เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 92 : โชคร้าย
ตอนที่ 92: โชคร้าย
เมื่อเจี้ยนเฉินอิ่มจากเลือดสด ๆ ของอสรพิษทองริ้วเงินและไม่สามารถดื่มมันต่อไปได้อีก เขาก็หยุด
“อาห์ ! ” เจี้ยนเฉินเอนหัวไปด้านหลังและส่งเสียงสบายใจออกมา จากนั้นเขาก็สูดอากาศเข้าไป
ในร่างของเขา พลังงานปริมาณมหาศาลจากเลือดของงูกำลังสะสมอยู่ในท้องของเขา ในที่สุด มันก็เริ่มดูดซึมเข้าไปในเส้นเลือดของเขาอย่างช้า ๆ ในเวลาเดียวกัน ที่ส่วนซ้ายของร่างกายของเขารวมไปถึงไหล่ของเขาที่ที่มีพิษอยู่ ผิวหนังที่เคยเป็นสีดำก็จางไปอย่างรวดเร็วและกลับไปเป็นสีผิวตามปกติ
แม้ว่าความเป็นพิษของพิษอสรพิษทองริ้วเงินนั้นจะรุนแรงอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ และมีเพียงเลือดของมันเท่านั้นที่แก้พิษได้ แต่กระบวนการการแก้พิษก็เป็นไปอย่างรวดเร็วมาก
ไม่นานหลังจากนั้น พิษในร่างของเจี้ยนเฉินก็ถูกชำระล้างไปจนหมด นอกเหนือไปจากรอยกัดสองรอยตอนแรกที่อยู่ที่ไหล่ของเขาแล้ว ผิวหนังของเขาก็กลับมาเป็นเหมือนปกติ
“เฮ้อ ! ” เมื่อเห็นว่าร่างกายของเขากลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เจี้ยนเฉินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา โชคดีที่ในตอนท้ายที่เขาต่อสู้กับอสรพิษทองริ้วเงิน เขาสามารถฆ่ามันได้สำเร็จ ถ้าเขาฆ่ามันไม่ได้ และถึงแม้ว่าพลังเซียนธาตุแสงจะช่วยข่มพิษเอาไว้ชั่วคราวได้ เขาก็คงอยู่ได้ไม่เกินสามวัน เพราะว่าเขาไม่สามารถที่จะคงพลังเซียนธาตุแสงเอาไว้ได้เป็นระยะนานขนาดนั้น เพราะการใช้จิตวิญญาณนั้นเป็นการใช้พลังงานจำนวนมาก
เจี้ยนเฉินยืนขึ้นด้วยขาทั้งสองข้างอย่างช้า ๆ เจี้ยนเฉินมองดูงูสีทองที่นอนอยู่บนพื้นข้างหน้าเขาอย่างไม่ได้มีความตื่นเต้นแม้แต่น้อย จำนวนประชากรอสรพิษทองริ้วเงินนั้นไม่เกินเลขสามหลักในทวีปเทียนหยวน ดังนั้นมันจึงเป็นสายพันธุ์ที่หาได้ยากมาก นอกเหนือไปจากนั้น ร่างของอสรพิษทองริ้วเงินนั้นยังเป็นสินค้าที่มีค่ามาก นี่ไม่เป็นการกล่าวเกินจริงไปเลย ความร้ายแรงของพิษของมันนั้นหาใดเปรียบไม่ได้ และทั้งร่างของมันก็เหมือนขุมสมบัติ ว่ากันว่าเนื้อของงูนี้นั้นไม่ได้ช่วยเพิ่มความต้านทานพิษเท่านั้น แต่มันยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายอีกด้วย แม้ว่ามันจะไม่ได้แข็งแกร่งเทียบเท่ากับของอสรพิษทองริ้วเงิน แต่มันก็ทำให้แข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
และถุงน้ำดีของอสรพิษทองริ้วเงินนั้นว่ากับว่าเป็นวัตถุดิบเกี่ยวกับยาขั้นสูงที่สามารถเพิ่มความต้านทานพิษได้ ถ้าสกัดมันเข้ากับเลือดของอสรพิษทองริ้วเงินด้วยวิธีการพิเศษ มันยังเป็นไปได้ที่จะทำให้ร่างกายต้านพิษได้หลายพันชนิด เว้นเสียแต่ว่าพิษนั้นจะร้ายแรงกว่าของอสรพิษทองริ้วเงิน หรือพิษจากงูอื่นที่ร้ายแรงเท่ากัน นอกเหนือไปจากนั้นก็ไม่มีพิษใดใต้หล้าที่เป็นอันตรายกับหมื่นต้านพิษได้อีกแล้ว
เขี้ยวของอสรพิษทองริ้วเงินสามารถนำไปทำเป็นอาวุธสังหารที่น่ากลัวได้ เขี้ยวของมันชุ่มไปด้วยพิษอันตรายทั้งวันทั้งคืนจนทำให้คุณภาพของเขี้ยวพัฒนาไปอย่างช้า ๆ จุดนี้เองที่ทำให้พิษเข้าไปปนเปื้อนในเขี้ยวและไม่สามารถเอามันออกได้ และการถูกโจมตีเพียงครั้งเดียวจากเขี้ยวนั้นก็จะทำให้ศัตรูติดพิษของอสรพิษทองริ้วเงิน ถ้าไม่มีเลือดของอสรพิษทองริ้วเงินเพื่อใช้ทำยาแก้พิษ ผลลัพธ์ของคนที่ติดพิษคือความตาย พิษชนิดนี้สามารถทำให้แม้กระทั่งเซียนสวรรค์ติดพิษได้
แน่นอนว่า พิษของอสรพิษทองริ้วเงินนี้จะไม่ร้ายแรงพอที่จะฆ่าเซียนสวรรค์ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่มันก็ร้ายแรงพอที่จะไม่สามารถกำจัดมันไปได้จนหมด พวกเขาจะตายจากพิษถ้าไม่ได้รับยาแก้พิษ ซึ่งก็คือเลือดงู
พิษของมันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของอสรพิษทองริ้วเงิน ยิ่งงูแข็งแกร่งมากเท่าไร พิษก็ร้ายแรงตามขึ้นไปเท่านั้น ถ้าอสรพิษทองริ้วเงินเป็นสัตว์อสูรระดับ 6 แล้วละก็ พิษของมันก็จะสามารถฆ่าเซียนสวรรค์ได้ในพริบตา
ผิวหนังของงูไม่เพียงแต่นุ่มเท่านั้น แต่ในยังทนทานมาก ทำให้มันเป็นวัตถุดิบที่มีค่ามากในการผลิตชุดเกราะ นี่ทำให้มันมีค่ามหาศาลอย่างเหลือเชื่อ
และถุงพิษของมันก็ประเมินค่าไม่ได้ พิษนี้เมื่อสกัดอย่างถูกวิธีแล้ว มันจะกลายเป็นพิษที่ไร้กลิ่นและสีและสามารถผ่านการตรวจจับผิดได้ทุกแบบ ด้วยพิษนี้ แม้แต่เซียนสวรรค์ก็ยังยากที่จะหนีจากความตายได้ เมื่อทางแก้พิษมีเพียงเลือดของอสรพิษทองริ้วเงินเท่านั้น
พิษของอสรพิษทองริ้วเงินปรากฏขึ้นในตลาดหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่มันปรากฏขึ้นมา คนที่มีเจตนาพิเศษบางอย่างก็จ่ายในราคาสูงเพื่อที่จะซื้อมันไป
เมื่อเขาค่อย ๆ นึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบจากอสรพิษทองริ้วเงินที่เขาจำมาได้จากหนังสือออกมา เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นกำไรชิ้นงามที่สุดที่เขาได้มาตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในเทือกเขาสัตว์อสูร เจี้ยนเฉินยังได้ความสามารถในการต้านพิษส่วนมากมาอีก
เจี้ยนเฉินไม่ลังเลที่จะเริ่มลงมือกับร่างของอสรพิษทองริ้วเงิน เมื่อเป็นศพนี้แล้ว เจี้ยนเฉินก็ไม่ปล่อยผ่านไปเหมือนที่เขาทำกับศพของสัตว์อสูรอื่น ๆ
หลังจากที่ใช้หลังงานไปเล็กน้อย เจี้ยนเฉินก็ลากส่วนที่เหลือของร่างกายของงูออกมาจากหญ้าสูงและกองมันเอาไว้ที่หนึ่ง เจี้ยนเฉินเพิ่งมารู้ตอนที่เขาลากงูมาว่าจริง ๆ แล้วตัวมันยาว 70 เมตร
ความแข็งแกร่งของอสรพิษทองริ้วเงินสามารถวัดได้จากความยาวของมัน ตัวมันยาวขึ้นตามระดับของมัน มันจะยาว 20 เมตร ถึงสูงสุด 100 เมตรในระดับ 5 อสรพิษทองริ้วเงินในระดับ 6 หรือสูงกว่านั้นสามารถปรับขนาดร่างกายของมันได้ตามชอบ ดังนั้นมันจึงบอกขั้นไม่ได้จากความยาวของมัน
เมื่อดูจากความยาวของงูตัวนี้แล้ว มันดูเหมือนว่ามันเพิ่งจะบรรลุเป็นระดับ 4
เจี้ยนเฉินเอาแหวนมิติที่พ่อของเขาให้มาตอนที่เขาออกมาจากคฤหาสน์เจียงหยางที่อยู่ที่คอของเขาออกมา มิติในแหวนมิตินั้นใหญ่กว่าอย่างเทียบไม่ได้กับเข็มขัดมิติ ถ้าเขาต้องการที่จะเอางูที่ยาว 70 เมตรนี้ไป ทางออกเดียวที่เป็นไปได้คือการใช้แหวนมิติในการเก็บมัน ไม่มีทางที่เข็มขัดมิติที่มีพื้นที่มิติน้อยจะเก็บร่างนี้ได้
แต่ถ้าเจี้ยนเฉินต้องการที่จะเก็บร่างของอสรพิษทองริ้วเงินที่ยาว 70 เมตรไว้ในแหวนมิติของเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ในตอนที่เขากำลังจะเริ่มลงมือ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ในขณะที่เขาหันหัวไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว
ที่ที่เจี้ยนเฉินกำลังมองไป เขาเห็นเงาของบางคนในพุ่มไม้กำลังเดินออกมา ในตอนที่เจี้ยนเฉินเห็นพวกมัน พวกมันก็เห็นเขาพอดี
“โชคร้ายอะไรอย่างนี้ ! ” เจี้ยนเฉินสบถออกมา เพราะเขาเกรงว่าเขากำลังจะเจอกับปัญหา
มีคนทั้งหมดยี่สิบคนที่ดูเหมือนทหารรับจ้างจากการแต่งกาย ในตอนที่พวกเขาเห็นเจี้ยนเฉิน ทหารรับจ้างก็ดูมึนงงเล็กน้อย การที่เขามาเจอเจี้ยนเฉินนั้น เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ อย่างไรก็ตาม ทันทีหลังจากนั้น ตาของพวกเขาก็หยุดไปที่ร่างที่ขดอยู่ของอสรพิษทองริ้วเงิน
คนที่เดินมาด้านหน้าของทหารรับจ้างคนอื่นเป็นชายวัยกลางคนที่ดูจะมีอายุประมาณ 40 ปี หลังจากที่สายตาของเขาหยุดไปที่อสรพิษทองริ้วเงินแล้ว คิ้วของเขาก็ขมวดเล็กน้อยและแสดงท่าทีครุ่งคิดออกมา จากนั้น ก็เหมือนว่าเขาจำบางอย่างได้ ตาของเขาเป็นประกาย ใบหน้าของเขาทั้งหมดแสดงความยินดีออกมาทันที เหมือนว่าเขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขาเพ่งไปที่ร่างของงูที่อยู่ด้านหลังของเจี้ยนเฉินต่อ เขาร้องออกมา “อสรพิษทองริ้วเงิน ! นี่มันอสรพิษทองริ้วเงินจริง ๆ ! “
คำพูดของทหารรับจ้างทำให้ทหารรับจ้างคนอื่นด้านหลังเขานิ่งอึ้ง เหมือนว่าพวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อสัตว์อสูรนี้มาก่อน ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็นึกถึงเรื่องที่เกี่ยวกับอสรพิษทองริ้วเงินได้ ทำให้หน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทีละคน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสงสัยในขณะที่พวกเขามองไปที่ศพของงูที่อยู่ด้านหลังเจี้ยนเฉิน หลังจากที่ดูใกล้ ๆ แล้ว พวกเขาก็ร้องออกมาอย่างประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ถ้างั้นนี่ก็คืออสรพิษทองริ้วเงินใช่หรือไม่ ? “
“นี่เป็นอสรพิษทองริ้วเงินจริง ๆ มันเหมือนกับที่ข่าวลือบอกมาเลย”
“ข้าไม่คิดว่าพวกเราจะมาเจออสรพิษทองริ้วเงินที่นี่เลย พวกเรารวยแล้ว”
……
เสียงพูดคุยประหลาดใจทุกอย่างออกมาจากปากของพวกทหารรับจ้าง ในขณะที่ตาของพวกเขาก็เริ่มลุกวาวเมื่อมองไปที่อสรพิษทองริ้วเงิน ความโลภในตาของพวกเขาปรากฎออกมาทางใบหน้าที่พวกเขาไม่พยายามจะปกปิดมันเอาไว้เลย
เจี้ยนเฉินถอนหายใจกับตัวเอง เขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องโชคร้ายแบบนี้ขึ้นในตอนสำคัญ นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการ น่าเสียดายที่ชะตาไม่เป็นไปอย่างที่เขาคาดหวัง
เขาซ่อนแหวนมิติของเขาไปอย่างเร็ว กระบี่วายุโปรยสีเงินปรากฏขึ้นมาในมือของเขาอีกครั้ง เขาไม่ลังเลและหายไปเหมือนภาพติดตาในขณะที่เขาพุ่งไปที่กลุ่มทหารรับจ้าง
คนที่อยู่ข้างหน้าเขารู้จักอสรพิษทองริ้วเงินและค่าของมัน ไม่มีอะไรที่ต้องคิดเพิ่มแล้ว เมื่อเจี้ยนเฉินรู้ว่าทหารรับจ้างพวกนี้พยายามที่จะเอาร่างจากเขาไปทุกวิถีทาง ไม่มีทางที่จะเจรจาได้
เจี้ยนเฉินตัดผ่านระยะ 30 เมตรไปในพริบตา กระบี่วายุโปรยโจมตีออกไปทันที
“หืม มาเลย ดี!” ชายวัยกลางคนที่เป็นคนนำไม่ได้อ่อนแอเลย และเขาก็ตั้งสติได้ ท่าทางเย็นชามาแทนที่ความยินดีที่เขามีก่อนหน้านี้ในขณะที่เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉิน เขาเหยียดแล้วเรียกกระบี่ใหญ่ออกมาที่มือของเขา เขาเคลื่อนไหวและฟันไปที่เจี้ยนเฉินที่กำลังพุ่งเข้ามา
ในตอนที่กระบี่ของชายวัยกลางคนกำลังจะถูกตัวเจี้ยนเฉิน ทิศทางของเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขาหลบกระบี่และเคลื่อนไปรอบชายวัยกลางคน และโจมตีกลุ่มทหารรับจ้างที่อยู่ด้านหลังแทน