเกือบร้อยเมตร เสียมที่ดูธรรมดา ๆ ได้กลายเป็นรังสีสีดำและพุ่งไปโจมตีคนของตระกูลกิลลิกันประดุจดั่งสายฟ้า
คนของตระกูลกิลลิกันถูกตรึงอยู่ ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย เขาทำได้แค่ดูเสียมปักเข้าที่อกของเขาอย่างช่วยไม่ได้
ปัง ! เสียงระเบิด เสียมขนาดเท่าหัวคนปรากฏอยู่ที่หน้าอกของคนตระกูลกิลลิกัน ร่างสัตว์อสูรระดับ 8 ของเขาเหมือนจะกลายเป็นเต้าหู้ต่อหน้าเสียมอันนั้น เสียมนั้นเจาะทะลุเขาไปทั้ง ๆ ที่ดูเหมือนมันจะทำมาจากเหล็กธรรมดาเท่านั้น
คนของตระกูลกิลลิกันกระอักเลือดออกมา ร่างกายของเขายังคงถูกตรึงอยู่ด้วยพลังที่มองไม่เห็น ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้
“จะ เจ้า เจ้าคือใครกัน? เจ้าใช่ผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างหรือตระกูลผู้พิทักษ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบหรือไม่ ? ” คนของตระกูลกิลลิกันคำรามกลางอากาศในขยะที่เขาจ้องมองออกไปด้วยความประหลาดใจ ด้วยพลังที่เขามีในตอนนี้ ก็ยังถูกข่มไว้จากคู่ต่อสู้ มนุษย์ที่มีพลังมากกมายขนาดนี้มีแค่หยิบมือเท่านั้น นอกเหนือจากท่านผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้าง ก็มีแค่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบที่จะมีผู้ที่เก่งกล้าเช่นนี้
เจ้าสัตว์นั้นไม่ได้รับคำตอบใดใดกลับมา เสียมนั้นเปล่งรัศมีไปด้วยแสงสีดำ พลังแห่งความมืดที่ทรงพลังของพลังศักดิ์สิทธิ์ได้หลอมรวมเข้ากับพลังของโลกอย่างมหัศจรรย์และมันก็ทรงพลังกว่าพลังใดใด หลังจากนั้นไม่นาน เสียมนั้นก็ถูกแกว่งขึ้นมาไปที่หัวของสัตว์นั้น ในขณะที่เขาไถลไปกับพื้น
“โฮกกก ! ” เสียงคำรามของเสือดังออกมาจากปากของคนตระกูลกิลลิกัน ก่อนที่ร่างกายของเขาจะปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง ในขณะนั้น เขาได้กลายเป็นเสือสีทองตัวใหญ่สูงกว่า 10 เมตร ด้วยขนที่เปล่งประกายสีทอง มันมีแสงเจิดจ้าเกิดขึ้นและหลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายของเสือตัวใหญ่นั้นก็สั่นและหลุดจากพันธนาการที่มองไม่เห็นนั้นได้ เขาสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว ก่อนที่จะหลบออกไปข้าง ๆ ทันที
เสียมนั้นได้ปักลงไปที่หางของเสือตัวใหญ่นั้น ทำให้หางที่ยาวหลายเมตรนั้นขาดออกเป็น 2 ท่อน มันทำให้คนของตระกูลกิลลิกันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หลังจากการโจมตีนั้น เสียมก็ไม่ได้หยุด มันยังคงเปล่งรัศมีสีดำและแกว่งไปทางหัวของเสือตัวใหญ่นั้น ในเวลาเดียวกันนั้นเอง บรรยากาศรอบข้างก็ได้หยุดชงักเหมือนก้อนน้ำแข็ง และทำให้เสือนั้นขยับไม่ได้อีกครั้ง
“เจ้าต้องการจะฆ่าข้างั้นเหรอ? มันคงไม่ง่ายเช่นนั้น” เสือสีทองพูดด้วยภาษามนุษย์ ก่อนที่จะส่งเสียงคำรามไปในอากาศ ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสว่างจ้าสีแดงเหมือนเลือดและทันทีที่แสงสีแดงกระพริบ เสือนั้นก็หายไป เขาใช้วิชาลับเพื่อหลบหนี
“นั่นเป็นวิชาขั้นสูงเพื่อให้ในการหลบหนีของเผ่าสัตว์งั้นหรือ ใครจะคิดว่าเขาจะใช้วิชาที่กัดกินตัวผู้ใช้เองเพื่อหนีกัน ถึงแม้ว่าเจ้าจะหนีไปได้ครั้งนี้ ความแข็งแกร่งของเจ้าก็จะลดลงจากชั้นสวรรค์ที่ 2 เหลือแค่ชั้นสวรรค์ที่ 1 ของเซียนราชา” เสียงแก่นั้นดังก้องอย่างนุ่มนวลในอากาศ หลังจากนั้น เสียมนั้นก็หยุดกลางอากาศ กลายเป็นสีดำลาง ๆ และหายไปในรอยแยกที่ท้องฟ้า ในเวลาเดียวกัน ความมืดมิดก็หายไปอย่างรวดเร็ว คืนความสว่างกลับสู่โลกอีกครั้ง
เจี้ยนเฉินลอยขึ้นมาจากหลุมอย่างช้าและร่อนลงอย่างนุ่มนวลที่พื้น อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เขาไม่ได้สติและไม่ได้รู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาเลย
“ช่างเป็นพลังและร่างการที่แปลกจริง ๆ ที่สามารถฟื้นคืนจากอาการเจ็บหนักขนาดนั้นได้ ดูเหมือนเขาจะเป็นปกติในเร็ว ๆ นี้” เสียงแก่ดังกึกก้องในอากาศอีกครั้ง เป็นเสียงที่ไม่รู้ว่าใครและมาจากไหน
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงแก่นั้นก็ดังกึกก้องขึ้นมาอีกครั้ง “เทียนเจี้ยน เจ้าแอบอยู่ตั้งนานแล้ว ยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะออกมาอีกรึ?”
ทันทีที่เขาพูดจบนั้น ประตูมิติก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เทียนเจี้ยนบินออกมาจากประตูมิติด้วยชุดสีขาว เขาจ้องมองอย่างสงบไปที่รอยแยกฝั่งตรงข้ามในอากาศและพูด “ฮุสตัน เราไม่ได้เจอกันมาเป็นพันปีแล้วนะ ใครจะนึกว่าเราจะพบกันในสถานการณ์แบบนี้ เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริง ๆ ที่เจ้าปกป้องเจี้ยนเฉินอย่างลับ ๆ “
อากาศได้แยกออกทำให้เกิดประตูมิติและชายแก่ในเสื้อผ้าธรรมดา ๆ ได้เดินออกมา เขาอยู่ในลักษณะเท้าเปล่าที่ปกคลุมไปด้วยโคลน เสียมที่เขาใช้เพื่อทำให้คนของตระกูลกิลลิกันบาดเจ็บพาดอยู่ที่บ่าของเขา เขาเหมือนกันชาวนาแก่ ๆ คนนึง
“เจี้ยนเฉินเป็นเพื่อนกับหลานของข้า เป็นคนที่ข้าคิดว่าเป็นคนสำคัญอีกคนนึง ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ข้าจะปกป้องเขาและไม่ให้เขาตาย เทียนเจี้ยน ทำไมเจ้าไม่ปกป้องเจี้ยนเฉินล่ะ ? ด้วยพลังของเจ้า เจ้าน่าจะรู้ถึงความลับของพยัคฆ์ปีกเทวะ บางทีเมืองทหารรับจ้างอาจจะต้องการขโมยพยัคฆ์ปีกเทวะที่ยังเด็กอยู่ไปเลี้ยงดูด้วยตัวเอง ? และเมื่อพยัคฆ์ปีกเทวะโตแล้ว มันจะทรงพลังมาก” ฮุสตันกล่าวอย่างสงบ
“ในตอนนั้น เจ้าเมืองได้ออกกฎหมายของผู้อาวุโสสูงสุดไว้ว่า เมืองทหารรับจ้างต้องไม่ปฏิบัติต่อพยัคฆ์ปีกเทวะในฐานะศัตรู และเมื่อพยัคฆ์ปีกเทวะปรากฏ พวกเราต้องช่วยให้มันเติบโตอย่างสุดความสามารถ ข้าแค่ทำตามท่านเจ้าเมืองบอก” เขาพูดขึ้นไปด้านบน เทียนเจี้ยนหยุด เขามองไปที่เจี้ยนเฉินที่ไร้สติอยู่ที่พื้นและพูดต่อ “อีกอย่างพรสวรรค์ของเจี้ยนเฉินนั้นหาไม่ได้เลยในทวีปเทียนหยวน เขาต้องก้าวผ่านพวกเราไปแน่ในอนาคต ดังนั้นข้าต้องปกป้องเขา เมื่อเขาก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดได้จริง ๆ แล้ว มันก็จะเป็นความหวังของมนุษย์ บางทีเขาอาจจะเป็นตัวแปรสำคัญในการต่อต้านทวีปสัตว์เทวะในอนาคตด้วย”
เทียนเจี้ยนหยุดและกล่าวต่อ “ฮุสตัน ดูเหมือนว่าเจ้าจะพบความลับของพยัคฆ์ปีกเทวะก่อนข้า เมื่อ 2-3 วันก่อนนิกายดาบโลหิตของเจ้าปรากฏตัวครั้งแล้วครั้งเล่าที่ชายฝั่ง พวกเขาคงกำลังจับตาดูทวีปสัตว์เทวะอยู่”
ฮุสตันพยักหน้าเบา ๆ “ถูกต้อง ข้าเชื่อว่าความสงบสุขของทวีปเทียนหยวนจะต้องหายไปในไม่ช้านี้”
File writed.ตอนที่ 694: ฮุสตัน
————————-
ตอนที่ 694: ฮุสตัน
แสงแดดที่ร้อนแรงบนท้องฟ้าได้หายไปในตอนนั้นและท้องฟ้าสว่างนั้นก็ถูกปกคลุมแทนที่ด้วยความมืด ความมืดที่ทำให้อึดอัด ประดุจเหมือนวันสิ้นโลก อากาศที่อยู่รอบ ๆ ก็เหมือนจะหยุดเคลื่อนที่ คล้ายกับเวลาหยุดเดิน
ลูกเสือที่ตอนแรกนั้นกำลังมุ่งตรงไปหาสัตว์อสูรจากตระกูลกิลลิกันได้หยุดทันที ก่อนที่จะหล่นไปที่พุ่มหญ้าใกล้ ๆ ด้วยพลังที่มองไม่เห็น
ท่าทางของสัตว์อสูรแสดงทีท่าน่ารังเกียจ เขาไม่สามารถปิดบังความประหลาดใจในแววตาของเขาได้ เพราะว่าร่างกายของเขานั้นถูกทำให้หยุดโดยพลังมหาศาลที่คาดไม่ถึง ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทำลายมันออกได้
“บ้าเอ้ย มันมีโอกาสแค่ไหนเนี้ยที่จะมาเจอมนุษย์ที่เก่งกาจในที่รกร้างแบบนี้ ! ” คนของตระกูลกิลลิกันโกรธจัด ความแข็งแกร่งของบุคคลปริศนาที่กำลังมุ่งตรงมาที่เขาทำให้เขากลัว เขายังไม่ได้มาปรากฏตัวข้างหน้า แต่เขาก็ทำให้คนของตระกูลกิลลิกันขยับไม่ได้แล้ว เขาแข็งแกร่งแค่ไหนกันเนี่ย?
“เจ้าคนของตระกูลกิลลิกัน เจ้าแหกข้อตกลงโดยการเข้ามายังโลกมนุษย์ ตามกฎแล้ว ข้ามีสิทธิ์ที่จะฆ่าเจ้า” เสียงที่ดูแก่และทรงพลังดังมาจากฟ้า น้ำเสียงเย็นชาเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและหลังจากนั้นไม่นานท้องฟ้าก็เกิดรอยแยกกลางอากาศความยาวเกือบร้อยเมตร เสียมที่ดูธรรมดา ๆ ได้กลายเป็นรังสีสีดำและพุ่งไปโจมตีคนของตระกูลกิลลิกันประดุจดั่งสายฟ้า
คนของตระกูลกิลลิกันถูกตรึงอยู่ ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย เขาทำได้แค่ดูเสียมปักเข้าที่อกของเขาอย่างช่วยไม่ได้
ปัง ! เสียงระเบิด เสียมขนาดเท่าหัวคนปรากฏอยู่ที่หน้าอกของคนตระกูลกิลลิกัน ร่างสัตว์อสูรระดับ 8 ของเขาเหมือนจะกลายเป็นเต้าหู้ต่อหน้าเสียมอันนั้น เสียมนั้นเจาะทะลุเขาไปทั้ง ๆ ที่ดูเหมือนมันจะทำมาจากเหล็กธรรมดาเท่านั้น
คนของตระกูลกิลลิกันกระอักเลือดออกมา ร่างกายของเขายังคงถูกตรึงอยู่ด้วยพลังที่มองไม่เห็น ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้
“จะ เจ้า เจ้าคือใครกัน? เจ้าใช่ผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างหรือตระกูลผู้พิทักษ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบหรือไม่ ? ” คนของตระกูลกิลลิกันคำรามกลางอากาศในขยะที่เขาจ้องมองออกไปด้วยความประหลาดใจ ด้วยพลังที่เขามีในตอนนี้ ก็ยังถูกข่มไว้จากคู่ต่อสู้ มนุษย์ที่มีพลังมากกมายขนาดนี้มีแค่หยิบมือเท่านั้น นอกเหนือจากท่านผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้าง ก็มีแค่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบที่จะมีผู้ที่เก่งกล้าเช่นนี้
เจ้าสัตว์นั้นไม่ได้รับคำตอบใดใดกลับมา เสียมนั้นเปล่งรัศมีไปด้วยแสงสีดำ พลังแห่งความมืดที่ทรงพลังของพลังศักดิ์สิทธิ์ได้หลอมรวมเข้ากับพลังของโลกอย่างมหัศจรรย์และมันก็ทรงพลังกว่าพลังใดใด หลังจากนั้นไม่นาน เสียมนั้นก็ถูกแกว่งขึ้นมาไปที่หัวของสัตว์นั้น ในขณะที่เขาไถลไปกับพื้น
“โฮกกก ! ” เสียงคำรามของเสือดังออกมาจากปากของคนตระกูลกิลลิกัน ก่อนที่ร่างกายของเขาจะปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง ในขณะนั้น เขาได้กลายเป็นเสือสีทองตัวใหญ่สูงกว่า 10 เมตร ด้วยขนที่เปล่งประกายสีทอง มันมีแสงเจิดจ้าเกิดขึ้นและหลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายของเสือตัวใหญ่นั้นก็สั่นและหลุดจากพันธนาการที่มองไม่เห็นนั้นได้ เขาสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว ก่อนที่จะหลบออกไปข้าง ๆ ทันที
เสียมนั้นได้ปักลงไปที่หางของเสือตัวใหญ่นั้น ทำให้หางที่ยาวหลายเมตรนั้นขาดออกเป็น 2 ท่อน มันทำให้คนของตระกูลกิลลิกันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หลังจากการโจมตีนั้น เสียมก็ไม่ได้หยุด มันยังคงเปล่งรัศมีสีดำและแกว่งไปทางหัวของเสือตัวใหญ่นั้น ในเวลาเดียวกันนั้นเอง บรรยากาศรอบข้างก็ได้หยุดชงักเหมือนก้อนน้ำแข็ง และทำให้เสือนั้นขยับไม่ได้อีกครั้ง
“เจ้าต้องการจะฆ่าข้างั้นเหรอ? มันคงไม่ง่ายเช่นนั้น” เสือสีทองพูดด้วยภาษามนุษย์ ก่อนที่จะส่งเสียงคำรามไปในอากาศ ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสว่างจ้าสีแดงเหมือนเลือดและทันทีที่แสงสีแดงกระพริบ เสือนั้นก็หายไป เขาใช้วิชาลับเพื่อหลบหนี
“นั่นเป็นวิชาขั้นสูงเพื่อให้ในการหลบหนีของเผ่าสัตว์งั้นหรือ ใครจะคิดว่าเขาจะใช้วิชาที่กัดกินตัวผู้ใช้เองเพื่อหนีกัน ถึงแม้ว่าเจ้าจะหนีไปได้ครั้งนี้ ความแข็งแกร่งของเจ้าก็จะลดลงจากชั้นสวรรค์ที่ 2 เหลือแค่ชั้นสวรรค์ที่ 1 ของเซียนราชา” เสียงแก่นั้นดังก้องอย่างนุ่มนวลในอากาศ หลังจากนั้น เสียมนั้นก็หยุดกลางอากาศ กลายเป็นสีดำลาง ๆ และหายไปในรอยแยกที่ท้องฟ้า ในเวลาเดียวกัน ความมืดมิดก็หายไปอย่างรวดเร็ว คืนความสว่างกลับสู่โลกอีกครั้ง
เจี้ยนเฉินลอยขึ้นมาจากหลุมอย่างช้าและร่อนลงอย่างนุ่มนวลที่พื้น อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เขาไม่ได้สติและไม่ได้รู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาเลย
“ช่างเป็นพลังและร่างการที่แปลกจริง ๆ ที่สามารถฟื้นคืนจากอาการเจ็บหนักขนาดนั้นได้ ดูเหมือนเขาจะเป็นปกติในเร็ว ๆ นี้” เสียงแก่ดังกึกก้องในอากาศอีกครั้ง เป็นเสียงที่ไม่รู้ว่าใครและมาจากไหน
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงแก่นั้นก็ดังกึกก้องขึ้นมาอีกครั้ง “เทียนเจี้ยน เจ้าแอบอยู่ตั้งนานแล้ว ยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะออกมาอีกรึ?”
ทันทีที่เขาพูดจบนั้น ประตูมิติก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เทียนเจี้ยนบินออกมาจากประตูมิติด้วยชุดสีขาว เขาจ้องมองอย่างสงบไปที่รอยแยกฝั่งตรงข้ามในอากาศและพูด “ฮุสตัน เราไม่ได้เจอกันมาเป็นพันปีแล้วนะ ใครจะนึกว่าเราจะพบกันในสถานการณ์แบบนี้ เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริง ๆ ที่เจ้าปกป้องเจี้ยนเฉินอย่างลับ ๆ “
อากาศได้แยกออกทำให้เกิดประตูมิติและชายแก่ในเสื้อผ้าธรรมดา ๆ ได้เดินออกมา เขาอยู่ในลักษณะเท้าเปล่าที่ปกคลุมไปด้วยโคลน เสียมที่เขาใช้เพื่อทำให้คนของตระกูลกิลลิกันบาดเจ็บพาดอยู่ที่บ่าของเขา เขาเหมือนกันชาวนาแก่ ๆ คนนึง
“เจี้ยนเฉินเป็นเพื่อนกับหลานของข้า เป็นคนที่ข้าคิดว่าเป็นคนสำคัญอีกคนนึง ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ข้าจะปกป้องเขาและไม่ให้เขาตาย เทียนเจี้ยน ทำไมเจ้าไม่ปกป้องเจี้ยนเฉินล่ะ ? ด้วยพลังของเจ้า เจ้าน่าจะรู้ถึงความลับของพยัคฆ์ปีกเทวะ บางทีเมืองทหารรับจ้างอาจจะต้องการขโมยพยัคฆ์ปีกเทวะที่ยังเด็กอยู่ไปเลี้ยงดูด้วยตัวเอง ? และเมื่อพยัคฆ์ปีกเทวะโตแล้ว มันจะทรงพลังมาก” ฮุสตันกล่าวอย่างสงบ
“ในตอนนั้น เจ้าเมืองได้ออกกฎหมายของผู้อาวุโสสูงสุดไว้ว่า เมืองทหารรับจ้างต้องไม่ปฏิบัติต่อพยัคฆ์ปีกเทวะในฐานะศัตรู และเมื่อพยัคฆ์ปีกเทวะปรากฏ พวกเราต้องช่วยให้มันเติบโตอย่างสุดความสามารถ ข้าแค่ทำตามท่านเจ้าเมืองบอก” เขาพูดขึ้นไปด้านบน เทียนเจี้ยนหยุด เขามองไปที่เจี้ยนเฉินที่ไร้สติอยู่ที่พื้นและพูดต่อ “อีกอย่างพรสวรรค์ของเจี้ยนเฉินนั้นหาไม่ได้เลยในทวีปเทียนหยวน เขาต้องก้าวผ่านพวกเราไปแน่ในอนาคต ดังนั้นข้าต้องปกป้องเขา เมื่อเขาก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดได้จริง ๆ แล้ว มันก็จะเป็นความหวังของมนุษย์ บางทีเขาอาจจะเป็นตัวแปรสำคัญในการต่อต้านทวีปสัตว์เทวะในอนาคตด้วย”
เทียนเจี้ยนหยุดและกล่าวต่อ “ฮุสตัน ดูเหมือนว่าเจ้าจะพบความลับของพยัคฆ์ปีกเทวะก่อนข้า เมื่อ 2-3 วันก่อนนิกายดาบโลหิตของเจ้าปรากฏตัวครั้งแล้วครั้งเล่าที่ชายฝั่ง พวกเขาคงกำลังจับตาดูทวีปสัตว์เทวะอยู่”
ฮุสตันพยักหน้าเบา ๆ “ถูกต้อง ข้าเชื่อว่าความสงบสุขของทวีปเทียนหยวนจะต้องหายไปในไม่ช้านี้”