เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 838 ความช่วยเหลือจากรุยจิน
ตอนที่ 838 ความช่วยเหลือจากรุยจิน
แม้วิญญาณมังกรระดับ 9 จะมีพลังมากพอที่จะทำให้วัตถุเซียนเสียหายได้ แต่เพลิงมังกรอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอจะทำความเสียหายได้มากพอ อย่างมากก็เพียงแค่ทำให้วัตถุเซียนร้อนมากขึ้น
วัตถุเซียนประจันหน้ากับเพลิงมังกรก่อนกลายเป็นลำแสงบินข้ามมหาสมุทรดวงดาว
โฮก !
วิญญาณมังกรระดับ 9 เปล่งเสียงคำรามออกมาอีกครั้ง ก่อนลดขนาดร่างของตัวเองลงเหลือเพียง 100 เมตร ก่อนบินออกมาไล่ล่าวัตถุเซียนอย่างไม่ลดละ
หลังจากนั้นวิญญาณมังกรระดับ 9 อีกหลายตัวก็พุ่งออกมาแล้วลดขนาดร่างของตัวเองลงแล้วก็ไล่ตามวัตถุเซียนไปติด ๆ
ยามนี้วัตถุเซียนถูกควบคุมโดยตัวจิตวิญญาณวัตถุเซียนเอง แต่พลังของมันก็ไม่มากเพียงพอที่จะหนีจากวิญญาณมังกรระดับ 9 ได้ ไม่นานนักมันก็ถูกตามจนทัน ก่อนที่มังกรตัวหนึ่งจะอ้าปากกัดวัตถุเซียนทันที
แคร่ก !
ฟันของวิญญาณมังกรขั้น 9 นั้นแข็งแกร่งไม่ไหวติง ประกายไฟเกิดขึ้นมายามที่ฟันของมันสัมผัสกับวัตถุเซียนทันที แต่ความแข็งแกร่งของวัตถุเซียนนั้นไม่ธรรมดา ฟันมังกรทำได้เพียงรอยตื้น ๆ เท่านั้น
แสงสีทองค่อย ๆ เรืองรองออกมาจากวัตถุเซียน พร้อมทั้งค่อย ๆ สั่นอย่างรุนแรง ก่อนพุ่งออกจากปากวิญญาณมังกรทันทีที่มันอ้าปากจะกัดลงมาอีกครั้งด้วยความเร็วสูงกว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด
แม้จิตวิญญาณวัตถุเซียนจะทรงพลังเทียบเท่าเซียนจักรพรรดิ แต่ก็สามารถใช้พลังนั้นได้อย่างเต็มที่ยามที่อยู่ภายในมิติสมบัติ หากเป็นโลกภายนอก พลังของมันยังยากลำบากที่จะต่อกรกับเซียนผู้คุมกฎ
นั่นเพราะวัตถุเซียนนั้นไม่ใช่วัตถุโจมตี พลังโจมตีของมันจึงต่ำอย่างน่าสมเพช
พลันมิติตรงหน้าวัตถุเซียนก็ถูกผ่าเปิดออก กรงเล็บมังกรขนาดใหญ่สะบัดลงมาตรงไปยังวัตถุเซียน การโจมตีธรรมดา ๆ แบบนี้กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายมังกรอันทรงพลัง ไม่ว่ากรงเล็บนี้จะผ่านไปทางไหนมิตินั้นก็จะถูกฉีกกระชากกลายเป็นพื้นที่ดำมืด
เคร้ง !
กรงเล็บตะปบเข้าใส่วัตถุเซียน ทำให้มันปลิวไปไกลไม่น้อย รอยกรงเล็บจารึกลงบนผิวนอกอย่างชัดเจน
แม้จะเป็นวัตถุเซียนก็ยังรับความเสียหายมามาก มิติทั้งหมดสั่นคลอน ก้อนเมฆขาวที่เคยลอยละล่องกระจัดกระจายไปทั่ว ราวกับมีงูแหวกว่ายน้ำ ทำให้เกิดคลื่นสะบัดเป็นแนวยาว
เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่แห่งสวรรค์ต่างออกมาจากการเก็บตัวทันที ทั้งสองได้รับคำเตือนจากวัตถุเซียน ยามนี้ทั้งสองยืนเคียงคู่กันกลางอากาศ พร้อมมองสำรวจมิติภายในที่กำลังสั่นไหว
“เกิดอะไรขึ้น ? วิญญาณมังกรข้างนอกหาเราพบหรือ ? ” ดวงตางดงามของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์บังเกิดความกังวลขึ้นมาทันที
นั่นเป็นเพราะนางเองก็รู้ดีว่าสิ่งที่อันตรายที่สุดภายในมหาสมุทรดวงดาวนั้นก็คือพวกวิญญาณมังกรเหล่านี้ มันไม่ใช่ผีดิบหรือค่ายกลที่ทรงพลังอะไร แต่เป็นอันตรายมากกว่าทุก ๆ อย่าง
ถ้าเจอฝูงผีดิบหรือค่ายกลก็ยังพอหาทางเอาชนะหรือหนีออกได้ แต่รอบนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณมังกร ความตายนั้นแทบจะเรียกได้ว่ารออยู่หน้าประตูแล้ว กระทั่งเซียนราชายังไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้หากไปคุกคามวิญญาณมังกรตัวหนึ่ง ตัวอื่น ๆ ที่ทรงพลังมากกว่าก็จะตามเข้ามา
“จิตวิญญาณวัตถุเซียน สถานการณ์ข้างนอกเป็นไงบ้าง ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้นมา
“นายท่าน ยามนี้เราถูกมังกรเซียนจักรพรรดิหลายตัวโจมตีอยู่” เสียงของจิตวิญญาณวัตถุเซียนดังขึ้นมา
ทั้งเจี้ยนเฉินและหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเฮือกใหญ่ และใบหน้าซีดเผือดลง
“วิญญาณมังกรเซียนจักรพรรดิหลายตัว ! “
จำนวนมากขนาดนี้หากอยู่ที่ทวีปเทียนหยวนยังนับว่าไร้ผู้ต้าน ยามนี้ความสิ้นหวังเริ่มปรากฏขึ้นมาในห้วงความคิดของทุกคน
“จิตวิญญาณวัตถุเซียน เจ้ามั่นใจมากแค่ไหนว่าจะหนีพ้นวิญญาณมังกรระดับ 9 พวกนั้น แล้ววิญญาณมังกรพวกนั้นจะทำลายวัตถุเซียนลงได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างเคร่งเครียด ยามนี้จิตวิญญาณวัตถุเซียนเป็นความหวังเดียวที่มี ถ้าพวกเขาออกจากวัตถุเซียน พวกเขาคงตกตายจากการโจมตีของวิญญาณมังกรเหล่านั้น
ดวงวิญญาณมังกรไม่มีสตินึกคิดเพราะฉะนั้นแล้วจึงไม่มีโอกาสเจรจาต่อรองได้เลย
“ดวงวิญญาณยังมีความสามารถก่อนตายของตัวเองอยู่ หากมันใช้ทักษะลับของสายพันธ์มังกรออกมา วัตถุเซียนไม่มีทางทนรับการโจมตีเช่นนั้นได้ ข้าจะลองดูทุกหนทางเพื่อหนีออกไป” จิตวิญญาณพูดอย่างวิตกกระวน ยามนี้จิตวิญญาณวัตถุเซียนไม่ได้สงบนิ่งเหมือนเช่นเมื่อก่อนเมื่อความตายอยู่ห่างออกไปไม่ไกลแล้ว
ภายในมหาสมุทรดวงดาว วัตถุเซียนรูปทรงหอคอยถูกวิญญาณมังกรระดับ 9 โจมตีจนปลิวออกไปกระแทกฝังเข้ากับหน้าผาที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร
ปัง !
ทันใดนั้นหน้าผาระเบิดออก วัตถุเซียนพุ่งออกมาพร้อมแสงสีทองเรืองรอง ตรงเข้าไปยังหมู่ก้อนหินที่เป็นซากจากพลังของมังกรบนพื้น พยายามใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ แล้วบินตรงออกไป มันสามารถสลัดวิญญาณมังกรระดับ 9 ได้หากหนีออกจากที่นี่ไปได้
วิญญาณมังกรคำรามออกมาทีละตัวและไล่ตามวัตถุเซียนอย่างไม่ย่อท้อ ราวกับเคียดแค้นกันมาจากชาติปางก่อน เส้นทางที่เหล่ามังกรบินผ่านต่างพังทลายลง หากไม่ได้ถล่มพังลึกหายไปนับพันเมตร ก็จะกลายเป็นทะเลลาวา หรือไม่ก็กลายเป็นทะเลน้ำแข็ง ทั้งหมดนั้นเกิดจากลมหายใจมังกรที่สามารถทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้าได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม ตลอดความพยายามหลบหนี วัตถุเซียนโดนโจมตีอีกหลายครั้ง ร่องรอยความเสียหายบนตัววัตถุเซียนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่โชคยังดีที่วิญญาณมังกรระดับ 9 ไม่ได้ใช้ทักษะลับอะไร ไม่เช่นนั้นความเสียหายที่วัตถุเซียนได้รับจะไม่ใช่เพียงเท่านี้เป็นแน่
ขณะเดียวกันวัตถุเซียนเองก็ยังคงวนเวียนอยู่ในมหาสมุทรดวงดาว แม้จะพยายามหลบหนีมากว่าครึ่งวันแล้ว แต่ก็ยังอยู่ลึกเกินไปที่จะหนีได้โดยรอดปลอดภัย
ในขณะที่วัตถุเซียนถูกวิญญาณมังกรระดับ 9 โจมตีลอยอยู่นั้น ฉับพลับรุยจินกับเฮยยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้าง ๆ แล้วจับวัตถุเซียนก่อนหายตัวไปพร้อม ๆ กัน
วิญญาณมังกรคำราวออกมาหลังบินผ่านจุดที่วัตถุเซียนเคยอยู่ ทุกตัวต่างล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า พยายามตามหาวัตถุเซียนอย่างไม่ลดละ
รุยจินยืนอยู่เหนือหน้าผาในมือถือวัตถุเซียนอยู่หายไปหลายสิบกิโลเมตร เขาปล่อยกลิ่นอายมังกรออกมากลบกลิ่นอายของวัตถุเซียนและเฮยยู่ไปพร้อม ๆ กัน เขาเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์มังกรอยู่แล้ว ดังนั้นจิตวิญญาณมังกรจึงไม่ได้หันมาโจมตีเขา
“จิตวิญญาณวัตถุเซียน หากเจ้าตามข้ามาจึงจะปลอดภัย ไม่เช่นนั้นเห็นทีจะไร้หนทางหลบหนีออกจากเกาะนี้” รุยจินพูดขึ้นมา ก่อนหันไปมองวิญญาณมังกรขั้น 9 ยาว 100 เมตรที่ล่องลอยอยู่ แววตาเต็มไปด้วยความเครียด
ความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัวของจิตวิญญาณวัตถุเซียน ยามนี้จิตวิญญาณวัตถุเซียนกำลังสื่อสารอยู่กับรุยจิน ไม่นานรุยจินก็หันไปหาเฮยยู่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “เฮยยู่ ดูท่าทางอีกหลายวันกว่าทุกอย่างจะกลับมาสงบลง หากเจ้าตามข้าต่อไปมันจะไม่ปลอดภัยเอา ข้าว่าเจ้าควรเข้าไปภายในมิติก่อน แล้วใช้พลังงานดั้งเดิมของจิตวิญญาณวัตถุเซียนมาช่วยรักษาแขนของเจ้า”
เฮยยู่จ้องมองวิญญาณมังกรระดับ 9 อย่างหวาด ๆ ก่อนผงกหัว
หลังจากนั้นแสงสีขาวพุ่งออกมาจากวัตถุเซียนไปคลุมตัวเฮยยู่ก่อนจะดูดเขาเข้าไปในมิติเซียน
รุยจินถือวัตถุเซียนชิ้นเท่าฝ่ามือไว้ ก่อนมองดวงวิญญาณมังกรขั้น 9 สีทองที่กำลังล่องลายไปทั่ว พยายามตามหาวัตถุเซียน ก่อยที่รุยจินจะคุกเข่าลง ก่อนคำนับ 9 ครั้งไปทางวิญญาณมังกรระดับ 9 “ลูกหลานคำนับท่านบรรพชน”
..
รุยจินไม่ได้ออกไปจากเกาะ กลับกัน เขานำวัตถุเซียนไปยังบริเวณที่ปลอดภัยกับเขาและเสาะหาถ้ำที่จะหลบซ่อนอยู่จนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างภายนอกจะสงบลง
ภายในวัตถุเซียน เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ยังคงเหาะอยู่ในอากาศด้วยใบหน้าเคร่งเครียด พวกเขาไม่มีความคิดอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอก
ทันใดมิติโดยรอบแปรปรวน ก่อนที่ไม่นานชายแก่ในชุดคลุมสีดำจะปรากฏตัวขึ้นมา ไม่ต้องประหลาดใจ มันคือ เฮยยู่ จระเข้เทวะกลายพันธุ์
การที่จู่ ๆ เฮยยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นทำให้หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์หรี่ตาแคบทันที เนื่องจากไม่รู้ความสามารถของวัตถุเซียนมากนักจึงคิดว่าเฮยยู่อาจเป็นภัย จึงระวังตัวขึ้นมาทันที
หลังจากที่เห็นหน้าเฮยยู่ชัดแล้ว เจี้ยนเฉินก็หรี่ตาลงเพราะจำเขาได้ ก่อนถามขึ้น “ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ? “
เฮยยู่เมินเจี้ยนเฉินและหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก่อนจะพูดขึ้นมาลอย ๆ “ข้าหวังว่าท่านจิตวิญญาณวัตถุเซียนจะช่วยรักษาแขนให้ข้าด้วย”
จิตวิญญาณวัตถุเซียนปรากฏกายออกมา เขาเห็นความสงสัยปรากฏบนใบหน้าของเจี้ยนเฉิน เขาเปิดปากและพูดว่า “นายท่าน…” จิตวิญญาณวัตถุเซียนอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกให้กับเจี้ยนเฉิน เมื่อพวกเขาได้ทราบว่ามังกรทองเทวะรุยจินได้ใช้กลิ่นอายมังกรของเขาเพื่อปกปิดวัตถุเซียนและพวกเขาปลอดภัยในขณะนี้ พวกเขาทั้งสองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้และรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เฮยยู่รู้สึกตกใจที่เขาได้ยินจิตวิญญาณวัตถุเซียนเรียกเจี้ยนเฉินว่านายท่าน ราวกับมีพายุโหมกระหน่ำอยู่ภายในจิตใจของเขาทำให้เขาวุ่นวายใจ เฮยยู่เคยอาศัยอยู่ในวัตถุเซียนมานับพันปี เขาทราบดีถึงพลังของวัตถุเซียน การดำรงอยู่ของมันเทียบได้กับเซียนผู้คุมกฎ แน่นอนว่าพลังของจิตวิญญาณวัตถุเซียนนั้นพอ ๆ กับเซียนผู้คุมกฎที่เป็นต้นแบบโดยสมบูรณ์ มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับเขา
อย่างไรก็ตาม เฮยยู่จำได้ว่าแม้แต่พยัคฆ์ปีกเทวะก็อยู่กับเจี้ยนเฉิน ความสงสัยของเขาจึงหายไป เขาสามารถบอกได้ว่าเจี้ยนเฉินนั้นไม่ธรรมดา เบื้องหลังและกำเนิดของเขาเกินกว่าที่จะจินตนาการได้
คิดได้เช่นนั้น สายตาของเฮยยู่ที่มองเจี้ยนเฉินจึงเปลี่ยนไป เขาไม่กล้าที่จะดูเบาเจี้ยนเฉิน ผู้ที่เป็นเซียนผู้คุมกฎอีกต่อไป
ในขณะนี้เจี้ยนเฉินแน่ใจว่าภายใต้แขนเสื้อของเฮยยู่นั้นว่างเปล่า เขาถามออกไปด้วยความอยากรู้ “ผู้อาวุโส แขนของท่านที่ขาดไปนั้นเนื่องจากการปะทะกับวิญญาณมังกรระดับ 9 หรือ ? “
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ด้วยสถานะของเขา เฮยยู่จะไม่ใส่ใจตอบคำถามของเจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างออกไปในขณะนี้ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แขนของข้าไม่ได้เกิดจากการปะทะกับวิญญาณมังกรระดับ 9 แต่เกิดจากความบ้าคลั่งของค่ายกลในท้องฟ้าบนเกาะ
ทันทีที่คิดสรุปได้ เขาก็คิดไปถึงท้องฟ้าที่สูงขึ้นไปเกิน 10 เมตรที่เป็นเขตหวงห้าม เขาเข้าใจแจ่มแจ้งถึงความน่ากลัวของมัน เขาไม่เคยคิดว่าแม้แต่จระเข้เทวะกลายพันธุ์ก็ยังต้องชดใช้ด้วยราคาแสนแพงแม้ว่าจะเป็นถึงเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 8