เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 930: นักฆ่าของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ
ตอนที่ 930: นักฆ่าของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ
ยักษ์โลหิตที่เกิดขึ้นมาในมิติของอาคมนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยเท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 มันไม่ใช่อะไรที่พวกเขาจะสามารถกำจัดได้ ถ้ามันยังอยู่ที่นี่ คงจะมีแต่ความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ แต่ในตอนนี้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิได้เจาะรูผ่านอาคมออกไป มันกลายเป็นเป้าหมายที่ทำให้ทุกคนหนีไปตรงนั้นเพราะพวกเขารู้ว่าบางทีนี้อาจจะเป็นเพียงหนทางเดียวที่พวกเขาจะรอดได้
ดังนั้น พวกเขาทั้งหมดจึงเคลื่อนที่ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ เจ้าอย่าบังอาจหนีไปนะ ข้าขังเจ้าเอาไว้ครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นครั้งนี้ข้าจะขังเจ้าเอาไว้อีกครั้ง” เจี้ยนเฉินกลายเป็นภาพติดตาและพุ่งที่ช่องว่างด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
เจี้ยนเฉินถูกบังคับให้ต้องปล่อยเอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมา บางทีในตอนนี้อาจจะมีเพียงยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถจัดการกับยักษ์โลหิตได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ายักษ์โลหิตไม่ใช่คู่มือของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ แต่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิไม่ได้ทำตามที่เจี้ยนเฉินปรารถนาไว้ มันไม่ได้ฆ่ายักษ์โลหิต กลับกันมันกลับตัดผ่านอาคมและหนีไป
หัวของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับเรื่องยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ในตอนนี้มันได้หนีออกไปแล้ว เขารู้สึกกังวลอย่างมาก เขารู้ว่าบางทีมันอาจจะมีความคิดของเจ้าของมันที่ยังอยู่ในนั้นอยู่ ดังนั้นมันจึงมีความเฉลียวฉลาดอยู่ในระดับหนึ่ง หลังจากที่พลาดท่าในวัตถุเซียนมาก่อนครั้งหนึ่ง มันคงต้องระวังตัวมากกับวัตถุเซียนแน่ มันคงไม่ง่ายแล้วที่จะดูดมันเข้าไปในวัตถุเซียนในครั้งนี้
ทั้งสามมาถึงที่ช่องว่างอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินอยู่น้อยกว่า 10 เมตรด้านหลังของพวกเขา แต่ในตอนที่พวกเขากำลังจะผ่านไป สายตาของพวกเขาก็เป็นประกายเย็นชา พวกเขาหันมาพร้อมกันกะทันหันและโจมตีใส่เจี้ยนเฉินด้วยฝ่ามือ
แม้ว่าทั้งสามคนจะยังบาดเจ็บอยู่ แต่การโจมตีจากทั้งสามคนก็ไม่ธรรมดา การโจมตีพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินถูกทำให้ไขว้เขวจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและไม่คิดว่าโมจื่อและอีกทั้งสองคนจะโจมตีมาที่เขาในตอนนี้ ในตอนที่เขากำลังจะตอบโต้ การโจมตีทั้งสามก็มาถึงตรงหน้าเขาแล้ว
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปในทันที สายตาของเขาเย็นชาในขณะที่เขาฟันยุทธภัณฑ์ราชาของเขาออกไป มันปะทะกับการโจมตีทั้งสามนั้น
เสียงระเบิดอื้ออึง คลื่นพลังงานกระแทกไปที่เจี้ยนเฉินและทำให้เขาหยุด หลังจากนั้นเขาก็ถูกกระแทกกลับไปอย่างควบคุมไม่ได้และหยุดได้หลังจากที่ถอยไปหลายร้อยเมตร
ช่องว่างที่ถูกสร้างเอาไว้โดยยุทธภัณฑ์จักรพรรดิปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินเห็นทั้งสามคนยืนอยู่ที่ด้านนอกได้อย่างชัดเจนและเย้ยหยันเขาผ่านช่องว่างนั้น
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินมืดมนลงอย่างมากในขณะที่จิตสังหารพวยพุ่งอยู่ในใจของเขา มันเปล่งประกายออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ทำให้อุณหภูมิรอบ ๆ ลดลงอย่างรวดเร็ว ของว่างปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินไม่มีทางที่จะออกไปได้ในตอนนี้
“โมจื่อ ข้าจะฆ่าเจ้าแน่” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเย็นชา เสียงที่เย็นเฉียบของเขาดูเหมือนจะมาจากเทพเจ้าแห่งความตายและพวกเขาก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน ช่องว่างปิดลงสนิททันทีที่เจี้ยนเฉินพูดจบ และเจี้ยนเฉินก็ติดอยู่ด้านใน
พื้นที่ดั้งเดิมด้านนอกถูกปกคลุมได้ด้วยสีแดงโลหิต มีเพียงถ้ำที่แคบมากที่ซึ่งกลุ่มของโมจื่อและนูบิสกำลังยืนอยู่
นูบิสเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ใบหน้าของเขามืดครึ้มลงทันที ในขณะที่จิตสังหารที่มหาศาลของเขาไหลออกมาจากร่างกาย มันพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
“เจ้ากล้าที่จะโจมตีเจี้ยนเฉิน ข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ จะฉีกพวกเจ้าทั้งหมดเป็นชิ้น ๆ ” ตาของนูบิสแดงก่ำในขณะที่มือสีทองของเขาพุ่งไปที่คนทั้งสามนั้นทันที
ในตอนนี้เอง โมจื่อและอีกทั้งสองคนดูเหมือนเป็นอีกคนไปเลย พวกเขารู้ดีว่านูบิสนั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่พวกเขาก็มองดูว่าการโจมตีของนูบิสไม่มีอะไร แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูก
พลังที่มหาศาลพุ่งออกมาจากพวกเขา และควบแน่นเป็นเกราะที่ปกป้องพวกเขา
มือของนูบิสไม่สามารถที่จะเจาะผ่านเกราะของพวกเขาไปได้ ทั้งหมดที่ทำได้ก็แค่ทำให้พวกเขาถอยไปสองสามก้าว
“นี่มันเป็นพลังของเซียนราชา ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าใช้มันไปหมดแล้วหรือ ? เจ้ามันยังมีมันเหลือได้ยังไง ? ” นูบิสตกใจ เขาเคร่งเครียดทันที
ทั้งสามคนเย้ยหยันออกมาเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนี้ หนึ่งในนั้นพูดออกมา “ใช้หมดแล้วงั้นหรือ ? ฮ่าฮ่า นั่นมันแค่หลอกเจ้า นูบิส พลังที่อยู่บนตัวของพวกเราอาจจะไม่ได้มาจากจอมยุทธระดับผู้อาวุโสประจำศาลา แต่พวกมันก็เป็นพลังจากจอมยุทธ 16 ดาวอยู่ดี เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถทำลายพวกมันได้ด้วยแค่พลังของเจ้าอย่างนั้นหรือ ? “
นูบิสตอบกลับอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถได้ตำนานของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดเพราะทำแบบนี้งั้นหรือ ? เจ้าลืมไปแล้วหรือว่ายังมีไทนิชอีกนอกจากเจี้ยนเฉิน ถ้าไม่มีเจี้ยนเฉิน พวกเจ้าไม่มีทางที่จะเอาชนะไทนิชได้ด้วยพลังเซียนราชาของพวกเจ้า”
“ใครพูดว่าพวกเราต้องการตำนาน ? ” โมจื่อจ้องไปที่นูบิสและเยาะเย้ย “เป้าหมายสุดท้ายของพวกเราไม่ใช่ตำนานแต่คือการฆ่าพวกเจ้าทั้งสาม ถ้าไม่ห่วงว่าเรื่องของเผ่าของพวกเราอาจจะถูกดึงมาเกี่ยวข้องด้วย พวกเราก็คงทำมันต่อหน้าทุกคนแล้วนานแล้ว แต่มันไม่ง่ายหรอกหรือสำหรับตอนนี้ ? พวกเราสามารถใช้อาคมเพื่อจัดการเจี้ยนเฉินได้เพื่อประหยัดพลังงานของพวกเรา พลังที่เหลืออยู่ของพวกเราเพียงพอที่จะกำจัดเจ้าได้ “
“อะไรนะ! เจ้ามาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเรา ? ” นูบิสตกใจในขณะที่เรื่องนี้เหนือเกินกว่าความคาดหมายของเขา
“ถูกต้อง เจ้าได้มาทำให้ศาลาเทพเจ้าอสรพิษโกรธ เจ้าคิดว่าเจ้าจะปลอดภัยและซ่อนตัวอยู่ได้ในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลอย่างนั้นหรือ ? ” โมจื่อพูด
“อ้อ เป็นเช่นนั้นเอง เจ้าเป็นคนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษงั้นหรือ ? ” นูบิสเข้าใจในที่สุด
“พวกเราไม่ใช่คนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ แต่เป็นคนที่ศาลาเทพเจ้าอสรพิษหามา นูบิส เมื่อเจ้ารู้ทุกอย่างแล้วตอนนี้ มันถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องกำจัดเจ้า” จิตต่อสู้ที่เย็นชาปรากฎอยู่ในตาของพวกเขา ในขณะที่พลังของเซียนราชาที่มหึมาก็พุ่งออกมาจากร่างของพวกเขา มันกลายเป็นรูปสิ่งมีชีวิตในทะเล 3 ตัวที่โหยหวนอย่างโกรธเกรี้ยวและพุ่งไปที่นูบิส
นี่ไม่ใช่พลังของพวกเขาเอง แต่เป็นพลังของเซียนราชาที่เป็นจอมยุทธ 16 ดาว พลังของมันยิ่งใหญ่มาก
นูบิสเคร่งเครียดและหันหลังไปเพื่อที่จะหนี แม้ว่าเขาจะมั่นใจในตัวเองมาก แต่เขาก็ไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถทนการโจมตีที่ยิ่งใหญ่นี้ได้
การโจมตีธรรมดาจากจอมยุทธ 16 ดาวสามารถที่จะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้ ถ้าเขาหันไปสู้กับพวกนั้น เขาอาจจะแทบเอาชีวิตไม่รอดก็ได้แม้ว่าเขาจะไม่ตาย
ที่สำคัญกว่านั้น เขาไม่รู้เลยว่าจอมยุทธที่ให้พวกเขาทั้งสามยืมพลังนั้นแข็งแกร่งเพียงใด จอมยุทธนั้นเป็นชั้นสวรรค์ที่ 5 หรือชั้นสวรรค์ที่ 8 ? หรืออาจจะเป็นถึงชั้นสวรรค์ที่ 9 ?
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่านูบิสจะพยายามหนีแค่ไหน การโจมตีก็ตามเขามาอย่างรวดเร็ว นูบิสตัดสินใจที่จะเสี่ยงทุกอย่างเมื่อเขาเห็นว่าเขาหนีไม่พ้น เขาคำรามขึ้นไปในอากาศ แสงสองแสงเกิดขึ้นมา แสงหนึ่งสีทอง แสงหนึ่งสีเงิน ซึ่งโผล่ออกมาจากร่างของเขา แสงนั่นได้เปลี่ยนเป็นเกล็ดหนาที่ปกคลุมทุกตารางนิ้วของร่างกายของเขา ไฟที่ต่างกันสองสีได้เผาไหม้อยู่บนเกล็ดของเขา และไฟแรงขึ้นทุกทีในขณะที่มันเผาไหม้ เกล็ดของเขาปูดออกมาด้วยอัตราเร็วที่เหลือเชื่อ
นูบิสเผยท่าทางเจ็บปวดออกมาในขณะที่เขากัดฟันคำราม “ทักษะลับที่สืบทอดมา ระเบิดเกล็ดเงินและเกล็ดทอง ! ” นี่เป็นการโจมตีที่ทำร้ายตัวเอง โดยการระเบิดเกล็ดทั้งหมดของเขาเพื่อทำให้คนรอบ ๆ บาดเจ็บ ไม่เพียงแต่การโจมตีนี้จะทรงพลังมาก แต่มันยังเต็มไปด้วยพิษเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาเสียไปในการร่ายทักษะลับนั้นก็มากมายเหลือเกิน ไม่เพียงแต่การโจมตีนี้จะกินพลังของเขาไปอย่างมาก เขายังเสียเกล็ดที่ปกป้องตัวเขาทั้งหมดไปด้วย เขาต้องทนทุกข์ทรมานเป็นทศวรรษหรืออาจจะถึงศตวรรษเพื่อที่จะฟื้นฟูพลังของเขาอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะลอกคราบและทำให้เกล็ดของเขาเกิดขึ้นมาใหม่
“นูบิส ข้าอยู่นี่แล้ว หยุด ! ” เสียงของเจี้ยนเฉินดังขึ้นในหัวของนูบิสตอนนี้
นูบิสตาโตและเขาก็หยุดทักษะลับอย่างไม่รู้ตัว แสงสีทองสว่างขึ้นตรงหน้าเขาและหอคอยสีทองก็ลอยผ่านอากาศมาก มันเป็นเกราะให้กับเขา
หอคอยสีทองสูง 10 เมตรและกว้าง 2 เมตร มันจอดลงอย่างแรงบนพื้น ทำให้พื้นสั่นไหวอย่างรุนแรง
บู้ม ! การโจมตีทั้งสามปะทะเข้ากับมันแต่ทั้งคู่ก็ยังอยู่ดี หอคอยป้องกันการโจมตีทั้งสามให้นูบิสและโผล่ออกมาอย่างไร้รอยขีดข่วน
เสียงคำรามดังของเสือดังระเบิดออกมา แสงสีขาวโผล่ขึ้นมา เสือขาวที่น่าเกรงขามปรากฎขึ้นที่ด้านหลังของกลุ่มโมจื่อทั้งสามคน
เสือขาวยาว 3 สามเมตรและมีปีกที่หลังของมัน ในขณะที่มันยืนอยู่ที่นั่น ความกดดันก็เริ่มที่จะโรยตัวลงมารอบ ๆ มันเหมือนผู้คุมกฎของโลกและกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ของมันก็หนาแน่นกว่าของเซียนจักรพรรดิเสียอีก
ไม่ต้องแปลกใจเลยที่ด้านหลังของเสือนั้นมีเจี้ยนเฉินนั่งอยู่
กลุ่มของโมจื่อมองไปที่เจี้ยนเฉินที่อยู่ด้านหลังและตาของพวกเขาก็โตราวกับไข่ห่านทันที พวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“เจี้ยนเฉิน เจ้าหนีออกมาได้ ! เป็นไปได้ยังไงกัน…”
“เจ้าฝ่าออกมาจากอาคมงั้นหรือ ? ! เจ้าทำลายมันไปงั้นหรือ..”
“เป็นไปไม่ได้ ช่องว่างที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสร้างไว้ได้ปิดสนิทไปแล้วนี่ ! เจ้าออกมาได้ยังไงกัน…”
ทั้งสามอุทานออกมาอย่างตกใจในขณะที่พวกเขาเริ่มกลัวลนลาน