เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 707: การทำลายกลุ่มโจรมังกรวารี
ตอนที่ 707: การทำลายกลุ่มโจรมังกรวารี
“ความหายนะ เรื่องเลวร้ายที่ถูกทำนายไว้ ทวีปเทียนหยวนอาจจะต้องเจอกับเรื่องที่เลวร้ายในอนาคตอย่างนั้นหรือ ? แล้วเรื่องเลวร้ายที่ถูกทำนายไว้มันมาจากไหนกันล่ะ ? หรือจริง ๆ แล้วมันเกิดจากการที่เกราะไหมบรรพกาลซึ่งถูกสร้างโดยกฎของโลกได้ถูกทิ้งไว้” เจี้ยนเฉินรู้สึกสงสัยและอยากรู้เป็นอย่างมาก เขาอยากรู้ว่ามันเป็นหายนะแบบไหนกันแน่เพื่อที่จะหาทางแก้ไขมัน
“หรือบางทีมันอาจเป็นเพราะทวีปสัตว์เทวะ ? ในอนาคตอันใกล้นี้ ทวีปสัตว์เทวะจะมาโจมตีทวีปเทียนหยวนอย่างหนักแน่นอน” เจี้ยนเฉินคิดถึงทวีปสัตว์เทวะทันที แต่เขาก็เลิกสนในความคิดนี้ แม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจว่าทวีปสัตว์เทวะนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใด เขารู้ว่าถึงว่าแม้ถ้าทวีปสัตว์เทวะแข็งแกร่งกว่าทวีปเทียนหยวนจริง มันก็ไม่ใช่ต้นเหตุแห่งเรื่องเลวร้ายที่ถูกทำนายไว้
ผู้อาวุโสทั้งสามคนของตระกูลเทียนฉินมองไปที่เจี้ยนเฉินที่จ้องมองเกราะทองอ่อนอย่างเหม่อลอย พวกเขาเชื่อว่าเจี้ยนเฉินนั้นดีใจอย่างมากที่ได้ครอบครองสมบัติเช่นนั้น หนึ่งในผู้อาวุโสเดินไปที่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉินแล้วยิ้ม “เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้ายังสงสัยว่าเจ้าควรรู้สึกมีความสุขกับเกราะทองอ่อนนี้ดีหรือเปล่า นี่คือสมบัติที่หาได้ยากอย่างยิ่งในทวีปเทียนหยวน”
เจี้ยนเฉินได้สติคืนมาจากเสียงนั้น เขาซ่อนความรู้สึกของเขาไว้และสัมผัสไปที่เกราะทองอ่อนที่ทำโดยเทพหนอนไหมด้วยความชอบ เขายิ้ม “ข้ามีความสุข มีความสุขมาก ท่านผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวถูกแล้ว เกราะทองอ่อนนี้คือสมบัติที่หาได้ยากยิ่ง ข้ารู้สึกประหลาดใจจริง ๆ ที่ได้ครอบครองอะไรเช่นนี้ในวันนี้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า สหายข้า ตอนนี้หัวหน้าของกลุ่มโจรมังกรวารีและบรรดาเซียนสวรรค์ของพวกมันจำนวนมากก็ได้ตายไปแล้ว ข้าสงสัยว่าท่านจะเอายังไงกับพวกที่เหลือนี้ ? ” ผู้อาวุโสสองของตระกูลเทียนฉินถามถึงคำสั่งต่อไป เขาช่างสุภาพยิ่งนัก
หลังจากที่ได้ยินดังนั้น เจี้ยนเฉินก็มองไปรอบ ๆ เขาก็เห็นว่าพวกกลุ่มโจรหลายคนได้อยู่บนยอดภูเขาและหลบซ่อนอยู่ไกล ๆ แล้วจ้องไปมาที่เจี้ยนเฉินอย่างเป็นกังวล พวกเขากลัวว่าเจี้ยนเฉินจะฆ่าพวกเขา พวกเขามีความคิดที่จะหนีแต่ภูเขานั้นก็สูงชันเป็นยิ่งนัก และก็มีเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้นที่จะใช้ลงจากภูเขาได้ และเส้นทางนั้นก็ถูกขวางไว้โดยคนของตระกูลเทียนฉิน พวกเขาทั้งหมดจึงติดอยู่บนภูเขานั้น
“อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้าเลย ท่านผู้กล้า ข้าขอร้อง ปล่อยข้าไปเถอะ ถ้าท่านปล่อยข้า ข้า กันโห่วเอ๋อ จะทำงานรับใช้ท่านเยี่ยงทาสและรับใช้ท่านตลอดไป” ทันใดนั้นเองโจรคนนั้นก็คุกเข่าลงและเริ่มก้มลงที่พื้นเพื่อขอความเมตตา น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความวิงวอน
เมื่อมีคนเริ่มกล่าวเช่นนั้นแล้ว ผู้คนที่เหลือข้างหลังเขาก็ได้สติ พวกเขาเริ่มคุกเข่าลงเช่นกัน แล้วคุกเข่าลงคำนับกับพื้นเพื่อขอความเมตตาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ท่าน กรุณาไว้ชีวิตข้า ข้า หลี่ซันเอ๋อ ยินดีจะทำงานเยี่ยงทาสให้กับท่าน”
“ท่านอย่าฆ่าข้าเลย ข้าขอร้อง อย่าฆ่าข้า ถ้าท่านปล่อยข้าไป ท่านจะเป็นเหมือนดั่งพ่อแม่ของข้า ข้ายินดีที่จะมอบทรัพย์สินทุกอย่างให้กับท่าน”
…
ในพริบตาเดียว บนยอดเขามังกรขนดก็เต็มไปด้วยผู้คนอย่างหนาแน่น พวกเขาทั้งหมดร้องขอความเมตตาดังก้องกังวานไปทั่วทั้งภูเขา แม้แต่เซียนปฐพี 2-3 คนยังเลือกที่จะคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตาด้วย อย่างไรก็ตาม มีพวกโจรบางคนที่ไม่กลัวตายและยังคงยืนนิ่งอยู่ พวกเขาไม่มีร่องรอยความกลัวในแววตาเลย
การที่ได้เห็นผู้คนจำนวนมากที่ล้อมรอบอยู่คุกเข่า เจี้ยนเฉินย่นคิ้วเล็กน้อยแล้วพูด “พวกเจ้าทั้งหมด หุบปากซะ ! ” แม้ว่าเสียงของเจี้ยนเฉินจะไม่ได้ดังมาก แต่ทุก ๆ คำนั้นก็ได้ยินชัดเจน ทันใดนั้น พวกเขาก็เงียบแล้วมองจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความวิงวอน
ในขณะนั้น บนยอดเขามังกรขนดช่างเงียบสงัด
เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ และพูด “ใครที่ยังอยากมีชีวิตอยู่ ก็ไปปล่อยตัวคุณหนูตระกูลเทียนฉินออกมาอย่างไร้รอยขีดข่วนซะ”
ทันทีที่เจี้ยนเฉินพูดจบ กลุ่มกลุ่มโจรก็แตกออกเหมือนรังผึ้ง พวกเขาพุ่งตรงไปข้างในอย่างเร็ว พยายามที่จะเป็นคนแรกในการนำตัวคุณหนูออกมาอย่างไร้รอยขีดข่วน
นี่อาจเป็นเพราะสิ่งนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่
ผู้คนจำนวนมากออกมารอบทิศทาง กลุ่มโจรทั้งหมดพุ่งตรงไปในทิศทางเดียวกัน แม้แต่เซียนปฐพีหลายคนก็เป็นหนึ่งในนั้น
ไม่นานนัก คุณหนูในชุดแต่งงานสีแดงก็ถูกพามาจากกลางกลุ่มของคนเหล่านั้น นางแสดงท่าทีถึงความสงสัยและไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ผู้อาวุโส คุณหนูถูกพาออกมาโดยไร้รอยขีดข่วน พวกเราหวังว่าท่านจะทำตามที่พูดและปล่อยพวกเราไป” ทันทีที่กลุ่มโจรนำตัวคุณหนูที่กำลังสับสนออกมา พวกเขาก็อ้อนวอนเจี้ยนเฉิน ไฟแห่งความหวังก็ได้เกิดที่ในตาของพวกเขา
ในขณะนั้นเอง สาวน้อยนั้นก็สังเกตเห็นกลุ่มคนของเจี้ยนเฉิน หลังจากนั้นไม่นาน สายตาของนางก็จ้องไปที่ศพทั้ง 20 ศพของเซียนสวรรค์ เมื่อนางเห็นศพของหัวหน้ากลุ่มโจร นางก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
น้ำตา 2 สายไหลอาบหน้าของนางออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่มันยากที่จะเชื่อภาพที่นางเห็นข้างหน้า แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางได้รับการช่วยเหลือแล้ว
“น้องรอง ! ” ฉินเซียวลงจากหลังสัตว์ทันทีและไปถึงตัวคุณหนูรองในไม่กี่ก้าว เขาจับไหล่ของน้องสาวและพูด “น้องรอง พี่และท่านพ่อได้มาที่นี่เพื่อช่วยเจ้า ตอนนี้หัวหน้าของกลุ่มโจรและพวกจอมยุทธของกลุ่มโจรมังกรวารีทั้งหมดก็ได้ตายไปแล้ว เจ้าปลอดภัยแล้ว เจ้าไม่ต้องแต่งงานกับลูกชายของหัวหน้ากลุ่มโจรอีกแล้ว”
คุณหนูรองตระกูลเทียนฉินเสียใจอย่างบอกไม่ถูก นางรู้สึกไม่ยอมรับในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในเวลาอันสั้นนี้ นางไม่อยากจะเชื่อว่าตระกูลเทียนฉินนั้นได้ช่วยนางไว้จริง ๆ แล้วยังฆ่าพวกจอมยุทธของกลุ่มโจรมังกรวารีไปอีกหลายคน
“ฉินเอ๋อ เจ้าต้องทุกข์ใจมากเป็นแน่ก่อนหน้านี้” หัวหน้าตระกูลเทียนฉินมาถึงยังเบื้องหน้าของนาง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
ในขณะนี้ ฉินเซียวก็ดึงมือของคุณหนูมาที่เจี้ยนเฉิน เขาพูดอย่างเต็มไปด้วยความรู้สึก “น้องรอง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะน้องเจี้ยนเฉินได้ช่วยเราไว้ ถ้าเราไม่ได้น้องเจี้ยนเฉินช่วยเหลือละก็ ตระกูลเทียนฉินของเราคงจะสู้กับกลุ่มโจรมังกรวารีไม่ได้แน่ น้องรอง บางทีเจ้าอาจจะยังไม่รู้แต่ความแข็งแกร่งของน้องเจี้ยนเฉินนั้นเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เขาได้กลายเป็นเซียนผู้คุมกฎแล้วและก็ยังฆ่าเซียนสวรรค์ทั้ง 20 คนด้วยแค่การขยับนิ้วเท่านั้น”
เมื่อคำ 2 คำว่า ‘เซียนผู้คุมกฎ’ เข้าไปในหูของนาง ตัวของนางก็นิ่งงัน หลังจากนั้นไม่นาน นางจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยความไม่เชื่อในสายตา มันยากที่จะเชื่อว่าเจี้ยนเฉินได้กลายเป็นเซียนผู้คุมกฎแล้ว
ในขณะนั้นเอง ภาพลักษณ์ของเจี้ยนเฉินในใจของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ในความเงียบงันนั้น มันทำให้นางประทับใจอย่างไม่รู้ตัว
แม้ว่านางจะเต็มไปด้วยความที่ไม่เชื่อในสายตาตัวเอง แต่นางก็กลับมาได้สติในเวลาอันสั้น นางรีบคุกเข่าคำนับไปที่เจี้ยนเฉิน “ข้าขอขอบคุณท่านเจี้ยนเฉินมากในความช่วยเหลือครั้งนี้”
เจี้ยนเฉินยิ้มและรีบพยุงตัวของนางขึ้น เขาพูด “คุณหนูฉินฉิน ไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้น สิ่งที่ข้า เจี้ยนเฉิน ทำนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
นางค่อย ๆ ยืนขึ้นในขณะที่เจี้ยนเฉินช่วยพยุงขึ้นมา ตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตาและมองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหล่าที่เต็มไปด้วยความชอบธรรมด้วยความรู้สึก นอกเหนือจากความรู้สึกที่เอ่อล้น บางอย่างก็ปรากฏในแววตาของนาง
เจี้ยนเฉินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ถูกจ้องจากนาง เขายิ้มเล็กน้อยและกำลังจะพูดบางอย่าง แต่แล้วก็มีเสียงสับสนบางอย่างดังมาใกล้ ๆ
“ปล่อยข้า ปล่อยข้า พวกเจ้าทำอะไรน่ะ? พวกเจ้ากำลังก่อกบฏหรือ ? “
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีแดงถูกมัดมืออยู่ถูกพามาที่สนามโดยคนตัวใหญ่หลายคน หลังจากนั้น เขาก็ถูกโยนอย่างรุนแรงลงบนพื้น ชายนั้นพูดอย่างสุภาพกับเจี้ยนเฉิน “ผู้อาวุโส นี่คือลูกชายของหัวหน้ากลุ่มโจร เขาเป็นคนออกความคิดให้ลักพาตัวคุณหนูมา”
หลังจากได้ยินดังนั้น สายตาของเจี้ยนเฉินก็เย็นชา เขามองไปที่คนหนุ่มใกล้ ๆ และคิดว่าเขาน่าจะอายุประมาณ 30 ปีและดูท่าทางธรรมดา เขาดูท่าทางหยิ่งยโสอย่างไม่ได้ปิดบัง
“เจ้าคนชั่ว คนที่ออกความคิดที่จะลักพาตัวน้องสาวของข้าคือเจ้าซินะ ข้า ฉินเซียว จะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่” ไฟแห่งความโกรธแค้นประทุขึ้นที่ตาของฉินเซียว เขาพุ่งตรงไปเพื่อที่จะอัดชายหนุ่มคนนั้นในขณะที่ร้องออกมาเสียงดัง
“เจ้ากล้าทำร้ายข้าหรือ ! เจ้ารู้ไหมว่าพ่อของข้าคือใคร ? เขาเป็นถึงหัวหน้าของกลุ่มโจรมังกรวารี คนที่แข็งแกร่งรองจากเซียนผู้คุมกฎเชียวนะ เจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่หรือไม่ ? และพวกเจ้าทั้งหมด เจ้ากำลังก่อกบฏหรือ ? ” ชายหนุ่มพยายามที่จะยกไหล่ขึ้นมาป้องกันหัวของเขาและร้องออกมาเสียงดัง เขาไม่ได้เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เลย
“หลี่หยุนจิ ทำไมเจ้าไม่ถ่างตาถั่ว ๆ ของเจ้าดูล่ะ พ่อของเจ้าก็นอนอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้” หนึ่งในชายร่างใหญ่ที่ลากเขามาก่นด่าไปที่เขา แม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกของกลุ่มโจรมังกรวารี แต่จอมยุทธของกลุ่มโจรมังกรวารีก็ได้ตายหมดแล้ว เขาจึงไม่ได้กลัวอะไร
“อะไร พ่อของข้าตายงั้นหรือ ? ” ลูกชายของหัวหน้ากลุ่มโจร หลี่หยุนจิตกตะลึง ในตอนนั้น เขาก็มองไปเห็นศพ 20 ศพที่อยู่ไม่ไกลในที่สุด เขานิ่งไปในทันที
“น้องเจี้ยนเฉิน ให้ข้าจัดการเจ้าชั่วนี้เอง ฮืม เจ้าพยายามจะครอบครองน้องสาวของข้า ข้า ฉินเซียว ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าแม้แต่น้อย” ฉินเซียวพูดกับเจี้ยนเฉิน เขาโกรธมาก
เมื่อได้ฟังที่ฉินเซียวพูด เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้คัดค้านอะไรและเห็นด้วยอย่างไม่ลังเล
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มโจรมังกรวารีที่ก่อความวุ่นวายมาหลายศตวรรษก็ถูกทำให้กระจัดกระจายไปโดย เจี้ยนเฉินที่เป็นเซียนผู้คุมกฎ พวกเขาทั้งหมดถูกไล่ออกไปจากภูเขาและเจี้ยนเฉินก็ยกภูเขาจิตวิญญาณแห่งนี้ให้เป็นของขวัญแก่ตระกูลเทียนฉิน
ข่าวเรื่องการล่มสลายของกลุ่มโจรมังกรวารีได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความโกลาหลไปบริเวณรอบ ๆ หลายหมื่นกิโลเมตร มันทำให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนตกตะลึงและในเวลาเดียวกันเรื่องการล่มสลายภายในของกลุ่มโจรมังกรวารีก็ถูกเล่าออกมาจากปากของอดีตสมาชิกเก่าด้วย ทุก ๆ คนรู้ว่าตระกูลเทียนฉินจากอาณาจักรซูหยาได้เชิญเซียนผู้คุมกฎมาเพื่อจัดการกลุ่มโจรมังกรวารี และในขณะเดียวกันก็ยึดครองภูเขามังกรขนดด้วย
ด้วยเรื่องนี้ ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลเทียนฉินเพิ่มมากขึ้นในบริเวณนั้น เรื่องที่ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กับเซียนผู้คุมกฎนั้นเป็นข่าวชิ้นสำคัญมาก ซึ่งทำให้กองกำลังในบริเวณรอบ ๆ อิจฉา ในเวลาเดียวกัน ตระกูลเทียนฉินก็กลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่ไม่สามารถถูกโจมตีได้ด้วยการหนุนหลังของเซียนผู้คุมกฎ
หลังจากที่จัดการกับเรื่องของที่นี่เสร็จแล้ว เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก เขาปฏิเสธการเชิญชวนให้เขาอยู่นานขึ้นและรีบมุ่งหน้าไปที่อาณาจักรฉินหวง