เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 837 วิญญาณมังกรระดับ 9

ตอนที่ 837 วิญญาณมังกรระดับ 9

เสียงคำรามของเหล่ามังกรเต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชัง แม้พวกมันจะไม่ได้มีสตินึกคิด แต่ภายใต้จิตสำนึกแล้วนั้น สุสานมังกรเป็นดั่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนที่ห้ามมิให้คนนอกย่างกรายเข้ามา

แต่ยามนี้กลับมีกลิ่นอายพลังของคนนอกอยู่ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยวิญญาณมังกรมากมายแห่งนี้ มันคือการท้าทายอย่างเห็นได้ชัด

เสียงคำรามจากวิญญาณมังกรหลายหมื่นดวงสั่นสะเทือนราวกับโลกจะถล่ม มิติสั่น โลกคลอน ทิวเขาถล่ม

ภูมิทัศน์ของมหาสมุทรดวงดาวที่คงอยู่มาเนิ่นนานเกินจะนับได้เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยามนี้ เกาะทั้งเกาะสั่นสะเทือน เปิดรอยแยกบนผืนแผ่นดินลึกลงไปหลายพันกิโลเมตร ภูเขามากมายโดยรอบระเบิดเนื่องจากไม่สามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากเสียงคำรามนับไม่ถ้วนได้ ทิวเขาแนวไม้พังทลาย

หลังจากนั้นวิญญาณมังกรที่ออกมาล่องลอยที่โลกภายนอกต่างคำรามก้องอย่างขุ่นเคืองก่อนพุ่งตรงไปยังสุสานด้วยความเร็วสูง

ภายในสุสาน มังกรทองเทวะรุยจินยืนนิ่งอยู่ จระเข้เทวะเฮยยู่เปิดเผยกลิ่นอายออกมายามที่มันเข้าสู่ชั้นสวรรค์ที่ 9 กระตุ้นวิญญาณมังกรโดยรอบไปทั้งหมด

ยามนี้ดวงวิญญาณมังกรหลายหมื่นกำลังร้องคำรามบนท้องฟ้าเหนือสุสาน ทั้งหมดกำลังพุ่งตรงไปยังเฮยยู่ที่กำลังยืนอยู่ เปิดปากพร้อมพ่นลมหายใจมังกรตรงไปทันที

พริบตาท้องฟ้าต่างเต็มไปด้วยลมหายใจมังกรอันทรงพลังจากทั่วทุกทิศทาง รุนแรงเสียจนทำเอามิติโดยรอบสั่นไหว

มังกรแต่ละตัวที่พ่นลมหายใจมังกรออกมามีพลังแตกต่างกันไป ระดับต่ำสุดเป็นแค่เซียนสวรรค์ ส่วนที่สูงสุดอยู่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 พลังจำนวนมากมายมหาสารทำเอารุยจินอดกดดันไม่ได้

“เฮยยู่ รีบกลบกลิ่นอายพลังของตัวเอง” รุยจินร้องตะโกนก่อนหลบลมหายใจมังกรที่ถาโถมมาจากทุกทิศทาง

เฮยยู่ที่พึ่งก้าวขึ้นมาอยู่ชั้นสวรรค์ที่ 9 สีหน้าเคร่งเครียด เขาเพิ่งเข้าใจว่าสุสานนั้นน่ากลัวแค่ไหน ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 หรือเซียนราชาขั้นสูงสุด มีกระทั่งวิญญาณมังกรที่แข็งแกร่งถึงระดับเซียนจักรพรรดิด้วยซ้ำ ต่อให้เขาจะเพิ่มพลังมากแค่ไหนในยามนี้แต่ก็ไม่เพียงพอจะเอาชีวิตรอดไปได้ง่าย ๆ

เฮยยู่กลบกลิ่นอายพลังของตัวเอง ก็กลายเป็นลำแสงสีดำพุ่งผ่านไปทางลมหายใจมังกรที่อ่อนแอที่สุด ตรงไปยังทางออกจากสุสาน

แต่วิญญาณมังกรทั้งหมดต่างพุ่งความสนใจมาที่เขาหมดแล้ว แม้เฮยยู่จะกลบพลังตัวเองไปจนหมด แต่ก็ไม่สามารถหนีไปได้ง่าย ๆ วิญญาณมังกรจำนวนนับไม่ถ้วนห้อมล้อมจากทุกทิศทางราวกับต้องการผนึกเขาเอาไว้ ทางหนีทุกทางถูกปิดสนิท

แววตาของเฮยยู่ขรึมลงไปชั่ววูบ ก่อนจะคำรามออกมา ฉับพลันร่างของเขาค่อย ๆ ขยายออก พริบตาก็กลายเป็นจระเข้ขนาดยักษ์ยาวหมื่นเมตร เฮยยู่คืนร่างเดิม

เฮยยู่นั้นเป็นจระเข้เทวะกลายพันธุ์ แม้จะไม่ได้เป็นสัตว์ยุคโบราณ แต่เขาก็มีพลังต่อสู้มากพอจะต่อกรกับสัตว์โบราณได้ หลังจากคำรามออกมาเขาก็พุ่งตรงไปยังจุดที่อ่อนแอที่สุดของวงล้อม

แค่พริบตาเดียวเขาก็มาปรากฏตัวอยู่หน้าวงล้อมบริเวณที่เต็มไปด้วยวิญญาณมังกรระดับ 7 หลายสิบดวงกับระดับ 8 อีกเล็กน้อย ก่อนจะทุ่มพลังทั้งหมดที่มีโดยไม่ยั้งมือ

เขาไม่ใส่ใจการโจมตีจากวิญญาณมังกรระดับ 7 ปล่อยให้พวกมันโจมตีร่างของเขาได้ แต่ทุ่มพลังทั้งหมดที่มีโจมตีวิญญาณมังกรระดับ 8 ท้ายที่สุดแล้วหลังจากรับการโจมตีจากดวงวิญญาณมังกรระดับ 7 มาไม่น้อย เขาก็จัดการวิญญาณมังกรระดับ 8 ลงได้ แล้วเร่งพุ่งหนีออกไปทันทีโดยไม่รอช้า

โฮก ! โฮก ! โฮก !

จังหวะนั้นเองเสียงคำรามดังกังวานขึ้นมาจากส่วนลึกภายในสุสาน พร้อมกับกลิ่นอายพลังทรงพลังแผ่ออกมาอย่างรวดเร็ว เพียงแค่กลิ่นอายพลังและเสียงคำรามก็ทรงพลังมากพอจนราวกับมิติโดยรอบจะพังลงเพราะกลิ่นอายของมันเท่านั้น

ทันใดนั้น สุสานขนาดใหญ่เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พลังมากมายถาโถมออกมาจากภายในสุสาน วิญญาณมังกรยาวหลายพันกิโลเมตรหลายตัวค่อย ๆ โผล่ออกมาจากห้วงลึกภายในสุสาน

ทันทีที่ปรากฏตัวออกมา วิญญาณมังกรทั้งหมดที่อยู่ในสุสานรวมถึงทั้งระดับ 7 และ 8 ต่างหยุดไล่ล่าเฮยยู่ ก่อนหันไปทางวิญญาณมังกรระดับสูงที่พึ่งโผล่ขึ้นมาแล้วหมอบราบไปกับพื้น ราวกับถวายบังคมราชาที่กำลังเสด็จอยู่

“วิญญาณมังกรระดับ 9 ! ” เฮยยู่ตกตะลึงหน้าถอดสี เขาตกใจเสียจนราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง ก่อนเร่งความเร็วจนถึงขีดสุดตรงไปทางออก

รุยจินที่ยืนอยู่ใกล้ มองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ก่อนสะบัดฝ่ามือส่งกลิ่นอายมังกรออกมากลุ่มหนึ่งแล้วตะโกนลั่น “เฮยยู่ รีบมาซ่อนในกลิ่นอายมังกรตรงนี้ ไม่งั้นเจ้าหนีไม่รอดแน่ ! “

เฮยยู่กลับมาร่างมนุษย์ทันทีก่อนพุ่งตรงเข้าไปในกลิ่นอายมังกรของรุยจินอย่างไม่รอช้า พร้อม ๆ กับกลบกลิ่นอายและพลังของตัวเองอย่างมิดชิด

โฮก ! วิญญาณมังกรระดับ 9 คำรามก้องออกมา สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ก่อนจะพ่นลูกไฟมังกรอันทรงพลังตรงทางที่เฮยยู่กำลังจะหนีออกไป ความร้อนนั้นรุนแรงเสียจนราวกับจะแผดเผามิติให้หลอมละลาย

แม้เฮยยู่จะกลบพลังของตัวอยู่แล้วซ่อนอยู่ภายในกลิ่นอายมังกร แต่ก็ยังมีกลิ่นอายพลังออกตัวเองตกค้างหลงเหลืออยู่ มันไม่เพียงพอจะตบตาวิญญาณมังกรระดับ 9 ที่ทรงพลังเทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิได้

ไฟมังกรที่กลายเป็นลูกไฟนั้นพุ่งผ่าท้องฟ้าราวกับอุกาบาตตรงไปหาเฮยยู่อย่างรวดเร็วจนเขาไม่สามารถขยับได้ทันท่วงที

เฮยยู่เคร่งเครียดขึ้นอีก เขากำลังลอยตรงอยู่ภายในกลิ่นอายมังกร แต่กลิ่นอายมังกรของรุยจินนั้นเปลี่ยนทิศทางไม่ได้ ลูกไฟมังกรที่ไล่หลังมานั้นตรงมาทางเดียวกันกับเขา หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ลูกไฟมังกรต้องตามมาทันแน่นอน

เฮยยู่มองลูกไฟมังกรที่ตรงเข้ามาก่อนหันไปมองทางออก ก่อนจะกัดฟันแล้วพุ่งตัวออกจากกลิ่นอายมังกรตรงไปยังทางออกด้วยความเร็วแสง

ยามนี้ไม่มีกลิ่นอายมังกรคอยปกปิดอีกแล้ว ตำแหน่งของเฮยยู่ก็ถูกมังกรทั้งหมดตรวจจับพบอีกครั้ง วิญญาณมังกรระดับ 9 คำรามก่อนพ่นลมหายใจมังกรตรงไปยังเฮยยู่อย่างรวดเร็วและรุนแรง

แต่เฮยยู่ได้หนีออกจากสุสานเข้าสู่มหาสมุทรดวงดาวเป็นที่เรียบร้อยแล้วตอนนี้ ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางตรงไปยังเทือกเขาเบื้องล่างเพื่อหลบเลี่ยงเพลิงมังกรที่ไล่ตามหลังมา

แต่อย่างไรก็ตามภายนอกสุสานก็ยังมีวิญญาณมังกรอีกเป็นจำนวนมาก ทันทีที่เขาหนีออกมาก็พบกับวงล้อมจากวิญญาณมังกรอีกครั้ง แต่ก็อ่อนแอกว่าระลอกแรกมากนัก พอที่จะทำให้เฮยยู่มีโอกาสใช้กำลังฝ่าออกไป

โฮก !

เสียงมังกรคำรามก้องไปทั่วสุสาน กลิ่นอายพลังสั่นสะเทือนไปทั่วสุสานอย่างรุนแรงเนื่องจากวิญญาณมังกรระดับ 9 ทั้งหมดออกมาจากรังของตัวมาแล้วเริ่มไล่ล่า

“บ้าเอ๊ย ข้าต้องรีบหนีไปให้ได้” เฮยยู่พูดอย่างหนักใจ เขาไม่อยากจะรั้งรออยู่ที่นี่ต่อไปอีกแม้แต่น้อย ก่อนพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงหวังว่าจะหนีออกจากมหาสมุทรดวงดาวก่อนที่วิญญาณมังกรระดับ 9 ทั้งหมดจะตามมาทัน

“ซ่อนกลิ่นอายพลังให้หมด อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม ! ” ทันทีในเสียงทุ้มของรุยจินดังขึ้นภายในหัวของเฮยยู่ ทันใดนั้นรุยจินปรากฏตัวข้าง ๆ เฮยยู่ก่อนจะจับไหล่ของเฮยยู่แล้วพาหลบไปด้านข้าง

เฮยยู่หยุดคิดหาทางหนีด้วยตัวเองแล้วเร่งกลบพลังของตัวเอง ปล่อยทุกอย่างให้รุยจินเป็นคนจัดการ

รุยจินใช้กลิ่นอายมังกรของตัวเองกลบตัวเฮยยู่ก่อนบินซิกแซกผ่านเทือกเขา เพื่อที่จะได้สลัดวิญญาณมังกรที่ไล่ตามมา

โฮก !

เสียงมังกรคำรามดังก้องขึ้นมาจากพื้นที่โดยรอบ หัวมังกรสีทองขนาดใหญ่ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากสุสาน วิญญาณมังกรระดับ 9 ได้ออกมาจากสุสานแล้วมาปรากฏตัวที่มหาสมุทรดวงดาวแล้ว

แต่ยามนี้เฮยยู่อยู่กับรุยจินแล้ว กลิ่นอายพลังแปลกปลอมทั้งหมดทุกกลิ่นอายมังกรของรุยจินกลบไว้อย่างมิดชิด แม้วิญญาณมังกรระดับ 9 จะทรงพลังแต่มันก็ไม่มีสตินึกคิด มันไม่สามารถตรวจจับตัวเฮยยู่ได้ ไม่เพียงแค่มันไม่สามารถตรวจจับได้ วิญญาณมังกรตัวอื่น ๆ ก็ไม่สามารถตรวจจับได้เช่นเดียวกัน ทุกตัวต่างคำรามก้องแล้วบินสำรวจไปทั่วบริเวณ

หลังจากค้นหาตัวเฮยยู่ไม่เจอมากว่าครึ่งวัน วิญญาณมังกรระดับ 9 คำรามลั่นราวกับจะทำลายผืนดินแผ่นฟ้าด้วยความโกรธแค้น

ครืน…

พลังจากการคำรามครั้งนี้มากมายกว่ายามที่มังกรกว่าหมื่นตัวคำรามพร้อมกันก่อนหน้า คลื่นเสียงอันน่าหวาดกลัวสั่นสะเทือนไปทั่วทิวเขา ยอดเขามากมายต่างถล่มพังลงมา แม้กระทั่งกลิ่นอายมังกรที่ปกคลุมเฮยยู่อยู่ก็สั่นอย่างรุนแรงเกือบพังลง

เสียงคำรามลั่นพร้อมทั้งกลิ่นอายมังกรอันทรงพลังทำให้เฮยยู่อดตัวสั่นเล็กน้อยไม่ได้ แววตามีความหวาดกลัวซ่อนอยู่ลึกภายใน ความหวาดกลัวถึงขีดสุดปรากฏขึ้นลึกอยู่ภายในดวงตา

หลังจากเทือกเขาทั้งหมดถล่มลง วัตถุเซียนที่ซ่อนอยู่ภายในถ้ำก็เปิดเผยออก แม้จะไม่ได้มีพลังแพร่ออกมา แต่ก็ยังเป็นวัตถุแปลกปลอม มังกรทุกตัวต่างสัมผัสได้ทันทีเนื่องจากไม่มีอะไรมาปกปิด

ทันใดนั้นวิญญาณมังกรทั้งหลายก็หันมาให้ความสนใจกับมันแทน แล้วบินตรงมาจากทั่วทุกทิศทาง

วัตถุเซียนปล่อยแสงสีทองออกมาเบา ๆ ก่อนพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วไม่รอช้า

วิญญาณมังกรระดับ 7 และ 8 จำนวนนับไม่ถ้วนปล่อยลมหายใจมังกรออกมาเต็มไปทั่วทั้งท้องฟ้าจากทั่วทุกสารทิศ ปกคลุมกลืนกินทุกอย่างที่ขวางหน้ารวมไปถึงวัตถุเซียนด้วยอย่างรวดเร็ว

แม้วัตถุเซียนชิ้นนี้จะเป็นสายสนับสนุน ไม่มีพลังโจมตีอะไร แต่ความแข็งแกร่งของมันก็มากพอที่จะต้านการโจมตีจากวิญญาณมังกรระดับ 8 โดยไม่สะทกสะท้าน วัตถุเซียนบินผ่านทะเลลมหายใจมังกรออกไปอย่างไม่ลดความเร็วลงและไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นวิญญาณมังกรระดับ 9 ที่ออกมาจากสุสานพ่นลูกไฟมังกรออกมาอีก ก่อนที่จะเปลี่ยนพื้นที่โดยรอบให้เป็นทะเลเพลิงครอบคลุมวัตถุเซียนเอาไว้ ความร้อนนั้นสูงมากเสียจนหลอมหินจนกลายเป็นลาวา บริเวณนั้นทั้งหมดกลายเป็นแม็กม่า

ฉับพลันที่ถูกเพลิงมังกรกลืนกิน หอคอยสีทองกลับร้อนจนเปลี่ยนเป็นสีแดง พลังของวิญญาณมังกรระดับ 9 นั้นมากเท่าเทียมกับเซียนจักรพรรดิ การโจมตีของเซียนจักรพรรดินั้นรุนแรงมากพอที่จะทำร้ายวัตถุเซียนได้ด้วยซ้ำ