เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 782: การผิดพันธสัญญาเก่าแก่
ตอนที่ 782: การผิดพันธสัญญาเก่าแก่
หัวหน้าตระกูลของตระกูลทั้งแปดหน้าซีดและจากไปด้วยท่าทีที่มืดมน
คนของตระกูลซาร์ไม่ได้มาปรากฏตัว หลังจากที่ไม่มีใครจากตระกูลของเขากลับมาจากวัตถุเซียน พวกเขาก็ได้จากไปจากไม่มีปากมีเสียง คนของตระกูลซาร์หลายคนได้ตายในวัตถุเซียน แต่พวกเขาก็เป็นคนผิดอยู่ดี พวกเขาได้แหกกฎอย่างร้ายแรงด้วยการนำพลังของเซียนราชาเข้าไปในวัตถุเซียน แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับสมาชิกตระกูลของพวกเขา พวกเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ พวกเขาสามารถยอมรับการสูญเสียนี้ว่าเป็นความโชคร้ายได้เพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์มาอย่างมากมาย ความแข็งแกร่งและคุณลักษณะที่เปล่งประกายของเสือขาวก็ได้เป็นที่ประจักษ์กับคนหลาย ๆ คน แค่สัตว์อสูรที่เพิ่งสำเร็จระดับ 6 ถึงกับทำให้เซียนผู้คุมกฎได้รับบาดเจ็บได้ ถึงแม้เซียนผู้คุมกฎจะไม่ได้ระมัดระวังในตอนที่เกิดเรื่อง แต่มันก็ยังทำให้ชื่อของเสือขาวเป็นที่รู้จักดีอยู่ดี และได้รับความสนใจและความชื่นชมจากคนจำนวนนับไม่ถ้วน
ในฝูงชน กลุ่มของชายชราซิตูจ้องเขม็งไปที่เสือขาวบนไหล่ของเจี้ยนเฉิน ตาของพวกเขาสั่นไหวไปด้วยประกายแปลก ๆ
“ไม่สงสัยเลยว่าทำไมราชาเสือถึงต้องการให้พวกเราเอาสัตว์อสูรโบราณนั้นไป มันทรงพลังจริง ๆ ” ชายชราหม่าเทิงถอนหายใจเบา ๆ
ชายชราซิตูจ้องไปที่เสือขาวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหันหลังแล้วจากไป “พวกเราไปกันเถอะ มันคงไม่มีประโยชน์ที่พวกเราจะอยู่ที่นี่ พวกเราจะทำตามแผนการ และไม่เปิดเผยตัวตนของเจี้ยนเฉินในฐานะนักสู้เว้นเสียแต่ว่าเราจำเป็นจะต้องทำ พวกเราไม่รู้ว่าสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงจะปฏิบัติกับเขาอย่างไรเมื่อสมาคมรู้เรื่องนี้ ถ้าสมาคมยังปฏิบัติเหมือนกับว่ายังเป็นสมาชิกอยู่ เจี้ยนเฉินคงจะสามารถใช้อำนาจของสมาคมในการจัดการกับพวกเราโดยไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร นั่นจะเป็นจุดที่ทำให้เราเสียเปรียบ และสุดท้ายสัตว์อสูรโบราณนั่นย่อมจะตกอยู่ในมือของสมาคม นั่นเป็นอะไรที่เราไม่ต้องการจะเห็น ดังนั้นในตอนนี้ สิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้คือรอจนกว่าเจี้ยนเฉินจะออกมาจากสมาคมก่อนที่เราจะเคลื่อนไหวไปหาเขา”
..
เจี้ยนเฉินกลับเข้าไปในปราสาทโดยไม่สนใจเรื่องข้างนอก ในตอนนี้เขานั่งหลับตาอยู่ที่เตียง ในขณะที่การมีอยู่ของเขาครอบคลุมทั่วทั้งสมาคม
สักพักต่อมา เจี้ยนเฉินก็ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ เขาพึมพำ “ดูหมือนว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปทั่วทั้งเมือง ข้าไม่สามารถสัมผัสได้ถึงผู้ยอดยุทธเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนและหยุนเทียนก็ไม่ได้อยู่ในปราสาทตอนนี้ ข้าสงสัยว่าเขาไปหลบอยู่ที่ไหนกัน”
“อะไรก็ช่างเถอะ ยังมีเวลาอีก 1 ปีก่อนที่ผนึกของวัตถุเซียนจะเปิดออก ข้าจะสามารถดูดซับพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเพื่อที่จะสำเร็จระดับ 7 ในตอนนั้น ดังนั้นข้าจะอยู่ที่นี่อย่างสงบจนถึงปีหน้า”
ในชั้นใต้ดินที่ซ่อนตัวภายในสนามรอบบ้านที่ธรรมดาของตระกูลซาร์ หยุนเทียนกำลังถกเถียงบางอย่างที่เป็นความลับอยู่กับผู้อาวุโสฝ่ายในของตระกูลซาร์
“หยุนเทียน เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าต้องการจะทำแบบนี้ ? ” ผู้อาวุโสฝ่ายในที่นั่งอยู่ตรงข้ามหยุนเทียนกำลังมองไปที่เขาพร้อมรอยยิ้ม
ปณิธานแน่วแน่ปรากฏขึ้นในตาของหยุนเทียน “ตราบใดที่ตระกูลซาร์ของท่านจะกำจัดหยางยู่เทียน ข้า หยุนเทียนจะนำสมาคมเพื่อเข้าร่วมกับตระกูลซาร์ของท่านทันทีหลังจากที่ข้าได้กลายเป็นประธาน แต่ถ้ามีคนคัดค้านในตอนนั้น ข้าหวังว่าตระกูลซาร์ของท่านจะช่วยข้าในการจัดการมัน”
“แน่นอนแน่นอน นี่จะไม่กลายเป็นปัญหาเลย หยุนเทียน เหมือนกับที่เขาว่ากันไว้ คนที่เน้นการปฏิบัติคือคนที่ฉลาด เจ้าทำได้ดีมากในเรื่องนี้ ดีกว่าอาจารย์ของเจ้ามาก ๆ ไม่ต้องห่วง เมื่อเจ้าต้องการที่จะเข้าร่วมตระกูลซาร์อย่างหมดหัวใจ ตระกูลซาร์ของข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี ในอนาคต เจ้าจะยังคงมีอำนาจเต็มที่ในสมาคม แต่นอกเหนือจากตัวตนที่เป็นประธานของสมาคมแล้ว เจ้ายังมีตัวตนที่สองอยู่คือการเป็นสมาชิกของตระกูลซาร์ ข้าหวังว่าเจ้าจะจำเรื่องนี้ไว้ด้วย” ผู้อาวุโสฝ่ายในพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านผู้อาวุโสสี่ไม่จำเป็นต้องกังวลไปเลยแม้แต่น้อย เราจะเป็นต้องกำจัดหยางยู่เทียนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เช่นนั้น เมื่อเขาสำเร็จระดับ 7 มันคงจะเป็นการยากกว่านี้มากที่จะกำจัดเขา” หยุนเทียนพูด
“ตระกูลซาร์ของเรามีแผนของเรา เจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นกังวล” ผู้อาวุโสสี่พูด
หยุนเทียนไม่ได้กลับไปที่สมาคมหลังจากที่ออกจากตระกูลซาร์ แทนที่กันเขากลับไปตั้งหลักอยู่ที่โรงเตี้ยมที่อยู่ค่อนข้างไกลจากสำนักงานใหญ่ เขาไม่กล้าที่จะกลับไปที่สมาคมด้วยสิ่งที่เขาได้ทำกับเจี้ยนเฉินไป เขากลัวว่าเจี้ยนเฉินจะทำให้เขาอับอายและแก้แค้นเขา
หยุนเทียนนั่งอยู่บนเตียงที่หูหราในขณะที่มุมปากของเขายิ้มอย่างเย็นเยือก เขาคิด “ตระกูลซาร์ แม้ว่าพวกเจ้าจะทรงพลังมาก มันก็ไม่ง่ายที่เจ้าจะควบคุมข้า ข้าแค่ใช้พวกเจ้าเพื่อกำจัดหยางยู่เทียนเท่านั้น”
ภายในวัตถุเซียน วัตถุจิตวิญญาณในชุดขาวนั่งอยู่ที่จุดสูงสุดของปราสาทของเขา และจ้องไปที่กลุ่มดาวหกสีด้วยท่าทีที่ยากที่จะบอกได้
กลุ่มดาวหกสีเป็นพันธสัญญาที่เขาทำไว้นานมากมากแล้วกับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ทรงพลัง พันธสัญญาเก่าแก่ที่จำกัดการเคลื่อนไหวของเขา ซึ่งให้เขานั้นปกป้องเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงอย่างเงียบ ๆ มานานนับไม่ถ้วน
ถ้าเป็นก่อนหน้าที่การแข่งขันจะเริ่ม วัตถุจิตวิญญาณไม่เคยจินตการมาก่อนเลยว่าเขาจะต้องผิดพันธสัญญา อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาได้ไปเจอกับจิตวิญญาณกระบี่และซากศพที่ทรงพลังจนน่ากลัวที่ตายไปเพราะจิตวิญญาณกระบี่ในความว่างเปล่านั้น จิตใจเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
นี่เป็นเพราะภาพที่แสดงให้เขาได้เห็นโลกที่กว้างกว่าเดิมและมันทำให้เขาเข้าใจว่ามันจะมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอในอีกที่หนึ่ง เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไปและติดอยู่ในโลกแห่งความคิดแคบ ๆ นี้ ดังนั้น ความคิดอื่น ๆ จึงเข้ามาในจิตใจของเขา เขาไม่อยากที่จะอยู่ที่นี่เพียงลำพัง เขาต้องการที่จะไปหาดินแดนที่กว้างใหญ่กว่านี้
วัตถุจิตวิญญาณยืนอยู่หน้ากลุ่มดาวอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลานานในขณะที่ตาของเขาเป็นประกายเจิดเจ้าขึ้นเรื่อย ๆ เขากำหมัดแน่นและพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ข้าจำเป็นที่จะต้องทำลายผนึกที่ผูกมัดข้ามานานแสนนานและข้าก็จะได้รับอิสรภาพ” หลังจากพูดจบ พลังที่อยู่ในมิติทั้งหมดก็เริ่มดุร้ายมากขึ้น และมารวมกันที่ห้องโถงด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ ในพริบตาเดียวห้องโถงที่ยิ่งใหญ่ก็เต็มไปด้วยหลังงานที่เป็นระลอกไปด้วยการทำลายล้าง
ด้วยพลังงานปริมาณมหาศาล ห้องโถงทั้งหมดก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงกลุ่มดาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ในขณะที่แผ่นดินรอบ ๆ รัศมีร้อยเมตรได้กลายเป็นร่องลึกลงไป 9 เมตร
นี่ทำให้สิ่งมีชีวิตในมิติตกใจ สัตว์อสูรทุกตัวสามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่างนี้ไม่ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ
บนยอดเขาที่มีรูปร่างเป็นดาบ ชายวัยกลางคนร่างใหญ่ที่เปลือยอกอยู่ยืนขึ้นมา เขาจ้องมองไปที่ไกลไกลและร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ “เจ้าจิตวิญญาณนี้เป็นบ้าไปแล้วหรือ ? เขากำลังจะทำอะไร ? “
ในถ้ำใต้ดิน ชายชราที่กำลังนั่งขัดสมาธิและฝึกฝนอยู่ค่อยค่อยลืมตาขึ้นมา แสงไฟ 2 สายถูกยิงออกจากตาของเขาไปไกลและเขาก็พึมพำอย่างสงสัย “เจ้าจิตวิญญาณนั่นต้องการจะทำอะไร ? ทำไมเขาถึงเคลื่อนย้ายพลังงานมากมายขนาดนั้นในทันทีทันใดแบบนี้ ? เขาบ้าไปแล้วหรือ ? “
ปัง !
ทันใดนั้นเอง เสียงดังเหมือนแผ่นดินไหวก็ดังยาวมาแต่ไกล พายุแห่งพลังการทำลายร้างได้ทำให้เกิดหายนะเป็นวงกว้าง ทำให้มิติทั้งมิติสั่นไหว มันเหมือนกับว่าโลกนี้กำลังจะถล่ม
“บ้าเอ้ย เจ้าจิตวิญญาณนี่มันเสียสติไปแล้วหรือไง ? เขาต้องการที่จะทำลายมิตินี้อย่างนั้นหรือ ? ” ภายในป่าชายวัยกลางคนร่างใหญ่ที่อยู่ในชุดรัดแน่นตะโกนออกมา ใบหน้าของเขาเริ่มเคร่งเครียด
“พันธสัญญาโบราณนี้ทรงพลังมากเกินไป ข้าไม่สามารถทำลายมันได้ด้วยตัวของข้าเอง สัตว์อสูรระดับ 8 ทั้งหมดมาช่วยข้า หลังจากที่มันถูกทำลายแล้ว ข้าจะปล่อยพวกเจ้าให้เป็นอิสระ ! “
เสียงดังระเบิดออกไปทั่วทุกมุมในมิติของวัตถุเซียน สัตว์อสูรระดับ 8 ทั้งหมดนิ่งอึ้งในตอนแรกที่ได้ยิน ก่อนที่จะเริ่มยินดี ภายใต้ความลังเลเล็กน้อยพวกเขาได้เดินทางมาที่จุดศูนย์กลางของมิติด้วยความเร็วสูงสุดของพวกเขา ในขณะเดียวกัน สัตว์อสูรระดับ 7 ก็ได้แต่มองอย่างอิจฉา
ในไม่ช้า คนสิบกว่าคนที่มีอายุและเครื่องแต่งกายที่ต่างกันก็ได้มารวมอยู่ตรงหน้าวัตถุจิตวิญญาณ พวกเขาจ้องอย่างสงสัยไปที่กลุ่มดาวใหญ่ที่ลอยอยู่ต่อหน้าพวกเขา
“วัตถุจิตวิญญาณ มันจริงหรือเปล่าที่ท่านพูดมา ? ถ้าพวกเราช่วยเจ้าทำลายพันธสัญญาโบราณนี้ เราจะได้รับอิสรภาพ ? ” ชายเปลือยอกพูดเสียงแหบแห้ง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่เก็บเอาไว้ไม่อยู่
“ถูกต้อง ทันทีที่เจ้าช่วยข้าทำลายพันธสัญญานี้ได้สำเร็จ ข้าจะส่งเจ้าออกไปทันที เจ้าจะได้รับอิสรภาพ” วัตถุจิตวิญญาณพูดอย่างเคร่งเครียด
“ได้เลย ถ้าเช่นนั้นพวกเรามาเริ่มกันเลย”
สัตว์อสูรระดับ 8 ทั้งหมดแสดงท่าทางตื่นเต้นอย่างปิดบังไม่ได้