เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 365 แบบไหนถึงนับว่าเป็นเพื่อน?
ไม่อาจไม่นับถือจริงๆ หลังจากชิงเฉิงเยว่สู้กับตงฟางเมิ่งแล้วก็ได้รับบาดเจ็บไปไม่เบา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเย่เทียนเฉินก็ยังคงร้ายกาจเป็นอย่างมาก เพียงพริบตาเดียวทั้งสองก็สู้กันไปกว่า 100 กระบวนท่าและยังคงไม่พ่ายแพ้ เย่เทียนเฉินเองก็ลอบรู้สึกตื่นตะลึงอยู่ในใจ
อย่าเห็นว่าในยามปกติเย่เทียนเฉินชอบทำเป็นเล่น เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูเขาก็เคร่งขรึมจริงจังมาก ต่อให้ตั้งชื่อเพลงหมัดของตัวเองว่า “หมัดพี่ชายสุดหล่อ” ก็ตาม นั่นก็เป็นการล้อเล่นเท่านั้น ความจริงเพลงหมัดนี้เย่เทียนเฉินได้เรียนรู้ในตอนที่ยังอยู่ดาวสิ้นโลกและไปถึงขอบเขตของผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้าแล้ว ร้ายกาจและรุนแรงเป็นอย่างมาก ทุกหมัดที่ซัดออกไปแฝงไปด้วยพลังพิเศษอันยิ่งใหญ่ มากเพียงพอที่จะทำให้อากาศที่มองไม่เห็นสั่นสะเทือน ดูเหมือนจะมีอานุภาพเกรียงไกรเป็นอย่างมาก
ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่ถึง 1 นาทีที่ชิงเฉิงเยว่สู้กับเย่เทียนเฉินก็ไม่ได้หลบเลี่ยง ไม่ได้หลบแม้แต่น้อย ต่อให้เผชิญหน้ากับหมัดที่เย่เทียนเฉินที่โจมตีมา เธอก็ซัดฝ่ามือโจมตีไป ปะทะกันจังๆ ไม่ยอมถอยแม้แต่ครึ่งก้าว และไม่ได้ถูกแรงกระแทกจนบาดเจ็บ ฝ่ามือสะท้านฟ้าของพรรคสระหยกรวมกับเคล็ดวิชาฝึกฝนพลังภายในของพรรคสระหยกแล้วช่างแข็งแกร่งมากจริงๆ หมัดของเย่เทียนเฉินที่รวบรวมพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชันเอาไว้ยังไม่สามารถทำให้ชิงเฉิงเยว่ถอยไปได้แม้แต่ครึ่งก้าว
“ดูจากวิชาที่นายใช้ ไม่ใช่วิชาของพรรคสุสานโบราณ นายเป็นอะไรกับตงฟางเมิ่ง?” ชิงเฉิงเยว่มองเย่เทียนเฉินแล้วถามอย่างเย็นชา
“เธอเดาดูสิ!” เย่เทียนเฉินพูดหยอกล้อ
“นายเป็นแฟนตงฟางเมิ่งเหรอ? ไม่น่าใช่ ถ้านายเป็นแฟนของเธอ เธอคงฝึกวิชาคัมภีร์ดรุณีหยกไปจนถึงขั้นสุดท้ายแล้ว!” ชิงเฉิงเยว่เดาจริงๆ จากนั้นจึงส่ายหัว ถ้าตงฟางเมิ่งมีแฟนก็ควรจะฝึกวิชาคัมภีร์ดรุณีหยกไปถึงขั้นสุดท้ายแล้ว หากตนต้องการเอาชนะเธอคงไม่ง่ายขนาดนั้น
เย่เทียนเฉินมองชิงเฉิงเยว่ ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขารู้สึกอยู่สองอย่างคือ งดงามและแข็งแกร่ง! เมื่อเห็นชิงเฉิงเยว่คาดเดาอย่างไร้สาระขึ้นมาจริงๆ เย่เทียนเฉินก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดขึ้นว่า “ทำไมความคิดของเธอถึงได้ชั่วร้ายแบบนี้? ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายจะต้องมีแต่เรื่องแบบนั้นเหรอ? ถ้างั้นหากตอนนี้ฉันเป็นแฟนกัน ต้องไปเปิดห้องหรือเปล่า?”
“นาย…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนเฉิน ชิงเฉิงเยว่พลันโกรธจนหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว เธอก็เหมือนกับตงฟางเมิ่งที่เป็นศิษย์ของพรรควรยุทธโบราณ พรรควรยุทธโบราณส่วนใหญ่เลือกที่จะปิดซ่อนตัวตน ไม่ได้จะกล่าวว่าไม่อนุญาตให้ชายหญิงไปมาหาสู่กัน แต่ศิษย์ของพรรควรยุทธโบราณรุ่นเยาว์แบบพวกเธอ ปกติอายุเท่านี้ยังคงเห็นเรื่องการฝึกฝนเป็นสำคัญ เพิ่มความสามารถของตนถึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด มีโอกาสคิดถึงเรื่องส่วนตัวระหว่างหญิงชายน้อยมาก รวมกับที่คนที่ได้พบก็มีไม่มาก โดยปกติจึงเสียเวลาอยู่บ้าง
โดยเฉพาะชิงเฉิงเยว่ที่ถูกเรียกขานว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลในด้านการฝึกฝนวรยุที่หาได้ยากยิ่งในรอบหลาย 100 ปีของพรรควรยุทธโบราณ ดูเหมือนว่าจะบดบังรัศมีของศิษย์แห่งพรรควรยุทธโบราณจำนวนมาก รวมกับที่มีหน้าตางดงามเหมือนนางฟ้า อีกทั้งความสามารถยังแข็งแกร่ง คล้ายกับนางเซียนบนสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น หากคิดจะได้ผู้หญิงแบบชิงเฉิงเยว่ เกรงว่ายังต้องเป็นผู้ชายในโลกของศิลปะการต่อสู้และต้องหล่อเเหลาสง่างาม ผู้ชายธรรมดาหรือศิษย์แห่งพรรควรยุทธโบราณธรรมดาทั่วไปทำได้เพียงคิดในใจเท่านั้น เรื่องของคางคกคิดจะกินเนื้อหงส์แบบนี้หลายคนเคยผ่านมาแล้ว พวกเขาทำได้เพียงมองเท่านั้น
เมื่อถูกคำพูดของเย่เทียนเฉินหยอกล้อ ชิงเฉิงเยว่พลันซัดฝ่ามือไปยังเย่เทียนเฉิน แม้ใบหน้าของเย่เทียนเฉินจะประดับไปด้วยรอยยิ้ม แต่ในด้านการลงมือก็ไม่กล้าลำพองใจแม้แต่ครึ่งส่วน ชิงเฉิงเยว่ร้ายกาจมาก เคล็ดวิชาแห่งพรรควรยุทธโบราณก็มีจิตวิญญาณอยู่มากมาย หากไม่ระวังแม้เพียงนิดเดียว เขาเย่เทียนเฉินคงต้องตายอยู่ที่นี่ในวันนี้แน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นอย่าพูดถึงช่วยตงฟางเมิ่งเลยกระทั่ง ตัวเขาเองก็ช่วยไม่ได้
ตู้ม!
ชิงเฉิงเยว่ซัดฝ่ามือถูกอากาศ พริบตานั้นต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเย่เทียนเฉินถูกโจมตีจนจนระเบิด เย่เทียนเฉินมองจนต้องเบิกตากว้าง ฝ่ามือสะท้านฟ้าของพรรคสระหยกมีอำนาจยิ่งใหญ่จริงๆ ถ้าคนถูกฝ่ามือแบบนี้เข้าไป ไม่ถูกระเบิดจนแหลกเป็นชิ้นๆ ก็แปลกแล้ว
ความจริงใครหลายคนต่างก็ไม่เข้าใจ เคยเห็นผ่านภาพยนตร์และโทรทัศน์มาเท่านั้น เมื่อยอดฝีมือในภาพยนตร์ซัดฝ่ามือออกไป ทุกที่ต่างมีเสียงระเบิดดังขึ้น มีอำนาจทำลายล้างยิ่งใหญ่ แต่นี่นับเป็นเรื่องกล้วยๆ ในพรรควรยุทธโบราณอย่างแท้จริง ทำไมถึงพูดแบบนี้น่ะหรือ เทียบกับที่คุณใช้หมัดต่อยลงไปบนแตงโม แตงโมก็แหลกเป็นชิ้นๆ นั่นเป็นเพราะพลังหมัดของคุณ แต่หมัดของคุณมีข้อจำกัดอยู่ที่ร่างกายของตนเอง ซึ่งใช้พลังออกมาจากมือเท้าในร่างกายของตัวเองเท่านั้น ส่วนพลังภายในของพรรควรยุทธโบราณทำให้พลังเพิ่มขึ้นและสามารถทำให้ผู้คนใช้พลังแบบนี้ออกไปจากร่างกายได้ หลักการก็คือ การรวบรวมพลังและโจมตีออกไปในพริบตา ทำให้เกิดการระเบิด
ตู้ๆๆ…
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝ่ามือของชิงเฉิงเยว่ที่ซัดออกมาไม่หยุด เย่เทียนเฉินทำได้เพียงหลบอย่างรวดเร็วเท่านั้น รีดเร้นขอบเขตพลังพิเศษของตนจนถึงขั้นจอมราชันเพื่อหลบฝ่ามือสะท้านฟ้าที่ชิงเฉิงเยว่ซัดออกมา เย่เทียนเฉินรู้สึกอยากจะโอดครวญด้วยความลำบากจริงๆ ตั้งแต่ได้มาเกิดใหม่ในโลกใบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนบีบบังคับจนถึงขั้นนี้ได้ ดูเหมือนจะไม่มีเรี่ยวแรงตอบโต้เลยทีเดียว เคล็ดวิชาวรยุทธโบราณที่สืบทอดกันมานับ 1000 ปีของประเทศจีนแข็งแกร่งมากจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เย่เทียนเฉินเพิ่มความเร็วของตนจนถึงขีดสุดจนราวกับสายลมอย่างไรอย่างนั้น ชิงเฉิงเยว่ซัดฝ่ามือออกมาติดๆ กันสามสิบกว่าฝ่ามือก็ไม่สามารถซัดถูกเย่เทียนเฉินได้ ในใจรู้สึกตื่นตะลึง คิดว่าผู้ชายที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันคนนี้ แม้จะมีท่าทีเรื่อยเฉื่อย แต่ความจริงไม่อ่อนแอเลย ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนท่าของเขายังดูพิเศษอยู่บ้าง ไม่เหมือนกับเคล็ดวิชาของพรรควรยุทธโบราณ คนคนนี้เป็นใครกันแน่?
ฟิ้ว!
ชิงเฉิงเยว่ใช้กระบี่ยอดเขาเขียวโจมตีออกไป มุ่งโจมตีไปยังเย่เทียนเฉินด้วยความเร็วสูงสุด และซัดฝ่ามือออกไปในเวลาเดียวกัน ทำให้เย่เทียนเฉินไม่สามารถหลบได้ เธออยากจะเห็นจริงๆ ว่าเย่เทียนเฉินจะรับมือการโจมตีนี้ของตนอย่างไร
“โล่ทองคำ!”
เย่เทียนเฉินตะโกนออกมา ประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน เบื้องหน้าของเขาปรากฏโล่สีเหลืองทองขึ้น ขวางกระบี่ยอดเขาเขียวและฝ่ามือสะท้านฟ้าของชิงเฉิงเยว่ไว้
เคร้ง!
กระบี่ยอดเขาเขียวกระเด็นออกไป มือขวาของชิงเฉิงเยว่โบกครั้งหนึ่งจึงกลับมาอยู่ในมือของเธออีกครั้ง ในขณะเดียวกันฝ่ามือสะท้านฟ้าที่ซัดออกไปก็ปะทะถูกโล่ทองคำ ทำให้เย่เทียนเฉินถอยหลังไปสองก้าว แต่กลับโจมตีทะลุมันไปไม่ได้
เมื่อเจอกับการโจมตีที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เย่เทียนเฉินก็ไม่กล้ายั้งมือ เมื่อลงมือก็ใช้การป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของตน มิฉะนั้นเกรงว่าจะขวางฝ่ามือสะท้านฟ้าและกระบี่ยอดเขาเขียวเอาไว้ไม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้มีการสูญเสียใดๆ เกิดขึ้น
“ที่แท้นายก็เป็นผู้มีพลังพิเศษ มิน่าล่ะถึงได้แข็งแกร่งแบบนี้!” ชิงเฉิงเยว่มองไปยังเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้น
“ความจริงผู้มีพลังพิเศษก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนของพรรควรยุทธโบราณ ทุกคนต่างก็เป็นผู้ฝึกตน สุดท้ายก็ต้องตาย” เย่เทียนเฉินคิดอย่างรอบคอบแล้วจึงพูดขึ้น
“นายรู้หรือเปล่า? ตอนนี้ฉันไม่อยากฆ่าตงฟางเมิ่งแล้ว เธอเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่เลวเลย ฉันอยากเห็นว่า เมื่อเธอฝึกวิชาคัมภีร์ดรุณีหยกสำเร็จแล้ว จะแสดงความสามารถน่าตกใจแบบไหนออกมา เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าสู้กับฉันใครจะแพ้ใครจะชนะก็ยังไม่แน่ ทำให้รู้สึกคาดหวังจริงๆ !” ชิงเฉิงเยว่พลันเผยรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มออกมา มองไปยังเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้น
“งั้นก็ขอบคุณมาก ฉันจะพาเธอไปแบบนี้เลยแล้วกัน!” เย่เทียนเฉินพูดพลางพยุงตงฟางเมิ่งที่อยู่ไม่ไกลขึ้น
ฟิ้ว!
กระบี่เล่มหนึ่งโจมตีมา นั่นคือปราณกระบี่ เย่เทียนเฉินไม่ได้หลบ กำมือขวาจนเกิดเสียงดังแล้วซัดหมัดออกไปปะทะปราณกระบี่ของชิงเฉิงเยว่จนแหลกสลาย เย่เทียนเฉินรู้ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่แข็งแกร่งแบบชิงเฉิงเยว่ ต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าเธอถึงจะใช้ได้ มิฉะนั้นคุณก็ทำได้เพียงตกเป็นรอง
ชิงเฉิงเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง เธอมองความสามารถของเย่เทียนเฉินไม่ออกจริงๆ เมื่อครู่นี้แม้ว่าเธอจะโจมตีสุดกำลังแล้วและสามารถกดดันเย่เทียนเฉินได้ แต่เย่เทียนเฉินก็ดูเหมือนจะไม่ได้โจมตีกลับ ตกลงเย่เทียนเฉินแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่เธอก็ไม่รู้ ดังนั้นชิงเฉิงเยว่จึงเกิดความรู้สึกสนอกสนใจต่อผู้ชายแบบเย่เทียนเฉินอยู่มาก
“ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่อยากฆ่าตงฟางเมิ่ง แต่ไม่ได้พูดว่าจะไม่ฆ่านาย!” ชิงเฉิงเยว่ในตอนนี้แพรวพราวไปด้วยเสน่ห์ ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่อง งดงามถึงเพียงนั้น น่าเสียดายที่เย่เทียนเฉินไม่กล้าเข้าไปใกล้เพื่อลิ้มรสความสุขนี้ ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจเกินไปและอันตรายเกินไป ต้องรับมืออย่างสุดกำลังถึงจะได้
“เธอฆ่าฉันไม่ได้หรอก!” เย่เทียนเฉินก็พูดจาหยอกล้อขึ้นมา
“ไม่มีคนที่ฉันชิงเฉิงเยว่ฆ่าไม่ได้!” ชิงเฉิงเยว่ขมวดคิ้ว มือขวากำกระบี่ยอดเขาเขียวแน่นแล้วพูดขึ้น
เย่เทียนเฉินชะงักไปเล็กน้อย ชิงเฉิงเยว่แข็งแกร่งมากจริงๆ เป็นไปได้มากว่าความสามารถจะเหนือกว่าเขา หากสู้กันต่อไปตอนนี้คงจะเปลืองแรงมาก และคงไม่อาจช่วยตงฟางเมิ่งได้ หากชิงเฉิงเยว่เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาจนใช้กระบี่ฆ่าตงฟางเมิ่งทิ้ง ถ้าแบบนั้นก็แย่แล้ว จะอย่างไรก็ต้องคิดหาวิธีทำให้ตนและตงฟางเมิ่งถอยไปได้อย่างปลอดภัยก่อนถึงจะถูก ส่วนชิงเฉิงเยว่ วันหน้าค่อยจัดการกับผู้หญิงคนนี้ จะอย่างไรตนก็มีความสนใจในเคล็ดวิชาของพรรควรยุทธโบราณ ซึ่งรวมไปถึงเคล็ดวิชาของพรรคสระหยกด้วยแน่นอน
ฟิ้วๆๆ! เพลงกระบี่ของชิงเฉิงเยว่ปราณีตวิจิตร ไม่ด้อยไปกว่าเพลงกระบี่สองประสานในคัมภีร์ดรุณีหยกที่ตงฟางเมิ่งใช้ออกมาแม้แต่น้อย แน่นอนว่านี้อยู่ในสภานการณ์ที่มีเพียงตงฟางเมิ่งคนเดียวทำให้ไม่อาจใช้เพลงดาบสองประสานอย่างแท้จริงออกมา ได้มิฉะนั้นชิงเฉิงเยว่ย่อมต้องด้อยกว่าแน่นอน
เงากระบี่ปกคลุมเย่เทียนเฉินเอาไว้ เย่เทียนเฉินขมวดคิ้ว ในเงากระบี่แต่ละเล่มล้วนแฝงไปด้วยไอสังหารที่ทำให้ผู้คนไม่กล้ามองข้าม เพียงแค่ดูใบไม้ที่ปลิวว่อนอยู่บนท้องฟ้า ในยามที่ตกลงมา ยังไม่ทันเข้าใกล้ปราณกระบี่ก็กลายเป็นชิ้นๆ แล้ว รู้ได้เลยว่าปราณกระบี่นี้ร้ายกาจขนาดไหน
ทันใดนั้นเย่เทียนเฉินพลันเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับเห็นอะไรบางอย่างบนร่างของชิงเฉิงเยว่อย่างไรอย่างนั้น แย้มยิ้มชั่วร้ายออกมา มือทั้งสองตบลงไปบนพลางพื้นสะกิดตัวกระโดดขึ้นไป มือทั้งสองแฝงไปด้วยพลังพิเศษสายอัสนี โจมตีไปเบื้องหน้าพร้อมกัน
ตู้มๆ!
หลังจากเสียงดังสนั่นทั้งสอง ชิงเฉิงเยว่ก็ชะงักอยู่กับที่ พบว่าเบื้องหน้าของเธอมีเย่เทียนเฉินปรากฏตัวขึ้นหลายคน ทั้งหมดมีลักษณะเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ล้วนคล้ายปรากฏคล้ายล่องลอย นี่ช่างน่าแปลกมากจริงๆ ถึงแม้ชิงเฉิงเยว่จะรู้ว่าผู้แข็งแกร่งที่มีพลังพิเศษจะร้ายกาจมากทั้งยังมีกระบวนท่าที่ทำให้ผู้คนคาดเดาไม่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อมีศัตรูที่เหมือนกันปรากฏตัวขึ้นหลายสิบคน ยิ่งไปกว่านั้นยังดูสมจริงมากไม่เหมือนเงาร่างจินตนาการ ทำให้ชิงเฉิงเยว่รู้สึกอึ้งจริงๆ ในเวลาเพียงชั่วครู่ไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไรดี ทำได้เพียงตวัดกระบี่ออกไป รอดูผลแล้วค่อยว่ากันอีกที…