เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 907: การกลับมาของบรรพชนตระกูลเจียงหยาง
ตอนที่ 907: การกลับมาของบรรพชนตระกูลเจียงหยาง
ในตอนนี้เอง ชายชราบินอยู่ในท้องฟ้าหลายร้อยกิโลเมตรห่างออกไปจากเมืองลอร์ เขาเคลื่อนที่ไวมากโดยใช้พลังมิติในขณะที่เขาหลอมรวมเข้ากับมิติรอบ ๆ เขาเคลื่อนไปได้หลายกิโลเมตรในพริบตาเดียว
“อาณาจักรเกอซุนข้ากลับมาแล้ว เมืองลอร์ข้ากลับมาแล้ว ตระกูลเจียงหยาง ข้าสงสัยเหลือเกินว่าพวกเจ้ายังคงจำบรรพชนของพวกเจ้าได้หรือไม่หลังจากผ่านไปหลายปีแล้ว” ชายชราพูดพร้อมถอนหายใจในขณะที่เขาบินอยู่ เขาคือเจียงหยาง ซู หยุนคง คนที่เพิ่งกลับมา เขาเป็นผู้ก่อตั้งตระกูลเจียงหยาง และเป็นที่รู้จักในฐานะบรรพชนตระกูลเจียงหยาง
เจียงหยาง ซู หยุนคงเดินทางตรงมาที่ทวีปเทียนหยวนทันทีหลังจากที่เขาออกมาจากเกาะสามเซียน เขาใช้เวลาเดือนกว่าในการเดินทางหลายล้านกิโลเมตรก่อนที่เขาจะมาถึงที่ทวีปเทียนหยวนในที่สุด
ครั้งหนึ่ง เจียงหยาง ซู หยุนคงเชื่อว่าเขาจะไม่ได้กลับมาที่ทวีปนี้อีกแล้ว ดังนั้น เขาจึงตื่นเต้นมากและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ได้กลับมาในครั้งนี้
ในที่สุด เขาก็เห็นเมืองลอร์ลาง ๆ อยู่ข้างหน้า ในขณะที่เขาเห็นกำแพงเมืองใหญ่ ความตื่นเต้นของเจียงหยาง ซู หยุนคงก็ถึงขีดสุด
“อ้าก ! ” เจียงหยาง ซู หยุนคงคำรามออกมาเพราะเขาไม่สามารถข่มอารมณ์ของเขาเอาไว้ได้ เสียงของเขาเหมือนเสียงฟ้าร้องและดังสะท้อนไปรอบ ๆ และกระจายออกไปไกล เขาดูเหมือนจะระบายความอึดอัดใจที่เขามีมานานหลายปี หลังจากนั้น เขาก็พุ่งไปที่ตระกูลเจียงหยางเหมือนลูกธนูในขณะที่เขาเปล่งพลังอันยิ่งใหญ่ของเขาออกมา
เจียงหยาง ซู หยวนเซียว และเจียงหยาง ซู อวี้หยวนกำลังมองลงไปที่ตระกูลที่เฟื่องฟูด้านล่างจากหน้าต่างของหอคอย ทันใดนั้นเอง สายตาของเจียงหยาง ซู หยวนเซียวก็หรี่เล็กลงและเขาก็เงยหน้าขึ้นช้า ๆ และจ้องไปไกล เขาสัมผัสได้ถึงพลังของเซียนผู้คุมกฎที่เข้าใกล้บริเวณมากอย่างรวดเร็วแต่เขาก็ไม่ได้สนใจมัน
“ตราบใดที่เขาไม่สร้างปัญหาในเมืองลอร์ ก็ปล่อยเขาไป” เจียงหยาง ซู หยวนเซียวคิด พวกเขาปกป้องตระกูลเจียงหยางและเมื่อตระกูลเจียงหยางอยู่ในเมือลอร์ พวกเขาก็เป็นเหมือนเทพเจ้าพิทักษ์เมืองไปโดยปริยาย ซึ่งทำให้แม้แต่สถานะของอาณาจักรยังดีขึ้นมากอีกด้วย
“ข้าเป็นเซียนผู้คุมกฎได้สำเร็จแล้ว ข้าได้รับอายุขัยเพิ่มขึ้นมาอีก 2,000 ปี ข้าสงสัยเหลือเกินว่าท่านพ่อท่านแม่จะยังสบายดีหรือเปล่า ข้าต้องไปเยี่ยมตระกูลผู้พิทักษ์บ้างในอนาคต แต่ข้าก็สงสัยว่าพวกเขาจะยังจำข้าที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้หรือเปล่า” ความคิดหลาย ๆ อย่างถาโถมอยู่ในหัวของเจียงหยาง ซู หยุนคงในขณะที่เขาบินอยู่ เขารู้สึกสับสนและเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย
เจียงหยาง ซู หยุนคงตรงเข้ามาที่เมือง และบินไปที่กลางตระกูลเจียงหยางและร่อนลงที่นั่น
“ตระกูลเจียงหยางในตอนนี้ทรงพลังกว่าเมื่อก่อนมาก ทั้งหมดเป็นเพราะหลานที่มีพรสวรรค์ของข้า” เจียงหยาง ซู หยุนคงมองไปรอบ ๆตระกูลที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ยากจะเก็บกดเอาไว้ได้
“เจ้ากล้าดียังไง ! เจ้าเป็นใคร ! ? เจ้าไม่ผ่านเข้ามาแม้แต่ที่ทางเข้าหลัก ! เจ้าไม่รู้กฎของตระกูลเจียงหยางอย่างนั้นหรือ ? ” ยามรักษาการกลุ่มใหญ่เคลื่อนที่เข้ามาพร้อมกันและล้อมเขาเอาไว้ทันทีที่เขาร่อนลงถึงพื้นที่เปิด ยามล้อมเขาเอาไว้อย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าของพวกเขาทั้งหมดเย็นชา
เจียงหยาง ซู หยุนคงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อเขาเห็นว่ายามรักษาการมีคุณภาพเพียงใด ยามรักษาการนั้นดีกว่าแต่ก่อนมาก ทั้งในเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวและความแข็งแกร่ง ในพวกยามรักษาการเขายังพบว่ามีเซียนปฐพีบางคนอีกด้วย ยามรักษาการไม่เคยทรงพลังขนาดนี้มาก่อน
ในตอนที่เจียงหยาง ซู หยุนคงกำลังจะพูด มิติรอบ ๆ เขาก็ถูกหยุดเอาไว้ทันที มันตรึงเขาไว้แน่น แม้แต่จะพูดก็ยังทำไม่ได้
ในขณะที่เขากำลังตกใจอยู่ ชายวัยกลางคนในชุดขาวก็บินลงมาอย่างช้า ๆ จากหอคอย เขาคือเจียงหยาง ซู หยวนเซียว
เจียงหยาง ซู หยุนคงอึ้งทันทีในตอนที่เขาเห็นเจียงหยาง ซูหยวนเซียว ตาของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อพร้อมทั้งตื่นเต้นอย่างรุนแรง แม้ว่าจะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่รูปลักษณ์ของเจียงหยาง ซู หยวนเซียวก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เจียงหยาง ซู หยุนคงจำเขาได้เพียงแค่มองปราดเดียว
เจียงหยาง ซู หยุนเซียวจ้องไปที่ชายชราที่ผ่านมาที่ตระกูลด้วยสายตาที่อาจหาญและอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้สึกมีความคุ้นเคยมากกับชายชราคนนี้ เหมือนว่าเขาเคยเห็นชายคนนี้ที่ไหนมาก่อน อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังยืนยันว่าเขาไม่เคยพบกับชายชราคนนี้มาก่อน
“ใครก็ตามไม่อนุญาตให้ผ่านตระกูลเจียงหยางได้ ไปซะตอนนี้และผ่านเข้ามาทางทางเข้าหลัก ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่สุภาพนะ” เจียงหยาง ซู หยวนเซียวพูดอย่างปกติในขณะที่เขาข่มความสงสัยเอาไว้ในใจ อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขากำลังจะโบกมือและส่งชายชราที่คุ้นเคยนี้ออกไป ลุงเจียงก็พุ่งผ่านยามทั้งหมดมาในชุดพ่อบ้าน และมุ่งตรงมาตรงหน้าเจียงหยาง ซู หยุนคงที่ถูกตรึงอยู่
ลุงเจียงจ้องตาไม่กระพริบไปที่เจียงหยาง ซู หยุนคง ใบหน้าอันชราของเขาเต็มไปอารมณ์ในขณะที่เขาพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเทา “นายท่าน นายท่าน ในที่สุดท่านก็กลับมา ในที่สุดท่านก็กลับมา” น้ำตาสองสายไหลลงอาบแก้มของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ ก่อนที่เขาจะคุกเข่าลงทันที เขาคุกเข่าแล้วพูดอย่างมีอารมณ์ “นายท่าน ในที่สุดท่านก็กลับมา”
ยามทั้งหมดนิ่งอึ้งเมื่อได้เห็นสิ่งนี้ พวกเขามองหน้ากันและกันด้วยความประหลาดใจ ลุงเจียงเป็นสมาชิกที่เก่าแก่ที่สุดของตระกูลในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หัวหน้าตระกูล แต่แม้แต่หัวหน้าตระกูลเองก็ยังต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ แต่ลุงเจียงกลับเรียกชายชราที่เขาไม่เคยพบมาก่อนแบบนี้ มันทำให้พวกเขาทั้งหมดพูดไม่ออก
ท่าทีของเจียงหยาง ซู หยวนเซียวเปลี่ยนไปทันที จิตใจของเขาว้าวุ่น เขาจ้องชายชราที่ตระกูลเข้ามาในตระกูลด้วยความเหลือเชื่อและพูดด้วยเสียงสั่นเทา “จะ จะ เจ้า เจ้าคือคงเอ๋อ ? ” เจียงหยาง ซู หยุนเซียวปล่อยตัวเจียงหยาง ซู หยุนคงจากพันธนาการในขณะที่เขาพูดออกมา และทำให้เจียงหยาง ซู หยุนคงควบคุมร่างกายของตัวเองได้
เจียงหยาง ซู อวี้หยวนที่อยู่ในชุดขาวก็ร่อนลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว นางจ้องไปที่รูปร่างที่แก่ชราของเจียงหยาง ซู หยุนคง นางเต็มไปด้วยอารมณ์และความเหลือเชื่อ
“จะ เจ้าคือคงเอ๋อ ? เจ้าคือคงเอ๋อจริง ๆ หรือ ? ” เจียงหยาง ซู อวี้หยวนพูดเสียงสั่น น้ำตาแห่งอารมณ์สองสายไหลออกมาจากตาของนาง นางเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เมื่อตอนที่เจียงหยาง ซู หยุนคงจากไปจากตระกูลผู้พิทักษ์ในตอนแรก เขายังมีรูปร่างลักษณะเป็นชายหนุ่มในอายุยี่สิบกว่า ใบหน้าของเขาในตอนนั้นฝังอยู่ในความทรงจำของทั้งคู่ซึ่งไม่สามารถลืมเลือนได้ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ที่พวกเขาได้พบกันอีกครั้ง เจียงหยาง ซู หยุนคงได้กลายเป็นชายชราผิวเหี่ยว มันทำให้ทั้งคู่เข้าใจผิดและเกือบทำให้จำเขาไม่ได้
เจียงหยาง ซู หยุนคงจ้องกลับไปที่เจียงหยาง ซู อวี้หยวนและเจียงหยาง ซู หยวนเซียวด้วยอารมณ์ เขาคุกเข่าและพูดด้วยเสียงสั่นไหว “ท่านพ่อ ท่านแม่ คงเอ๋อเป็นลูกที่แย่มากที่ทำให้พวกท่านทั้งสองเป็นกังวล”
“คงเอ๋อ คงเอ๋อ เป็นเจ้าจริง ๆ ” เมื่อยืนยันตัวตนของเขาแล้ว เจียงหยาง ซู อวี้หยวนก็อดไม่ได้ที่จะข่มอารมณ์เอาไว้ นางพุ่งไปที่เขาเหมือนลูกธนูและกอดเขาเอาไว้แน่น
“คงเอ๋อ คงเอ๋อ ลูกของข้า ในที่สุดเจ้าก็กลับมา แม่คิดถึงเจ้ามาก แม่เชื่อว่าแม่อาจจะไม่ได้พบกับเจ้าอีกแล้ว” เจียงหยาง ซู อวี้หยวนสะอึกสะอื้น ความยินดีและอารมณ์อื่น ๆ เกิดขึ้นที่เกิดขึ้นในหัวใจของนางกำลังถาโถมเข้าใส่นาง
เจียงหยาง ซู หยวนเซียวยืนอยู่ข้าง ๆ และเริ่มร้องไห้ออกมา เขาตื้นตันและเชาก็พึมพำ “เจ้ากลับมาแล้ว เจ้ากลับมาแล้ว มันคงยากลำบากสำหรับเจ้ามากหลายปีมานี้”
“นายท่าน ในที่สุดท่านก็กลับมา บ่าวรับใช้ชราคนนี้คิดว่าจะไม่ได้เจอกับท่านอีกแล้ว” ลุงเจียงพูดอย่างเต็มไปด้วยความตื้นตันใจ
ยามรอบ ๆ ทั้งหมดมองไปด้วยความประหลาดใจ ยามที่หัวดีบางคนเดาถึงตัวตนของเจียงหยาง ซู หยุนคงได้อย่างเร็วและโค้งคำนับลงทันที พวกเขาร้องออกมา “พวกเราขอคารวะท่านบรรพชน”
“พวกเราขอคารวะท่านบรรพชน ! ” ยามคนอื่นตั้งสติได้และคำนับลงเช่นกัน
หลังจากนั้น ผู้อาวุโสทั้งหมดและสมาชิกคนสำคัญของตระกูลรีบเข้ามาหลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ พวกเขาทั้งหมดเข้ามาแสดงความเคารพกับการกลับมาของบรรพชน
“คงเอ๋อ ไม่ใช่ว่าผนึกที่อยู่ในจิตใจของเจ้าป้องกันเจ้าไม่ให้เจ้ากลายเป็นเซียนผู้คุมกฎอย่างนั้นหรือ ? ทะ ทำไมเจ้าถึงได้กลายเป็นเซียนผู้คุมกฎได้ ? ” เจียงหยาง ซู หยวนเซียวถามในขณะที่พวกเขาทั้งสามสงบลงแล้ว เขาเต็มไปด้วยความสงสัย
เจียงหยาง ซู อวี้หยวนสังเกตเห็นสิ่งนี้และแสดงท่าทางประหลาดใจออกมา นางพูดขึ้นมา “คงเอ๋อ เจ้ากลายเป็นเซียนผู้คุมกฎจริง ๆ ผนึกที่อยู่ในหัวของเจ้าหายไปแล้วอย่างนั้นหรือ ? “
เจียงหยาง ซู หยุนคงคิดถึงเจี้ยนเฉินเมื่อพวกเขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เขาเผยรอยยิ้มยินดีและพูดขึ้นมาทันที “ท่านพ่อ ท่านแม่ เหตุผลที่ข้ากลายเป็นเซียนผู้คุมกฎได้ทั้งหมดเป็นเพราะหลานของข้าที่มีชื่อว่าเจียงหยาง เซียงเทียน เขาเสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อเข้าไปที่ส่วนลึกของมหาสมุทรดวงดาวและได้เอาหญ้าน้ำลายมังกรแสนปีออกมา พลังของหญ้าสามารถข่มผนึกเอาไว้ได้ ทำให้ข้าสามารถกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎได้”
“เจียงหยาง เซียงเทียน เป็นเขาจริง ๆ ด้วย” เจียงหยาง ซู หยวนเซียวและเจียงหยาง ซู อวี้หยวนทั้งคู่พึมพำออกมาเบา ๆ พวกเขาทั้งคู่เผยรอยยิ้มอย่างมีความสุขออกมาก่อนที่จะพาลูกของเขาเข้าไปที่หอคอยกับพวกเขา
เจียงหยาง ซู หยวนเซียวร่ายม่านพลังขึ้นมาด้วยตัวเองล้อมรอบหอคอยเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียงใดใดหลุดออกมาด้านนอก ข้างในหอคอย พวกเขาทั้งสามพูดคุยกันทั้งวัน ในตอนนี้เอง เจียงหยาง ซู หยุนคงบอกทุก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาตั้งแต่ที่เขาออกจากตระกูลผู้พิทักษ์ไป และเขาก็ได้รู้สิ่งที่เกิดขึ้นล่าสุดที่ทวีปเทียนหยวนอย่างละเอียดจากพ่อแม่ของเขา นั่นรวมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับหลานของเขา เจียงหยาง เซียงเทียนและพยัคฆ์ปีกเทวะด้วย
แม้ว่าอารมณ์ของเจียงหยาง ซู หยุนคงจะยังเหมือนเดิม แต่เขาก็ยากที่จะสงบใจไว้ได้หลังจากที่รู้ทุกอย่างแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่จะเริ่มกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหลานของเขา เพราะว่าคนที่กำลังตามหาหลานของเขานั้นเป็นสิบตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดของทวีป
“เซียงเทียน เด็กคนนั้นในตอนนี้ยังอยู่ในอาณาจักรทะเล คงเอ๋อ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขาในตอนนี้หรอก อย่างน้อยเซียนราชาก็เข้าไปที่อาณาจักรทะเลไม่ได้ เขาน่าจะซ่อนตัวอยู่ได้อย่างปลอดภัยที่นั่น” เจียงหยาง ซู หยวนเซียวปลอบใจเจียงหยาง ซู หยุนคงเมื่อสังเกตุได้ว่าเขาเป็นกังวล
การกลับมาของหัวหน้าตระกูลเจียงหยางทำให้ตระกูลพากันเฉลิมฉลองกันอย่างร่าเริง ในตอนเช้าตรู่ของวันถัดไป ราชาก็รีบรุดมาอย่างไม่รอช้าหลังจากที่ได้ทราบข่าว เขามาเพื่อที่จะแสดงความเคารพกับบรรพชนตระกูลเจียงหยาง อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามาถึงที่ตระกูล เจียงหยาง ซู หยุนคงได้ออกจากอาณาจักรไปพร้อมกับพ่อแม่ของเขา พวกเขาไปที่ตระกูลผู้พิทักษ์เพื่อไปให้ผู้อาวุโสสูงสุดเอาผนึกออกจากหัวของเจียงหยาง ซู หยุนคง