เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 772: ความแข็งแกร่งของหยางยู่เทียน (3)

ตอนที่ 772: ความแข็งแกร่งของหยางยู่เทียน (3)

เสียงระเบิดดังลั่น กระบี่พลังเซียนธาตุแสงที่ปะทะกันทำให้เกิดเป็นบอลสีขาวระเบิดออกมา พลังเซียนธาตุแสงที่หนาแน่นได้เปลี่ยนกลับไปเป็นบอลที่มีแสงสว่างจ้าและส่องแสงไปทั่วทั้งบริเวณ พลังเซียนธาตุแสงที่แหลมคมได้สร้างความหายนะแก่บริเวณโดยรอบเหมือนกับพายุ หินกระจายไปทั่ว ทำให้เกิดเมฆฝุ่นคลุ้งขึ้นมา หินก้อนใหญ่หลายก้อนแตกออก ทำให้ชิ้นส่วนกระเด็นลอยไปทั่วทุกทิศทาง

เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งหมดยี่สิบกว่าคนใช้เกราะพลังเซียนธาตุแสงและโล่พลังเซียนธาตุแสงเพื่อที่จะรับพลังหายนะนั้นและบินหลบเศษหิน

เจี้ยนเฉินคว้าไปมิติด้วยมือของเขา และโล่พลังเซียนธาตุแสงอันใหญ่ก็ปรากฏออกมา เขาวางมันไว้ข้างหลังของเขาเพื่อป้องกันปากทางเข้าถ้ำไม่ให้พลังงานที่เพิ่มขึ้นเข้าไปในถ้ำและมีผลกระทบกับเสือขาว เขาไม่ได้ป้องกันตัวเองเลย ทำให้พลังที่รุนแรงกระแทกเข้ากับร่างของเขา

ร่างกายของเจี้ยนเฉินเหมือนกับเสาที่แบ่งฟ้ากับดิน ไม่เพียงแต่พลังรุนแรงที่พุ่งเข้ามาจะไม่ทำอันตรายใดใดกับเขาแล้ว แต่เมื่อพลังนั้นมาชนเข้ากับตัวเขา เขากลับไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่กลุ่มของตระกูลซาร์ป้องกับพลังที่พุ่งเข้ามาของพลังเซียนธาตุแสงไปแล้ว เจี้ยนเฉินก็ยื่นมือทั้งสองข้างของเขาออกมา เขาพูดด้วยเสียงเบา ๆ “กระบี่พลังเซียนธาตุแสง ! “

ทันใดนั้นเอง คลื่นพลังที่พุ่งมาที่เจี้ยนเฉินก็หยุดลงทันที พลังงานอ่อนโยนลงภายใต้สายตาที่เหลือเชื่อของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงหลายคน มันควบรวมกลายเป็นกระบี่พลังเซียนธาตุแสง 9 เล่มอย่างรวดเร็วภายใต้การควบคุมที่หนักแน่นของเจี้ยนเฉิน

ควับ ! ควับ ! ควับ….

เสียงพุ่งผ่านลง 9 เสียงดังขึ้นมา กระบี่พลังเซียนธาตุแสงทั้งเก้าเล่มกลายเป็นลำแสงสีขาว และพุ่งไปที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง 3 คนเป็น 3 ระลอก ระลอกแลกได้ทำลายโล่พลังเซียนธาตุแสงของพวกเขา และระลอกที่ 2 ก็ตามมาในไม่ช้า มันทำลายเกราะพลังเซียนธาตุแสงที่พวกเขาใส่จนสิ้นซากและกระแทกพวกเขากระเด็นออกไปพร้อมเลือดที่กระอักออกมา ในขณะที่ระลอกที่ 3 ซึ่งเป็นระลอกสุดท้ายของกระบี่พลังเซียนธาตุแสงก็มาถึง มันพุ่งทะลุไปที่หน้าอกของคนสามคนนั้นเหมือนมีดที่พุ่งผ่านเนยร้อน

“อ๊าก ! ” คนทั้งสามอดไม่ได้ที่จะตะโกนร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เลือดพุ่งออกมาจากแผลของพวกเขา และย้อมเสื้อสีขาวของพวกเขาไปด้วยสีแดงฉาน ในวินาทีที่กระบี่แทงเข้าไปที่ร่างกายของพวกเขา พลังเซียนธาตุแสงที่แหลมคมได้สร้างความเสียหายรุนแรงภายในร่างกายของพวกเขา และโจมตีสัญญาณชีวิตทั้งหมดของพวกเขา ถ้าพวกเขาเป็นนักสู้ พวกเขาคงจะถูกทำลายไปจากพลังเซียนธาตุแสงที่รุนแรงซึ่งอยู่ภายในตัวของพวกเขา แย่หน่อยที่พวกเขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง พลังเซียนธาตุแสงนั้นมีความสามารถในการฟื้นฟูที่ทรงพลัง แต่มันก็ไม่สามารถที่จะนำพลังเซียนธาตุแสงที่แหลมคมออกจากตัวพวกเขาได้อยู่ดี

ในขณะที่พวกเขาทั้งสามกำลังท่วมท้นในความตกตะลึง เสาแสงใหญ่ 3 เสาก็ส่องลงมาจากท้องฟ้า คลุมร่างกายของพวกเขาทั้งหมดเอาไว้ ก่อนที่จะพาพวกเขาหายไป

ในช่วงเวลานิดเดียว กลุ่มของซาร์ ทิลอสได้เสียเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ไปถึง 3 คน ท่าทีของซาร์ ทิลิสอึมครึม ส่งผลให้เขาแสดงท่าทางน่ากลัวออกมา เขารู้มานานแล้วว่าหยางยู่เทียนนั้นแข็งแกร่ง แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ถึงขั้นกำจัดเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงถึง 3 คนได้อย่างง่ายดาย

“หยางยู่เทียน เจ้ากล้าทำร้ายคนของตระกูลซาร์ได้อย่างไร ! ? ” ซาร์ ทิลอสร้องออกมา ความแข็งแกร่งของหยางยู่เทียนทำให้เขาตกตะลึง แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวภายในมิติของวัตถุเซียนนี้ เมื่อเขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายเมื่ออยู่ในนี้ และแม้ว่าเขาจะถูกทำให้ออกไปจากวัตถุเซียนนี้ ตระกูลซาร์ทั้งหมดก็ยังคงสนับสนุนเขา ยังไงหยางยู่เทียนก็เป็นคนที่ตระกูลซาร์อยากกำจัดอยู่แล้ว ดังนั้นซาร์ ทิลอสจึงไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยที่ไปทำให้เขาโกรธ

คนที่อยู่ที่นั่นที่เห็นเจี้ยนเฉินกำจัดเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ไปอย่างง่ายดาย มันทำให้พวกเขาอึ้ง ขณะที่เสียงอุทานหลายเสียงปรากฏขึ้นมาอย่างไม่หยุด

“ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ได้รับอันตรายใดใดจากการโจมตีของกลุ่มเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่มีมากกว่า 20 คน เขายังฆ่าพวกนั้นกลับไปได้อีกด้วย นี้คือความแข็งแกร่งของหยางยู่เทียนอย่างนั้นหรือ?”

“หยางยู่เทียนนี้แข็งแกร่งมากเกินไป ข่าวลือเป็นเรื่องจริง จริง ๆ…”

“ดูเหมือนว่ามันจะจริงที่หยางยู่เทียนฆ่าเซียนสวรรค์ไปกว่ายี่สิบคนบนแม่น้ำน้ำหอม เขาแข็งแกร่งจริง ๆ..”

“หยางยู่เทียนนั้นแข็งแกร่งที่สุดรองจากระดับ 7 อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยความแข็งแกร่งขนาดนี้ บางทีแม้แต่คารา ลี่เว่ยก็ไม่ใช่คู่มือของเขา”

..

“สมาชิกของตระกูลซาร์ทั้งหลาย อย่าคิดว่าใครในพวกเจ้าจะติดอันดับหนึ่งในสิบแรกในการแข่งขันครั้งนี้” เจี้ยนเฉินคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังเซียนธาตุแสงรอบ ๆ ได้เข้ามารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว และรวมไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ หลังจากนั้น ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์จากเจี้ยนเฉิน เขาก็ยิงกระบี่พลังเซียนธาตุแสงออกไปที่กลุ่มคนพวกนั้นอันแล้วอันเล่า

ท่าทางของซาร์ ทิลอสเคร่งขรึม พวกเขาร่วมกันและเริ่มการต่อสู้ที่ดุเดือดกับเจี้ยนเฉิน จากบทเรียนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่น้อยและใช้ทุกอย่างที่พวกเขามีในการโจมตี

“ระเบิดธาตุแสง ! ” เจี้ยนเฉินคำราม เม็ดพลังนับไม่ถ้วนควบรวมขึ้นตรงหน้าของเขา ก่อนที่เขาจะพ่นเม็ดพลังนั้นไปที่รอบ ๆ สมาชิกของตระกูลซาร์ ไม่เพียงแต่มันจะทำลายกระบี่พลังเซียนธาตุแสงไปเท่านั้น มันยังทำความเสียหายอย่างมากต่อโล่พลังเซียนธาตุแสงที่ปกป้องพวกเขาอยู่ แสงจากโล่ค่อย ๆ จางลง ในขณะที่โล่ 2 อันแตกหักไปแล้ว ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเม็ดพลังได้พุ่งชนกับร่างกายของพวกเขา เจาะเกราะพลังเซียนธาตุแสงที่พวกเขาใส่เป็นรูผุสีขาว

“ระเบิดธาตุแสงนั้นทรงพลังมาก” เมื่อได้เห็นมัน เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงบางคนที่ดูการต่อสู้อยู่ก็เอ่ยออกมาอย่างตกตะลึง

“บางทีอาจจะมีเฉพาะระเบิดธาตุแสงของหยางยู่เทียนเท่านั้นที่ทรงพลังได้ขนาดนี้” ชายชราในฝูงชนพึมพำออกมา

เจี้ยนเฉินใช้ระเบิดธาตุแสงเพื่อสกัดคนของตระกูลซาร์เอาไว้นอกเขต ก่อนที่จะควบรวมกระบี่พลังเซียนธาตุแสงที่สว่างจ้าขึ้นมาอีก 9 เล่ม เขายิงมันไปที่คนสามคนที่อยู่ในกลุ่ม

เกิดเสียงร้องของความเจ็บปวดขึ้นมาอีก 3 เสียง สามคนถูกเจาะไปที่หน้าอกด้วยกระบี่พลังเซียนธาตุแสง ก่อนที่จะถูกพาออกไปด้วยพลังของวัตถุเซียน และออกจากการแข่งขันไป

ในพริบตาเดียว กลุ่มของตระกูลซาร์และแปดตระกูลใหญ่ที่มีมากกว่ายี่สิบคนก็ลดลงไป 9 คน อีกสิบกว่าคนเท่านั้นที่เหลืออยู่ และยังติดอยู่ในการต่อสู้ที่ตึงเครียดกับเจี้ยนเฉินอยู่

ซาร์ ทิลอสหันหลังและมองไปที่หยุนเทียน เขาคำรามออกมา “หยุนเทียน เร็ว ๆ เข้าและมาช่วยกัน ! เจ้ากำลังรออะไรอยู่ ? ! “

เมื่อได้ยินดังนั้น ตาของเขาก็เป็นประกายสั่นไหว หยุนเทียนแสดงท่าทางลังเลออกมา ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นเกิดกว่าที่เขาคาดคะเน แม้แต่เขายังไม่ใช้สุดยอดทักษะธาตุแสงทั้งสาม เขาก็แข็งแกร่งมากแล้ว และมีใครหยุดเขาได้ ถ้าเขาร่ายสุดยอดทักษะธาตุแสงทั้งสาม ใครจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ?

หยุนเทียนลังเลอยู่ช่วงเล็กเล็ก ก่อนที่แววแห่งความแน่วแน่จะปรากฏขึ้นที่ในตาของเขา เขาคิด “ข้าต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้ ถ้าข้าต้องการที่จะเป็นประธานในอนาคต อีกทั้ง คารา ลี่เว่ยก็น่าจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่ช้า เมื่อพวกเขามา เราจะมีความสามารถที่จะต่อต้านได้แม้ว่าหยางยู่เทียนจะร่ายสุดยอดทักษะทั้งสาม”

เมื่อตัดสินใจแล้ว หยุนเทียนก็เคลื่อนไหวทันที เขาสวมเกราะพลังเซียนธาตุแสงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะควบรวมโล่พลังเซียนธาตุแสงเอาไว้ตรงหน้าของเขา

เมื่อสัมผัสได้ถึงการกระทำของหยุนเทียน แววแห่งความเย็นชาก็ลุกขึ้นในตาของเจี้ยนเฉิน “ศิษย์พี่หยุนเทียน เจ้ากล้าที่จะต่อต้านข้าอย่างนั้นหรือ ? “

“หยางยู่เทียน เจ้าจะโทษศิษย์พี่ของเจ้าไม่ได้ เจ้าต้องโทษตัวเองที่เจ้าอยู่ผิดที่ผิดเวลา ในตอนนี้ ศิษย์พี่จำเป็นที่จะต้องป้องกันเจ้าจากการติดหนึ่งในสิบอันดับแรกไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม” หยุนเทียนพูดเสียงแหบห้าว เขาโบกมือ แล้วกระบี่พลังเซียนธาตุแสงก็ควบรวมขึ้นทันที เขายิงมันไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วแสง

เจี้ยนเฉินควบรวมกระบี่พลังเซียนธาตุแสงกลับและส่งไปชนกับกระบี่ของหยุนเทียน เขาพูดอย่างไร้ความรู้สึก “ถ้างั้นอย่าหาว่าข้าไม่มีเมตตาล่ะ ศิษย์พี่หยุนเทียน เจ้าจะไม่มีทางติดหนึ่งในสิบอันดับแรกในครั้งนี้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม”

ท่าทีหยุนเทียนมืดมนและเขาตะโกนออกมาอย่างเย็นชา “หยางยู่เทียน ข้าต้องยอมรับว่าเจ้านั้นแข็งแกร่งมาก แต่มันยังเร็วเกินไปที่เจ้าจะพูดแบบนั้น” ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็หันหลังไปหากลุ่มคนด้านหลังเขาและตะโกนออกมา “ทุก ๆ คน เมื่อไรพวกเจ้าจะเริ่มเคลื่อนไหว ? หลังจากงานนี้จบ ข้าจะรับฟังคำขอร้องจากทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น”

ทันทีที่หยุนเทียนพูดจบ คนอีกสามสิบกว่าคนก็ก้าวออกมาจากฝูงชนที่สังเกตการณ์อยู่ด้านหลัง หนึ่งในนั้นมองไปที่หยุนเทียน “หยุนเทียน ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาคำพูด” หลังจากพูดแบบนั้น คนผู้นั้นก็เข้าไปร่วมกับกลุ่มที่กำลังโจมตีเจี้ยนเฉิน

คนอื่น ๆ ก็เข้าไปร่วมในการต่อสู้ด้วย ในพริบตาเดียว พวกนั้นก็ล้อมรอบเจี้ยนเฉินและโจมตีเขาจากสิบกว่าคนกลายเป็นสี่สิบกว่าคน เพิ่มความกดดันให้กับเจี้ยนเฉินเป็นอย่างมาก

สถานการณ์กำลังอยู่ในช่วงขาลง แต่ไม่มีแม้แต่ความสับสนเกิดขึ้นบนใบหน้าของเจี้ยนเฉินเลย ทันใดนั้นเอง ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายและเขาชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาตะโกนออกมา “กระบี่แห่งการพิพากษา ! “

เมื่อได้ยินคำนั้น คนทุกคนที่กำลังโจมตีเจี้ยนเฉินอยู่ก็เปลี่ยนท่าทีไปอย่างมาก

“พวกเราจะให้เขาร่ายทักษะนั้นไม่ได้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ! เร็วเข้า เข้าไปสกัดไว้ ! ” ซาร์ ทิลอสตะโกนออกมา กระบี่พลังเซียนธาตุแสงถูกยิงออกไปจากเขาด้วยความเร็วแสงอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่ยิงไปที่เจี้ยนเฉิน เขายิงไปที่กระบี่อันแหลมคนที่กำลังควบรวมเหนือเขา

เมื่อกระบี่กำลังจะเป็นรูปร่าง มันก็ระเบิดออกด้วยเสียงอันดัง และเปลี่ยนเป็นคลื่นพลังที่รุนแรงซึ่งรบกวนการควบรวมกระบี่

หลังจากนั้น ท่าทีของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงห้าสิบกว่าคนก็ถึงจุดที่เคร่งขรึมที่หาได้ยาก พวกเขาทั้งหมดโจมตีไปที่กระบี่ซึ่งอยู่เหนือหัวของเจี้ยนเฉินอย่างไม่หยุด ด้วยเสียงระเบิดนับไม่ถ้วน รูปทรงกระบี่ที่อยู่เหนือเจี้ยนเฉินก็เริ่มสั่นไหวจากการโจมตีที่ต่อเนื่อง ก่อนที่จะหายไปอย่างช้า ๆ

กระบี่แห่งการพิพากษาของเจี้ยนเฉินถูกขัดขวางระหว่างขั้นตอนการสะสมพลัง

“ศิษย์น้อง ข้าหยากจะเห็นว่าเจ้าจะกำจัดเราอย่างไรโดยไม่มีความได้เปรียบจากสุดยอดทักษะทั้งสาม” หยุนเทียนหัวเราะออกมาเสียงดัง เขาพึงพอใจและดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นชัยชนะราง ๆ แล้ว