เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 934: ผู้ก่อตั้งนิกายดาบโลหิต
ตอนที่ 934: ผู้ก่อตั้งนิกายดาบโลหิต
สายตาของจักรพรรดิเลือดปีศาจแน่วแน่ “หืม เจ้าคิดว่าข้าเป็นใครกัน? ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่ต้องการจะกำจัดข้า”
“ทำไมเจ้าไม่หลุดออกจากพันธนาการให้ได้ก่อนที่จะทำอะไรข้าล่ะ ? เพราะว่าในตอนนี้ เจ้าไม่สามารถทำร้ายข้าได้แม้แต่น้อย” เสียงเย็นชาของเจี้ยนเฉินดังออกมา วิญญาณของเขาถูกปกป้องเอาไว้โดยวัตถุเซียนและการปกป้องนี้ไม่สามารถที่จะถูกทำลายได้โดยใครก็ตามที่ระดับต่ำกว่าเซียนจักรพรรดิ เขาไม่เชื่อจักรพรรดิเลือดปีศาจที่อยู่ในสภาพแบบนี้จะมีพลังขนาดนั้น
“หืม ข้าจะทำลายการป้องกันของเจ้าในตอนนี้ล่ะ” วิญญาณของจักรพรรดิเลือดปีศาจเริ่มที่จะควบแน่นอย่างรวดเร็วอีกครั้งและกลายเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือจากร่างแคระเดิมของเขา ลูกกลมนี้เป็นสีแดงโลหิตทั้งหมดและเปล่งประกายไปด้วยแสงปีศาจสีแดงเข้ม
“ด้วยการแลกเปลี่ยนครึ่งหนึ่งของวิญญาณของข้า ข้าขอสร้างหินปีศาจชั้นฟ้าและขอให้หินปีศาจชั้นฟ้าทำลายหอคอยนี้ด้วย” เสียงของจักรพรรดิเลือดปีศาจดังออกมาจากหิน วิญญาณของเขาอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วในขณะที่แสงจากหินสว่างจ้าขึ้น มันหลุดออกจากพันธนาการจากแสงสีทองได้และครอบคลุมไปทั่วทั้งทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉิน
”หินปีศาจชั้นฟ้า มันเป็นหินปีศาจชั้นฟ้าจริง ๆ ทำไมหินปีศาจชั้นฟ้าของราชาปีศาจชั้นฟ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ ? ” ทันใดนั้นเอง เสียงของจิตวิญญาณกระบี่ก็ดังออกมาจากทะเลแห่งสติสัมปชัญญะ พวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้น แสงสว่างจ้าสองแสงก็ปรากฏขึ้นมา แสงหนึ่งสีฟ้าและแสงหนึ่งสีม่วงซึ่งสว่างออกมาจากส่วนลึกของทะเลแห่งสติสัมปชัญญะและขยายออกไปทั่วอย่างรวดเร็ว
การขยายตัวของแสงสีแดงโลหิตจากหินปีศาจชั้นฟ้าหยุดลงทันทีเมื่อแสงสองสีที่ต่างกันปรากฎออกมา
แสงจากจิตวิญญาณกระบี่เติมเต็มไปทั่วทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว และยังล้อมแสงสีแดงโลหิตจากหินปีศาจชั้นฟ้าเอาไว้ด้วย หลังจากนั้น มันก็จางลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉินกลายเป็นภาพมัว ๆ มันเปลี่ยนกลายเป็นความวุ่นวายและมองไม่เห็นอะไรเลย สิ่งเดียวที่มองเห็นคือสีเทามัวมัว
“หินปีศาจชั้นฟ้า เจ้าพยายามที่จะทำร้ายนายของพวกเราแม้แต่ราชาปีศาจชั้นฟ้ายังไม่กล้าที่จะทำแบบนั้นเลยอย่าว่าแต่เจ้าเลย ถ้าเจ้าฉลาดพอ เจ้าน่าจะหนีไปให้ไว อย่าทำให้พวกเราต้องโจมตีเจ้า” เสียงของจือหยิงดังมาจากทุกที่ ภาพของดาวหลายดวงปรากฏขึ้นในมิติที่วุ่นวาย ภายในภาพนี้ คนนับไม่ถ้วนกำลังต่อสู้กันอย่างโหดร้ายที่มิติด้านนอก ในขณะที่มีเลือดสีทองเติมเต็มไปทั่วทั้งบริเวณ เลือดทุกหยดเต็มไปด้วยพลังมหาศาลที่จินตนาการไม่ได้ และสามารถที่จะฆ่าเซียนจักรพรรดิได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
กระบี่ใหญ่สองเล่มตั้งตระหง่านอยู่กลางการต่อสู้ พวกมันทั้งคู่สูงพันเมตรและเปล่งประกายไปด้วยแสงสีครามและม่วง ที่ใดที่พวกมันผ่านไป รอบรอบที่นั้นก็จะเกลื่อนกลาดไปด้วยชิ้นส่วนของร่างกาย คนนับไม่ถ้วนตายเพราะดายทั้งสองเล่มนี้
พลังของกระบี่นี้เพียงพอที่จะสั่นคลอนสวรรค์และทำลายล้างไปทั้งโลก
ทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ในภาพนั้นเป็นเรื่องจริง มันเป็นการต่อสู้ที่จิตวิญญาณกระบี่ประสบมาในอดีตซึ่งถูกฉายออกมาด้วยความสามารถของมัน
หินปีศาจชั้นฟ้าสั่นอย่างรุนแรงเหมือนกับว่ามันกำลังกลัว แสงสีแดงของมันหายไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในหิน มันอดไม่ได้ที่จะลดระดับลงเล็กน้อยในอากาเหมือนกับว่ามันยอมจำนน มันไม่กล้าที่จะท้าทายจิตวิญญาณกระบี่เลยแม้แต่น้อย
“ไม่…ไม่…ไม่… นี่มันไม่จริง นี่มันมันจริง นี่มันของปลอม ของปลอม ทั้งหมดนี่คือของปลอม ! ” จักรพรรดิเลือดปีศาจกรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัวข้างในหินปีศาจชั้นฟ้า เสียงของเขาเต็มไปด้วยความกลัว จิตวิญญาณกระบี่ได้ฉายภาพเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตและดูดเลือดของจักรพรรดิเลือดปีศาจเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว ทุกทุกอย่างดูกลับตาลปัตรตรงหน้าเขา ไม่เพียงแต่เขาจะรู้สึกว่าคนพวกนี้น่ากลัวเพียงใด แต่เขายังสัมผัสอีกว่าการโจมตีธรรมดาแต่ละครั้งนั้นทรงพลังอย่างน่ากลัวเพียงใด
ทุก ๆ คนที่อยู่ภาพเหนือกว่าขอบเขตของเซียนจักรพรรดิ แม้แต่ตอนที่เขาอยู่ในจุดสูงสุด เขาก็คงไม่สามารถที่จะป้องกันการโจมตีธรรมดาจากใครในนี้ได้เลย แค่เลือดหยดเดียวของพวกนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำลายวิญญาณของเขา
ความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้เหนือกว่าความเข้าใจและความคิดของจักรพรรดิเลือดปีศาจ ความกลัวเริ่มที่จะถาโถมเข้าไปในจิตใจของเขา
“ข้าไม่เชื่อ ข้าขอปฏิเสธว่านี่เป็นเรื่องจริง มันเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งหมด ! ” เสียงกรีดร้องของจักรพรรดิเลือดปีศาจดังออกมาอย่างต่อเนื่องจากหินปีศาจชั้นฟ้า
เขาใช้เวลาหลายพันปีในการฝึกฝนอย่างอุตสาหะเพื่อที่จะได้เป็นเซียนจักรพรรดิ เขาเป็นหนึ่งในจอมยุทธไม่กี่คนในอาณาจักรทะเลและแม้แต่เจ้าศาลาทั้งสามยังต้องกลัวเขา เขายิ่งใหญ่มาก
แต่ในตอนนี้ เขาก็พบแล้วว่าพลังของเขาทั้งหมดที่ได้รับมาในช่วงหลายพันปีนั้นด้อยค่าเพียงใด มันถาโถมใส่เขาอย่างหนักเมื่อเขาพบว่ามันไร้ค่าเพียงใด เขาปฏิเสธที่จะยอมรับมัน
“วิญญาณของเขาครึ่งหนึ่งถูกใช้ไปแล้ว นายท่าน ทำไมท่านไม่รีบจัดการมันไปเลยล่ะ ? ” เสียงของจือหยิงดังออกมา
เจี้ยนเฉินควบแน่นกระบี่ออกมาอย่างไม่ลังเลและกระบี่ก็พุ่งไปที่หินปีศาจชั้นฟ้าอย่างไม่ปราณี
กระบี่ของเจี้ยนเฉินแทงเข้าไปที่หินปีศาจชั้นฟ้าอย่างแม่นยำ ทำให้มันสั่นไหวอย่างรุนแรง ทันใดนั้นเอง เสียงกรีดร้องที่สยดสยองก็ดังออกมา มันดังออกมาจากจักรพรรดิเลือดปีศาจ
วิญญาณของจักรพรรดิเลือดปีศาจในตอนนี้มีพลังเพียงครึ่งหนึ่งเทียบกับก่อนหน้านี้เท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่สามารถต่อต้านการโจมตีของเจี้ยนเฉินได้เลย
“หินปีศาจชั้นฟ้า เอาข้าออกไปเร็ว ! ” เสียงของจักรพรรดิเลือดปีศาจเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขารู้สึกได้เลยว่าความตายนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
อยางไรก็ตาม หินปีศาจชั้นฟ้ายังคงค้างอยู่กลางอากาศและไม่สนใจคำสั่งเลยแม้แต่น้อย
เจี้ยนเฉินควบแน่นกระบี่ที่สองขึ้นมา และโจมตีไปที่หินปีศาจชั้นฟ้าอย่างโหดร้าย
จักรพรรดิเลือดปีศาจโหยหวนออกมาอีกครั้ง หินปีศาจชั้นฟ้าไม่ได้ปกป้องเขาแม้แต่น้อย ดังนั้นวิญญาณของเขาจึงอ่อนแอมากในตอนนี้
“จักรพรรดิเลือดปีศาจ ข้าจะส่งเจ้าไปตามทางของเจ้า ให้ข้าได้ลิ้มรสการสังหารเซียนจักรพรรดิหน่อยเถอะ” เสียงของเจี้ยนเฉินเย็นชาและปราศจากความสงสาร กระบี่ที่สามควบแน่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะโจมตีไปที่หินปีศาจชั้นฟ้าในขณะที่กระบี่ทำให้เกิดเสียงตัดผ่านอากาศไป
ปัง !
วิญญาณของจักรพรรดิเลือดปีศาจพังทลายลงด้วยเสียงที่นุ่มนวลและค่อย ๆ หายไปในทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉิน ชิ้นส่วนความทรงจำลอยออกมา ทำให้เจี้ยนเฉินเห็นอดีตของเขาได้อย่างชัดเจนเมื่ออยู่ในทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเขา
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว จักรพรรดิเลือดปีศาจเป็นผู้ฝึกฝนที่มีพรสวรรค์เล็กน้อยเท่านั้นในอาณาจักรทะเล แต่ความโชคดีของเขา เขาถูกเลือกโดยหินปีศาจชั้นฟ้า ซึ่งหลอมรวมเข้ากับวิญญาณของเขาและได้ให้วิธีการฝึกฝนแก่เขาไป จากนั้นเป็นต้นมา ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
จักรพรรดิเลือดปีศาจทุ่มเทในการฝึกฝนและได้เป็นเซียนผู้คุมกฎในเวลาไม่ถึง 300 ปี เซียนราชาใน 800 ปี และเซียนจักรพรรดิใน 2,300 ปี เขาได้กลายเป็นตำนานของอาณาจักรทะเล
เจี้ยนเฉินยังได้รู้จากชิ้นส่วนของความทรงจำจากจักรพรรดิเลือดปีศาจว่า เขาได้ออกเดินทางทันทีที่เขาได้เป็นเซียนจักรพรรดิและได้ก่อตั้งนิกายดาบโลหิตขึ้นบนทวีปเทียนหยวน และได้ถ่ายทอดวิธีการฝึกฝนในแบบที่ปรับปรุงแล้วให้คนอื่น
หลังจากนั้น เขาก็กลายเป็นศัตรูกับศาลาทั้งสาม และได้ต่อสู้กับจักรพรรดิของศาลาทั้งสามที่มิติด้านนอกก่อนที่จะตายไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม วิญญาณของเขาก็หนีออกมาได้ด้วยการปกป้องจากหินปีศาจชั้นฟ้า ทำให้เขาได้รักษาตัวเองหลังจากที่ซ่อนอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์
โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดถูกสร้างขึ้นมาด้วยวิชาของจักรพรรดิเลือดปีศาจ แต่เดิมแล้วมันชื่อว่าโถงศักดิ์สิทธิ์โลหิตปีศาจ จักรพรรดิเลือดปีศาจตกอยู่ในสภาวะจำศีลเพราะเขาอ่อนแอลงหลังจากที่เขาหนีออกมาได้ ตอนที่เขาตื่นขึ้น เขาก็พบว่าวิญญาณของเขานั้นไม่สามารถออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ ทั้งหมดที่เขาทำได้มีเพียงรอด้านในจนชีวิตของเขาจะหาไม่ และปล่อยให้วิญญาณของเขาค่อย ๆ หายไป
เขาหลับอยู่หมื่นปีและรอดมาได้เนื่องจากการปกป้องของหินปีศาจชั้นฟ้า จากนั้นโถงศักดิ์สิทธิ์นี้ถูกพบเข้าโดยจอมยุทธ 16 ดาวเมื่อหมื่นปีก่อนและจอมยุทธก็เอาโถงมาเป็นของตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เขาถูกพบเข้า จักรพรรดิเลือดปีศาจจึงซ่อนวิญญาณของตัวเองไว้ในส่วนลึกของโถง
หลายปีต่อมา จอมยุทธ 16 ดาวที่ได้พบโถงศักดิ์สิทธิ์โลหิตปีศาจก็ตัดผ่านกลายเป็นเซียนจักรพรรดิได้สำเร็จ เขาได้เปลี่ยนชื่อโถงศักดิ์สิทธิ์เป็นโถงศักดิ์สิทธิ์ซามิค และกลายเป็นจักรพรรดิซามิคที่โด่งดัง
หมื่นปีต่อมา จักรพรรดิซามิคก็ได้ตายไป ในตอนที่เขาทำสมาธิอยู่ตอนที่เขาใกล้ตาย จักรพรรดิเลือดปีศาจที่ซ่อนอยู่ในหินปีศาจชั้นฟ้าก็รวมตัวตัวเข้ากับเขาทันทีในช่วงเวลาสำคัญที่เขาไม่ทันระวังตัวและกลืนกินวิญญาณของเขาในขณะที่เขาอ่อนแอลง นี่เป็นการต่อเวลาให้จักรพรรดิเลือดปีศาจ
อีกหมื่นปีผ่านไป จักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดก็พบโถงศักดิ์สิทธิ์บทสวด เขาก็เอามันไปเป็นของตัวเอง และตั้งชื่อมันใหม่ว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด
ในช่วงหลายพันปีที่เขาครอบครองโถงอยู่ จักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดก็ไม่เจอจักรพรรดิเลือดปีศาจเลย ในตอนที่เขากำลังจะจบชีวิต เขาไม่ต้องการที่จะเห็นตำนานของเขาจบลงตรงนี้ ดังนั้นเขาจึงใช้ช่วงเวลาสองสามปีสุดท้ายในการปรับเปลี่ยนโถงศักดิ์สิทธิ์ใหม่และต้องการที่จะเหลือทิ้งตำนานของเขาเอาไว้
จักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดทำสมาธิอยู่ที่ชั้นที่เก้าในขณะที่เขากำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ชีวิตของเขากำลังจะจบลงและวิญญาณของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็วและและอ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดเลยว่า เขาจะต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างกะทันหันจากวิญญาณของจักรพรรดิเลือดปีศาจในช่วงเวลาสุดท้าย จักรพรรดิเลือดปีศาจต้องการที่จะกลืนกินวิญญาณของเขา
เขาแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิซามิคมาก ดังนั้นเขาจึงใช้ทุกอย่างที่มีในการต่อสู้กับวิญญาณของจักรพรรดิเลือดปีศาจในตอนสุดท้าย พวกเขาทำให้ชั้นที่เก้าเละเทะแต่สุดท้ายวิญญาณของเขาก็ถูกกลืนกินเข้าไปอยู่ดี
วิญญาณของจักรพรรดิเลือดปีศาจได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ แต่เขาก็ฟื้นฟูขึ้นมาจากการกลืนกินวิญญาณของจักรพรรดิของแผ่นดิทั้งแปด จากนั้นเขาจึงใช้ผลงานของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดและปรับปรุงโถงศักดิ์สิทธิ์
ดังนั้นโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดที่แต่เดิมมีไว้เพื่อเลือกผู้สืบทอดของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดจึงถูกเปลี่ยนไปใช้ในแผนการในการฟื้นคืนชีพของจักรพรรดิเลือดปีศาจในที่สุด
“นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ข้าไม่คิดเลยว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดจะมีประวัติศาสตร์แบบนี้ โถงศักดิ์สิทธิ์นี้แต่แรกถูกสร้างขึ้นมาโดยจักรพรรดิเลือดปีศาจ แต่มันก็ถูกเปลี่ยนมือไปสองครั้งหลังจากนั้น ซึ่งนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมชื่อของมันถึงได้เปลี่ยนไปด้วย วิญญาณของจักรพรรดิซามิคและจักรพรรดิของแผ่นดิทั้งแปดได้ถูกกลืนกินไปโดยจักรพรรดิเลือดปีศาจ”
“ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่า นิกายดาบโลหิตที่ทวีปเทียนยวนจะถูกก่อตั้งโดยจักรพรรดิเลือดปีศาจเมื่อหลายหมื่นปีที่ผ่านมา”
เจี้ยนเฉินยังไม่สามารถที่จะยอมรับได้หลังจากที่เขาได้รู้เรื่องทั้งหมดนี้ ใจของเขาปั่นป่วนอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับนิกายดาบโลหิตที่ถาโถมเขาด้วยความเหลือเชื่อ จักรพรรดิเลือดปีศาจเป็นผู้ก่อตั้งนิกายดาบโลหิตจริง ๆ