เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 916: ออกจากเขาวงกต
ตอนที่ 916: ออกจากเขาวงกต
เจี้ยนเฉินเดินไปที่กลางของโถงอย่างช้า ๆ ในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่อาคม
อาคมวงกลมอยู่ที่พื้นมีรัศมี 20 เมตรและเป็นรูปห้าเหลี่ยม เส้นสีแดงนับไม่ถ้วนเชื่อต่อกันและกันอย่างซับซ้อนและลึกซึ้ง
เจี้ยนเฉินจ้องไปที่อาคมอย่างครุ่นคิด เขาจำได้ชัดว่าตอนที่เขาเข้ามาที่โถงครั้งแรก อาคมที่ซับซ้อนนี้ยังไม่ได้ปรากฎขึ้นมา
“บางทีโถงนี่อาจจะไม่ใช่โถงเดียวกันกับตอนแรกที่พวกเราเข้ามาแต่มันดูเหมือนกันเป๊ะหรือเปล่า ? ” เจี้ยนเฉินเดาออกมาอย่างไม่รู้ตัวแต่เขาก็เลิกคิดอย่างรวดเร็ว เขามั่นใจว่านี่เป็นโถงเดียวกันกับที่เขาเข้ามาถึงตั้งแต่แรก
“หืม ? หืมมีอาคมอยู่ที่นี่” เซียนผู้คุมกฎพูดออกมาอย่างตกใจในขณะที่เขาสำรวจดูอาคม
เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดมารวมตัวกันที่กึ่งกลาง พวกเข้าจ้องเขม็งไปที่รูปแบบในขณะที่พวกเขายืนครุ่นคิดกันอยู่
“อาคมนี้เต็มไปด้วยเส้นสีแดง บางทีนี่อาจจะเป็นแผนที่ของเขาวงกตหรือเปล่า?” คนที่พูดตั้งสมมุติฐานออกมา
“เป็นไปไม่ได้ เส้นสีแดงพวกนี้แตกต่างจากรูปเขาวงกต ฉะนั้นมันจะเป็นแผนที่ไปไม่ได้” คนอื่นแย้งออกมาทันที
“รูปแบบนี้ไม่ปรากฏตรงนี้มาก่อนหน้านี้ อยู่อยู่มันก็ปรากฏขึ้นมาในตอนนี้ บางทีนี่อาจจะเป็นอะไรที่ช่วยให้พวกเราออกจากเขาวงกตได้หรือเปล่า ? ” อีกคนหนึ่งแสดงสิ่งที่เขาคิดออกมา
ทุก ๆ คนเงียบ หลาย ๆ คนคิดแบบนี้แต่ก็ไม่มีใครมีวิธีที่จะทดสอบมัน
ในตอนนี้เอง เสียงคำรามดังจากสัตว์อสูรได้ดังก้องมาจากถ้ำ สัตว์อสูรที่ดุร้ายที่ถูกสังหารไปโดยเซียนผู้คุมกฎได้โหยหวนออกมาอย่างน่าเวทนาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะตาย
ตาของเจี้ยนเฉินเบิกกว้างขึ้นทันที พลังแห่งการรับรู้ของเขาห้อมล้อมไปทั่วรูปแบบ ดังนั้นเขาจึงสามารถสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบ ในตอนที่สัตว์อสูรตาย เขาพบว่ามีเส้นสีแดงอีกเส้นปรากฎขึ้นมา
“การปรากฎขึ้นของเส้นสีแดงนี้เกี่ยวข้องอะไรกับสัตว์อสูรพวกนั้นหรือเปล่า ? ” ความคิดแวบเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉิน
“ตอนที่เราเข้ามาที่โถงนี้ครั้งแรก มันยังไม่มีอาคมอยู่ที่พื้น หลังจากนั้น พวกเราก็เจอกับการโจมตีจากฝูงสัตว์อสูร หลังจากที่พวกเราฆ่ามันไปทั้งหมด ศพของมันก็เกลื่อนกลาดอยู่ที่พื้นทำให้พวกเรามองเห็นที่พื้นไม่ชัดนัก ในตอนนี้พวกเรากลับมาที่นี่อีก ศพก็หายไปแล้วและมีอาคมอยู่ที่พื้นในตอนนี้ อาคมนี้ปรากฎขึ้นมาเพราะสัตว์อสูรพวกนั้นหรือเปล่า ? ” ตาของเจี้ยนเฉินลุกโชนในขณะที่เขาวิเคราะห์เรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง ท่าทางของเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปและเขาพูดออกมาเสียงแหบห้าว “ข้ารู้แล้วตอนนี้ อาคมนี้น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะบอกว่าพวกเราจะออกมาจากเขาวงกตยังไง แต่มันถูกซ่อนเอาไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเราต้องใช้เลือดของสัตว์อสูรเพื่อทำให้มันปรากฏขึ้นมา เมื่อพวกมันแต่ละตัวตาย เส้นทางในอาคมจะปรากฏขึ้น เมื่อพวกมันถูกฆ่าจนถึงจำนวนแล้ว เส้นทางที่เหลือก็จะโผล่ขึ้นมา และพวกเราก็จะออกไปจากเขาวงกตได้”
ทุกคนที่อยู่ที่นี่มึนงงเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น ก่อนที่พวกเขาจะจ้องเขม็งไปที่อาคมที่อยู่บนพื้น พวกเขาทั้งหมดครุ่นคิดในขณะที่พวกเขาจ้องไปที่มัน
“มีหลักฐานอะไรที่จะพิสูจน์สิ่งที่เจ้าพูดกัน ? ” ชายวัยกลางคนร่างกำยำถามเจี้ยนเฉิน
“ตั้งใจดูที่อาคมดีดี ถ้าข้าพูดถูก เส้นสีแดงจะโผล่ขึ้นมาอีกเส้นตอนที่สัตว์อสูรตาย เส้นสีแดงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของอาคมและมันจะปรากฎขึ้นทั้งหมดเมื่ออาคมสมบูรณ์แล้ว” เจี้ยนเฉินพูด
หลังจากนั้น ไม่มีใครพูดอะไร พวกเขาทั้งหมดสนใจไปที่อาคม และจ้องเขม็งไปที่มันเพื่อดูการเปลี่ยนแปลง
เซียนผู้คุมกฎมากขึ้นเข้ามาที่โถงในขณะที่เขามุ่งความสนใจไปที่รูปแบบ ทำให้คนมามุ่งกันเพิ่มมากขึ้น พวกเขามาล้อมวงกันรอบ ๆ อาคมทันทีที่พวกเขาเข้ามา และพวกเขาก็เฝ้ามองดูอย่างอยากรู้และจ้องมองไปด้วยความสงสัย
ในตอนนี้เอง เสียงคำรามที่น่าเวทนาของสัตว์อสูรก็ดังขึ้นมา สัตว์อสูรที่ดุร้ายอีกตัวถูกฆ่าในเขาวงกต
ในตอนที่สัตว์อสูรตาย ชายชราก็ตะโกนออกมาจากกลุ่มคน “ดูนั้น เส้นสีแดงอีกเส้นโผล่ออกมาจริง ๆ “
“ข้าก็เห็นมันเหมือนกัน มันเป็นเหมือนที่เขาว่า สัตว์อสูรพวกนั้นเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้พวกเราไปจากที่นี่ได้ พวกเราต้องเพิ่มเติมรูปแบบนี้ด้วยเลือดของพวกสัตว์อสูร”
“ถ้างั้นพวกเราจะรออะไรกันอยู่ล่ะ ? ไปฆ่าพวกสัตว์อสูรกันเถอะ แล้วเราจะได้ทำให้อาคมนี้สมบูรณ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้”
..
ทุกคนร้องออกมาอย่างประหลาดใจ และบางคนก็พุ่งเข้าไปในถ้ำทันทีอย่างไม่รีรอเพื่อที่จะสังหารสัตว์อสูร
กลุ่มของเจี้ยนเฉินก็ไม่ได้ลังเลเช่นกัน พวกเขาเลือกถ้ำหนึ่งแล้วเข้าไปเพื่อที่จะไปล่าสัตว์อสูร เจี้ยนเฉินต้องการแกนอสูรที่อยู่ในตัวสัตว์อสูรมากและแต่ละชิ้นนั้นมันสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ที่ทวีปเทียนหยวน เขาต้องเก็บสะสมมันให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ในโอกาสที่หาได้ยากนี้
สัตว์อสูรถูกเลี้ยงมาโดยจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดมากลายปีแล้ว ไม่มีใครรู้ว่ามันมีจำนวนเท่าไร และไม่มีใครรู้ว่าตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด
กลุ่มของเจี้ยนเฉินกรูเข้าไปในถ้ำและตั้งใจที่จะล่าสัตว์อสูร ตลอดทาง พวกเขาได้เจอกับเซียนผู้คุมกฎคนอื่นเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกนั้นเห็นเจี้ยนเฉินที่เป็นผู้คุมกฎของเผ่าเต่า พวกนั้นก็เผยให้เห็นถึงความกลัวลึก ๆ พวกเขาคารวะเจี้ยนเฉินอย่างกระตือรือร้นก่อนที่จะจากไป ไม่มีใครกล้าที่จะไปแหย่เจี้ยนเฉิน
นี่เป็นเพราะว่าพวกเขาทั้งหมดได้เห็นความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินตอนที่เขาฆ่าสัตว์อสูรที่ดุร้ายระดับ 8 ชั้นสวรรค์ที่ 5 ไปก่อนหน้านี้
ในพริบตาเดียว สามวันก็ได้ผ่านไป ในสามวันเหล่านี้ เจี้ยนเฉินเคลื่อนที่กลับไปมาภายในเขาวงกตและล่าสัตว์อสูร ในสามวันแห่งการฆ่าฟันนี้ สัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนได้ถูกสังหารไปโดยเจี้ยนเฉิน เขายังเก็บแกนอสูรได้จำนวนมากอีกด้วย
บึ้ม !
ในตอนที่เจี้ยนเฉินกำลังฆ่าสัตว์อสูรที่เขารับมืออยู่ ทั่วทั้งเขาวงกตก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ภายในโถง อาคมที่สมบูรณ์ก็ได้ปรากฎขึ้นมาและส่องไปด้วยแสงที่สว่างจ้าไปทั่วทั้งโถง ในตอนนี้เอง ทั้งโถงเต็มไปด้วยพลังที่มากมายมหาศาล
ต่อมา กำแพงรอบ ๆ เขาวงกตก็ค่อย ๆ จมตัวลงไปอย่างช้า ๆ และหายไปอย่างรวดเร็วในพื้นอย่างหมดสิ้น ในขณะที่พวกมันหายไป ก็ทำให้เห็นจอมยุทธคนอื่น ๆ ที่อยู่ในเขาวงกต
“เขาวงกตหายไปแล้ว อาคมนั้นเป็นทางที่ทำให้พวกเราหลุดจากเขาวงกตได้จริง ๆ ด้วย” จอมยุทธทั้งหมดตะโกนออกมาอย่างยินดีในขณะที่พวกเขามองไปรอบ ๆ
เจี้ยนเฉินเอาแกนอสูรออกมาจากหัวของมันและมองไปรอบ ๆ เขาพบว่าในตอนนี้เขาอยู่ที่จัตุรัสขนาดใหญ่ มันกว้างมากกินรัศมีหลายร้อยตารางกิโลเมตร เขาวงกตถูกสร้างอยู่ในจัตุรัสนี้
“โถงศักดิ์สิทธิ์นั้นมีความแตกต่างระหว่างข้างนอกกับข้างในมากจริงจริง ข้างในนั้นใหญ่มาก แค่ขนาดของจัตุรัสนี้ก็เกินกว่าโถงที่พวกเราเห็นด้านนอกแล้ว” นูบิสถอนหายใจอย่างมีอารมณ์หลังจากที่มองไปรอบ ๆ
“โถงที่เราเข้ามาในตอนแรกน่าจะเป็นทางเข้าหลักของโถงศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่จัตุรัสนี้น่าจะเป็นส่วนแรกของโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเราไปต่อกันเถอะ” เจี้ยนเฉินพูด ก่อนที่จะมุ่งหน้าลึกเข้าไป
ในเวลาเดียวกัน เซียนผู้คุมกฎคนอื่นก็เดินหน้าต่อไปเช่นกัน พวกเขาเว้นระยะห่างระหว่างกันและกันในขณะที่พวกเขาเดินทางลึกต่อเข้าไป แต่ละคนระมัดระวังตัว ในที่นี้ไม่เพียงแต่พวกเขาจะต้องคอยระวังคนอื่นอื่นเท่านั้น พวกเขายังต้องระวังอันตรายที่มีอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ด้วย
ในตอนนี้เอง ตาของเจี้ยนเฉินก็หยุดนิ่ง เขาหันไปที่ข้างหนึ่งทันทีและเห็นว่าที่ร้อยเมตรห่างออกไปนั้น มิติเริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรง มันคลุมเซียนผู้คุมกฎกลุ่มหนึ่งที่มี 5 คนเอาไว้และดูดพวกเขาหายไป
“ทุกคน ระวังดีดี มีอาคมกับดักที่นี่” คนอื่นตะโกนออกมาทันทีจากรอบ ๆ ความระมัดระวังของทุกคนพุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง
ทุก ๆ คนเดินทางต่อเข้าไปด้านในของโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างระมัดระวังโดยไม่ได้สนใจว่ากลุ่มที่โดนกับดักเข้าจะมีชีวิตรอดหรือไม่
มันยากมากที่จะตรวจจับอาคมที่ซ่อนอยู่นี้ ในช่วงต่อมา อาคมที่ซ่อนอยู่ทุกที่ก็ปรากฏออกมาทั้งหมด และดูดเอาเซียนผู้คุมกฎที่ติดกับเข้า แม้แต่กลุ่มของเจี้ยนเฉินก็ไปติดเข้ากับอาคมสังหารที่ทรงพลังเข้า 3 อัน แต่พวกเขาก็ทำลายมันออกมาได้สำเร็จด้วยกลุ่มของพวกเขาที่มี 7 คน พวกเขาผ่านด้านในของโถงเข้าไป และไปถึงที่ส่วนกลาง
โถงกระโจมใหญ่หลายแห่งตั้งอยู่ที่กึ่งกลางของโถงและยังมีสวนและสระน้ำที่ถูกดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดีอยู่
ดอกไม้บานอยู่ในสวนและส่งกลิ่นแรงออกมา แมลงที่ไม่ทราบชนิดหลายตัวเคลื่อนไปมาระหว่างต้นไม้ ในขณะที่ปลาบางตัวว่ายอยู่ในสระ กลิ่นหอมของน้ำอบอวลไปทั่งทั้งอาณาเขต
ภายใต้อิทธิพลของโถง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแมลง ปลา ได้วิวัฒนาการไปเหนือกว่าที่พวกเขาเห็นด้านนอกมาก พวกมันมีความสามารถในการโจมตีที่ทรงพลังมาก พวกมันอยู่ที่นี่มาแสนนานและพวกมันบางตัวยังเปล่งกลิ่นอายที่คล้ายกับของเซียนผู้คุมกฎออกมา พลังงานที่พวกมันใช้นั้นแปลกมาก และคล้ายกับพลังงานของโถงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งทรงพลังมาก
ทุกคนรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเว้นระยะห่างจากพวกมันมาก ไม่มีใครกล้าที่จะไปยุแหย่พวกมันในขณะที่พวกเขาเคลื่อนไปข้างหน้า
ที่เขตกึ่งกลางของโถงเหมือนเมืองที่มีทางตัดผ่านหลายทาง ทุกคนกระจายตัวออกไปทุกทิศทางหลังจากมาถึงที่นี่
ตู้ม ! ทันใดนั้นเอง เสียงอื้ออึงรุนแรงก็ดังขึ้นมาแต่ไกล เซียนผู้คุมกฎพยายามที่จะเข้าไปที่โถง แต่ในตอนที่เขาเปิดประตู เขาก็ถูกกระแทกกลับมาในอากาศด้วนคลื่นพลังงานที่รุนอรงที่พุ่งออกมาจากด้านในนั้น เลือดพุ่งกระจายออกมาจากปากของเขา
อย่างไรก็ตาม ประตูไม่ได้ปิดตัวลงและยังคงเปิดค้างอยู่
“พวกเราเข้าไปดูด้านในกันเถอะ” เสียงดังขึ้นมาและเซียนผู้คุมกฎ 3 คนก็เข้าในโถงทันทีอย่างระมัดระวัง ในเวลาเดียวกัน เกราะสีฟ้าก็เกิดขึ้นเป็นรูปร่างบนตัวพวกเขาซึ่งมันเต็มไปด้วยพลังงาน
เมื่อเห็นเกราะที่อยู่บนตัวพวกเขา ดวงตาของเจี้ยนเฉินก็เป็นประกาย เขาสู้กับเซียนราชามาแล้วหลายครั้ง นี่เป็นเหตุที่ว่าทำไมเขาถึงรู้ว่าเกราะทั้งสามตัวนั้นเปล่งประกายไปด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่มากมายและเฉพาะตัวของเซียนราชา
“นั่นไม่ใช่พลังของพวกเขา นั่นเป็นพลังของเซียนราชาและพวกเขาใช้มันเพื่อควบแน่นเป็นเกราะเพื่อปกป้องพวกเขาเอง” เจี้ยนเฉินเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่า พลังของเซียนราชาจะถูกใช้เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างแท้จริงเท่านั้น ในตอนนี้ พวกเขากำลังจะเข้าไปที่โถงที่ไม่รู้จัก อันตรายต้องมากกว่าสัตว์อสูรที่ดุร้ายนั้นมากมาย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาถึงได้ใช้พลังนั้นอย่างไม่ลังเล
หลายคนด้านนอกให้ความสนใจในความเคลื่อนไหวของคนทั้งสามนั่น ตาของพวกเขาเป็นประกายและลังเลเรื่องที่จะเข้าไปข้างในโถงและดูว่ามีอะไรด้านใน
บูม !
ในตอนนี้เอง เสียงอื้ออึงรุนแรงดังออกมาจากโถง พลังงานที่รุนแรงพุ่งออกมาจากโถงทำให้พื้นที่รอบ ๆ สั่นไหว