เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 817: ศพที่มีชีวิต
ตอนที่ 817: ศพที่มีชีวิต
เจี้ยนเฉินจ้องไปที่สัตว์อสูรสงครามตัวใหญ่ที่มีรูและไร้หัวด้วยความประหลาดใจในแววตาของเขา เขาตกอกตกใจ สัตว์อสูรสงครามนั้นได้รับบาดเจ็บถึงตาย แต่มันก็ยังไม่ตาย นี่มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ
เสียงพิณที่นุ่มนวลซึ่งเต็มไปด้วยจิตสังหารยังคงดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สายตาของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ยังคงสงบเหมือนเดิมตั้งแต่ต้น มือขาวของนางโลดแล่นไปที่สายของพิณและส่งคลื่นเสียงที่ทรงพลังออกไปที่สัตว์อสูรสงครามตัวใหญ่
สัตว์อสูรสงครามได้รับการโจมตีที่รุนแรงและหนาแน่นมากขั้น แขนทั้งสองของมันได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ในขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของหน้าอกของมันก็แตกสลายไป มันตัวเล็กลงจากเดิมสูง 300 เมตรเหลือเพียง 150 เมตร
ถ้าเป็นสัตว์อสูรอื่น ๆก็น่าจะตายไปนานแล้วถ้าอยู่ในสภาพแบบนี้ อย่างไรก็ตามสัตว์อสูรสงครามเหมือนกับว่าไม่ได้รับบาดเจ็บใดใดเลย ส่วนท้องของมันเหลือเพียงครึ่งเดียวในตอนนี้และขาที่หนาใหญ่ของมันวิ่งด้วยก้าวที่ยาวมาก แต่ละก้าวดูเหมือนจะสามารถถล่มทลายภูเขาได้ ซึ่งทำให้พื้นสั่นไหว
สัตว์อสูรสงครามอยู่ห่างจากทั้งคู่ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรแล้วตอนนี้
เจี้ยนเฉินเคร่งเครียดมาก ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ กระบี่สังหารมังกรได้ปรากฏขึ้นมาอยู่ในมือของเขา รอยแตกเล็ก ๆ บนดาบทำให้มันดูเหมือนมีตำหนิ
ภาพตรงหน้าเขานั้นแปลกมาก สัตว์อสูรสงครามดูไม่เหมือนสัตว์อสูรระดับ 7 เจี้ยนเฉินไม่สามารถที่จะสงบใจลงได้เมื่อเห็นมัน
ในตอนนี้ เสียงโน้ตดังออกมาจากพิณอย่างต่อเนื่อง มือขวาของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เลื่อนผ่านพิณไป และกำลังดีดสาย 16 สายจาก 36 สายไปพร้อมพร้อมกัน ทันใดนั้นเอง คลื่นเสียงจำนวนมากได้เปล่งออกไปข้างหน้าและเต็มไปทั่วด้านหน้าของพวกเขา
คลื่นที่มองเป็นได้รวมตัวกันเป็นเหมือนใยแมงมุมและพุ่งอย่างรวดเร็วเข้าไปที่สัตว์อสูรสงครามเหมือนแหจับปลา
แหที่สร้างมาจากเสียงได้ทะลุผ่านร่างกายของสัตว์สงครามไปอย่างไม่ติดขัดและทะลุหายไปไหล สัตว์สงครามตัวใหญ่ล้มลงอย่างดัง ร่างทั้งหมดของมันกลายเป็นทรงลูกบาศก์ขนาดความกว้าง 1 เมตรและร่วงหล่นไปที่พื้น ตามจำนวนช่องของแหเสียงที่ผ่านมันไป สัตว์อสูรสงครามตายด้วยร่างที่ถูกทำลาย
เจี้ยนเฉินจ้องเขม็งไปที่ชิ้นเนื้อที่นับไม่ถ้วนของสัตว์อสูรสงครามด้วยสายตาที่สนใจ เขาไม่เห็นเลือดเลยแม้แต่น้อย นี้มันผิดปกติมาก
“นี่มันคืออะไรกันแน่หรือท่าน ? ” เจี้ยนเฉินถามหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยที่ไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากที่เงียบไปสักพัก หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็ตอบกลับ “สัตว์อสูรสงครามนี้ตายมาหลายปีแล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างในมหาสมุทรดวงดาวนี้ มันจึงกลายเป็นศพที่มีชีวิต มันไม่มีวิญญาณหรือเลือด และไม่รู้สึกเจ็บปวด สิ่งที่เหลืออยู่คือร่างที่ไม่สามารถทำลายได้ของเซียนผู้คุมกฎ”
“ทำลายไม่ได้ ? ” เจี้ยนเฉินพึมพำเบา ๆ เขาคิดกลับไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“สัตว์อสูรสงครามที่อยู่ตรงหน้าเจ้าไม่สามารถฆ่าให้ตายได้ ไม่ว่าเจ้าจะทำยังไงก็ตาม ถึงแม้เจ้าจะทำลายมันจนสิ้นซาก แต่มันก็จะฟื้นตัวขึ้นมาในไม่ช้า” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พูดต่อ
ชิ้นเนื้อนับไม่ถ้วนบนพื้นเริ่มที่จะเคลื่อนที่มารวมในที่เดียวกันทันทีที่นางพูดจบ เหมือนกับว่ามันกำลังพิสูจน์คำพูดของนาง มันรวมเป็นสัตว์สงครามสูง 300 เมตรอีกครั้งในเวลาอันสั้น ร่างกายของมันไม่ได้รับอันตรายใดเลย และแม้แต่หัวของมันก็ยังฟื้นฟูเป็นเหมือนเดิมโดยไม่มีอาการบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาของเจี้ยนเฉินหรี่เล็กลง เขาอ้าปากค้างและอุทานด้วยความประหลาดใจ “มีสิ่งแปลกประหลาดแบบนี้ในโลกด้วย นับว่าข้าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว” เจี้ยนเฉินหันไปหาหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และถาม “แล้วเราจะจัดการกับสัตว์อสูรสงครามนี้อย่างไรหรือท่าน ? “
“มันจะใช้พลังงานปริมาณมากทุกครั้งเมื่อมันสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ และความแข็งแกร่งของมันจะลดลงเล็กน้อยด้วยเช่นกัน นี่เป็นทางเดียวที่จะรับมือกับมัน ซึ่งก็คืออการทำลายร่างกายของมันให้สิ้นซากเพื่อให้มันใช้พลังงานไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะใช้พลังงานไปมากจนไม่สามารถสร้างร่างกายของมันกลับมาได้ใหม่ได้” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์กล่าว
“พวกเราไม่สามารถหนีมันไปได้เฉย ๆ งั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถาม
“ถ้าเจ้าทำแบบนั้น มันก็จะตามเจ้าไปเรื่อย ๆ อีกทั้งพวกเราไม่สามารถไปไหนมาไหนอย่างสะเปะสะปะได้ในมหาสมุทรดวงดาว ดังนั้นพวกเราจึงสลัดมันหลุดไม่ได้ เมื่อเจ้าปล่อยให้มันตามเจ้าแล้ว ความโกลาหลวุ่นวายจะยิ่งลากสัตว์อสูรกลายพันธุ์ระดับ 7 มากกว่านี้เข้ามา” ในขณะที่นางพูด นางก็ได้ใช้พิณโจมตีออกไปแล้วและส่งคลื่นเสียงไปโจมตีสัตว์อสูรสงครามต่อ
เมื่อได้เห็นสัตว์อสูรสงครามเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เจี้ยนเฉินก็ขบฟันของเขาและและยกยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎของเขาขึ้นมาเพื่อเข้าร่วมในการต่อสู้ ภายใต้การร่วมมือกันของพวกเขา สัตว์อสูรสงครามระดับ 7 ก็อยู่ได้ไม่นานนักก่อนที่จะถูกทำลายโดยสิ้นซากไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ร่างกายของมันเริ่มที่จะสร้างตัวขึ้นมาอีกครั้ง มันส่งเสียงคำรามที่ทำให้พื้นสั่นสะเทือน และโจมตีไปที่เจี้ยนเฉินอย่างไม่มีเหตุผล
สัตว์อสูรสงครามถูกสับเป็นชิ้น ๆ จากเจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า ความแข็งแกร่งของมันลดลงไปมากทุก ๆ ครั้งที่มันสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ หลังจากที่ฆ่ามันไปได้สิบกว่าครั้ง สัตว์อสูรสงครามก็ไม่สามารถสร้างร่างกายของมันใหม่ได้ในที่สุด เนื่องจากมันได้ใช้พลังงานไปมากจนเกินไป ชิ้นส่วนร่างกายทรงลูกเต๋าของมันกองเกลื่อนอยู่บนพื้น
หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เดินตามสบายไปไกลพร้อมกับพิณในมือของนาง นางไม่ได้ชำเลืองมองสัตว์อสูรสงครามแม้แต่น้อย “สัตว์อสูรระดับ 7 ที่นี่ได้ตายมานานมากมากแล้ว พวกมันไม่มีแกนอสูรให้พวกเราเก็บ และหลังจากที่มันดูดซับพลังงานเพียงพอแล้ว มันก็จะกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง เจ้าไม่สามารถหยุดมันจากการคืนชีพได้ แม้ว่าเจ้าจะทำลายร่างกายของมันจนเป็นผุยผง ไปกันเถอะ การต่อสู้เมื่อกี้เสียงดังมากเกินไป สัตว์อสูรระดับ 7 ตัวอื่น ๆ อาจจะกำลังมาที่นี่ในไม่ช้า”
เจี้ยนเฉินมองลึกลงไปที่ชิ้นส่วนเนื้อที่นับไม่ถ้วน เขาไม่ได้พูดอะไรและตามหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ไปอย่างเงียบ ๆ
เมื่อพวกเขาทั้งสองเดินทางไปได้เกือบ 10 กิโลเมตร พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังแห่งการมีอยู่หลายดวงที่ปรากฎอยู่ด้านหลังพวกเขา พวกมันมาจากสัตว์อสูรและมนุษย์ที่เป็นเซียนผู้คุมกฎ ไม่นานหลังจากนั้น พลังแห่งการมีอยู่ที่อ่อนกว่าก็ได้ปรากฎขึ้นที่ด้านหลังของพวกเขา ทั้งหมดเป็นสัตว์อสูรระดับ 6 และมนุษย์ที่เป็นเซียนสวรรค์
เจี้ยนเฉินมองกลับไป ผ่านหมอกบาง ๆ เขาสามารถเห็นร่างของมนุษย์หลายคนและโครงร่างของสัตว์อสูรตัวใหญ่ที่กำลังเดินไปรอบ ๆ สัตว์อสูรสงคราม เจี้ยนเฉินเข้าใจว่าพวกเขาคงจะเจอสัตว์อสูรสงครามตัวเดียวกัน สิ่งมีชีวิตที่ได้ตายไปแล้วนานมาก ๆ และเหลือทิ้งไว้เพียงร่างกายซึ่งกลายเป็นศพที่มีชีวิตโดยพลังลึกลับของมหาสมุทรดวงดาว พวกมันไม่มีความฉลาดหรือวิญญาณและเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณเท่านั้น
“ซ่อนพลังแห่งการมีอยู่ของเจ้าเอาไว้ซะ อย่าทำให้อะไรเพื่อให้พวกเขารู้ พวกเราอาจจะไม่กลัวพวกเขา แต่การยุ่งกับพวกเขาอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้” เสียงของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ดังขึ้นในจิตใจของเจี้ยนเฉิน
“มันมีสัตว์อสูรระดับ 7 และเซียนผู้คุมกฎมากมายขนาดไหนกันที่นี่ ? ” เจี้ยนเฉินถาม เขาค่อนข้างเคร่งเครียด สัตว์อสูรระดับ 7 ทั้งหมดและเซียนผู้คุมกฎในมหาสมุทรดวงดาวมีร่างกายที่ไม่สามารถทำลายได้ พวกเขาไม่รู้สึกเจ็บปวดและไม่มีความกลัว ถ้าพวกเขาทั้งสองถูกล้อมจากศพมีชีวิตเหล่านี้ มันคงจะเป็นปัญหาอย่างมากและอาจจะถึงแก่ชีวิตได้
“มหาสมุทรดวงดาวมีอยู่มานานมากแล้ว ในระหว่างช่วงเวลานั้น จอมยุทธมนุษย์และสัตว์อสูรระดับสูงจำนวนมากได้เสี่ยงเข้ามาที่นี่ เซียนผู้คุมกฎบางคนยังมีชื่อเสียงอีกด้วยเมื่อหลายพันปีก่อนที่เข้ามาที่นี่ บางคนพลาดพลั้งในการต่อสู้เพื่อหาสมบัติ ในขณะที่คนอื่นตายเพราะมหาสมุทรดวงดาว หลายปีที่ผ่านมานี้ จอมยุทธที่ตายในมหาสมุทรดวงดาวนั้นรวมกันแล้วมีจำนวนมากมายจนน่ากลัว ทุก ๆ คนที่ตายที่นี่กลายเป็นเหมือนพวกนั้นและไม่แก่เฒ่า ดังนั้นปริมาณของเซียนผู้คุมกฎและสัตว์อสูรระดับสูงในมหาสมุทรดวงดาวจึงมีแต่เพิ่มขึ้นและไม่เคยลดลง ในวันนี้ บางทีแม้แต่องค์กรที่ทรงพลังอย่างตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบหรือเมืองทหารรับจ้างยังไม่รู้ว่ามีเซียนผู้คุมกฎมากมายขนาดไหนที่มหาสมุทรดวงดาวนี้”
“ยังมีแม้แต่เซียนราชาและสัตว์อสูรระดับ 8 นอกเหนือจากเซียนผู้คุมกฎ ดังนั้น พวกเราจำเป็นต้องระมัดระวังตัวอย่างมากในการเดินทางที่นี่ เมื่อเราได้เจอกับศพที่มีชีวิต พวกเราต้องไม่พยายามที่จะไปยั่วยุมัน แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเซียนสวรรค์ เมื่อเจ้าไปยั่วยุมันตัวหนึ่ง มันก็จะลากศพมีชีวิตที่ทรงพลังมากกว่าเข้ามาอีก ถ้าเจ้าตายในมหาสมุทรดวงดาว เจ้าก็จะกลายเป็นศพที่มีชีวิตเหมือนพวกมันด้วย” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พูดโดยใช้วิชาสื่อสาร
เจี้ยนเฉินรู้สึกหนักใจ ไม่แปลกใจที่มหาสมุทรดวงดาวเป็นพื้นที่อันตรายเป็นอันดับ 2 รองจากรังมรณะ มันจะถึงตายอย่างแน่นอนถ้าเซียนสวรรค์เข้ามาที่นี่ เฉพาะเซียนผู้คุมกฎที่มีความสามารถในการปกป้องตนเองเท่านั้น และพวกเขาจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่เช่นนั้น พวกเขาอาจจะเจออันตรายถึงชีวิตด้วยแค่เพียงความชะล่าใจเพียงนิดเดียว
ทันใดนั้นเอง ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ภาพเกาะแต่เดิมที่เห็นได้หายไปทันที และแทนที่ด้วยทะเลทรายไร้ที่สิ้นสุด ดวงอาทิตย์สีแดงแผดเผาลอยอยู่กลางท้องฟ้า และเผาใหม่ไปที่พื้นดินด้วยความร้อนที่น่ากลัว ทำให้ทั่วทั้งเขตอุณหภูมิสูงขึ้นมาก
“บ้าจริง พวกเราตกมาอยู่ในรูปแบบนี้แล้ว” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ขมวดคิ้วและพูดเสียงทุ้ม
เจี้ยนเฉินเรียกยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎขึ้นมา และมองไปรอบ ๆ เพื่อหาความผิดปกติ เขาอยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ เขาได้เห็นความน่ากลัวของมหาสมุทรดวงดาวมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะชะล่าใจแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นเอง พื้นดินก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง พื้นดินที่เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ยืนอยู่ได้เริ่มที่จะจมลงไป ในเวลาเดียวกัน เท้าของพวกเขาก็ติดอยู่กับทรายดูด และกำลังดึงพวกเขาลงไปที่ใต้พื้น
“บิน ! ” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พูดอย่างเย็นชา นางดีดนิ้วและคลื่นเสียงก็ปะทะเข้ากับพื้นดินทันที และเปลี่ยนทรายที่กำลังจับพวกเขาอยู่เป็นฝุ่น นางเริ่มลอยตัวขึ้นทันที
เจี้ยนเฉินไม่ได้ลังเลเช่นกัน พลังบรรพกาลในร่างของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะไหลไปที่ฝ่าเท้าของเขาและไหลทะลักออกมา พลังทำลายร้างได้เปลี่ยนทรายเป็นผุยผง และทำให้เขาขยับออกมาจากพื้นได้
ทรายใต้พวกเขาทั้งสองยังคงจมลงไปอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ กลิ่นเน่าเหม็นลอยออกมาจากมัน แค่สูดหายใจมันก็ทำให้อึดอัด
หลังจากนั้นไม่นาน ทะเลทรายทั้งหมดก็เริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่รูปร่างแปลก ๆ แต่ตัวใหญ่ยาวถึงหมื่นเมตร หลุมน่ากลัวที่ด้านล่างของพวกเขาคือปากของสัตว์ประหลาดนี้
สัตว์ประหลาดนี้ดูเหมือนตุ๊กแกที่มีขนาดใหญ่มากกว่าหลายเท่า มันเป็นสีเหลืองดินและส่งความร้อนแผดเผาออกมา ร่างของมันทั้งหมดทำมาจากทราย
“เขตนี้สร้างมาจากการรวมกันระหว่างรูปแบบในการฆ่าและรูปแบบภาพหลอน” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พึมพำเบา ๆ นางสามารถบอกได้ว่าทั้งหมดคือภาพลวงตาเพียงแค่การชำเลืองมองครั้งเดียว