เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 1089
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1089
เมื่อก่อนลูกไม้นี้ของเธอเล่นงานเย่เมิ่งเหยียน เรียกว่าราบรื่นมาตลอด ทำไมครั้งนี้ถึงล้มเหลวได้?
……
ในขณะเดียวกัน
ในสถานที่มิดชิดแห่งหนึ่ง มีคฤหาสน์โบราณตั้งอยู่
บริเวรรอบ ๆ ช่างเงียบเป็นพิเศษ
เต็มไปด้วยเสียงวิหคมวลดอกไม้
ที่กลางห้องโถง
ทูตอันดับหนึ่งแห่งสำนักยมบาล สวมชุดดำยืนอยู่ตรงนั้น
“ปีศาจหงอ ฉันควรเรียกนายว่า ทูตอันดับหนึ่งแห่งสำนักยมบาล หรือควรเรียกนายว่าหัวหน้าสำนักกุ่ยเหมินดี?”
ทันใดนั้น
ก็มีเสียงเย็นชาดังมาจากข้างหลัง
ปีศาจหงอก็ไม่เหลียวมาเอ่ยด้วยเสียงหัวเราะเรียบ ๆ ว่า: “ท่านหวูตี่ คุณจะเรียกผมว่าทูตอันดับหนึ่งหรือหัวหน้าสำนักกุ่ยเหมินก็ได้ ยังไงชื่อเสียงเรียงนามสำหรับผมแล้วก็เป็นแค่สัญลักษณ์เท่านั้น!”
“หึ!”
อีกฝ่ายไม่แยแสเรื่องนี้ ทำเสียงแสยะใส่
“ทำไมเจ้าสำนักยมบาลไม่มาด้วยตัวเอง?ระยะนี้เขาทำให้ฉันไม่พอใจขึ้นทุกวัน ชิ้นส่วนมงกุฎมังกรถูกคนอื่นชิงไปติดต่อกันสองชิ้นแล้ว!”
“เขาคิดว่าฉันจะอดทนกับเขาได้อีกเหรอ?”
พอได้ยิน
ปีศาจหงอก็เหลียวหันมา มองดูผู้ชายผมสีแดงแล้วก็หัวเราะขึ้นมา
“ท่านหัวหน้าสำนักยมบาลมีภารกิจรัดตัวมาก จะมีเวลามาได้ยังไง?”
“อีกทั้งท่านหัวหน้าสำนักยมบาลได้บอกแล้วว่า เขากับคุณมีความสัมพันธ์แค่ร่วมมือกัน คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งการเขา!”
เสียงสนั่นหวั่นไหวดังขึ้น!
พอได้ยินคำนี้
ตัวของชายผมสีแดง ก็ระเบิดไอสังหารขึ้นมาทันที
ไอสังหารนี้มหาศาลยิ่งนัก
ราวกับพายุคลั่งที่พัดผ่านไป
ชุดคลุมสีดำของปีศาจหงอ ถูกพัดจนกระพือเสียงดัง
ทว่าการเผชิญไอสังหารที่น่ากลัวของชายผมแดง
ปีศาจหงอก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยนัยน์ตาไม่ไหวติงดั่งน้ำในบ่อที่ไม่กระเพื่อม
ชายผมแดงกัดฟันเอ่ยว่า: “เขาลืมแล้วหรือไงว่าตอนนั้นถ้าไม่มีผม เขาจะขึ้นเป็นบัลลังค์เจ้าสำนักยมบาลได้หรือ?บัดนี้ปีกกล้าขาแข็งแล้วก็คิดจะบินแล้วใช่มั๊ย?”
“เขาช่างไร้เดียงสาสิ้นดี!หรือเขาไม่รู้ว่า ตระกูลปลีกวิเวทไม่พอใจเขาอย่างยิ่ง?”
ปีศาจหงอยังคงหัวเราะไม่เอ่ยอะไร
เขารู้ว่าที่ชายผมแดงพูด เจ้าสำนักยมบาลก็รู้แล้ว
แต่เจ้าสำนักยมบาลไม่เคยใส่ใจ
เหอะ ๆ……
ตระกูลปลีกวิเวทเหรอ?
เมื่อก่อนเยี่ยมยอดจริง ๆ
แต่ตอนนี้……
มีใครรู้ว่าตระกูลปลีกวิเวทมีตัวตนบ้าง?
อีกทั้งทำไมพวกเขาต้องปลีกวิเวก?
ไม่รู้สึกโง่เขลาไปหน่อยเหรอ?
ไม่มีการเอ่ยปากของผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง
ตระกูลปลีกวิเวทเหล่านี้จะกล้าออกจากปลีกวิเวกมั๊ย?
คงเป็นแค่หนูที่ซ่อนอยู่ในความมืดเท่านั้น ยังไงก็ไม่เห็นแสงสว่าง!
ปีศาจหงอหัวเราะเรียบ ๆ เอ่ยว่า: “ท่าน ผมคิดว่าท่านน่าจะรู้ ชิ้นส่วนมงกุฎมังกรไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ”
“ถ้ามันง่ายอย่างนั้น เมื่อร้อยปีก่อน ตระกูลปลีกวิเวทของพวกคุณก็รวบรวมครบตั้งนานแล้ว คุณว่า ผมพูดถูกมั๊ย?”
“ปีศาจหงอ นี่นายหาข้ออ้างให้เขาใช่มั๊ย?”
ชายผมสีแดงหรี่ตา เอ่ยด้วยเสียงเย็นชา: “นายอย่าลืมสิ ตอนนั้นฉันเป็นคนจัดแจงให้นายอยู่ข้างกายเจ้าสำนักยมบาล เป้าหมายก็เพื่อให้นายจับตาดูเขา!”
“นายอย่าลืมฐานะของนายสิ ไม่ว่านายจะเป็นเจ้าสำนักยมบาลอะไร หรือยมทูตอันดับหนึ่งแห่งสำนักยมบาล ยังไงฉันก็ฆ่านายได้อย่างง่ายดาย!”
ไอสังหารจากนัยน์ตาของชายผมแดงเข้มข้นขึ้นทุกที
การเผชิญหน้าการข่มขู่ของชายผมแดง
ปีศาจหงอกลับไม่ลนลานใด ๆ เลย เขาหัวเราะเรียบ ๆ เอ่ยว่า: “ท่าน แน่นอนผมไม่ลืมหรอกว่าผมเป็นคนของท่าน!แต่ท่านก็อย่าลืมว่า ถ้าไม่มีผม ท่านจะควบคุมสำนักยมบาลได้หรือ?”