เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 784: การบุกรุกของทวีปสัตว์เทวะ (2)

ตอนที่ 784: การบุกรุกของทวีปสัตว์เทวะ (2)

“ขอรับ ข้าน้อยน้อมรับ ! ” ราชาเสือผ่อนคลายเล็กน้อยหลังจากที่ได้เห็นว่าท่านผู้คุมกฎไม่ได้มีความตั้งใจที่จะลงโทษเขา

“มีความเคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับมารราคะหรือไม่ ? ” ภาพเงาถามต่อ

“ขอตอบท่านผู้คุมกฎ มารราคะประสบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ตามข่าวที่ข้าได้รับมา เขาได้ผ่านกิเลสทั้งหลายมาแล้ว ในตอนนี้เหลือแค่เพียงความเดือดดาล ความต้องการ และความใคร่เท่านั้นที่ยังตรึงเขาไว้อยู่” ราชาเสือพูดอย่างนอบน้อม

“เขาเท่านั้นที่มีความสามารถบนทวีปเทียนหยวน ในตอนแรกเขาฝึกเคล็ดลับจิตพิสุทธิ์จากอารามจิตพิสุทธิ์ แต่แล้วเขาก็ถูกขับไล่ออกมาจากสำนัก เขาจมอยู่ในความรู้สึกทั้งเจ็ดและกิเลสทั้งหก ด้วยสิ่งนั้น เขาจึงได้ฝึกในแบบที่ไม่มีใครเคยฝึกมาก่อน ในท้ายที่สุด เขาก็กลายเป็นเซียนจักรพรรดิได้สำเร็จ”

“หลังจากนั้น เขาก็พยายามที่จะเป็นอิสระจากโซ่ตรวนของความรู้สึกทั้งเจ็ดและกิเลสทั้งหกในการที่จะเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นไปอีก ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าเขาจะสามารถไปถึงระดับการฝึกฝนที่เขาต้องการได้ไหรือไม่ หลังจากที่เขาทนกับพันธนาการจากความรู้สึกและกิเลส” ภาพเงาดำพึมพำกับตัวเอง แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เยาะเย้ยออกมา “ไม่มีใครเข้าใจในเซียนจักรพรรดิดีไปกว่าข้าอีกแล้ว มันจะเป็นไปง่าย ๆ ได้อย่างไรที่จะเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิและกลายเป็นเหมือนสุดยอดสี่จอมยุทธในครั้งโบราณกาล ? เมื่อมารราคะหลุดพ้นจากพันธนาการแล้วเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอีก แต่เขาก็จะไม่เหนือไปกว่าเซียนจักรพรรดิ” เมื่อพูดจบ ภาพเงาก็หายไปอย่างช้า ๆ ในขณะที่แสงจากอาคมที่กลางห้องก็เริ่มที่จะหมองหม่นไป

ไกลออกไปจากทวีปเทียนหยวน มีดินแดนที่คล้ายคล้ายกันอยู่ ทวีปนี้ไม่ได้เล็กไปกว่าทวีปเทียนหยวน แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือมากกว่าร้อยละ 80 ของที่นี่ปกคลุมไปด้วยป่าและแนวภูเขาที่กว้างใหญ่และดินแดนที่เหลือเป็นพืชเตี้ย ๆ

สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่บนทวีปแห่งนี้ ไม่มีมนุษย์อยู่ที่นี่ มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่เป็นสัตว์อสูรเท่านั้น

ทวีปนี้แต่เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในครั้งโบราณกาลก่อนที่จะถูกบุกรุกโดยกลุ่มของสัตว์อสูรภายใต้คำสั่งของพยัคฆ์ปีกเทวะโบราณ พวกเขาไล่ร้อยเผ่าพันธุ์ออกไปและตั้งชื่อมันใหม่ว่าทวีปสัตว์เทวะ

ที่ใจกลางของทวีปมีปราสาทที่ใหญ่โตตั้งอยู่บนที่ที่สูงจากพื้น 10 กิโลเมตรและปราสาทนั้นเปล่งประกายไปด้วยแสงในรอบทิศทาง มันใหญ่โตมาก ยาวและกว้างไปถึงกว่า 10 กิโลเมตร มันดูเหมือนเมืองเล็ก ๆ

ปราสาทนี้ถูกเรียกว่าตำหนักของสัตว์เทวะและเป็นสิ่งที่หาใดมาทดแทนไม่ได้ในทวีปสัตว์เทวะ มันถูกสร้างขึ้นมาโดยพยัคฆ์ปีกเทวะโบราณจากพื้นดิน และกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับสัตว์อสูรบนทวีป ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นที่ซึ่งจอมยุทธทุกคนในทวีปใช้เพื่อฝึกฝน

ปราสาทนี้มี 99 ชั้นและแต่ละชั้นนั้นสูงกว่าร้อยเมตร มีห้องด้วยกันหลายห้องซึ่งมีทางเดินทอดไปถึงกัน แผนผังนั้นซับซ้อนมากเหมือนกับเขาวงกต

ภายในปราสาท 99 ชั้นนี้มีคนอยู่ 98 คนที่ฝึกฝนอยู่ที่นี่ พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด 98 อันดับของทวีปสัตว์เทวะ แม้แต่คนที่แข็งแกร่งน้อยที่สุดยังเป็นถึงเซียนราชา พวกเขาอยู่กันคนละชั้นโดยอ้างอิงเอาจากความแข็งแกร่ง คนที่แข็งแกร่งที่สุดจะอยู่ชั้นที่สูงกว่า ผู้คุมกฎของทวีป คนที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนทั้งหมดจะอยู่ชั้นที่ 98

ชั้นที่ 99 จะเป็นชั้นที่พยัคฆ์ปีกเทวะโบราณอาศัยอยู่ ไม่มีใครสามารถที่จะเข้าไปได้ มันถูกกล่าวไว้ว่า ชั้นที่ 99 นั้นเป็นชั้นที่ครอบครองโดยพยัคฆ์ปีกเทวะโบราณซึ่งเป็นตำนานและเฉพาะสัตว์อสูรที่มีสายเลือดของพยัคฆ์ปีกเทวะเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปได้

ในตอนนี้ ชายวัยกลางคนในชุดดำกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขาอยู่ในชั้นที่ 96 และกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่

ทันใดนั้นเอง เสียงสง่าก็ระเบิดขึ้นมากลางอากาศ “แลงคีรอส ข่าวของพยัคฆ์ปีกเทวะได้รั่วไหลออกไปแล้ว ในตอนนี้ข้าอยู่ในช่วงสำคัญในการฝึกตนของข้า ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถไปไหนได้ ให้เจ้ารวบรวมจอมยุทธที่อยู่ในตำหนักนี้ทันทีแล้วไปที่ทวีปเทียนหยวนเพื่อเอาตัวพยัคฆ์ปีกเทวะมา”

ชายคนนั้นลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ “ท่านผู้คุมกฎ เราจะทำลายข้อตกลงที่ตั้งไว้ระหว่างสัตว์เทวะโบราณกับโม่เทียนหยุนเช่นนั้นหรือ ? “

“พยัคฆ์ปีกเทวะนั้นเป็นของทวีปสัตว์เทวะ เจ้าแค่ไปที่ทวีปเทียนหยวนเพื่อเอาสิ่งที่เป็นของเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรอยู่แล้วกลับมาเท่านั้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่ถ้าทวีปเทียนหยวนให้ความร่วมมือ แต่ถ้าพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือ พวกเราก็จะทำลายข้อตกลงตั้งแต่ครั้งโบราณกาลนั่นไปซะ” เสียงที่สง่าและหนักแน่นดังระเบิดขึ้นมาในห้อง

ชายนั่นหยุดสักพักก่อนที่จะพูดต่อ “เอาละ ข้าจะนำผู้คนไปทันที” หลังจากพูดจบ ชายคนนั้นก็หายไป

เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขากำลังนั่งอยู่ที่ทางเข้าของชั้นที่ 97 ของปราสาท เขาพูด “ซ่างเฉียง สหายเก่าของข้า ข้ามารบกวนเจ้าหรือเปล่า ? “

สักพักต่อมา ประตูก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ชายคนนั้นก็เดินตรงเข้าไป

ในห้องของชั้นที่ 97 มีชายชราผิวสีเลือดฝาดนั่งอยู่ ตาของเขาปิดอยู่และเขากำลังลอยอยู่กลางอากาศโดยมีชั้นหนาสีทองห่อหุ้มร่างกายของเขาอยู่

ชายที่อยู่ในชุดดำหยุดอยู่ห่างร้อยเมตรและมองอย่างสงบไปที่ชายชรา “ซ่างเฉียง ข้ากำลังจะไปที่ทวีปเทียนหยวน เจ้าต้องไปกับข้าด้วย”

“ทวีปเทียนหยวนมีเซียนจักรพรรดิเพียงคนเดียวคือ มารราคะ เจ้าไปคนเดียวคงจะเพียงพอ เจ้าจะเอาข้าไปด้วยทำไม ? ” ชายชรายังคงปิดตาอยู่ในขณะที่เขาพูดอย่างไม่สนใจ

ชายชุดดำถอนหายใจเบาเบา “ซ่างเฉียง เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าไปที่นั่นทำไม เจ้าจำเป็นที่จะต้องเลือกข้างในอนาคตสำหรับเผ่าเปิงของเจ้า”

“พยัคฆ์ปีกเทวะเป็นเทพเจ้าของทวีปสัตว์เทวะ เหตุผลเพียงอย่างเดียวที่ทวีปสัตว์เทวะของเรายังคงรุ่งเรืองอยู่จนถึงทุกวันนี้ทั้งหมดเป็นเพราะสัตว์เทวะ ในฐานะที่เป็นประชาชนของทวีป ข้าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการไม่เคารพกับสัตว์เทวะ เผ่าเปิงจะไม่เข้าร่วมด้วย” ชายชราพูด

“ซ่างเฉียง เจ้าตัดสินใจเช่นนี้หรือ?” ความหมดความอดทนเกิดขึ้นที่แววตาของชายผู้นั้น

ซ่างเฉียงลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ เขาจ้องอย่างสงบไปที่ชายวัยกลางคนแล้วพูด “แลงคีรอส ถ้าเจ้าต้องการที่จะทำอย่างนี้จริง ๆ เผ่าเปิงของข้าและเผ่าเสือของเจ้าก็จะขีดเส้นแบ่งอย่างชัดเจนทันที มันยังไม่สายที่เจ้าจะเปลี่ยนใจ”

ชายวัยกลางคนถอนหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะหันหลังแล้วจากไป

ซ่างเฉียงดูชายคนนั้นจากไปไกล เขาพูด “แลงคีรอส เจ้าต้องไม่ลืมว่าเจ้าก็เป็นสมาชิกของเผ่าเสือ เจ้ารู้ดีว่าพยัคฆ์ปีกเทวะมีความหมายต่อเผ่าของเจ้า อย่าได้กลายเป็นผู้ทรยศเพียงเพราะผลตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ “

ท่าทางของชายคนนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลยในขณะที่เขาออกไปจากชั้นที่ 97 ทันที

“ซ่างเฉียง เจ้ารู้ความลับของเผ่าเสือได้ยังไง ? พยัคฆ์ปีกเทวะเป็นสมาชิกของเผ่าข้า ความเข้าใจของข้านั้นดีกว่าใครอื่น การที่จะเข้าไปที่ชั้นที่ 99 นั้นไม่จำเป็นต้องมีพลังทางสายเลือดของเทพเจ้าสัตว์อสูรเลย ข้าแค่ต้องการเลือดเพียงหยดเดียวของมันเท่านั้น”

“มีตำนานเกี่ยวกับพยัคฆ์ปีกเทวะที่ชั้นที่ 99 ก็จริง แต่มันไม่ใช่แค่พยัคฆ์ปีกเทวะเท่านั้นที่จะได้รับมัน ตราบใดที่เจ้าเป็นสมาชิกของเผ่าเสือ เจ้าสามารถเป็นส่วนหนึ่งนั้นได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเจ้าเอง ข้ารู้ดีว่าท่านผู้คุมกฎต้องการที่จะครอบครองพยัคฆ์ปีกเทวะเอาไว้เอง แต่เขาจะทำไม่สำเร็จเพราะเขาไม่ใช่สมาชิกของเผ่าเสือ เขาจะอยู่ในช่วงที่อ่อนแอที่สุดในตอนที่เขาพยายามที่จะครอบครองมัน และในตอนนั้นข้าก็จะโจมตีเขา และสุดท้ายพยัคฆ์ปีกเทวะก็จะตกเป็นของข้าในที่สุด”

ไม่มีใครรู้ความคิดในใจของแลงคีรอส ในฐานะที่เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่า เขาเข้าใจในพยัคฆ์ปีกเทวะดีที่สุด เขารู้ดีมากด้วยว่าผู้คุมกฎของเผ่าสัตว์เทวะนั้นเทียบไม่ได้เลยกับพยัคฆ์ปีกเทวะ และสุดท้ายแล้วเขาก็ยังเป็นสมาชิกในเผ่าเดียวกันกับสัตว์เทวะอีกด้วย

ทวีปสัตว์เทวะเคลื่อนไหวอย่างเร็ว จอมยุทธสิบกว่าคนได้ตามแลงคีรอสในตอนที่เขาออกจากตำหนักไป พวกเขาเป็นจอมยุทธที่ฝึกฝนอยู่ที่ตำหนักทั้งหมด

พวกเขาออกจากทวีปของพวกเขา แม้ว่าทวีปสัตว์เทวะจะไกลจากทวีปเทียนหยวนมาก แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเซียนราชา

ด้วยความแข็งแก่งของเซียนจักรพรรดิ แลงคีรอสได้เปิดช่องมิติและสร้างประตูมิติระยะไกลออกมาเพื่อนำพวกเขาไปสู่ทวีปเทียนหยวน

ในท้องฟ้าเหนือเทือกเขาครอส ท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆเริ่มที่จะบิดและหมุนอย่างรุนแรง หลังจากนั้นไม่นาน ประตูมิติก็ปรากฏออกมาต่อหน้าคนห้าสิบกว่าคนที่มีอายุและเครื่องแต่งกายที่แตกต่างกันออกไป

การมาถึงของพวกเขาได้ทำให้พลังการมีอยู่ของพวกเขากระจายออกไปทุกทิศทุกทางทันที และปกคลุมเป็นรัศมีหลายล้านกิโลเมตร และยังมีพลังการมีอยู่ที่กว้างไกลมากกว่านั้นที่ข่มทุกการมีอยู่เอาไว้อยู่ในทั่วทั้งทวีป มันทำให้จอมยุทธทั้งหลายในทวีปตื่นตัว

ในเขตที่ห่างออกไปของเทือกเขาครอส มีหมู่บ้านที่มีชื่อในหุบเขายั่งยืน ลุงเซี่ยที่กำลังปลูกผักอยู่ที่สวนก็สะดุ้งขึ้นมาในขณะที่สายตาที่มองอย่างปกติของเขาในตอนแรกก็จ้องเขม็ง เขาจ้องเขม็งไปที่ส่วนลึกในแนวภูเขา ที่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลกิลลิกัน เขาเริ่มที่จะเคร่งเครียดและพึมพำ “ในที่สุดพวกเขาก็มา ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะมาเร็วขนาดนี้”

ในเวลาเดียวกันนี้ ในที่ต่างมิติที่เมืองทหารรับจ้าง เทียนเจี้ยนคนที่กำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศและกำลังฝึกฝนอยู่นั้นลืมตาเปิดขึ้นมา ทันใดนั้นเอง แสงไฟสีทองที่เหมือนจะจับต้องได้สองสายก็ได้ถูกยิงออกมาจากตาทั้งสองของเขา เขาดูเหมือนมองทะลุผ่านช่องว่างและมองเห็นไปยังภายนอกได้

ด้วยการเคลื่อนย้ายเพียงเล็กน้อยของเทียนเจี้ยน เขาก็ออกมาปรากฎข้างนอกปราสาททันที และกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขาพูดด้วยเสียงที่ชัดเจน “ทวีปสัตว์เทวะมากันแล้ว ท่านผู้อาวุโสทั้งหมดมารวมตัวกับข้าเพื่อไปพบกับศัตรูทันที”

ในเมืองแห่งเทพเจ้า หญิงสาวสวยในวัยกลางคนที่กำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศอยู่ที่ชั้นใต้ดินของปราสาทลืมตาของนางขึ้นมา นางมองไปที่ไกล ๆ ด้วยความประหลาดใจ ท่าทางของนางเคร่งเครียด

“นี่เป็นพลังการมีอยู่ของสัตว์อสูรระดับ 8 ทวีปสัตว์เทวะได้บุกรุกเข้ามาในทวีปเทียนหยวนของเราแล้ว และยังมีแม้แต่สัตว์อสูรระดับ 9 ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิอยู่ในกลุ่มพวกเขาด้วย” เสียงชราดังออกมาจากข้าง ๆ ในขณะที่ชายชราปรากฎออกมาต่อหน้าอย่างไร้สุ่มเสียง

หลายหมื่นกิโลออกไปจากเมืองแห่งเทพเจ้า ชายวัยกลางคนยืนอยู่ในกระท่อมไม้เล็ก ๆ มองไปที่ไกลออกไปในท้องฟ้า เขามีท่าทางที่ค่อนข้างเคร่งเครียด ด้วยเสียงที่หนักแน่น เขาพูด “พวกนั้นเป็นพลังของการมีอยู่ของสัตว์อสูร และยังมี 1 คนในนั้นที่ทำให้แม้แต่ข้ายังรู้สึกกลัว มันน่าจะเป็นสัตว์อสูรระดับ 9 ทวีปสัตว์เทวะได้บุกรุกเข้ามาแล้วอย่างนั้นหรือ ? “

เขาคือเฮ่าหวู่ คนที่เดินทางไปที่ทวีปที่เป็นที่อยู่อาศัยของร้อยเผ่าพันธุ์และไปเอาเลือดบริสุทธิ์ของสัตว์อสูรโบราณระดับ 8 มาให้กับท่านผู้อาวุโสสูงสุดของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง