เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 73 : กลุ่มโจรไร้ขอบเขต (2)
ตอนที่ 73: กลุ่มโจรไร้ขอบเขต (2)
เมื่อได้ยินชื่อกลุ่มโจรไร้ขอบเขตใบหน้าของทหารรับจ้างทุกคนก็หดหู่ลง
“กลุ่มโจรไร้ขอบเขต ! ” คิ้วของเจี้ยนเฉินขมวดเข้าหากัน เขาไม่คุ้นเคยวกับโจรกลุ่มนี้ เมื่อเขาอ่านหนังสือในคฤหาสน์เซียงหยางและหอหนังสือของสำนักคากัต สิ่งเดียวที่เขาสามารถรู้นั้นคือกลุ่มโจรไร้ขอบเขตเป็นกลุ่มโจรที่แข็งแกร่งมากซึ่งอยู่มาถึง 200 ปีแล้ว.
กลุ่มโจรไร้ขอบเขตเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งตั้งแต่ต้น พวกเขาอยู่ตามชายแดนอาณาจักรและกลายเป็นฝันร้ายที่สุดของกองคาราวาน กลุ่มโจรไร้ขอบเขตไร้ความปราณีและเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาปล้นพ่อค้าพวกเขาจะไม่เหลือผู้รอดชีวิตเอาไว้ ทหารรับจ้างนับไม่ถ้วนเสียชีวิตจากกลุ่มโจรไร้ขอบเขต กลุ่มโจรไร้ขอบเขตได้โจมตีหมู่บ้านหลายแห่งเป็นครั้งคราวและแม้กระทั่งเมืองเล็ก ๆ ชั้นสองในอดีตก็ถูกพวกเขาปล้นและเมืองชั้นสองก็ได้รับความเสียหายอย่างมาก ทุกหมู่บ้านที่พวกเขาปล้นสังหารได้เพิ่มความน่ากลัวของพวกเขาต่อพ่อค้าที่มักจะเดินทางไปยังสถานที่ห่างไกล สิ่งนี้ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงสำหรับอาณาจักรใหญ่ ๆ
ในเวลานั้นสี่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ อาณาจักรเกอซุน, อาณาจักรจันทร์คราม, อาณาจักรวายุครามและอาณาจักรวาร์ ได้พบสถานที่ส้องสุมของกลุ่มโจรไร้ขอบเขตและในที่สุดก็ได้ส่งทหารไปทำลายล้างพวกเขา น่าเสียดายที่กลุ่มโจรไร้ขอบเขตมีพลังมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้และถึงแม้ว่าอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่จะประสบความสำเร็จในตอนท้าย พวกเขาก็ยังได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
หลังจากประสบความสำเร็จได้ไม่นาน สี่อาณาจักรใหญ่ก็ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเพื่อต่อสู้กับกลุ่มโจรไร้ขอบเขตที่ฐานหลักของพวกเขา ภูเขาไร้ขอบเขต ผู้เชียวชาญทั้งสี่คนนั้นมาที่ภูเขาไร้ขอบเขตและต่อสู้กันอย่างหนักจนภูเขาทั้งลูกได้สั่นสะเทือนและถูกแยกออกจากกัน การต่อสู้ได้ดำเนินการต่อเนื่องกันเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน ก่อนที่จะหยุดพักเป็นบางครั้ง ในระหว่างการต่อสู้นั้นภูเขาหกลูกได้พังทลายลง
เมื่อผู้เชี่ยวชาญจากสี่อาณาจักรใหญ่กลับมาใบหน้าของพวกเขาก็ไม่ได้ดูดี พวกเขาไม่ได้พูดอะไรและจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นผู้บัญชาการที่ได้รับภารกิจให้มาปราบปรามกลุ่มโจรไร้ขอบเขตก็ได้รับคำสั่งจากราชาให้ทหารทุกคนหนีออกมาจากภูเขาไร้ขอบเขต
แม้ว่าจะไม่มีใครได้เห็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่ของอาณาจักรได้ทำไว้ในภูเขา แม้กระทั่งคนที่ไร้สมองก็ยังสามารถคาดเดาได้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดอะไรขึ้น ผลลัพธ์เหล่านี้แม้กระทั่งทหารรับจ้างและบรรดาพ่อค้าต่างก็รับมันได้ยากยิ่งและด้วยเหตุนี้กลุ่มโจรไร้ขอบเขตจึงมีชื่อเสียงพุ่งสูงขึ้นมาก สำหรับทหารรับจ้างและพ่อค้า กลุ่มโจรไร้ขอบเขตได้กลายมาเป็นบุคคลในตำนานที่ทำให้อาณาจักรไม่กี่แห่งใกล้ ๆ หวาดกลัว
อย่างไรก็ตามยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ดีอยู่ หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญได้ต่อสู้บนภูเขาไร้ขอบเขต การกระทำของพวกมันก็ลดลงเป็นอย่างมาก แม้ว่าพ่อค้าและทหารรับจ้างจำนวนมากจะเสียชีวิตด้วยน้ำมือของพวกเขาทุกปี แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งเหมือนกับในอดีต มันเกิดขึ้นทุกสองเดือนและวิธีการของพวกมันก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนเมื่อก่อน สิ่งนี้ทำให้พ่อค้ามากมายฉกฉวยโอกาสคว้าเอาไว้ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือพวกเขาไม่อาจทำนายเวลาที่กลุ่มโจรไร้ขอบเขตจะโจมตี ดังนั้นแม้ว่ากองคาราวานบางกลุ่มต้องการเดินทางให้ทันกำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงพวกโจรที่แทบจะเป็นไปไม่ได้
“บัดซับ กลุ่มโจรไร้ขอบเขตนี่มันก็ไม่มีฝีมือเท่าไร มันก็ง่ายเหมือนกับตัดหญ้า” ทหารรับจ้างตะโกนออกมาด้วยความเกลียดชังขณะที่เขาพุ่งเข้าไปในกลุ่มโจรไร้ขอบเขตโดยไร้ความกลัวอยู่ในแววตาของเขา
นอกเหนือจากเขาแล้วทหารรับจ้างคนอื่น ๆ ก็มองดูกลุ่มโจรไร้ขอบเขตที่เดินเข้ามาพร้อมกับความเกลียดชัง กลุ่มโจรไร้ขอบเขตได้สังหารทหารรับจ้างและพ่อค้าไปมากมายและแม้กระทั่งชีวิตของครอบครัวของพวกเขาและเพื่อนสนิทของเขาก็ถูกพวกโจรเหล่านี้สังหาร ดังนั้นหัวใจของพวกเขาที่หวาดกลัวในตอนแรกก็เปลี่ยนแปลงเป็นความเกลียดชังอย่างรุนแรง
ในฐานะนักเดินทาง จุดแข็งของพวกเขาอยู่ที่ความอยู่รอดด้วยทหารรับจ้าง เป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะต่อต้านการฆ่าล้างโคตรของพวกเขา เนื่องจากมโนธรรมของพวกเขาและทำให้พวกเขากลายเป็นชายที่ไม่กลัวเกรงสิ่งใดแม้แต่ความตาย
“10 ปีก่อน บิดาข้าถูกสังหารด้วยกลุ่มโจรไร้ขอบเขต วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้บิดาของข้า” ทหารรับจ้างอายุ 20 ปี มองเหล่าโจรด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ความเศร้าและความโกรธทำให้เขาเปลี่ยนมันเป็นความเกลียดชัง
ชายอีกคนที่ดูมีอายุ มองไปที่พวกเขาพร้อมกับจิตสังหารอย่างรุนแรงขณะที่เขากัดฟันพูดออกมาว่า “กลุ่มโจรไร้ขอบเขตฆ่าพี่ชายของข้าเมื่อ 5 ปีก่อน แม้ว่าข้าต้องตาย อย่างน้อยข้าจะต้องลากมันไปด้วยสักคนเพื่อเซ่นวิญญาณของมันให้กับพี่ชายของข้าเพื่อแก้แค้น ! “
เงาดำยังคงวูบวาบมาทางพวกเขาอย่างไม่หยุด จนถึงตอนนี้นักธนูของทหารรับจ้างบางคนยังคงตกเป็นเหยื่อของแสงแปลก ๆ เหล่านั้น ในขณะที่ทหารรับจ้างพยายามปกปิดตัวเองจากคนอื่น ๆ และยังคงยิงธนูใส่โจร
เมื่อโจรเข้ามาใกล้มากขึ้นทหารรับจ้างจำนวนมากก็ยิ่งคลั่งมากขึ้น จำนวนโจรที่พุ่งเข้าใส่พวกเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อทหารรับจ้างและทำให้พวกเขากลัวมากจนถอยหนี จิตวิญญาณที่ต่อต้านได้หายไป เนื่องจากทุกคนไม่เต็มใจที่จะสู้กลับ มีบางคนเกิดความขี้ขลาดออกมาจากทหารรับจ้างในระดับนี้
เมื่อเห็นว่าทหารรับจ้างสูญเสียการควบคุมในสถานการณ์นี้อย่างช้า ชายวัยกลางคนก็เริ่มกังวลและตะโกน “อย่าตกใจ ! คนพวกนี้เป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ของโจรไร้ขอบเขต พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเรา ตราบใดที่เรายังคงช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พวกเราสามารถเอาชนะมันได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตายด้วยกัน พี่น้อง ! เพื่อชีวิต เราต้องร่วมแรงร่วมใจกัน ! “
เมื่อได้ยินเสียงของชายวัยกลางคน แม้กระทั่งทหารรับจ้างที่ขี้ขลาดที่สุดก็รู้สึกถึงความกล้าหาญกลับมาในใจ หากพวกเขาต้องการที่จะรอดพวกเขาจะต้องสู้ ความปรารถณาอันแรงกล้าที่จะเอาชีวิตรอดบังคับให้พวกเขาละทิ้งธรรมชาติที่ขี้ขลาดของพวกเขาและตอนนี้พวกเขาก็พร้อมที่จะเสี่ยงชีวิต
ทหารรับจ้างพยายามคิดหาวิธีเป็นไปได้ที่จะหลบหลีกแสงสีดำในขณะที่ยังคงยิงใส่พวกโจร หลังจากโจรได้ถูกสังหารไปหนึ่งร้อยคนในที่สุดกลุ่มโจรไร้ขอบเขตก็มาประจันหน้ากับทหารรับจ้าง เมื่อมาถึงจุดนี้ทหารรับจ้างแต่ละคนได้ยิงธนูจนลูกศรดอกสุดท้ายหมดแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงทิ้งธนูและคว้ากระบี่ขึ้นมาต่อสู้กับโจรในระยะประชิด
“ย่าห์ ! “
“ย่าห์ ! “
ทั้งสองฝ่ายต่างแผดเสียงพร้อมกับปะทะกันด้วยอาวุธ แต่ทหารรับจ้างที่ไม่อาจมองเห็นด้านหลังของโจรและแสงสีดำก็แวบเข้ามาโจมตีทหารรับจ้างแต่ละคนอย่างแม่นยำ ภายในไม่กี่นาทีทหารรับจ้างจำนวนหนึ่งก็ได้ล้มลง
“หัวหน้ากำลังถูกโจรร้ายขัดขวางอยู่ ชาลี,เกอซือเอ่อร์และเมอร์ พวกเจ้าทั้งสามตามข้ามา เราจะไปจัดการนักธนูที่ซุ่มอยู่” ทหารรับจ้างกระชับอาวุธและคำรามออกมาในช่วงเวลาโกลาหล หลังจากที่พูดเสร็จพวกเขาก็กระโดดข้ามร่างของโจรและพุ่งเข้าหาต้นตอของแสงสีดำ
เมื่อทหารรับจ้างทะยานเข้าใส่พร้อมกับอีกสามคนที่ตามเขามา พวกเขาได้ใช้หัวของโจรร้ายเพื่อป้องกันเส้นแสงสีดำ พวกเขายังคงมุ่งหน้าต่อไป
ทหารรับจ้างทั้งสี่คนกระโดดข้ามโจรที่ล้มลง โจรคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ แม้ว่ากลุ่มโจรไร้ขอบเขตจะแข็งแกร่งมากพอที่จะต่อสู้กับอาณาจักร แต่กลุ่มเล็ก ๆ นี้ก็ยังไม่เท่าไร ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกชั้นยอดของพวกเขายังถูกป้องกันโดยผู้เชี่ยวชาญสองสามคนในช่วงแรก ดังนั้นจึงไม่มีโจรที่มีความแข็งแกร่งพอที่จะสกัดกั้นทหารทั้งสี่
มีแสงอีกสามเส้นพุ่งไปยังทหารรับจ้างทั้งสี่คน เห็นได้ชัดว่านักธนูที่อยู่ในความมืดที่หลบซ่อนนั้นได้เล็งเห็นถึงเจตนาของพวกเขา
หลังจากที่เส้นแสงสามเส้นที่ถูกยิงออกมา ยังมีเส้นแสงอีกสามเส้นพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง ทำให้เส้นทั้งหกเส้นนั้นพุ่งเข้ามาที่ทหารรับจ้างทั้งสี่อย่างเงียบ ๆ
ทหารรับจ้างทั้งสี่คนนั้นไม่ได้อ่อนแอแถมยังแข็งแกร่งกว่าทหารรับจ้างทั่ว ๆ ไปอีก พวกเขาแค่ละคนเรียกอาวุธเซียนของพวกเขาออกมาและฟาดฟันใส่เส้นแสงที่พุ่งมาหาเขา เมื่อทั้งสองชนกันแสงสีดำก็กระจายหายไป ทหารรับจ้างเหล่านั้นยังไม่มีการสะดุดใด ๆ แม้แต่น้อยในระหว่างทาง พวกเขายังคงพุ่งเข้าหาโจรนักธนูเหล่านั้น พวกเขาทั้งสี่รู้ว่าหากพวกเขาไม่อาจแก้ปัญหาของมือธนูได้ กลุ่มทหารรับจ้างของพวกเขาจะต้องประสบความสูญเสียอย่างหนัก
แม้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างสามกลุ่มนั้นจะมีกำลังหลายร้อยคน แต่ความแข็งแกร่งของเหล่าทหารพวกนี้ค่อนข้างต่ำกว่าปกติ ทหารรับจ้างส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับเซียน เซียนขั้นสูงนั้นมีน้อยมาก นอกจากนี้ยังมีเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษไม่กี่คนในกลุ่ม นั่นก็คือหัวหน้าทหารรับจ้างทั้งสามและรองหัวหน้า อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งสี่รับมือกับผู้เชี่ยวชาญของกองโจรและไม่มีเวลาตามหานักธนู
เมื่อทหารรับจ้างทั้งสี่คนหลุดรอดออกมาได้ แสงสีดำก็หยุดยิงออกมาแล้วเช่นกัน ไม่ว่าพวกเขาจะจัดการนักธนูได้หรือไม่ เวลาก็เป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับทหารรับจ้าง ท้ายที่สุดแล้วแสงสีดำก็ยังเป็นอันตรายต่อทหารรับจ้างเนื่องจากพวกเขาไม่อาจมองเห็นได้ในเวลากลางคืน ความเร็วในการเดินทางของพวกเขานั้นเร็วมาเช่นกัน ดังนั้นทหารรับจ้างที่อ่อนแอก้ไม่อาจมองเห็นเส้นแสงเหล่านั้นได้
พร้อมกับอันตรายที่หายไป ทหารรับจ้างไม่ต้องป้องกันการโจมตีจากระยะไกลอีกแล้ว ตอนนี้พวกเขาสามารถสู้กับกองโจรได้ด้วยพลังเต็มร้อยและฉีกพวกเขาออกจากกัน
เมื่อมาถึงจุดนี้ ทหารรับจ้างทุกคนได้ทิ้งความกลัวทั้งหมดที่พวกเขามีต่อกลุ่มโจรไร้ขอบเขต เพื่อความอยู่รอดของพวกเขา ทุกคนได้พยายามอย่างมากเพื่อฆ่าเหล่าโจร ด้วยความหวังที่ว่าจะได้รับชัยชนะ
การต่อสู้เพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่หูอื้อเมื่ออาวุธเซียนปะทะกันและเลือดก็ย้อมไปทั่วทุกที่ เมื่อการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ผู้คนหลายสิบคนจากทั้งสองฝ่ายต่างก็ตกเป็นเหยื่อของฝ่ายตรงข้ามเสียเอง
เจี้ยนเฉินเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยเช่นกัน แม้จะใช้พลังเซียนเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามพลังการต่อสู้ที่น่าเกรงขามของเขานั้นก็เพียงพอให้ทุกคนนั้นตกใจ พวกเขาเห็นเพียงเจี้ยนเฉินใช้ท่าเท้าเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีที่มาจากทุกทิศทาง ในมือของเขายังมีกระบี่ยาวที่ยาว 1.3 เมตรและกว้าง 2 นิ้ว มันวูบวาบอย่างต่อเนื่องในมือของเขาด้วยความเร็วที่เร็วมาก มันแทงทะลุพวกเขาเร็วเสียจนเห็นเพียงเส้นแสงบาง ๆ เท่านั้นที่เคลื่อนไหว มันไม่อาจที่จะมองเห็นตัวกระบี่ได้ด้วยตาเปล่าว่ากระบี่เล่มนั้นเป็นอาวุธแบบใด
กระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นไม่เพียงแต่จะเร็ว มันยังไม่มีใครป้องกันได้ นอกจากนี้การฟันกระบี่ของเขาแค่ละครั้งก็แม่นยำอย่างมาก ทุกครั้งที่กระบี่แทงทะลุออกมา เขาสามารถใช้มันแทงไปที่คอของศัตรูได้อย่างแม่นยำ การฆ่าศัตรูทั้งหมดได้เพียงแค่กระบวนท่าเดียว มีไม่กี่คนที่จะมีความแข็งแกร่งเท่ากับเขา ที่สามารถหลบหลีกกระบี่ที่เร็วดุจสายฟ้าของเจี้ยนเฉินได้