เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 59
“ช่วยด้วย!”
“ช่วยด้วย ปล่อยพวกเราไปเถอะ!”
สองพ่อลูกเย่กวงตะโกนร้องขอชีวิต
ทั้งสองคิดไม่ถึงเลยว่า ตระกูลเย่แห่งเมืองเอกจะเอาชีวิตของพวกเขาจริงๆ
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่า ขอแค่พวกเขามายอมรับความผิด ตระกูลเย่แห่งเมืองเอกจะไม่เอาเรื่องกับพวกเขา
แต่ตอนนี้กลับลากตัวพวกเขาออกไปให้เป็นอาหารหมา
ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ พวกเขาคงไม่มา
ยิ่งคิดทั้งสองพ่อลูกต่างก็ยิ่งรู้สึกผิด
“เดี๋ยวก่อน!”
ในขณะที่สองพ่อลูกเตรียมรอรับความตายอยู่นั้น เย่ห้าวพลันเอ่ยปากออกมา
“พ่อ!”
เมื่อเห็นเย่ห้าวห้ามเอาไว้ เย่หมิงก็หันไปตะโกนใส่เขา
เย่ห้าวกล่าวเรียบๆ ว่า “คิดจะฆ่าพวกมันง่ายๆ เหมือนฆ่าหมาสองตัวงั้นหรือ นั่นมันง่ายเกินไป แต่หากเก็บพวกมันไว้ ฉันยังพอใช้ประโยชน์จากพวกมันได้”
“ขอบพระคุณท่านผู้นำ ไว้ชีวิตไร้ค่าของพวกเราสองพ่อลูกไปเถอะ!”
หลังจากรอดจากความตายมาได้อย่างหวุดหวิด เย่กวงกับเย่ชิวก็รีบคุกเข่าลงแล้วก้มหัวขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เย่ห้าวเหลือบมองสองพ่อลูกเย่กวงด้วยสายตารังเกียจแล้วกล่าวว่า “พวกแกอย่าเพิ่งดีใจกันเร็วเกินไป ที่ฉันปล่อยพวกแกครั้งนี้ เพราะฉันมีเงื่อนไข ถ้าพวกแกไม่สามารถทำตามความต้องการของฉันได้ พวกแกก็ยังต้องตายอยู่ดี”
เย่กวงรีบถามขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าท่านผู้นำมีเงื่อนไขอะไรหรือ”
เย่ห้าวกล่าวด้วยอารมณ์สงบ “ข้อแม้ของฉันง่ายมาก นั่นคือพวกแกต้องช่วยตระกูลเย่แห่งเมืองเอกแย่งโครงการเขตอุตสาหกรรมของตงไห่มาให้ได้ ในเวลาเดียวกันก็ต้องฆ่าลูกเขยตระกูลเย่คนนั้นให้ได้”
เย่กวงรีบพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ท่านผู้นำเย่ ไม่มีปัญหาเลย พวกเรารับปากว่าจะช่วยพวกท่านทำภารกิจให้สำเร็จ”
ตอนนี้สองพ่อลูกเย่กวงกับเย่ชิวไม่มีหนทางอื่นให้เดินอีกต่อไป ได้แต่ต้องพยายามช่วยตระกูลเย่แห่งเมืองเอกให้สำเร็จ
“พ่อยังเชื่อหมาสองตัวนี้อีกเหรอ พวกมันทำให้เย่ลั่วกลายเป็นคนพิการไปแล้ว ผมอยากจะฆ่ามันให้ตายซะตอนนี้เลย!”
เย่หมิงจ้องเขม็งไปที่สองพ่อลูกเย่กวงด้วยสายตาแดงก่ำ
เย่ห้าวจ้องไปที่เย่หมิงอย่างไม่สบอารมณ์ “แกเป็นถึงว่าที่ผู้นำตระกูลเย่ ทำไมถึงใจร้อนแบบนี้ จำเอาไว้ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม แกต้องคิดถึงผลประโยชน์ของตระกูลเย่เป็นหลัก ไม่อย่างนั้นแล้ว อย่าหาว่าพ่อไม่เกรงใจแกก็แล้วกัน”
เย่หมิงตัวสั่นไปทั้งตัวก่อนจะรีบกล่าวว่า “พ่อ ผมสำนึกผิดแล้ว”
เย่ห้าวพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ครั้งนี้ แกพาคนสนิทไปที่ตงไห่ และจะต้องแย่งเอาโครงการของเขตอุตสาหกรรมตงไห่มาให้ได้ อีกเรื่องหนึ่งคือตัดขาทั้งสองข้างของลูกเขยตระกูลเย่แห่งตงไห่คนนั้นมาให้ได้ ลากตัวมันกลับมาที่เมืองเอก ฉันจะเป็นคนฆ่ามันด้วยตัวเอง ถือเป็นการแก้แค้นให้เย่ลั่ว!”
เย่หมิงกัดฟันแล้วเอ่ยว่า “พ่อ ผมรับปากว่าจะต้องทำให้ได้ครับ”
“พวกแกสองคนยังไม่รีบลุกขึ้นมาอีก รีบไปตงไห่กับฉันเดี๋ยวนี้!”
เย่หมิงตะคอกใส่ไปที่สองพ่อลูกเย่กวง
“ครับๆๆ!”
เย่กวงกับเย่ชิวรีบลุกขึ้นยืนทันที แล้วรีบตามเย่หมิงออกไป
เย่ห้าวมองตามเย่หมิงและคนอื่นๆ เดินห่างออกไปด้วยสีหน้าหม่นหมอง
สำหรับเขาแล้ว หากสามารถแย่งโครงการเขตอุตสาหกรรมตงไห่มาได้จะทำให้ตระกูลเย่ก้าวหน้าไปอีกขั้น ทุกอย่างก็ถือว่าเป็นเรื่องคุ้มค่า!
……
ตงไห่
วิลล่าหยุนติ่ง
“พ่อครับ ตั้งแต่รับช่วงต่อเฟิงเมิ่งกรุ๊ปมามีปัญหาอะไรไหมครับ ถ้ามีปัญหาอะไรบอกผมได้นะครับ ผมจะช่วยพ่อจัดการเอง”
บนโต๊ะอาหาร หยางเฟิงกินข้าวไปพลางเอ่ยถาม
เย่ไห่ครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “ปัญหาสำคัญตอนนี้ของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปคือพัฒนามาถึงจุดคอขวดแล้ว พ่อได้ยินมาว่าตงไห่เตรียมจะเริ่มโครงการเขตอุตสาหกรรมหนึ่ง มูลค่าเป็นหมื่นล้าน พ่อเลยคิดว่าเฟิงเมิ่งกรุ๊ปของพวกเราจะได้โครงการนี้หรือไม่”
“ถ้าเฟิงเมิ่งกรุ๊ปของพวกเราได้โครงการนี้มา บริษัทของเราจะต้องยิ่งใหญ่ขึ้นมากทีเดียว”
หยางเฟิงยิ้มพลางกล่าวว่า “ก็แค่โครงการหนึ่งเองไม่ใช่หรือ พ่อไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ผมจะช่วยพ่อเอง”