เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 463 อลิซหมายความว่าอย่างไร?
ในตอนที่ผู้หญิงทั้งสามที่ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่อย่างหลัวเยี่ยน เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ย ถูกมือสังหารของสำนักโฮคุชินอิตโตริวไล่สังหารจนหนีไม่พ้น อลิซที่ไม่เคยเปิดเผยฝีมือมาโดยตลอดถึงกับลงมือช่วยเหลือพวกหลัวเยี่ยนในตอนนี้ นี่ทำให้พวกหลัวเยี่ยนทั้งสามคิดไม่ถึงว่าอลิซจะมีฝีมือแข็งแกร่งขนาดนี้ ส่วนมือสังหารของสำนักโฮคุชินอิตโตริวทั้งสามคนก็รู้สึกสงสัย หากกล่าวกันตามเหตุผล อลิซควรจะช่วยพวกเขาฆ่าผู้หญิงสามคนนี้ถึงจะถูก ต้องฆ่าคนข้างกายเย่เทียนเฉินทั้งหมดถึงจะถูก ทำไมกลับช่วยเหลือเย่เทียนเฉินได้?
อลิซเป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองพิเศษแห่งประเทศ M ไม่เพียงแต่จะมีฝีมือแข็งแกร่ง ที่สำคัญก็คือสมองและฝีมือในการสืบหาข้อมูลของเธอสูงมาก เธอได้รับคำสั่งมาจากโฮบาม่าให้แทรกซึมเข้ามาในประเทศจีน ตามหาเย่เทียนเฉินและคิดวิธีฆ่าเขาซะ ตอนที่อยู่ในวอชิงตันเย่เทียนเฉินก่อเรื่องไปมาก นี่เป็นการตบหน้าโฮบาม่าอย่างแรง ทำให้โฮบาม่ากล้ำกลืนมาโดยตลอด หากไม่ฆ่าเย่เทียนเฉินเขาคงไม่สามารถดับโทสะในใจได้ ดังนั้นจึงให้อลิซซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองพิเศษลงมือด้วยตัวเอง คิดจะฆ่าเย่เทียนเฉินให้ได้เพื่อล้างอายให้กับรัฐบาลประเทศ M
เคร้งๆๆ!
มีดและดาบทหารปะทะกัน ฝีมือของอลิซแข็งแกร่งมาก แน่นอนว่ามือสังหารสารเลวของสำนักโฮคุชินอิตโตริวทั้งสามคนนั้นก็ไม่ใช่พวกกินหญ้า เพียงแต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมอลิซจึงขัดขวางพวกเขาและไม่กล้าลงมือเต็มกำลัง ประเทศชิบะเป็นสุนัขรับใช้ของรัฐบาลประเทศ M ไหนเลยจะกล้าล่วงเกินคนของรัฐบาลประเทศ M หากทำร้ายอลิซแล้วเรื่องแพร่ออกไปเกรงว่าจะกลายเป็นสุนัขที่ถูกเจ้านายตบตีจนฟันร่วงหมดปาก
ตู้ม!
อลิซถีบมือสังหารคนหนึ่งจนกระเด็นออกไป ในขณะเดียวกันเธอก็พุ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว คิดจะใช้มีดเฉือนคอของมือสองหารผู้นั้น
เคร้ง!
มือสังหารคนนั้นก็มีฝีมือแข็งแกร่งมาก ตวัดดาบทหารมาขวางมีดในมืออลิซด้วยความรวดเร็ว มีดในมือทั้งสองของอลิซถูกกดลงมาในพริบตา ทั้งสองอยู่ใกล้กันมากแต่ยังคงห่างจากหลัวเยี่ยน เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ยอยู่บ้าง
“ไป!” อลิซกล่าวเสียงเย็น
“ทำไมต้องช่วยเย่เทียนเฉิน?” มือสังหารผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ
“ฉันย่อมมีแผนของตัวเอง หากพวกแกยังไม่ไปฉันจะฆ่าพวกแกซะ!”
อลิซเตะไปยังศีรษะของมือสังหารผู้นั้น มือสังหารผู้นั้นหลบอย่างรวดเร็ว ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นว่าอลิซไม่ได้ล้อเล่นแต่คิดจะฆ่าเขาจริงๆ จึงกัดฟันหลบลูกถีบของอลิซแล้วรีบลุกขึ้นจากพื้น มองไปยังหลัวเยี่ยน ฉีหรูเสวี่ยและเย่เชี่ยนเหวิน ก่อนจะกล่าวกับมือสังหารของสำนักโฮคุชินอิตโตริวอีกสองคน “พวกเราไป!”
มือสังหารทั้งสามของสำนักโฮคุชินอิตโตริวถูกอลิซโจมตีจนล่าถอยไป หลัวเยี่ยน เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ยจึงผ่อนคลายลงบ้าง ต่างมองไปทางอลิซด้วยท่าทีแปลกใจ กล่าวได้ว่าอลิซใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเย่มาได้ประมาณสองสัปดาห์แล้ว แต่ไหนแต่ไรไม่เคยรู้เลยว่าเธอมีฝีมือแข็งแกร่งขนาดนี้ เพียงสองสามหมัดก็ทำให้มือสังหารทั้งสามล่าถอยไปได้ นี่ทำให้พวกหลัวเยี่ยนทั้งสามคนตื่นตะลึงจริงๆ
“พวกคุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” อลิซเดินมาเบื้องหน้าพวกหลัวเยี่ยน เก็บมีดทหารในมือแล้วเอ่ยถาม
“มะ ไม่เป็นไร อลิซ คิดไม่ถึงว่าเธอจะร้ายกาจขนาดนี้!” หลัวเยี่ยนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้ว พี่อลิซ พี่เก่งขนาดนี้ได้ยังไง สอนหนูสักสองสามท่าได้ไหมคะ?” เย่เชี่ยนเหวินเอ่ยปากถามด้วยท่าทีกระตือรือร้น
ฉีหรูเสวี่ยมองไปยังอลิซแต่ไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงหมุนตัวเดินไปเบื้องหน้า เธอและอลิซเรียกได้ว่าเป็นศัตรูความรักกัน ต่างอยากจะแย่งชิงเย่เทียนเฉิน อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงเก่งทั้งคู่ ย่อมไม่ยอมขอบคุณในบุญคุณช่วยชีวิตของอลิซแน่นอน
“เธอจะไปไหน? ไม่รู้หรือไงว่ามันอันตราย?” อลิซเดินมาเบื้องหน้าฉีหรูเสวี่ยแล้วเอ่ยปากขึ้น
“ร่างกายของฉัน ฉันมีอิสระ ต้องให้เธอมาสนใจด้วยรึไง? หลีกไป!” ฉีหรูเสวี่ยพูดอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ
“หึ เมื่อกี้ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ยังมาทำปากดีอีก!” อลิซพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ฉันไม่ได้ขอให้เธอช่วยสักหน่อย ต้องให้ฉันขอบคุณด้วยเหรอไง?”
พูดจบฉีหรูเสวี่ยก็เดินไปเบื้องหน้า อลิซก็ไม่ได้หยุดเธออีกเนื่องจากอลิซรู้ว่าไม่มีอันตรายอะไรแล้ว เมื่อเธอพูด นอกจากมัตสึโมโตะชิโมะเค็นจะอยู่ที่นี่ มิฉะนั้นต่อให้มือสังหารคนอื่นจะร้ายกาจขนาดไหนก็ไม่กล้าปฏิเสธคำพูดของเธอ จะอย่างไรประเทศชิบะก็เป็นสุนัขรับใช้ของประเทศ M เป็นสุนัขรับใช้ย่อมไม่กล้าขัดคำสั่งเจ้านาย มิฉะนั้นจะถูกฆ่า เหตุผลนี้ทุกคนต่างเข้าใจเป็นอย่างดี ดังนั้นอลิซจึงไม่กังวลว่าจะมีมือสังหารมาลอบโจมตีอีก
ตอนนี้เองมีเงาร่างเงาหนึ่งพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็มาอยู่เบื้องหน้าพวกหลัวเยี่ยนแล้ว คนคนนี้ก็คือเย่เทียนเฉินนั่นเอง เย่เทียนเฉินเห็นว่าหลัวเยี่ยนผู้เป็นแม่และเย่เชี่ยนเหวินน้องสาวไม่เป็นอะไรจึงได้ผ่อนคลายลง ระหว่างทางมาเขาลองเรียกกระบี่อวี๋ฉางแล้ว พบว่ากระบี่อวี๋ฉางส่งพลังออกมาแต่กลับไม่ได้ปกป้องพวกหลัวเยี่ยน เช่นนั้นเย่เทียนเฉินจึงตัดสินใจได้ว่าคฤหาสน์ตระกูลเย่จะต้องถูกลอบโจมตีแน่นอน ทั้งยังเป็นยอดฝีมืออีกด้วย มิฉะนั้นคงไม่อาจหยุดยั้งกระบี่อวี๋ฉางได้ ดังนั้นเย่เทียนเฉินจึงร้อนใจ รีบรีดเร้นเคล็ดวิชาเทพท่องจนถึงขีดสุดพุ่งทะยานมาอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจบาดแผลบนร่างของตน
“พวกเราไม่เป็นไร เทียนเฉิน ลูกได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?” หลัวเยี่ยนเห็นเย่เทียนเฉินมีเลือดท่วมตัวก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามด้วยความร้อนใจและเจ็บปวดใจ
“ไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไร แม่กับน้องไม่เป็นไรก็ดีแล้ว!” เย่เทียนเฉินตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่อยากให้แม่เป็นกังวล
“ไม่เป็นไรจริงเหรอ? ลูกมีเลือดเต็มไปหมด!” หลัวเยี่ยนพูดด้วยความปวดใจ
“ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ เลือดพวกนี้เป็นเลือดของศัตรู ไม่ใช่ของผม…”
เย่เทียนเฉินอยากจะพูดพร้อมขยับสองสามครั้งให้แม่วางใจ แต่เขาพบว่าบาดแผลของตนไม่เบาเลยจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่พาฮิคาวะบินออกไปนอกขอบเขตเมืองหลวงและถูกอัดไปหลายหมัด เดิมทีความสามารถของฮิคาวะก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว รวมกับที่เขากินยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลันเข้าไป พลังของหมัดจะมากมายเพียงใดจินตนาการได้เลยทีเดียว หากเป็นคนธรรมดาเกรงว่าเพียงหมัดเดียวก็คงถูกต่อยจนระเบิดไปแล้ว แต่ดีที่เย่เทียนเฉินเป็นคนให้ความสำคัญกับการฝึกฝนร่างกาย ถูกต่อยไปหลายหมัดขนาดนี้ หากเป็นยอดฝีมือห้องอื่นก็ไม่แน่ว่าจะรับไหว
“กระบี่ที่นายทิ้งไว้ดูเหมือนจะไม่ได้ร้ายกาจมากมายอะไร หากไม่ใช่เพราะฉัน แม่และน้องสาวของนาย แล้วยังมีผู้หญิงที่รักนายข้างเดียวคนนั้นคงต้องตายไปนานแล้ว นายควรจะขอบคุณฉันนะ!” อลิซเดินมาเบื้องหน้าเย่เทียนเฉิน กรอกตาครั้งหนึ่งแล้วกล่าวขึ้น
เย่เทียนเฉินมองไปยังอลิซ ในสายตาเต็มไปด้วยความแปลกใจราวกับมองอะไรบางอย่างออก แต่ไม่นานก็มีปฏิกิริยากลับมา หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวขึ้นว่า “พูดแบบนี้ ฉันคงต้องขอบคุณเธอจริงๆ …”
“อย่าไปขอบคุณเธอเทียนเฉิน ต่อให้เธอไม่ลงมือนายก็มาทันเวลา…” ฉีหรูเสวี่ยเดินมาเบื้องหน้าเย่เทียนเฉิน เข้ามาเกาะแขนเย่เทียนเฉินในพริบตาราวกับจะประกาศสงครามและข่มขู่อลิซอย่างไรอย่างนั้น
“งั้นเหรอ? งั้นทำไมคนที่แอบรักข้างเดียวอย่างเธอเกือบจะตายแล้วล่ะ? หากไม่ใช่เพราะฉันลงมือก็คงตายไปแล้ว!” อลิซเองก็ไม่นับว่าเป็นคนดีอะไร มองไปยังฉีหรูเสวี่ยด้วยความไม่พอใจแล้วเอ่ยขึ้น
“เธอ…ใคร ใครแอบรักข้างเดียวกัน ฉันจะบอกเธอตามตรง ฉันกับเทียนเฉินหมั้นกันแล้ว พวกเราคือสามีภรรยาในอนาคต!” ฉีหรูเสวี่ยโกรธจนหน้าแดง มองไปยังอลิซแล้วพูดขึ้นอย่างดุดัน
อลิซมองไปยังฉีหรูเสวี่ยแล้วจึงมองไปยังเย่เทียนเฉิน เม้มปากเล็กๆ อันเซ็กซี่ สะบัดผมสีทองของตนแล้วเอ่ยว่า “ไม่ถูกมั้ง ทำไมฉันได้ยินว่ามีครอบครัวของใครบางคนดูถูกตระกูลเย่และดูถูกเย่เทียนเฉิน ดังนั้นจึงจะถอนหมั้นให้ได้ พวกเธอสองคนถอนหมั้นกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ยังจะมาพูดว่าเป็นสามีภรรยาในอนาคตอีก นี่ไม่ค่อยถูกมั้ง?”
“ใคร เธอได้ยินใครพูดมา?” ฉีหรูเสวี่ยโกรธจนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“เขาก็รู้กันทั่วทั้งเมืองหลวงนั่นแหละ หรือเธอคิดจะปิดบัง? ฉันว่านะ ถอนหมั้นแล้วก็คือถอนหมั้น แล้วยังเป็นการถอนหมั้นที่ตระกูลฉีของเธอเป็นคนขอเองด้วย ส่งผลเสียต่อตระกูลเย่มากทีเดียว ฉันว่าเธออย่าหาเรื่องลำบากใจเลยดีกว่านะ?” อลิซมองไปยังฉีหรูเสวี่ยอย่างเหยียดหยามแล้วพูดขึ้น
“เธอ…”
“นี่ๆ ฉันว่านะ พวกเธอสองคนยังเอะอะกันไม่พออีกเหรอ? คิดว่าพวกเรายังอันตรายไม่พอ ยังวุ่นวายไม่พออีกรึไง? ไปเถอะ!” เย่เทียนเฉินขวางอยู่หน้าฉีหรูเสวี่ยและอลิซ กล่าวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
ฉีหรูเสวี่ยและอลิซต่างมองอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นจึงเดินตามหลังเย่เทียนเฉินไป เย่เทียนเฉินเข้าไปดูแลหลัวเยี่ยนและเย่เชี่ยนเหวิน คฤหาสน์ตระกูลเย่ทั้งหลังถูกทลายแล้ว แม่และน้องสาวจึงได้รับความตกใจไม่น้อย เย่เทียนเฉินเองก็คิดไม่ถึงว่าคนของสำนักโฮคุชินอิตโตริวที่มาในคราวนี้จะร้ายกาจขนาดนี้ เขายังไม่ได้เผชิญหน้ากับมัตสึโมโตะชิโมะเค็นซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดิดาบก็ต้องพบกับการต่อสู้เป็นตายครั้งใหญ่แล้ว ถ้างั้นมัตสึโมโตะชิโมะเค็นจะร้ายกาจขนาดไหนกันแน่ จะมีพลังการบ่มเพาะอยู่ในระดับไหนกัน? จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าการที่จักรพรรดิดาบถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสิบผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกนั้นนับว่าไม่เสียชื่อเลยจริงๆ!
เย่เทียนเฉินพาหลัวเยี่ยน เย่เชี่ยนเหวิน ฉีหรูเสวี่ย และอลิซกลับไปอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของตน ในตอนที่พวกเธอมาถึงก็เป็นเวลาตีห้ากว่าแล้ว ฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว หลัวเยี่ยน เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ยเป็นผู้หญิงธรรมดา ได้รับความตกใจมามากจึงง่วงมากแล้ว ไม่นานต่างก็พากันหลับไป โชคดีที่คฤหาสน์ของเย่เทียนเฉินมีห้องอยู่จำนวนมากเพียงพอ อย่างไรก็ตามในตอนที่เย่เทียนเฉินไปอาบน้ำและเปลี่ยนชุดออกมา เขาพบว่าอลิซเพิ่งจะเปิดประตูใหญ่ของคฤหาสน์เตรียมจะเดินออกไปข้างนอก
“ฟ้าใกล้จะสว่างแล้วไม่นอนหน่อยเหรอ?” เย่เทียนเฉินเช็ดผมของตนพลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“ยังไงซะก็ใกล้จะสว่างแล้ว ฉันคงนอนไม่หลับ รวมกับที่ถูกคนไม่ดีทำให้โกรธ จะหลับลงได้ยังไง ฉันจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย!” อลิซหันมามองเย่เทียนเฉิน ในดวงตาสีทองมีความแปลกประหลาดแต่กลับบอกไม่ได้ว่าแปลกประหลาดอย่างไร