เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 766: พัฒนาการของเสือขาว (1)
ตอนที่ 766: พัฒนาการของเสือขาว (1)
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงสิบกว่าคนถูกเจี้ยนเฉินยั่วให้โกรธ พวกเขาทั้งหมดเริ่มที่จะควบรวมกระบี่พลังเซียนธาตุแสงเพื่อที่จะต่อสู้กับเจี้ยนเฉิน กระบี่มากกว่าสิบเล่มได้พุ่งออกมาจากมือของพวกเขาและบินไปที่เจี้ยนเฉินอย่างไม่ปราณี
พวกเขามั่นใจมากถึงแม้ว่าเจี้ยนเฉินนั้นจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาคงไม่สามารถทำบางอย่างที่กล่าวเกินจริงกับพวกเขาได้ด้วยตัวคนเดียว นี้เป็นเพราะว่าพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกันและมีทีมที่ดีอีกด้วย
เจี้ยนเฉินควบรวมโล่พลังเซียนธาตุแสงยาว 2 เมตรที่มือซ้ายข้างหน้าเขา ในขณะที่เขารวบรวมกระบี่พลังเซียนธาตุแสง 6 เล่มเอาไว้ที่มือขวา กระบี่ทั้งหกนั้นแยกออกเป็น 3 กลุ่มและยิงไปที่คนทั้งสามซึ่งมีกระบี่เล่มหนึ่งนำหน้าอยู่และกระบี่อีกเล่มตามมาด้านหลัง
กระบี่ที่นำหน้าอยู่ทั้งสามได้ทำให้เกราะพลังเซียนธาตุแสงแตกกระจายออก ในขณะที่กระบี่อีก 3 เล่มที่ตามมากระแทกเข้ากับคนเหล่านั้นที่ไม่มีเกราะเหลือไว้ป้องกันแล้ว กระบี่ทะลุหน้าอกของพวกเขาไปโผล่ที่ด้านหลัง
เมื่อพวกเขากำลังอยู่ในช่วงที่กำลังจะตายนั้น เสาแสงใหญ่ 3 เสาก็ส่องลงมาจากท้องฟ้า และหายไปพร้อมกับพวกเขา
ในเวลาเดียวกันนั้น กระบี่พลังเซียนธาตุแสงก็ได้มากระทบกับโล่ที่อยู่ตรงหน้าเจี้ยนเฉิน เสียงดังสนั่น โล่ของเจี้ยนเฉินแตกกระจายออก แต่เศษนั้นก็ไม่ได้สลายไปไหน แต่กลับกัน มันกลายเป็นแสงสีขาวและพุ่งไปที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง 2 คนที่ล้อมเขาอยู่
คนทั้งสองนั้นไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้หลังจากโล่แตกกระจายออก เศษจากโล่พลังเซียนธาตุแสงยังสามารถทำร้ายคนอื่นได้ คนทั้งสองไม่ได้ตั้งรับ ชิ้นส่วนของเศษนับไม่ถ้วนได้พุ่งเข้าไปที่ร่างกายของพวกเขา หลายชิ้นพุ่งเข้าไปที่คอและหัวใจ 2 คะแนนสำหรับร่างที่กำลังจะตายนี้
เสาแสงขนาดใหญ่อีก 2 เสาส่องลงมาจากท้องฟ้า และดูดเอาคนทั้งสองออกไปจากมิติในวัตถุเซียน
ด้วยการโจมตีในกระบวนท่าเดียว เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งห้าคนได้ถูกเจี้ยนเฉินจัดการ ทำให้เหลือคนในกลุ่มอยู่อีก 7 คน
คนที่เหลืออยู่นิ่งอึ้ง พวกเขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยหน้าถอดสี ในขณะที่ความกลัวฝังลึกลงไปในตาของพวกเขา ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นเหนือความคาดหมายของพวกเขามาก พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เจี้ยนเฉินจะสามารถกำจัดคนทั้งห้าได้ภายในเวลาอันสั้นเช่นนี้ แม้ว่าทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของพวกเขา มันก็ยังยากที่จะยอมรับและเชื่ออยู่ดี
“บางที บางทีเขาอาจจะเป็นระดับ 7 ” ในตอนนี้ ความคิดแบบเดียวกันปรากฏขึ้นในใจของคนอีกทั้ง 7 คนที่เหลือ สำหรับพวกเขาแล้ว เฉพาะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 เท่านั้นที่จะสามารถจัดการเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ถึง 5 คนได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
ในตอนนี้เอง กระบี่พลังเซียนธาตุแสงอีก 7 เล่มได้มาควบรวมข้างหน้าเจี้ยนเฉิน พลังเซียนธาตุแสงที่เต็มไปด้วยพลังปราณพวยพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ไม่ด้อยไปกว่าการโจมตีอย่างเต็มที่ของเซียนสวรรค์เลย
“หนี ! ” คนที่เหลือตกอยู่ในความตกใจและเริ่มที่จะหนี พวกเขาไม่กล้าที่จะอยู่ต่อเพื่อที่จะสู้กับเจี้ยนเฉินอีกต่อไป จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความเสียดาย ถ้าพวกเขารู้ว่าเจี้ยนเฉินทรงพลังมากขนาดนี้เร็วกว่านี้ เขาคงไม่กล้าที่จะไปคิดขอแกนอสูรระดับ 6 จากเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินไม่คิดที่จะปล่อยให้พวกเขาหนีไป กระบี่ถูกยิงออกไปด้วยเสียงหวีดหวิว และแทงลงไปอย่างไม่ปราณีไปที่ด้านหลังของคนทั้งเจ็ด
เกราะพลังเซียนธาตุแสงบนตัวของคนทั้งเจ็ดแตกกระจายออก ในขณะที่พลังมหาศาลของการปะทะได้ไหลเข้าไปร่างกายของพวกเขา ทำให้ร่างกายที่บอบบางของพวกเขาบาดเจ็บอย่างหนัก คนพวกนั้นกระอักเลือดออกมาในขณะที่พวกเขาเสียการทรงตัว และทรุดลงไปกับพื้น
“ระเบิดธาตุแสง ! ” เจี้ยนเฉินคำรามออกมา พลังเซียนธาตุแสงได้รวมกันเป็นเม็ดเท่าเมล็ดถั่ว และกระหน่ำไปที่ซึ่งคนทั้งเจ็ดอยู่
ในตอนนี้คนพวกนั้นไม่มีความสามารถที่จะต่อต้านใด ๆได้อีกแล้ว พวกเขาได้แต่มองอย่างทำอะไรไม่ได้ไปที่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเม็ดพลังที่แหลมคม สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความสิ้นหวังที่ไม่สามารถติดหนึ่งในสิบได้
พลังของวัตถุเซียนทำงานทันเวลา เสาแสงใหญ่หลายเสาส่องลงมาจากท้องฟ้า และดูดคนทั้งเจ็ดหายไป ในขณะที่ระเบิดธาตุแสงของเจี้ยนเฉินตกกระทบลงที่พื้น พลังที่รุนแรงภายในเม็ดพลังได้ระเบิดออก และทำให้ดินกระเด็นขึ้นไปในอากาศและทำให้อากาศฟุ้งกระจายไปด้วยฝุ่น
หลังจากพวกเขาถูกพาออกไปจากพลังของวัตถุเซียนแล้ว สิ่งที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทิ้งไว้เบื้องหลังคือจุดแสงสีขาวหลายจุดขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเหล่านี้ได้คะแนนมาบ้างแล้วจากการกำจัดคนอื่นก่อนหน้านี้ มีจุดแสงสีขาวรวมกับเกือบ 30 จุดทั้งหมด
เจี้ยนเฉินเอาจี้หยกโบราณขึ้นมาเพื่อเก็บคะแนน ซึ่งทำให้คะแนนของเขาเพิ่มขึ้นไปมากกว่า 100 เขามีโอกาสหนึ่งในห้าส่วนแล้วที่จะติดที่หนึ่งในสิบในตอนนี้
เจี้ยนเฉินไม่ได้วิตกกังวลเกี่ยวกับคะแนนนัก เพราะเขารู้ว่ายังมีการต่อสู้อีกมากมายที่กำลังเกิดขึ้นในวัตถุเซียนนี้ ปริมาณของคะแนนที่เขาได้รับจากผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ จะยังน้อยในตอนแรก ในขณะที่ตอนที่ใกล้จะถึงวันสุดท้าย คะแนนเกือบทั้งหมดได้รับมาจากคนเพียงไม่กี่คน ในตอนนี้ เขาคงสามารถได้รับคะแนน 80 หรืออาจจะ 100 คะแนนจากเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่เขาเจอก็ได้
เจี้ยนเฉินเก็บคะแนนที่ถูกทิ้งไว้แล้วเดินไปที่ศพของสัตว์อสูร ทันใดนั้นเอง หมอกสีแดงก็ลอยออกมาจากเลือดของเสือดำ และถูกดูดซับไปโดยเสือขาว
ความแข็งแกร่งของเสือดำนั้นอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับ 6 ดังนั้น พลังชีวิตที่อยู่ในเลือดของมันจึงมีพลังมากกว่าสัตว์อสูรระดับ 6 ทั่ว ๆ ไป หลังจากดูดกลืนพลังชีวิตแล้ว แสงรอบ ๆ ตัวเสือขาวก็สว่างขึ้นเรื่อย ๆ และห่อหุ้มมันไว้ด้วยแสงสีขาวที่เปล่งประกายรอบ ๆ ตัวของมันและยังมีบางส่วนที่ยังคงซ่อนอยู่
ในไม่ช้า พลังชีวิตของเสือดำระดับ 6 ก็ถูกเสือขาวดูดไปจนหมด เจี้ยนเฉินหันไปดูที่ไหล่ของเขา คิ้วของเขาขมวดทันทีในขณะที่เขาตกอยู่ในสถาวะลำบาก เสือขาวนั้นเตะตาเกินไป ถ้าเขาเจอเข้ากับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น เขาคงไม่สามารถที่จะซ่อนความโด่ดเด่นนี้ของเสือขาวได้ เมื่อเรื่องนี้แดงขึ้นในหมู่ผู้เข้าแข่งขัน ความโดดเด่นของมันจะต้องถูกพวกตระกูลใหญ่รับรู้อย่างรวดเร็วและจะเป็นที่สนใจ มันคงจะไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเสือไปหรอก แต่ปลอดภัยเอาไว้ก่อนดีกว่ามาเสียใจทีหลัง ถ้าเขาได้ไปพบบางคนที่มีความรู้มากมากและจำเสือขาวได้ มันคงเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากอย่างไม่ต้องสงสัย และนี่เป็นผลลัพธ์ที่เจี้ยนเฉินไม่ปรารถนาที่จะเห็น
เจี้ยนเฉินครุ่นคิดสักครู่ ก่อนที่จะบินออกไป เขาเห็นแนวภูเขาที่อยู่ห่างออกไปสิบก่วากิโลเมตร และขุดถ้ำในที่ที่ซ่อนเร้น ก่อนที่จะวางเสือขาวลงไปในถ้ำ เขาวางแผนที่จะอยู่ที่นี่จนกว่าที่เสือจะไปถึงระดับต่อไป
เจี้ยนเฉินนั่งขัดสมาธิห่าง 5 เมตรจากที่ซึ่งเสือขาวอยู่ หลับตาและพักผ่อน เขาวางแผนที่จะอยู่เป็นเพื่อนเสือขาวจนกว่ามันจะตัดผ่านระดับต่อไป เพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดได้
สามวันผ่านไป ในสามวันนั้น แสงที่อยู่บนตัวเสือขาวนั้นสว่างขึ้นเรื่อย ๆ แต่มันก็ยังไม่สำเร็จในการตัดผ่านไปยังระดับต่อไป
หลังจากรออย่างอดทนมา 3 วัน เจี้ยนเฉินก็นั่งไม่ติดอีกต่อไป เขาลุกขึ้นและมองไปที่เสือที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีขาว มันดูไม่เหมือนว่ามันสามารถที่จะตัดผ่านได้สำเร็จและถึงระดับ 6 ในอีกครึ่งเดือน และเจี้ยนเฉินไม่ได้มีเวลาที่จะรอต่อไปในวัตถุเซียน
“ไม่ได้ ข้ามารอแบบนี้ไม่ได้ อาจจะไม่เหมาะที่พาเสือขาวไปไหนมาไหนด้วยในวัตถุเซียนแบบนี้ สภาพของมันในตอนนี้จะไปเตะตาคนอื่นมากแน่ ในเมื่อพลังชีวิตภายในเลือดของสัตว์อสูรระดับ 6 จะช่วยให้เสือขาวบรรลุได้ ข้าจะออกไปล่าสัตว์อสูรระดับ 6” เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะออกจากถ้ำไป เพื่อความปลอดภัยของเสือขาว เขาไม่สามารถปิดบังความแข็งแกร่งของเขาในฐานะนักสู้ได้อีกต่อไป เขาร่ายม่านพลังอันทรงพลังไว้ที่ปากถ้ำและคลุมถ้ำทั้งหมดไว้ด้วยความสามารถในฐานะเซียนผู้คุมกฎ ด้วยสิ่งนี้ แม้แต่จะมีคนอื่นเจาะรูจากที่อื่นเชื่อมเข้ามา พวกเขาก็จะไม่สามารถเข้ามาในเขตที่คลุมเอาไว้ได้
หลังจากที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จ เจี้ยนเฉินก็ใช้กิ่งไม้บังทางเข้าของถ้ำเอาไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าปากถ้ำจะถูกปิดบังเอาไว้อย่างดี จากนั้นเขาก็ออกไปจากบริเวณนั้นออกไปไกลเพื่อไปล่าสัตว์อสูรระดับ 6
ในพริบตาเดียว อีกสองวันก็ได้ผ่านไป ตอนนี้เวลาในวัตถุเซียนได้ผ่านไป 10 วันแล้ว ยังเหลือเวลาอีก 5 วันก่อนที่การแข่งขันจะจบลง
ในสองวันนั้น เจี้ยนเฉินได้ละทิ้งการแข่งขันไป และใช้กำลังทั้งหมดที่เขามีในการตามหาสัตว์อสูรระดับ 6 เพื่อที่จะสังหารมัน หลังจากนั้น เขาก็จะเก็บศพไว้ในแหวนมิติและนำมันกลับมาเพื่อให้เสือขาวได้ดูดซับพลังชีวิต ในตอนนี้การตัดผ่านไปยังระดับต่อไปของเสือขาวเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอันดับแรก ดังนั้นเขาจึงเก็บเรื่องการที่จะติดหนึ่งในสิบเอาไว้เป็นเรื่องรองอย่างไม่ลังเล
ในสองวันนั้น เจี้ยนเฉินได้ฆ่าสัตว์อสูรระดับ 6 ไปกว่าสิบตัว และได้พลังชีวิตมาจำนวนมากเพื่อให้เสือขาวใช้ในการตัดผ่านระดับ เสือขาวได้ก้าวเข้ามาใกล้อีกขั้นในการที่จะตัดผ่านไปยังระดับต่อไปหลังจากได้ดูดซับพลังงานชีวิตทั้งหมดมาแล้ว แสงสีขาวรอบ ๆ เสือขาวจับต้องได้ในตอนนี้ เหมือนรังไหมขนาดใหญ่ที่ห่อมันอยู่
ในวันนี้ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงชุดขาว 8 คนกำลังขี่เมฆอยู่บนแนวภูเขา นอกจากผู้หญิงที่นำกลุ่มแล้ว ที่เหลืออีกทั้งเจ็ดคนเป็นผู้ชายที่อายุต่างกันทั้งหมด และพวกเขาทั้งหมดถือถุงใหญ่ที่โป่งพองออกมา ถุงนั้นทำมาจากหนังของสัตว์อสูร
“นายหญิง นี้ก็ผ่านมา 10 วันแล้ว เหลืออีกเพียง 5 วันเท่านั้นก่อนที่การแข่งขันจะจบลง ในวันที่เหลืออยู่นี้ มีโอกาสเป็นไปได้มากที่เราจะพบกับหยางยู่เทียน เราควรจะเชื่อฟังท่านผู้อาวุโสลั่วในการหลีกเลี่ยงที่จะเป็นศัตรูกับพวกเขา หรือพวกเราจะช่วยหยุนเทียนและยึดถือหยางยู่เทียนเป็นศัตรูเพื่อป้องกันไม่ให้หยางยู่เทียนติดหนึ่งในสิบในตอนที่เราพบกับเขา ? ” ในเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งแปดคน ชายชราผิวสีเลือดฝาดถามในขณะที่เขามองไปที่ผู้หญิงที่นำคณะ