เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 844 การปรับสมดุลหยิน-หยาง
ตอนที่ 844 การปรับสมดุลหยิน-หยาง
อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณกระบี่อาจจะปกป้องเจี้ยนเฉินได้แต่ไม่ใช่กับหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์
เจี้ยนเฉินแสดงสีหน้าแปลกออกมา ซึ่งใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความลังเล เขาต้องพยายามฝืนการตัดสินใจ วิธีการปรับสมดุจหยินและหยางที่จือหยิงกล่าวถึงโดยเรื่องที่ผู้ชายและผู้หญิงต้องประสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เขารู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก
ทันใดนั้น กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเจี้ยนเฉินเริ่มสั่นกระตุก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด พลังงานหยางสุดขั้วในร่างกายในตอนนี้กำลังแผดเผาไปที่พลังและเลือดเนื้อของเขา และกำลังเคลื่อนตัวใกล้เข้าไปที่ศีรษะของเขาแล้ว ในขณะเดียวกันทั่วทั้งร่างกายของเจี้ยนเฉินแปรสภาพเป็นราวกับเหล็กร้อนที่ถูกตีจนแดงฉาน ในตอนนี้กลายเป็นสีแดงสด ความร้อนที่น่าสะพรึงกลัวแปรเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาเป็นเถ้าถ่าน
“อา ! ” อีกด้านหนึ่งเสียงแผดร้องดังก้องออกมา เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์แผ่รังสีความเย็นสุดขั้วออกมา ด้วยความเย็นสุดขั้วของพลังงานหยินสุดขั้วแปรเปลี่ยนครึ่งร่างกายของนางให้เป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
“พลังงานนี้คืออะไรกัน ? ทำไมถึงน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ ข้ากำลังจะตายที่นี่วันนี้งั้นหรือ ? ” ใบหน้าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เต็มไปด้วยความเศร้าโศก นางเพิ่งใช้ความพยายามนับไม่ถ้วนแต่ไม่มีแม้แต่วิธีเดียวที่จะสามารถหยุดการรุดล้ำของพลังงานเยือกแข็งภายในร่างของนางได้
เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเขาเข้าใกล้จุดวิกฤตเต็มทีแล้ว เจี้ยนเฉินรู้ด้วยว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เองก็คล้ายจะอยู่ในสถานการณ์เป็นตายด้วยเหมือนกัน เขาเลิกคิดมากแล้วพูดขึ้นว่า “หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ข้ามีวิธีผ่านพ้นวิกฤต…” เจี้ยนเฉินพูดเป็นนัยถึงวิธีไร้ยางอายของจือหยิงให้หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ฟัง
เมื่อนางได้ยินคำที่เจี้ยนเฉินพูดออกมา นางได้ถอยกรูดห่างออกไปจากเจี้ยนเฉินด้วยความอัปยศ นางจ้องมองที่เจี้ยนเฉินอย่างรุนแรงด้วยดวงตาสวยงามของนางที่มีความโกรธที่ปกปิดไม่มิด “ว่ากระไรนะ ! ได้อย่างไร-อย่างไร-อย่างไร เจ้าสารเลว ! งั้นข้าขอตายดีกว่า-” เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ใบหน้าของนางแปรเปลี่ยนคืนมาอีกครั้ง นางร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด สภาพร่างกายของนางมีแต่จะเลวร้ายลง นางเพิ่งจะมาถึงประตูความตายแล้ว ทุกสัญญาณชีวิตในร่างนั้นถูกแช่แข็งทั้งหมด ซึ่งในตอนนี้พลังงานหยินสุดขั้วค่อย ๆ แผ่ซ่านไปยังศีรษะของนาง แม้ว่าวิญญาณของนางจะถูกแช่แข็งแต่หลังจากน้ำแข็งค่อย ๆ ละลายลงช้า ๆ พร้อมกับพลังงานหยินสุดขั้ว ในที่สุด วิญญาณของนางเองก็จะแตกสลายไปอย่างสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน
ร่างกายของเจี้ยนเฉินรวมทั้งใบหน้าของเขาแดงแล้วแดงอีก พลังงานหยางสุดขั้วพร้อมกับความร้อนที่น่าสะพรึงกลัวคอยแผดเผาร่างกายของเขาราวกับเตาหลอม ถ้าหาใช่ร่างบรรพกาลและฐานะเซียนผู้คุมกฎของเขา เส้นใยพลังงานหยางสุดขั้วนี้คงจะละลายร่างของเขาไปแล้ว ไม่ว่าร่างบรรพกาลหรือฐานะเซียนผู้คุมกฎพวกมันก็ย่อมไม่สามารถต้านทานได้นานนัก ต่อให้เซียนราชาเองก็คงไม่มีข้อยกเว้น
พลังงานหยิน-หยางมีต้นกำเนิดจากพลังบรรพกาล พลังบรรพกาลที่พูดถึงนี้คือพลังบรรพกาลที่แท้จริง เป็นพลังบรรพกาลที่สมบูรณ์ซึ่งหาที่เปรียบมิได้ พลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉินนั้นแค่ของไม่สมบูรณ์เท่านั้น เพียงแค่อณูเล็ก ๆ ของพลังงานหยิน-หยางที่แปรสภาพเป็นพลังงานหยินสุดขั้วและพลังงานหยางสุดขั้วก็เพียงพอที่จะฆ่าเซียนผู้คุมกฎหรือแม้แต่เซียนราชาได้แล้ว
“นายท่าน ไม่มีเวลาเหลือมากแล้ว พลังงานหยางสุดขั้วในร่างของท่านจะมาถึงทะเลสติในเวลาไม่กี่สิบอึดใจแล้วและสาวน้อยข้าง ๆ ท่านก็กำลังจะตายเช่นกัน” เสียงที่ส่งเข้ามาของจือหยิงพูดขึ้นอย่าวเร่งรีบ หากพวกเขาพลาดโอกาสอันดีนี้ พลังงานหยางสุดขั้วในร่างของเจี้ยนเฉินก็อาจจะสูญสลายไป
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินยังคงเหลือความลังเลอยู่ เขาหันหน้าไปยังร่างครึ่งน้ำแข็งของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ผู้ซึ่งอยู่ในสภาวะเจ็บปวดอย่างมาก สายตาของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแน่วแน่ เขาขบฟันแล้วพุ่งไปยังหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และสวมกอดร่างแช่แข็งของนางอย่างแนบแน่น
ทันใดนั้นหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ลืมตาขึ้น ดวงตาที่มีเสน่ห์ของนางสูญเสียความสงบอย่างที่เป็นมาก่อน ซึ่งในตอนนี้มีแต่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางพยายามอย่างที่สุด แต่ทำได้เพียงยกมือที่ถูกแช่แข็งจนเป็นเหน็บชาในความพยายามผลักดันร่างของเจี้ยนเฉินให้ออกห่าง ทว่าไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่อาจทำได้เพราะในตอนนี้สภาพร่างกายของนางไม่เอื้ออำนวย
“เจ้าจะทำอะไร ? ไม่-ไม่- เจ้าสารเลว ! ออกไปให้พ้นนะ…” น้ำเสียงของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางใช้ความแข็งแกร่งของผู้หญิงเพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของนาง ต่อให้นางตาย นางก็ไม่ต้องการแปดเปื้อนโดยคนอื่น
“หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ โปรดยกโทษให้ข้า สิ่งนี้เป็นวิธีการเดียวสำหรับเราที่จะรอดชีวิต มิฉะนั้น เราจะตายกันหมด” เจี้ยนเฉินกล่าวอย่างเจ็บปวดถึงที่สุด
“เจ้า-เจ้าสารเลว ไอ้ชั่ว…ออก…ออกไปให้พ้นนะ” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ผลักเจี้ยนเฉินอย่างยากลำบาก นางต้องการให้เจี้ยนเฉินออกไปจากตัวนางแต่นางไม่สามารถทำอย่างนั้นได้
เจี้ยนเฉินกอดรัดหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อย่างแน่นหนา ความหนาวเย็นที่แผ่ออกมาจากนางที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงกันข้ามจากพลังงานหยางสุดขั้ว เมื่อพลังความเย็นจัดและพลังความร้อนจัดจากร่างกายของทั้งสองมาประสานเข้าด้วยกัน ทำให้มีสัญญาณของความสมดุจที่คลุมเครือเกิดขึ้น เป็นผลให้พลังความเย็นยะเยือกและพลังความร้อนแผดเผาจากร่างกายของทั้งสองคนอ่อนแอลงทีละน้อย ๆ
ร่างกายส่วนลึกที่ถูกแช่แข็งของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็ได้มีสัญญาณละลายลงอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นไม่นาน น้ำแข็งทั่วทั้งร่างของนางได้ละลายลงและนางก็ยังไม่ฟื้นคืนสภาวะร่างกายก่อนหน้า
ถึงแม้ว่าสถานการณ์สำหรับทั้งสองจะดีขึ้นมาบ้าง แต่นั่นเป็นเพียงสถานการณ์ภายนอกร่างกายของพวกเขาเท่านั้น ภายในร่างกายอันตรายยังคงมีอยู่ พลังงานหยินสุดขั้วและพลังงานหยางสุดขั้วยังคงเหลืออยู่
เจี้ยนเฉินกอดร่างเล็ก ๆ ของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อย่างอ่อนโยน แต่เขาหาได้เพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมนั้นไม่ เขากล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ข้าขอโทษ” หลังจากกล่าว เจี้ยนเฉินปิดตาของเขาแล้วเริ่มฉีกเสื้อผ้าทั้งหมดของนางออก
“อ่า ! เจ้าจะทำอะไรอีก ! ? ปล่อยข้าออก…” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ร้องไห้ออกมาพลางพยายามดิ้นรนขัดขืน นางเริ่มต่อต้านด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่นางมี
ในเวลานี้พลังงานภายในร่างของทั้งสองเริ่มขึ้นมาถึงคอของพวกเขาแล้ว เวลากระชั้นชิดมาก เจี้ยนเฉินหาได้ทำตัวแบบหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ซึ่งยอมตายเพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของตนเอง เขาไม่อยากจะสนใจอีกต่อไปแล้ว เขาเพียงต้องการผ่านพ้นภัยพิบัตินี้ไปเท่านั้น
ไม่สนใจขัดขืนดิ้นรนของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ เจี้ยนเฉินดำเนินการต่อไปในทันทีเพราะไม่มีเวลาเหลือมากแล้ว ถ้ายังขืนลังเลต่อ ชีวิตของทั้งสองคงต้องหาไม่ ไม่นานเสื้อผ้าทั้งหมดของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็ถูกฉีกออกจนหมด เผยให้เห็นผิวขาวบริสุทธิ์ภายใต้เสื้อผ้าของนาง มันขาวเหมือนหนังแกะ ละเอียดลออดั่งผิวทารกและราบเนียนราวกับหยก
“เจ้าสารเลว ! ปล่อยข้านะ ! ถ้าเจ้ายังทำมัน ข้าจะไม่มีวันอภัยให้เจ้า ! รีบปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้นะ….”หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ขัดขืนจนหมดหนทาง ถ้าภายใต้สถานการณ์ปกติ นางคงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเจี้ยนเฉินแต่อย่างใด อย่างไรเสีย ตอนนี้นางไร้พลัง ร่างกายของนางมีพลังงานหยินสุดขั้วคอยรังควานในร่างอยู่ นางไร้สามารถที่จะผลักเจี้ยนเฉินออกไป
“หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ถ้าเราไม่กำจัดปัญหาที่อยู่ในร่างกายของเรา เราทั้งสองจะตาย ข้า เจี้ยนเฉิน ไม่สามารถตายตอนนี้ได้ ยกโทษให้ข้าด้วย…”
“เจ้าสารเลว ! “
..
ลมหายใจที่หอบติด ๆ ขัด ๆ ปรากฏให้เห็นในดินแดนรกร้างเปล่าเปลี่ยว ทำให้โลกแห่งความตายมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย เสียงหอบยังดังต่อไปอีกครึ่งชั่วยาม ก่อนที่จะค่อย ๆ เงียบลงอย่างช้า ๆ หลังจากไม่มีเสียงใด ๆ อีก ดินแดนรกร้างเปล่าเปลี่ยวก็ฟื้นคืนความเงียบที่ราวกับความตายอีกครั้ง
เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้นอนเปลือยกายบนดินแดนรกร้างเปล่าเปลี่ยว พวกเขาทั้งสองต่างดวงตาปิดสนิท ไร้ซึ่งสติ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขานอนหลับหรือหมดสติกันแน่
ผ้าคลุมหน้าของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้ถูกนำออกไปแล้ว เผยให้เห็นใบหน้าของนาง นางช่างงดงามเกินกว่าบรรยายออกมาได้ จนถึงขั้นที่ไม่อาจพรรษนาได้ราวกับสาวงามล่มเมือง ความงามของนางสามรถยับยั้งได้ทุกผู้คน ความงามของนางนั้นดูเหมือนเกินขอบเขตของโลก บรรลุถึงขอบเขตที่แตกต่าง ไม่ควรที่จะมีอยู่ในโลกใบนี้
ผืนดินใกล้ ๆ บริเวณเอวของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถูกย้อมไปด้วยหยดเลือด แต่งแต้มสีใหม่บนผืนดินสีเทาที่มืดมน
บนแผ่นหลังของเจี้ยนเฉิน มีรอยข่วนรูปกากบาทเรียงตัวเป็นแถว ๆ กันจำนวนมาก พวกมันไม่อาจทำลายผ่านผิวหนังของเขาไปได้ แต่มีรอยข่วนสีขาวซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน
ทั้งสองนอนลงบนพื้นเย็นเฉกเช่นนี้ ไม่ว่าพวกเขาหลับลึกหรือหมดสติ แม้ผ่านไปนานแล้วพวกเขาก็ยังไม่ตื่นขึ้น
เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ในชั่วพริบตา สามวันก็ได้ผ่านไป ในช่วงสามวันนี้ ทั้งสองยังคงไร้สติ รั้งอยู่ในท่าเช่นเดิมไม่มีการขยับเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด
จากระยะไกล เสาแห่งแสงดำและขาวยังคงอยู่ ซึ่งยืดตระหง่านท้องฟ้าและผืนดิน พวกมันส่งเศษพลังงานหยินสุดขั้วและพลังงานหยางสุดขั้วคอยหลอมรวมเข้าสู่ร่างทั้งสองอย่างช้า ๆ อย่างไรเสีย พลังงานนี้ไม่สามารถทำอันตรายแก่พวกเขาระหว่างหมดสติได้อีกต่อไป ทันทีที่พลังงานเข้าสู่ร่างของพวกเขา มันจะปรับสมดุลอย่างผิดคาด มันเปลี่ยนเป็นพลังงานที่อ่อนโยนก่อนที่จะซึมซับโดยร่างกายของพวกเขา ส่วนใหญ่ถูกหลอมรวมกับร่างกายของพวกเขา ซึ่งมีส่วนน้อยที่ผสานเข้าไปในศีรษะ ทำให้วิญญาณของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ซึ่งคอยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในขณะเดียวกัน
ในขณะนั้น เสาแห่งแสงจากระยะไกลหายไปอย่างช้า ๆ ด้วยการหายไปของเสาแห่งแสง พลังงานหยินสุดขั้วและพลังงานหยางสุดขั้วในสภาพโดยรอบเองก็หายไปในทันที
ลมอ่อน ๆ โชยพัดผ่าน เจี้ยนเฉิน ผู้ซึ่งหมดสติมาสามวันสามคืน ในที่สุดก็เริ่มตื่นขึ้นอย่างช้า ๆ เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
เห็นได้ชัดว่าเจี้ยนเฉินตอนนี้ความคิดยังไม่กระจ่างนักทันทีที่ตื่นขึ้น เขาเผลองอตัวเล็กน้อยแต่ชั่วขณะนั้นจู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างถูกต้อง นี่เพราะว่ามันไม่เย็นไม่แข็ง มันไม่ใช่พื้นดินที่เขารับรู้โดยจิตสำนึก หากแต่เป็นสิ่งที่ทั้งอ่อนนุ่มและอบอุ่น
“อา…” ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็ได้ยินเสียงคราง น้ำเสียงนั้นมีความเสียวซ่านปนไปด้วยความเจ็บปวด การบิดตัวเล็กน้อยของเจี้ยนเฉินทำให้ปลุกหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ขึ้นมา
ดวงตาของพวกเขาทั้งคู่ยังไม่กระจ่างเต็มไปด้วยภาพพร่ามัวหลังตื่นนอนพร้อมกัน สิ่งแรกของพวกเขาคือการจ้องมองซึ่งกันและกัน ซึ่งระหว่างสายตาของพวกเขานั้นอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น พวกเราทั้งคู่ต่างประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่ายังคงไม่ตื่นเต็มที่