เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 994: รัมกุยเนส
ตอนที่ 994: รัมกุยเนส
โหยวเยว่รู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมาทันทีเมื่อนางเห็นว่าเจี้ยนเฉินยอมรับคำขอเล็กน้อยของนาง นางมีความสุขมาก
ในตอนเช้าของวันต่อมา เจี้ยนเฉินก็พาโหยวเยว่ออกไปจากตระกูลเจียงหยางพร้อมกับรุยจินและเฮยยู่
ลมรุนแรงพัดผ่านพวกเขาเหมือนพายุทะเล มันส่งเสียงดังน่ากลัวเหมือนกับฟ้าร้อง
เจี้ยนเฉินจับเอวบางของโหยวเยว่เอาไว้ในขณะที่เขาบินไปกลางอากาศ เขาบินตรงไปทิศทางสู่พื้นที่ที่ไม่รู้จัก ม่านพลังจากพลังธรรมชาติป้องกันลมรอบ ๆ พวกเขาเอาไว้
โหยวเยว่หน้าแดงเล็กน้อยจากอ้อมกอดของเจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตาม นางก็เต็มไปด้วยความสุขเช่นกัน นางยิ้มเล็กน้อยในขณะที่นางมองไปที่ภาพด้านล่างที่เล็กลงไปเรื่อย ๆ และใบหน้าของเจี้ยนเฉิน
“เจี้ยนเฉิน พวกเรากำลังจะไปที่ไหน ? มันอันตรายหรือไม่ ? ” เสียงของโหยวเยว่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นในขณะที่นางมองเจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่เป็นประกาย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางเตร็ดเตร่ไปบนทวีปเทียนหยวน และนางยังได้ไปกับคนที่นางรักและชื่นชมมากที่สุด มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะไม่ตื่นเต้น
เจี้ยนเฉินพลิกฝ่ามือ และขนเสือสีขาวก็ปรากฏขึ้นมาบนมือของเขา สิ่งนี้ถูกทิ้งเอาไว้โดยแม่ของเสี่ยวไป๋ รัมกุยเนสตั้งแต่ตอนแรก นางทิ้งไว้เพื่อที่เจี้ยนเฉินจะได้ตามหานางได้ในอนาคต เจี้ยนเฉินค่อย ๆ เอาขนไปให้เสือขาวที่นอนอยู่บนไหล่ของเขา เขาพูด “เสี่ยวไป๋ มันขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วว่าจะหาแม่ของเจ้าเจอหรือไม่”
ความสนใจของเสือขาวพุ่งขึ้นมา ทันใดนั้นเอง มันก็ยืนขึ้น มันจ้องตาไม่กระพริบไปที่ขนสีขาวที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉินด้วยตาที่เบิกกว้าง อารมณ์ที่ปั่นป่วนที่หาได้ยากปรากฎขึ้นในตาที่บริสุทธิ์ของมัน
เสือขาวยังไม่ลืมตาเลยตอนที่มันจากแม่ของมันมา มันอาจจะไม่รู้ว่านางหน้าตาเป็นยังไงด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้ที่มันจะพลาดกลิ่นของแม่ของมัน เพราะว่านี่เป็นสัญชาตญาณธรรมชาติของสัตว์อสูรที่มนุษย์ไม่มี
“กรร….” เสือขาวคำรามในคอเหมือนมันกำลังร้องด้วยความปวดร้าว ดูเหมือนมันกำลังคุยกับเจี้ยนเฉิน แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย เสือขาวดูเหมือนจะคิดถึงแม่ของมันหลังจากที่ได้กลิ่นของนาง
เสือขาวในตอนนี้เป็นสัตว์อสูรระดับ 7 แต่เวลาตั้งแต่มันเกิดจนถึงตอนนี้ก็สั้นนัก จิตใจของมันในตอนนี้ไม่ได้พัฒนามากไปกว่าเสี่ยวหลิงจากเมืองทหารรับจ้างเลย
เสือขาวยกขาหน้าที่มีขนของมันและอ้าปากของมันออกเล็กน้อย มีดสายลมพุ่งออกมาและตัดไปที่อุ้งเท้าของมัน ทันใดนั้นเอง หยดเลือดสีแดงสดก็หยดออกมาและร่วงลงอย่างแม่นยำไปที่ขนที่อยู่บนมือของเจี้ยนเฉิน
มีแค่เลือดของเสือขาวเท่านั้นที่สามารถจะทำให้ขนที่รัมกุยเนสทิ้งไว้ทำงานขึ้นมาได้
ขนเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งหมดทันทีหลังจากที่มันดูดซึมเลือดเข้าไป มันเริ่มที่จะสว่างไปด้วยแสงสีแดงชั่วร้าย ก่อนที่มันจะหลุดออกจากมือของเจี้ยนเฉิน มันพุ่งออกไปไกลด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
เจี้ยนเฉินรัดโหยวเยว่เอาไว้แน่นและหลอมรวมกับมิติรอบ ๆ เขาใช้พลังมิติในการเดินทาง ทุกอย่างกลายเป็นภาพติดตาในขณะที่เขาไล่ตามขนเสือไป
..
ทางเหนือของทวีป มีบึงมีปกคลุมไปด้วยหมอกพิษอยู่ตลอดเวลา แมลงมีพิษและและสัตว์ที่ดุร้ายนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ในบึง และยังมีสัตว์อสูรระดับ 6 อีกเป็นจำนวนมาก
บึงอยู่ในเขตที่แยกห่างไกลออกไปมากเพราะว่าพิษนั้นรุนแรงมาก แม้แต่เซียนปฐพีก็ไม่สามารถต้านทานมันได้ และยาแก้พิษส่วนมากก็ไม่มีผล ดังนั้น มันจึงถูกตีตราว่าเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับทหารรับจ้างส่วนมาก มีเฉพาะเซียนสวรรค์เท่านั้นที่สามารถรอดอยู่ที่นี่ได้
ในจุดกึ่งกลางของบึง เสียงระเบิดดังออกมาอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีหมอกพิษสีเขียวหนาแน่นปกคลุมอยู่บริเวณนั้น มันทำให้หมอกปั่นป่วนอย่างต่อเนื่องในขณะที่คลื่นพลังงานที่รุนแรงเปล่งรัศมีออกมาจากมัน
จอมยุทธมากกว่าสิบคนลอยอยู่กลางอากาศที่จุดกึ่งกลาง พวกเขากระหน่ำการโจมตีที่ทรงพลังครั้งแล้วครั้งเล่าไปที่บึงด้านล่าง
การโจมตีที่รุนแรงทำให้เกิดคูขนาดใหญ่ มันมันเผยให้เห็นม่านพลังหมอง ๆ ที่ปกคลุมโพรงใต้ดินเอาไว้ มันดูเหมือนจะสั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การกระหน่ำโจมตี มันเป็นสัญญาณว่าม่านพลังกำลังจะแตกออก
“พยายามเข้าไปอีก ทุกคน ม่านพลังมีพลังงานไม่พอแล้ว มันกำลังจะสลายไปในไม่ช้า” ชายชราผมเทาในชุดสีทองหรูหราลอยอยู่กลางอากาศในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่ม่านพลังซึ่งกำลังสั่นสเทือน เขาบอกให้เซียนสวรรค์โจมตีไปที่ม่านพลังตามลำดับ ซึ่งทำให้พลังงานของม่านพลังหายไปเรื่อย ๆ
ชายชราเป็นหัวหน้าตระกูลคนก่อนของตระกูลใหญ่ที่อยู่ใกล้ ๆ เขาเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดในกลุ่มด้วยและเขาเป็นเซียนผู้คุมกฎด้วย อย่างไรก็ตาม เขายังอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 1 เท่านั้น
“เฒ่าโฮว เจ้ามั่นใจนะว่ามีสัตว์อสูรระดับ 7 ที่บาดเจ็บสาหัสซ่อนอยู่ในม่านพลังนี้ ? สัตว์อสูรระดับ 7 ที่มีระดับการฝึกฝนเดียวกันกับเจ้า และสัตว์อสูรที่ที่มีความสามารถโดยธรรมชาติที่ทรงพลังกว่าพวกเรา ถ้าเราทำลายม่านพลังเข้าไป พวกเราจะทำให้สัตว์อสูรด้านในโมโหเป็นแน่ ถ้ามันไม่ได้อ่อนแอเหมือนที่เจ้าคาดไว้ล่ะก็ มันต้องเป็นหายนะแน่ ๆ ” เซียนสวรรค์ถามออกไปด้วยความกังวลในขณะที่เขาโจมตีไปที่ม่านพลัง
ชายชราที่ถูกเรียกว่าเฒ่าโฮวมองอย่างเย็นชาไปที่เซียนสวรรค์ สายตาของเขาเหมือนมีดที่แหลมคมซึ่งแทงไปที่หัวใจของเซียนสวรรค์ มันทำให้เซียนสวรรค์ตัวสั่นทันที และความกลัวก็พุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจของเขา
คนที่ต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎก็เหมือนมดปลวก แม้ว่าเฒ่าโฮวจะอยู่แค่ในชั้นสวรรค์ที่ 1 แต่เซียนสวรรค์ก็เหมือนมดปลวกต่อหน้าเขา
“อย่ากังวลไปเลย เมื่อข้าพบบางสิ่งที่แปลกที่นี่ ข้าก็จับตาดูมาตลอด ข้ามั่นใจว่ามีสัตว์อสูรระดับ 7 ที่บาดเจ็บซ่อนอยู่ในม่านพลังนี้ มันต้องกำลังฟื้นฟูอยู่ที่นี่แหละ ดังนั้นมันจึงไม่เป็นอันตรายกับเราหรอก” เฒ่าโฮวพูดอย่างเฉยเมย เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาบอกได้เลยว่าสัตว์อสูรที่ซ่อนอยู่ในม่านพลังนี้นั้นแข็งแกร่งกว่าเขามาก ถ้ามันไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาก็คงไม่มายั่วยุมัน เขาไม่ได้ร่วมในการโจมตีม่านพลัง เพราะเขาจำเป็นต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อที่จะจัดการกับการโจมตีสวนกลับของสัตว์อสูรนี้
“แกนอสูรระดับ 7 เป็นสมบัติล้ำค่าของทวีปเทียนหยวน มันประเมินค่าไม่ได้ ถ้าข้าได้แกนอสูรระดับ 7 มาดูดซับพลังงานที่อยู่ด้านในเข้าไป ความแข็งแกร่งของข้าต้องเพิ่มไปอีกระดับแน่” เฒ่าโฮวคิด
เสือขาวราวหิมะยาว 3 เมตรนอนอยู่อย่างอ่อนแอในถ้ำมืดที่ได้รับการป้องกันไว้จากม่านพลัง มันจ้องอย่างไร้พลังไปที่ม่านพลังที่กำลังสั่นอย่างต่อเนื่องด้วยตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
นางคือแม่ของเสี่ยวไป๋ รัมกุยเนส
ในตอนแรกที่ราชาเสือจากตระกูลกิลลิกันทำให้นางบาดเจ็บ นางก็เกือบตายและอ่อนแอมาก ราชาเสือยังได้ทิ้งพลังเอาไว้ในร่างของนาง และมีเพียงเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสดงระดับ 7 เท่านั้นที่สามารถลบล้างมันได้ พลังถูกผนึกเอาไว้ด้วยพลังของเจี้ยนเฉินที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ในตอนนั้น อย่างไรก็ตาม นี่ก็ทำให้นางมีกำลังและความเร็วในการฟื้นฟูที่จำกัด
นางต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมดของนางในการข่มพลังมืดเอาไว้ ไม่เช่นนั้นมันก็คงหลุดออกมาจากผนึกพลังเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง นางคงต้องตายแน่ถ้าเป็นแบบนั้น
มันกินพลังของนางไปเยอะมากที่จะรักษาให้ผนึกยังอยู่ นางเหลือพลังแค่หนึ่งในร้อยส่วนของพลังสูงสุดเท่านั้น แบบนี้ ถ้าม่านพลังถูกทำลายแม้แต่เซียนสวรรค์ก็ยังสามารถฆ่านางได้ อย่าว่าแต่เซียนผู้คุมกฎเลย
ทันทีที่นางจะตอบโต้กลับไป พลังของราชาเสือก็คงทำลายผนึกพลังเซียนธาตุแสงที่เจี้ยนเฉินผนึกเอาไว้เป็นแน่