เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 987: พบเสี่ยวหลิงอีกครั้ง
ตอนที่ 987: พบเสี่ยวหลิงอีกครั้ง
“น้องเจี้ยนเฉิน พวกเราจะพูดถึงเรื่องการแก้แค้นในคราวหน้าในเมื่อเจ้าต้องการที่จะจัดการด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าก็บอกมาได้เลยถ้าเจ้าต้องการพวกเราทั้งสองคน พวกเราจะช่วยทุกอย่างที่พวกเราทำได้” เฮยยู่พูดออกมาอย่างจริงจัง เขาไม่ได้ล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย
“ข้าขอบคุณในความห่วงใยของผู้อาวุโส อย่างไรก็ตาม ในตอนที่ข้าทรงพลังมากพอที่จะจัดการกับนิกายยิหยวนในอนาคตได้แล้ว ข้าอาจจะไม่ต้องการให้พวกท่านช่วยเลยก็ได้” เจี้ยนเฉินขอบคุณพร้อมป้องมือ เขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อทั้งสองคนนี้มาก
อย่างไรก็ตาม ในใจของเจี้ยนเฉิน เขาก็คิดว่าการที่รุยจินและเฮยยู่ปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้นั้นเป็นเพราะเสือขาว
หลังจากนั้น รุยจินและเฮยยู่ตัดสินใจที่จะไปที่เมืองทหารรับจ้างกับเจี้ยนเฉิน เผื่อว่านิกายยิหยวนและตระกูลผู้พิทักษ์อื่นจะมาซุ่มโจมตีเจี้ยนเฉินอีกครั้ง เจี้ยนเฉินใช้พลังงานดั้งเดิมจากพลังเซียนธาตุแสงเพื่อที่จะรักษาบาดแผลของเขา ก่อนที่จะจากไปพร้อมกับรุยจินและเฮยยู่
แม้ว่าเมืองทหารรับจ้างจะอยู่ไกลมาก แต่ระยะทางก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจี้ยนเฉินเมื่อเขามีเซียนราชา 2 คนอยู่ข้าง ๆ เขา เฮยยู่เปิดประตูมิติออกและเดินทางไปที่ถึงที่นอกเมืองทหารรับจ้างทันที
เจี้ยนเฉินเห็นม่านพลังใหญ่ที่คุ้นเคยรอบ ๆ เมืองทหารรับจ้างแต่ไกล เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงรอบยิ้มที่แสนซนของเสี่ยวหลิง
เขาได้รู้ถึงความน่ากลัวและความทรงพลังของเสี่ยวหลิงจากเทพเจ้าแห่งท้องทะเล แม้ว่าเสี่ยวหลิงจะดูเหมือนจะมีอายุแค่สิบเอ็ดหรือสิบสองปี แต่ความแข็งแกร่งของนางก็ไม่เหมาะสมกับรูปลักษณ์ของนางเลยแม้แต่น้อย อายุของนางนั้นอยู่ในระดับที่บอกไม่ได้ และนางนั้นมาจากยุคโบราณกาลหลายแสนหรืออาจจะถึงหลายล้านปีผ่านมาแล้วจนถึงตอนนี้
เจี้ยนเฉินไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขาแม้แต่น้อยเมื่อมีการคุ้มครองจากรุยจินและเฮยยู่ ดังนั้น เขาจึงปล่อยเสือขาวที่แอบอยู่ด้านในออกมา ก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าไปในเมืองทหารรับจ้างพร้อมกับรุยจินและเฮยยู่
เสือขาวไม่สามารถที่จะลบพลังแห่งการมีอยู่ของมันได้เหมือนกับรุยจินและเฮยยู่ ทันทีที่มันปรากฏตัวออกมา พลังแห่งการมีอยู่จากสายเลือดในฐานะที่เป็นพยัคฆ์ปีกเทวะก็กระจายไปรอบ ๆ ทำให้สัตว์อสูรที่ถูกทหารรับจ้างที่อยู่ใกล้ ๆ หมอบลงกับพื้นและตัวสั่น พวกมันไม่ยอมลุกขึ้นไม่ว่าทหารรับจ้างจะทำอย่างไร ทำให้พวกเขางงมาก
เมืองทหารรับจ้างไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้จะผ่านไปหลายปีแล้ว มันเหมือนเดิมเหมือนครั้งแรกที่เจี้ยนเฉินมาที่นี่ครั้งแรก เขาเห็นกลุ่มทหารรับจ้างที่อยู่ในชุดที่แตกต่างกันกำลังเข้าออกเมืองบนหลังสัตว์อสูร เมืองพลุกพล่านมาก
เสือขาวกระโจนไปรอบ ๆ ไหล่ของเจี้ยนเฉินด้วยขนาดที่เท่ากับแมว ในขณะที่มันกระพริบตาเล็กที่สดใสของมันอย่างต่อเนื่อง มันมองไปรอบ ๆ เหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างน่าสนใจไปหมด
“พี่ใหญ่ มันเป็นกลิ่นของพี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงได้กลิ่นพี่ใหญ่และกลิ่นของนายท่าน ในที่สุดพี่ใหญ่ก็มาหาเสี่ยวหลิงแล้ว เสี่ยวหลิงคิดถึงพี่ใหญ่มาก”
เสียงของเสี่ยวหลิงดังขึ้นมาทันทีที่เจี้ยนเฉินเข้ามาในม่านพลังของเมืองทหารับจ้าง เจี้ยนเฉินได้ยินมันอย่างชัดเจน และร่างของเสี่ยวหลิงก็ปรากฏขึ้นมาอย่างช้า ๆ ตรงหน้าเจี้ยนเฉิน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความยินดี
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจหลังจากที่ได้เห็นใบหน้าที่แสนซนของเสี่ยวหลิง “เสี่ยวหลิง พี่ใหญ่มาหาเจ้าแล้ว”
เสี่ยวหลิงขมวดคิ้วและเผยท่าทีไม่พอใจออกมา นางเบะปากพลางเอ่ยว่า “พี่ใหญ่นิสัยไม่ดี พี่ใหญ่ผิดสัญญา เสี่ยวหลิงรอนานมากกว่าที่ท่านจะมาหา หืม เสี่ยวหลิงหงุดหงิดมาก เสี่ยวหลิงโกรธ”
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างขมขื่น “เสี่ยวหลิง มันไม่ใช่ว่าพี่ใหญ่ไม่ต้องการจะพบเจ้า แต่ข้าถูกบีบจากตระกูลผู้พิทักษ์และทวีปสัตว์เทวะให้ต้องไปซ่อนตัวอยู่ที่อื่นนอกทวีป ข้าเพิ่งกลับมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ เสี่ยวหลิง ถ้าข้าไม่ทำแบบนั้น มันอาจจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะได้มาพบเจ้าในวันนี้ ข้าอาจจะไม่ได้พบเจ้าอีกเลย”
เจี้ยนเฉินไม่ได้สังเกตว่ารุยจินและเฮยยู่มองเขาอยู่อย่างแปลก ๆ ไม่น้อย เขามุ่งความสนใจไปที่เสี่ยวหลิง มีเพียงเจี้ยนเฉินเท่านั้นที่สามารถเห็นนาง ในขณะที่รุยจินและเฮยยู่สัมผัสถึงนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย สำหรับพวกเขาแล้ว เจี้ยนเฉินนั้นกำลังคุยกับอากาศที่ว่างเปล่าและยิ้มอย่างโง่งมให้กับมัน เขายืนอยู่ตรงนั้นพร้อมทั้งพึมพำกับตัวเอง เหมือนว่าเขากำลังเสียสติ
ข้าง ๆ รุยจินและเฮยยู่ ทหารรับจ้างและพ่อค้าสองสามคนที่ผ่านมาสังเกตเห็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดนี้ พวกเขาทั้งหมดมองแปลก ๆ ไปที่เจี้ยนเฉิน
เสี่ยวหลิงก้มหัวลงคิดหลังจากที่ได้ยินเจี้ยนเฉินอธิบายและหยุดขมวดคิ้ว นางยิ้มหวานอีกครั้งและพูดอย่างซุกซน “เอาล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นเสี่ยวหลิงจะยกโทษให้พี่ใหญ่ ถ้าเช่นนั้นพี่ใหญ่ต้องมาหาเสี่ยวหลิงบ่อยขึ้นในอนาคตนะ ถ้ามีคนเลวจะทำร้ายพี่ใหญ่ ให้มาหาเสี่ยวหลิง เสี่ยวหลิงจะปกป้องพี่ใหญ่และไล่คนเลวไปเอง”
เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างแรง “โอเค เมื่อพี่ใหญ่เจอเข้ากับคนเลวที่ไม่สามารถเอาชนะได้ ข้าจะรบกวนเสี่ยวหลิงนะ”
“ฮี่ฮี่ อย่ากังวลไปพี่ใหญ่ ถ้าเสี่ยวหลิงอยู่ที่นี่ ไม่มีใครที่จะทำร้ายพี่ใหญ่ได้” เสี่ยวหลิงพูดในขณะที่นางยิ้มอย่างมีความสุข
เฮยยู่หมดความอดทนในขณะที่เขามองเห็นเจี้ยนเฉินที่กำลังพึมพำกับตัวเองอย่างต่อเนื่อง เขาแตะเจี้ยนเฉินและจ้องไปที่เขาด้วยความสงสัย “น้องเจี้ยนเฉิน เจ้าสบายดีหรือไม่ ? ทำไมเจ้าถึงพูดกับตัวเองล่ะ ? เจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร ? “
เจี้ยนเฉินกลับมาได้สติในที่สุดเมื่อเฮยยู่พูดแบบนั้น จากนั้นเขาจึงนึกได้ว่าไม่มีใครเห็นเสี่ยวหลิงได้นอกจากนางต้องการจะให้คนคนผู้นั้นเห็น
เจี้ยนเฉินหัวเราะแห้ง ๆ และพูดกับเฮยยู่ “ผู้อาวุโส ข้ากำลังพูดอยู่กับสหายของข้า ตัวตนของสหายข้านั้นค่อนข้างพิเศษ ไม่มีใครที่จะเห็นนางได้นอกจากนางจะต้องการให้เห็น”
“เป็นแบบนั้นหรอกหรือ ? พวกเราไม่สามารถเห็นเพื่อนของเจ้าได้ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราอย่างนั้นหรือ ? ” เฮยยู่ปฏิเสธที่จะเชื่อว่ายังมีคนที่อยู่ในปัจจุบันนี้ที่มีความสามารถใกล้เคียงกับเขาแล้วยังไม่กลัวเขาอีก คนผู้นั้นคงต้องเป็นคนที่น่ากลัวมากจริงจริง
แม้แต่รุยจินยังยากที่จะเชื่อแบบนี้ เขาพึมพำในใจในขณะที่เขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินนั้นจริงจังเพียงใด “มีการมีอยู่ที่น่ากลัวขนาดนนั้นอยู่ในโลกปัจจุบันนี้ด้วยหรือ ? “
เจี้ยนเฉินไม่สนใจรุยจินและเฮยยู่ที่ตกใจอยู่และเขาก็พูดกับเสี่ยวหลิงต่อ “มันไม่สะดวกที่จะคุยกันที่นี่ เสี่ยวหลิง พวกเราไปคุยกันที่อื่นกันเถอะ”
“เอาล่ะ ตกลง ? ” เสี่ยวหลิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง นางกำลังจะหายตัวไป แต่ตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นมา นางปรากฏตัวข้าง ๆ เจี้ยนเฉินและสูดกลิ่นเขาอย่างแรง นางร้องออกมาทันที “พี่ใหญ่ กลิ่นของนายท่านบนตัวของท่านแรงขึ้นเรื่อย ๆ ท่านเห็นนายท่านหรือเปล่า ? หืม ? ทำไมมันถึงมีกลิ่นเหมือนนายท่านเหมือนกัน ? และกลิ่นนั้นมันแรงกว่าพี่ใหญ่อีก” เสี่ยวหลิงอึ้งในขณะที่นางชี้ไปที่เสือขาว อย่างไรก็ตาม นางก็เข้าใจได้อย่างเร็ว ดีใจมากกว่าเดิม นางร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง “พี่ใหญ่ เจ้าต้องพบนายท่านมาแน่ ท่านต้องได้พบกับนายท่านมาแน่ ใช่หรือไม่ ? บอกเสี่ยวหลิงเร็ว เสี่ยวหลิงคิดถึงนายท่านมาก นายท่านอยู่ที่ไหน ? ” ในตอนสุดท้าย เสียงของเสี่ยวหลิงก็เกือบเหมือนสะอื้นและนางน้ำตาคลอ
“เสี่ยวหลิง ข้าพบกับนายท่านของเจ้ามาจริง ๆ แต่เขาก็เหลืออยู่ในรูปแบบของวิญญาณเท่านั้น นายท่านของเจ้าบอกข้าให้มาบอกเจ้าว่าเมื่อเจ้าทำภารกิจสำเร็จแล้ว เจ้าจะได้เป็นอิสระ อีกทั้งเจ้าจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนอย่างหนักด้วยวิธีที่นายท่านของเจ้าส่งมอบมาให้เมื่อหลายปีที่แล้ว” เจี้ยนเฉินพูด จากนั้น เขาก็มองไปที่เสือขาว เขาก็สงสัยเช่นเดียวกัน เมื่อเขาเห็นโมเทียนหยุนในครั้งแรก โมเทียนหยุนเป็นแค่วิญญาณเท่านั้น อีกทั้ง เสี่ยวหลิงยังบอกว่ากลิ่นของโม่เทียนหยุนบนตัวของเขาได้จางหายไปเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อครั้งล่าสุดที่เขาพบกับนางด้วย แต่เป็นไปได้อย่างไรที่กลิ่นมันยังอยู่หลังจากที่เวลาผ่านมามากขนาดนั้น ? อีกทั้ง กลิ่นของโม่เทียนหยุนยังแรกกว่าบนตัวของเสือขาวอีก ? เจี้ยนเฉินไม่เข้าใจเรื่องนี้จริง ๆ
ตอนนั้น เสือขาวแค่ออกมาจากมิติของวัตถุเซียนมาเพียงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ไม่นานไปกว่าช่วงเวลาที่เขาและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อยู่กับโมเทียนหยุนเลย แม้ว่าในตอนนี้มันจะกลิ่นเหมือนโม่เทียนหยุน มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่กลิ่นของโม่เทียนหยุนจะแรงไปกว่ากลิ่นที่อยู่บนตัวเขาเลย
“มันเป็นเพราะว่าเสือขาวอยู่ในมิติของวัตถุเซียนอยู่ตลอดหรือเปล่า กลิ่นของโม่เทียนหยุนถึงได้หายไปช้าลง ในขณะที่ข้าได้ใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมาไปกับการต่อสู้และพบปะคนอื่น มันจึงทำให้กลิ่นของโม่เทียนหยุนหายไปเร็วขึ้น ? ” เจี้ยนเฉินคิด
“ฮือ ฮือ นายท่านอยู่ที่ไหน ? ” เสี่ยวหลิงพูดออกมาในขณะที่นางเช็ดน้ำตา
เจี้ยนเฉินส่ายหน้าและตอบกลับมา “เสี่ยวหลิง ข้าไม่รู้ว่านายท่านของเจ้าอยู่ที่ไหนในตอนนี้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ถ้านนายท่านของเจ้ายังไม่ตาย เจ้าน่าจะฝึกฝนอย่างหนัก เมื่อเจ้าทำภารกิจสำเร็จและเป็นอิสระแล้ว เจ้าก็จะสามารถไปตามหาเขาได้”
ไฟแห่งความหวังลุกขึ้นมาในตาของเสี่ยวหลิง นางพยักหน้าอย่างแน่วแน่แล้วพูดออกมาว่า “พี่ใหญ่พูดถูก เสี่ยวหลิงจะฝึกฝนอย่างหนักในอนาคต เสี่ยวหลิงจะไปตามหาว่านายท่านอยู่ที่ไหนหลังจากที่เสี่ยวหลิงเสร็จภารกิจแล้ว”
ทันนั้นเอง เสี่ยวหลิงก็เงยหัวขึ้นมา นางขมวดคิ้วแล้วพูด “ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่อีก ? และครั้งนี้เจ้ายังยืนอยู่กลางอากาศเหนือเมืองทหารรับจ้างอีก นั่นเป็นการไม่เคารพนายท่าน ออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะสั่งสอนเจ้าอย่างหนัก มันจะต้องแย่กว่าครั้งก่อนแน่” ในขณะที่นางพูดแบบนั้น ม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างก็เริ่มจะเปล่งแสงแสบตาออกมา เสาแสงกว้างครึ่งเมตรได้พุ่งออกมาจากยอดสุดของม่านพลังไปบนท้องฟ้า
บู้ม !
มิติแตกกระจายในขณะที่พลังงานที่เหลืออยู่ก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว มันทำให้ท้องฟ้าทั้งหมดมืดครึ้ม
ชายวัยกลางคนปรากฏขึ้นที่ท้องฟ้าที่ว่างเปล่าในขณะที่เขาสั่นอย่างต่อเนื่อง เสื้อผ้าและผมของเขายุ่งเหยิง เขาอยู่ในสภาพย่ำแย่
“เซียนจักรพรรดิมนุษย์ ! “
“มารราคะ ! “
ท่าทางของเจี้ยนเฉิน รุยจิน และเฮยยู่เปลี่ยนไปในทันทีที่ชายวัยกลางคนปรากฎตัวขึ้นมา
มารราคะมองลงไปด้วยความตกใจทันทีที่เขาปรากฏตัวออกมา หลังจากนั้น เขาก็เปิดประตูมิติออกทันทีและจากไปอย่างไม่ลังเล เขาคิด “ดูเหมือนว่าข้าจะคิดถูก เจี้ยนเฉินมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับม่านพลังวิญญาณของเมืองทหารรับจ้างจริง ๆ “